20 ธ.ค. 2021 เวลา 00:00 • นิยาย เรื่องสั้น
ยุทธจักรวาลกิมย้ง
ตอน 15 : สูงสุดคืนสู่สามัญ
1
Blockdit Originals ซีรีย์บทความพิเศษ
หลังจากเขียนผลงานนิยายกำลังภายใน 13 เรื่อง แต่ละเรื่องตัวเอกเป็นชายชาตรี แกร่งกล้า ผดุงคุณธรรม เช่น เฉียวฟง เหล็งฮู้ชง โอ้วฮุย เอี้ยก้วย ฯลฯ กิมย้งก็หักปากกา เขียนเรื่องของตัวเอกที่มีบุคลิกและพฤติกรรมตรงกันข้ามกับทั้งหมด
ตัวเอกคนนี้กะล่อน ใช้เล่ห์กล อุบายทุกอย่าง และไม่เก่งวิทยายุทธใดๆ
ผู้อ่านไม่น้อยไม่เชื่อว่านี่เป็นงานของกิมย้ง
แต่พวกเขาอาจลืมไปว่า กิมย้งไม่ชอบเดินซ้ำรอยเดิม
3
มันเป็นงานทดลอง!
1
นี่คือผลงานหมายเลข 14 ของกิมย้ง
อุ้ยเซี่ยวป้อ (鹿鼎記 / The Deer and the Cauldron)
ตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์หมิงเป้า ช่วง 24 ตุลาคม 1969 - 23 กันยายน 1972
1
ฉากของเรื่องคือยุคราชวงศ์ชิง รัชสมัยคังซีฮ่องเต้
1
นับจากเวลาตีพิมพ์ จัดเป็นนวนิยายเรื่องสุดท้ายของกิมย้ง เป็นนวนิยายที่ยาวที่สุดของเขา
ชื่อเรื่องในภาษาจีนคือ ลู่ติ่งจี้ (鹿鼎記) แปลตรงตัวว่า บันทึกกวางกระถาง
คำว่า ‘กวาง’ เป็นสัญลักษณ์ของประชาชนซึ่งอยู่กำมือของผู้ปกครองที่แสวงหาอำนาจ สัญลักษณ์นี้มีที่มาจากประวัติศาสตร์ยุคจิ๋นซีฮ่องเต้ เมื่อขุนศึกต่างๆ พากันแย่งชิงอำนาจหลังจากราชวงศ์ฉินล่มสลาย
บันทึกสื่อจี้ (史記) หรือ บันทึกประวัติศาสตร์ (The Records of the Grand Historian) เป็นบันทึกประวัติศาสตร์โบราณของจีน ในช่วงเวลาราว 2,500 ปี ท่อนหนึ่งในบันทึกเขียนว่า “จักรพรรดิจิ๋นซีสูญเสียกวางของพระองค์ แลใครๆ ใต้สวรรค์ก็ไล่ล่ามัน”
1
ส่วนคำว่า ‘กระถาง’ เป็นคำมาจากงานเขียนโบราณเรื่อง จว่อฉวน (左傳)
จว่อฉวน เป็นเรื่องเล่าประวัติศาสตร์จีนโบราณ ยาว 30 บท เล่าเหตุการณ์ช่วง 722-468 ปีก่อนคริสต์กาล เกี่ยวกับการเมือง การทูต การทหาร วัฒนธรรมของจีนในช่วงเวลานั้น
ในบทหนึ่งพูดถึงฮ่องเต้ฉู่จวงหวังแห่งแคว้นฉู่ คิดชิงอำนาจจากฮ่องเต้โจวติ้งหวัง เพื่อครองแผ่นดินจีน
4
หลังขึ้นครองราชย์ ฮ่องเต้ใหม่ไม่ทรงงาน เสวยความเกษมสำราญอยู่สามปี ในที่สุดก็ปรับปรุงพระองค์ สร้างเขื่อน พัฒนาแคว้น พัฒนากำลังทหาร
ต่อมาทรงคิดจะยึดอำนาจจากฮ่องเต้โจวติ้งหวัง
1
ตำนานเล่าว่า ทรงถามคนจากแคว้นโจวว่า กระถางเก้าขาที่ฮ่องเต้โจวครอบครองนั้นหนักเพียงใด เป็นความนัยว่าต้องการชิงอำนาจครองแผ่นดินจีน
2
คำถามนี้เรียกว่า 問鼎中原 (ถามหากระถางแผ่นดินใหญ่) เป็นอุปมาว่า ‘คิดการใหญ่’
2
ชื่อเรื่อง ลู่ติ่งจี้ จึงหมายถึงชาวฮั่นที่ดิ้นรนต้องการเป็นไทจากชาวแมนจูแห่งราชวงศ์ชิง แต่ที่ย้อนแย้งคือ ตัวเอกของเรื่อง (อุ้ยเซี่ยวป้อ) ทำงานรับใช้ชาวแมนจู
กิมย้งเขียนไว้ว่า นวนิยายเรื่องนี้ตั้งใจเขียนเพื่อสะท้อนความจริงในสังคม ไม่มีเจตนาให้ใครเดินตามทางของตัวละครเอกที่ดูเจ้าเล่ห์
อุ้ยเซี่ยวป้อเป็นบุตรชายนางคณิกาในเมืองหยางโจว วันหนึ่งเขาช่วยชีวิตเม้าจับโป๊ยไว้ เม้าจับโป๊ยทนคำรบเร้าของอุ้ยเซี่ยวป้อไม่ได้ ก็พาเขาไปปักกิ่ง
1
เมื่อถึงเมืองหลวง อุ้ยเซี่ยวป้อประสบเหตุ พบพานขันทีเฒ่ากับขันทีหนุ่ม เขาถูกขันทีชราตาบอดจับเข้าไปในวัง เขาใช้เล่ห์กลสวมรอยเป็นขันทีหนุ่ม ใช้ชีวิตอยู่ในวังหลวง
วันหนึ่งอุ้ยเซี่ยวป้อพบชายหนุ่มคนหนึ่ง ทั้งสองเป็นคู่ฝึกวิชาการต่อสู้ ต่อมาเผยว่าชายหนุ่มคนนี้คือคังซีฮ่องเต้
1
คังซีฮ่องเต้ต้องการกำจัดขุนนางชั่วคนหนึ่ง คือแม่ทัพเมี่ยงไป่ อุ้ยเซี่ยวป้อก็ใช้เล่ห์กลกำจัดแม่ทัพเมี่ยงไป่
วันหนึ่งเขาถูกจับตัวไป พบกับตั้งกึงน้ำ หัวหน้าพรรคฟ้าดิน (เทียนตี้ฮ่วย 天地會) สมาคมลับที่ต่อต้านแมนจู หมายโค่นราชวงศ์ชิง
3
อุ้ยเซี่ยวป้อกลายเป็นศิษย์ของตั้งกึงน้ำ และยอมเป็นสายลับในวังให้สมาคม
1
วันหนึ่งอุ้ยเซี่ยวป้อล่วงรู้ความลับว่าไทเฮาทรงสมคบคิดกับพรรคมังกรเทพและซุ่นจื่อพระราชบิดาของคังซีฮ่องเต้ทรงผนวชประทับอยู่ที่วัดอู่ไถซาน หลังจากที่คังซีฮ่องเต้ทรงรู้ความจริงแล้วมีพระบัญชาให้อุ้ยเซี่ยวป้อไปที่อู่ไถซาน
1
อุ้ยเซี่ยวป้อพบกับซุ่นจื่อฮ่องเต้ที่วัดชิงเหลียง ระหว่างทางกลับวัง ถูกศิษย์สำนักมังกรเทพลักพาตัวไปที่เกาะงู อุ้ยเซี่ยวป้อใช้อุบายทำให้หัวหน้าพรรคชื่อหงอันทงวางใจ จนได้รับตำแหน่งทูตมังกรขาว
คังซีฮ่องเต้ทรงเห็นว่าอู๋ซานกุ้ย (โง้วซำกุ่ย) เจ้าพิชิตประจิมกำลังคิดการใหญ่ เพื่อให้อู๋ซานกุ้ยตายใจ ทรงยกองค์หญิงเจี้ยนหนิงให้อภิเษกกับบุตรชายอู๋ซานกุ้ย
1
อุ้ยเซี่ยวป้อได้รับบัญชาพากองทหารไปส่งองค์หญิงเจี้ยนหนิงที่ยูนนาน การเดินทางด้วยกันยาวนานทำให้อุ้ยเซี่ยวป้อมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับเจ้าหญิง
อุ้ยเซี่ยวป้อได้รับพระบัญชาให้นำทัพปราบอู๋ซานกุ้ยที่ร่วมมือกับพรรคมังกรเทพ อุ้ยเซี่ยวป้อถูกจับเป็นเชลย แต่ใช้เล่ห์กลหลบหนีออกจากพรรคมังกรเทพ หงอันทงส่งคนตามล่าเอาชีวิตอุ้ยเซี่ยวป้อ
1
อุ้ยเซี่ยวป้อหนีขึ้นเหนือ ถึงเขาลู่ติ่งซาน พบกองทหารรัสเซีย
อุ้ยเซี่ยวป้อพบองค์หญิงโซเฟียแห่งรัสเซีย และหลอกให้นางกลับรัสเซีย ระหว่างทางช่วยชีวิตองค์หญิงโซเฟีย
อุ้ยเซี่ยวป้อตามเสด็จกลับรัสเซีย ได้รับแต่งตั้งเป็นขุนนาง ต่อมาอุ้ยเซี่ยวป้อคิดถึงบ้าน ก็ขอนำทูตรัสเซียเดินทางไปจีนเพื่อเจริญสัมพันธไมตรีกับราชวงศ์ชิง
2
ด้วยความดีความชอบนี้ คังซีฮ่องเต้จึงทรงแต่งตั้งอุ้ยเซี่ยวป้อเป็นอ๋อง ได้รับทรัพย์สมบัติมากมาย
อุ้ยเซี่ยวป้อมีความจงรักภักดีต่อคังซี แต่ก็มีความสัมพันธ์กับพรรคฟ้าดิน เขาเคยช่วยชีวิตฮ่องเต้คังซีสองครั้ง แต่ขณะเดียวกันก็ช่วยชีวิตคนพรรคฟ้าดินเช่นกัน และช่วยไม่ให้พรรคฟ้าดินถูกกำลังฝ่ายชิงทำลาย
1
วันหนึ่งแม่ชีเก้าลั้งบุกเข้าไปฆ่าคังซีฮ่องเต้ แต่อุ้ยเซี่ยวป้อช่วยไว้ โดยใช้ตัวของเขารับกระบี่ ปรากฏว่ากระบี่แทงไม่เข้า แม่ชีเก้าลั้งตกใจระคนสงสัย แต่ภายหลังอุ้ยเซี่ยวป้อสารภาพกับแม่ชีเก้าลั้งว่าตนสวมเสื้อวิเศษ อาวุธฟันแทงไม่เข้า
2
อุ้ยเซี่ยวป้อหลงรักหญิงสาวนามอาเคอ ซึ่งอยู่กับแม่ชีเก้าลั้ง
1
แม่ชีเก้าลั้งรู้ว่าอุ้ยเซี่ยวป้อไม่ชอบฝึกวิทยายุทธ แม่ชีเก้าลั้งถ่ายทอดวิชาเทพเดินหนร้อยแปลงอันเป็นวิชาตัวเบาให้อุ้ยเซี่ยวป้อ จัดเป็นวิชาหนีศัตรู ปรากฏว่าอุ้ยเซี่ยวป้อกลับฝึกวิชานี้ได้ดี
1
วันหนึ่งคังซีพบความจริงว่าเขามีความสัมพันธ์กับพรรคฟ้าดิน ทรงบังคับให้เขาเลือก จงรักภักดีต่ออาณาจักรชิง หรือเป็นศัตรู
ทรงให้โอกาสอุ้ยเซี่ยวป้อแก้ตัวโดยจับหัวหน้าพรรคฟ้าดินอุ้ยเซี่ยวป้อตัดสินใจหลบหนีไป พาองค์หญิงเจี้ยนหนิงและฮูหยินทั้งหลายไปอาศัยที่เกาะแห่งหนึ่ง ผ่านไปหลายปี คังซีฮ่องเต้ทรงคิดถึงอุ้ยเซี่ยวป้อ ก็ตามตัวกลับมา
2
อุ้ยเซี่ยวป้อช่วยทำให้ราชวงศ์ชิงและรัสเซียทำสัญญาหย่าศึกกัน
ต่อมาตั้งกึงน้ำหัวหน้าสมาคมตาย และลูกพรรคต้องการให้อุ้ยเซี่ยวป้อเป็นผู้นำคนต่อไป เป็นทางเลือกที่ยากเย็นของนกสองหัว
อุ้ยเซี่ยวป้อเลือกหนีอีกครั้ง ไปใช้ชีวิตแสนสุขกับภรรยาทั้งเจ็ด เขารับแม่ไปด้วย
เล่ากันว่าเหตุที่คังซีประพาสดินแดนเจียงหนานถึงหกครั้ง ก็หมายจะได้พบอุ้ยเซี่ยวป้ออีกครั้ง
1
มีตัวละครใดในเรื่องนี้ที่เป็นบุคคลจริง?
4
แม่ชีเก้าลั้ง เฉินเหยียนเหยียน หลี่จื้อเฉิง อู๋ซานกุ้ย เมี่ยงไป่ ล้วนเป็นบุคคลจริงในประวัติศาสตร์
1
ตัวละครแม่ชีเก้าลั้งก็คืออาจิ่วในเรื่อง เพ็กฮวยเกี่ยม หลังจากอาจิ่วแขนขาดและบวชเป็นชี ได้ฝึกวิทยายุทธ์จนเป็นแม่ชีเก้าลั้ง
ในเรื่อง อุ้ยเซี่ยวป้อ แม่ชีเก้าลั้งเลี้ยงอาเคอ เพราะคิดว่าเป็นลูกของอู๋ซานกุ้ย จึงขโมยเด็กไป หมายจะเลี้ยงเด็กให้ไปฆ่าอู๋ซานกุ้ยผู้เป็นพ่อ เป็นการแก้แค้นที่เจ็บปวด แต่ความเผยว่าอาเคอเป็นลูกสาวของเฉินเหยียนเหยียนกับหลี่จื้อเฉิง
2
ในชีวิตจริงตัวละครแม่ชีเก้าลั้ง / อาจิ่วก็คือองค์หญิงฉางผิง ราชธิดาของจักรพรรดิฉงเจิน
ประวัติศาสตร์จริงฉากหลังของนวนิยาย เพ็กฮวยเกี่ยม และ อุ้ยเซี่ยวป้อ นั้นคาบเกี่ยวกัน เป็นการชิงอำนาจของหลายฝ่าย ได้แก่ราชวงศ์หมิง ราชวงศ์จินของแมนจู กลุ่มกบฏนำโดยหลี่จื้อเฉิง และกลุ่มอู๋ซานกุ้ย
1
หลังจากอู๋ซานกุ้ยและเพื่อนทรยศต่อราชวงศ์หมิง ก็ได้รับผลตอบแทนมหาศาล ทั้งตำแหน่ง ที่ดินทางภาคใต้ พวกชิงให้อู๋ซานกุ้ยครองแคว้นยูนนานเพราะเห็นว่าเขายังมีประโยชน์ เหตุผลเพราะแมนจูเป็นชนกลุ่มน้อย จับพลัดจับผลูมายึดเมืองจีนได้ ก็ต้องการเวลาปรับตัว จึงใช้นโยบาย ‘ฮั่นปกครองฮั่น’ ไปก่อน
แต่อู๋ซานกุ้ยก็สร้างสมกองทัพ รู้ว่าวันหนึ่งอาจต้องรบกับราชวงศ์ชิง เมื่อคังซีเผยความคิดว่าหมดยุค ‘ฮั่นปกครองฮั่น’ แล้ว
อู๋ซานกุ้ยก็รู้ว่าถึงเวลารบอีกแล้ว
อู๋ซานกุ้ยร่วมมือกับอีกสองขุนศึกฮั่นที่ทรยศราชวงศ์หมิง คือแม่ทัพซ่างเข่อสี่ และเกิ่นจินจง
รวมกำลังสามส่วน ก่อกบฏเพื่อ “ต่อต้านกำลังต่างชาติ กอบกู้ราชวงศ์หมิง”
แต่ราษฎรจำได้ว่าอู๋ซานกุ้ยเป็นผู้เปิดประตูให้ต่างชาติเข้ามาเอง จึงไม่รู้สึกว่าทำไมต้องเข้าร่วมด้วย อย่างไรก็ตาม เกิดสงครามแปดปีที่เรียกว่า กบฏสามเจ้าศักดินา (三藩之亂 The Revolt of the Three Feudatories)
เดือนธันวาคม 1673 อู๋ซานกุ้ยฆ่าเจ้ามณฑลยูนนานเดือนถัดมาก็ยกทัพไปยึดกุ้ยโจวอย่างง่ายดาย
อู๋ซานกุ้ยยื่นคำขาดให้คังซีฮ่องเต้ยกแมนจูกลับไปทางเหนือตามเดิม
การก่อกบฏทำให้ชีวิตสมาชิกในครอบครัวของผู้ก่อการตกอยู่ในอันตราย ลูกชายของอู๋ซานกุ้ยที่ยังอยู่ในเมืองหลวง รวมทั้งเจ้าหญิง เจี้ยนหนิงถูกคังซีสั่งประหาร
1
กำลังกบฏขยายตัวและแกร่งขึ้น ฝ่ายของเขายังมีขุนพลหวังฝู่เฉิน ซ่างจือซิ่น ร่วมด้วย ซ่างจือซิ่นได้รับตำแหน่งต่อจากพ่อ ซ่างเข่อสี่ หลังจากพ่อตายก็ร่วมกบฏกับอู่ซานกุ้ย ซ่างจือซิ่นมีชื่อเรื่องความโหดร้ายทารุณ เขาฆ่าศัตรูของเขาด้วยการให้หมาล่าเนื้อฉีกตายทั้งเป็น
1
กองทัพของพวกเขากลืนพื้นที่มากขึ้น ถึงปี 1676 กบฏยึดครองยูนนาน เสฉวน กุ้ยโจว ซานซี กานซู่ หูหนาน กว่างตง กว่างซี ฟู่เจี้ยน เจ้อเจียง และเจียงซี
2
อู๋ซานกุ้ยมีโอกาสชนะสงครามสูง
แต่สายลมแห่งสงครามเปลี่ยนทิศ ฝ่ายกองทัพชิงเริ่มตีตื้น เกิ่งจิงจง หวังฝู่เฉิน ซ่างจือซิ่น ยอมแพ้ทีละคน
2
เมื่อเกิ่นจินจงพ่ายแพ้ และสัญญาจะโน้มน้าวใจอีกสองคนให้ยุติการกบฏ คังซีจึงใช้กองทัพของเกิ่นจินจงไปสู้กับพวกกบฏฝ่ายตน จนเมื่อกบฏยุติ คังซีก็สั่งประหารเกิ่นจินจง
1
ต่อมาซ่างจือซิ่นเปลี่ยนใจ กลับไปเข้ากับฝ่ายชิง กองทัพชิงก็สั่งให้เขายกทัพไปสู้กับอู๋ซานกุ้ย
หลังจากกบฏยุติ ซ่างจือซิ่นถูกจับ และถูกสั่งให้ฆ่าตัวตาย แลกกับที่ครอบครัวของเขาไม่ต้องถูกลงโทษ พี่น้องสี่คนของซ่างจือซิ่นถูกประหารตามไปด้วย
ในปี 1678 อู๋ซานกุ้ยปราบดาภิเษกเป็นฮ่องเต้ เมืองหลวงคือเหิงโจว
1
อู๋ซานกุ้ยเป็นฮ่องเต้เพียงไม่กี่เดือน ก็จากโลกไป หลานชายอู๋ซื่อฝานสานต่ออำนาจ แต่กองทัพกบฏอ่อนเปลี้ยลงทุกวัน ปลายปี 1681 อู๋ซื่อฝานฆ่าตัวตาย ถูกคนตัดศีรษะส่งไปที่เมืองหลวงชิง
1
คังซีก็กวาดกลุ่มกบฏหมดสิ้น ภาพของอู๋ซานกุ้ยในประวัติศาสตร์จีนคือคนขายชาติ คือทรยศต่อทั้งราชวงศ์หมิงและชิง
ในประวัติศาสตร์จริง รัชสมัยคังซีมีเสถียรภาพสูงมาก และมั่งคั่ง ยุคคังซีและเฉียนหลงเป็นยุครุ่งเรืองของแผ่นดินจีน
1
คังซีฮ่องเต้ จักรพรรดิองค์ที่สามของราชวงศ์ชิง เป็นหนึ่งในจักรพรรดิที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของแผ่นดินจีน ครองราชย์นานถึง 61 ปี จัดว่าเป็นการครองราชย์นานที่สุด (ความจริงเฉียนหลงฮ่องเต้ครองราชย์นานกว่า แต่สละราชสมบัติ แล้วอยู่เบื้องหลัง เพื่อให้คังซีรักษาสถิติครองราชย์นานที่สุด)
1
คังซีฮ่องเต้
คังซีขึ้นครองราชย์เมื่อชันษาเจ็ดขวบ จึงต้องมีผู้สำเร็จราชการแผ่นดิน จักรพรรดิองค์ก่อน ซุ่นจี้ ตั้งผู้สำเร็จราชการสี่คน ได้แก่ สั่วหนี ซูเก้อซ่าฮา เอ้อปี้หลง และเอ๋าไป้
ซูเก้อซ่าฮาเดิมเป็นทหาร เคยร่วมรบยึดเมืองจีน ถูกประหาร
เอ้อปี้หลงเป็นนักรบ เอ๋าไป้เคยเป็นแม่ทัพแมนจู รบหลายศึก รับใช้จักรพรรดิองค์ชิงก่อนๆ
สั่วหนีตายก่อน เหลือสามคน เล่ากันว่าเอ๋าไป้หาเหตุให้ซูเก้อซ่าฮาถูกประหาร กลายเป็นผู้สำเร็จราชการแผ่นดินที่มีอำนาจสูงสุด
ในปี 1669 คังซีชันษา 15 สั่งจับเอ๋าไป้ และปลดออกเพราะเห็นว่ามีอำนาจมากเกินไป หลังจากนั้นก็โอนถ่ายอำนาจมาพระหัตถ์ เมื่อเอ๋าไป้ถูกปลด เอ้อปี้หลงที่เป็นพวกเดียวกันก็ถูกปลดด้วย
1
อำนาจมาสู่พระหัตถ์เต็มที่ และเริ่มบริหารบ้านเมือง
ทรงปรับปรุงกองทัพให้มีประสิทธิภาพมากกว่าเดิม หากแม่ทัพกลับมาจากสงครามคนเดียว โดยทหารตายหมด จะถูกประหาร เช่นเดียวกับทหารที่กลับมาโดยทิ้งแม่ทัพ
1
คำถามหนึ่งที่น่าสนใจคือ พวกมองโกลหายไปไหน?
คำตอบคือหมดพลังไปเกือบสิ้นเชิง
1
พวกชิงจัดการพวกมองโกล มอบตำแหน่งและเชื่อมเป็นทองแผ่นเดียวกับมองโกลที่อยู่ในแผ่นดินชิง สันติภาพอยู่ช่วงหนึ่ง แต่ในยุคของรุ่นหลัง ก่อกบฏในปี 1675 มีทัพมองโกลสามพันคน แต่ถูกปราบในสองเดือน ผู้ก่อการถูกประหารหมด ผู้หญิงกลายเป็นทาส
1
ขณะที่พวกมองโกลนอกแผ่นดินชิงยังเป็นอิสระ แต่ส่งบรรณาการให้ชิง
อุ้ยเซี่ยวป้อเป็นตัวละครสูงสุดคืนสู่สามัญของกิมย้ง ‘ไร้วรยุทธ์ แต่เหนือวรยุทธ์’
นี่เป็นงานทดลองที่กล้าหาญเรื่องหนึ่ง พาเราไปในพื้นที่ที่คาดไม่ถึงในโลกของนิยายกำลังภายในที่ส่วนใหญ่เข้าข่ายเรื่องอ่านเล่น
1
และมีแต่กิมย้งจึงกล้าทดลองงานชิ้น และประสบความสำเร็จ

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา