Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
ทาสหมี่
•
ติดตาม
2 พ.ย. 2021 เวลา 15:55 • ไอที & แก็ดเจ็ต
ทุบทุกสถิติการอัดประจุโทรศัพท์เคลื่อนที่ ด้วยเวลา 17 นาที กับแบตเตอรี่แกรฟีนแห่งอนาคตที่ทั้งโลกบอกเป็นไปไม่ได้ แต่เกิดขึ้นแล้วใน Xiaomi 11 T Pro มือถือที่มีระบบแบตเตอรี่ดีที่สุดเท่าที่มนุษย์เคยสร้างมา !!
11T Pro ถือเป็นผลิตภัณฑ์ของ Xiaomi ที่ได้พัฒนาระบบแบตเตอรี่แกรฟีนที่เรียกได้ว่าสมบูรณ์แบบที่สุดในราคาสบายกระเป๋า สามารถอัดประจุไฟแบบ Hypercharge 120W เพียง 5 นาทีได้ 40% และ ได้เต็ม 100% ในเวลา 17 นาที โดยประสิทธิภาพลดลงเพียง 20% เมื่อใช้งานไป 2 ปี ด้วยเทคโนโลยีระบบจ่ายพลังงาน Dual Charge Pump ทำงานคู่กับแบตเตอรี่ย่อย 2 ก้อน พร้อมระบายความร้อนแบบ MTW และเสถียรราบรื่นด้วยระบบตรวจจับความผิดปกติมากถึง 34 จุด!! ซึ่งนอกจากจะเป็นมือถือที่มีระบบแบตเตอรี่ที่ดีที่สุดแล้ว ยังมีความปลอดภัยมากที่สุดในโลกรุ่นหนึ่งเลยทีเดียว
และจากการใช้งานจริงสามารถโทรได้ต่อเนื่องนานทั้งวัน 23 ชม. เล่นเฟทท่องโลก Social เพลินๆ 12 ชม. และเล่นไฟล์ Video วนไป 14 ชม.สบายๆ ซึ่งในระหว่างอัดประจุแบบ Hypercharge ไม่พบปัญหาเรื่องความร้อนจนเครื่องหยุดทำงานหรือ Overheat แต่อย่างใด แถมตัวเครื่องยังเย็นกว่า Adapter หลายขุม ซึ่งการอัดประจุเต็มจะใช้เวลาจริง 19 - 21 นาที แต่สำหรับความจุ 5,000 mAh แล้ว เวลาเท่านี้ก็ถือเป็นเรื่องมหัศจรรย์ไปแล้ว !! พิสูจน์ได้ว่า Xiaomi สามารถพัฒนาเทคโนโลยีแกรฟีนให้ใช้งานได้และขายได้จริงในเชิงพาณิชย์ เป็นมาตรฐานใหม่ที่ก้าวข้ามเทคโนโลยี Lithium-ion เดิมไปได้แล้วเป็นรายแรกของโลก
แต่กว่าจะมาถึงจุดนี้ ต้องยกให้ความเก่งและกล้าของ Xiaomi ในการพัฒนาเทคโนโลยีแบตเตอรี่แกรฟีน และที่สวมหัวใจเสือจับใส่ Mi 10 รุ่นพิเศษวางจำหน่ายครั้งแรกเฉพาะประเทศจีน เมื่อปลายปี 2020 โดยไม่พบปัญหาการใช้งานแต่อย่างใด สวนทางกับทั้งโลกที่ยังอยู่กับคำว่าเป็นไปไม่ได้ โดยผู้พัฒนายักษ์ใหญ่อย่าง Samsung, Tesla และ Mercedes ก็ยังอยู่ระหว่างพัฒนา* บางรายประเมินว่าต้องใช้เวลาอีก 15-20 ปี !! ซึ่งความสำเร็จในครั้งนี้ได้พิสูจน์ความสามารถของทีมวิจัย Xiaomi และถือเป็นการฉลองครบรอบ 10 ปีที่ยิ่งใหญ่เลยทีเดียว นั่นเพราะอะไร ?
เพราะอุปกรณ์ทุกอย่างนั้นล้วนมี Battery และ วัสดุภายในอย่าง Lithium-ion เองก็เริ่มชนเพดานการพัฒนาแล้ว ไม่สามารถลดขนาดและเพิ่มประสิทธิภาพได้อีก ซึ่งแร่แกรฟีน** ที่มีการนำไฟฟ้าสูง, ความร้อนต่ำ, น้ำหนักเบา, แข็งแกร่ง และมีพลังงานสูงจึงเป็นทางออก แต่ติดปัญหาเรื่องราคาของแร่กราฟีนที่สูงมาก แถมยังใส่ปริมาณความจุได้น้อยแค่เพียง 3,000 mAh และอายุแบตเตอรี่ที่ลดลงอย่างรวดเร็วหลังอัดประจุได้ 300 ครั้ง และปัญหาเรื่องความร้อน
เวลานี้ที่ Xiaomi แก้โจทย์ดังกล่าวได้แล้ว ถือว่ามีแต้มต่อเหนือคู่แข่งในอุตสาหกรรมโทรศัพท์มือถือเป็นอย่างมาก เนื่องจากแบตเตอรี่นั้นมีผลต่อการออกแบบ และการใช้งานโดยตรง กว่าที่คู่แข่งจะตามทันก็น่าจะใช้เวลาเป็นปี หากรูปการณ์ยังเป็นอย่างนี้ อีกไม่นาน Xiaomi อาจอยู่ในฐานะที่ไร้คู่แข่งในเรื่องเทคโนโลยีและมาตรฐานไปแล้วก็เป็นได้
และตามคติน้ำขึ้นให้รีบสูบ Xiaomi จึงไม่รอช้า จัดเต็มมาตรฐานก้าวข้ามความท้าทายไปอีกขั้นใน Black Shark 4S ด้วยการอัดประจุจาก 0-50% ในเวลาเพียง 5 นาที และเต็ม 100% ไม่ถึง 15 นาทีไปแล้ว !! โดยวางจำหน่ายในประเทศจีน เมื่อ 13 ตุลาคม ที่ผ่านมา
youtube.com
Black Shark 4S Pro Charging Speed
และด้วยศักยภาพของทีมพัฒนาที่คาดหวังได้ว่าจะได้เห็นการใช้แกรฟีนกับอุปกรณ์อย่างอื่นเช่น อุปกรณ์ IOT จนไปถึงรถไฟฟ้า แล้วจะเป็นอย่างไรถ้ารถไฟฟ้า Xiaomi ที่ประกาศวางจำหน่ายในปี 2014 สามารถวิ่งได้ 500 Km ด้วยการอัดประจุเพียง 5 นาที !! โลกของเราจะเปลี่ยนไปแค่ไหน ต้องยอมรับรับว่าวันนี้ Xiaomi มีทั้งผู้นำที่ดี, มีเงินทุนมากมายมหาศาล, มีนักพัฒนาหัวกะทิอยู่แทบทุกมุมโลก, มีอำนาจสั่งการในสายการผลิต ทำได้ทุกอย่างจนเข้าใกล้นิยามคำว่า “พระเจ้า” ไปทุกทีๆ
EP.25 “Graphene” แบตฯ พลังพลิกโลก กับ Xiaomi 11T Pro
ผู้เขียน บุญชัย สิริวัฒนชัยกุล
*บริษัท Samsung มีแผนจะผลิตแบตเตอรี่จากแกรฟีนที่ประจุไฟด้วยเวลาที่น้อยกว่า 30 นาที ทดแทน แบตเตอรี่ Lithium-ion ในปี 2021 ซึ่งทดลองใช้ครั้งแรกใน Note 7 แล้ว แต่พบกับปัญหาความร้อนจนกระทบกับการใช้งานและไม่สามารถแก้ไขได้ และต้องจบด้วยการเรียกคืนโทรศัพท์ถึง 2 ครั้ง
*บริษัท Testla สนใจในเทคโนโลยีแกรฟีนเองไม่น้อย โดยร่วมมือกับ Chargeasap และ Panasonic พัฒนาจนสามารถวางจำหน่าย Flash ซึ่งเป็น Powerbank แบตเตอรี่กราฟีนความจุ 20,000 mAh อัดประจุเต็มในเวลา 60 นาที แต่ยังราคาขายที่สูงมากเกือบ 10,000 บาท และจนถึงปัจจุบันยังไม่มีข้อมูลเรื่องการผลิตเพื่อใช้งานจริงในรถไฟฟ้าเนื่องจากปัญหาเรื่องการเพิ่มความความจุและความคงทนของแบตเตอรี่ ซึ่งมีผลกับเรื่องอายุและความปลอดภัยในการใช้งาน
*Mercedes-Benz ได้ตั้งทีมวิจัยแบตเตอรี่ เพื่อนำแกรฟีนมาผลิตเป็นแบตเตอรี่รักษ์โลก อัดประจุเต็มในเวลา 15 นาที โดย Andreas Hintennach หัวหน้าทีมวิจัยกล่าวว่า เรายังไม่ใช้เทคโนโลยีแกรฟินในเวลานี้ ตราบที่ยังไม่สามารถพัฒนาให้ดีกว่าเทคโนโลยีที่เรามีอยู่ ซึ่งแกรฟินเป็นเทคโนโลยีที่ต้อง ใช้เวลาพัฒนาอีก 15-20 ปี
**แกรฟีน คือแร่ธาตุใหม่ถูกค้นพบในปี 2004 โดย ศ.ดร.อังเดร ไกม์ และ ศ.ดร. คอนแสตนติน โนโวเซลอฟ ทั้ง 2 สามารถแยกแร่แกรไฟต์หรือไส้ดินสอซึ่งเป็นอะตอมคาร์บอนรูปแบบหนึ่ง ออกด้วยวิธี Micromechanical cleavage หรือเทคนิคการติดและดึงออกด้วยสก๊อตเทป !! จนเหลือโครงสร้างชั้นสุดท้ายในรูป 6 เหลี่ยมที่เรียกว่า แกรฟีน ที่แข็งแกร่งกว่าเหล็กกล้า 200 เท่า ยืดหยุ่นสูง น้ำหนักเบาและนำไฟฟ้าได้ดีเยี่ยม แตกต่างไปจากอะตอมคาร์บอนในรูปอื่นๆ ถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญด้านวัสดุศาสตร์ของโลกจนทั้งคู่ได้รับรางวัลโนเบลในปี ค.ศ.2010
ที่มาข้อมูล
mi.com
“11T Pro”
gsmarena.com
“Xiaomi 11T Pro disassembly video reveals plenty of graphite and copper to keep thermals in check”
graphene-info.com
“What is Graphene?”
gizmochina.com
“Xiaomi Mi 11 Ultra to feature phase changing cooling technology”
Newsdirectory3.com
“First look at the graphene battery Xiaomi in the Xiaomi 11T Pro”
yahoo.com
“Foxconn Partners with Appear Inc. for New Graphene Fast-Charge Battery Technology”
beebom.com
“Graphene battery vs Lithium-ion Battery – Tech Explained”
theverge.com
“Xiaomi announces Mi 10 Ultra with 120W fast charging”
gadgettendency.com
“0 to 100% in 15 minutes. Xiaomi continues to fuel interest in the new Black Shark 4S smartphone”
mub.eps.manchester.ac.uk
“The ‘accidental’ Nobel Laureates: 10 years on”
บันทึก
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
Xiaomi มาเอง
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย