13 ธ.ค. 2021 เวลา 00:00 • นิยาย เรื่องสั้น
ยุทธจักรวาลกิมย้ง
ตอน 14 : หญิงงามเมือง
Blockdit Originals ซีรีย์บทความพิเศษ
เมื่อข่าวหลี่จื้อเฉิงยึดปักกิ่งและจักรพรรดิฉงเจินปลงพระชนม์พระองค์เดินทางไปถึงอู๋ซานกุ้ย แม่ทัพใหญ่ก็ยกกำลังกลับไปตั้งหลักที่ด่านซานไห่ ขณะที่พวกแมนจูกำลังรุกเข้ามา
ซานไห่กวน (山海關) เป็นด่านสำคัญของกำแพงเมืองจีน สำหรับป้องกันการรุกรานจากศัตรูทางเหนือและตะวันออก
เมื่อจักรพรรดิฉงเจินสิ้นพระชนม์ก็เท่ากับสิ้นสุดราชวงศ์หมิง โดยหลักการหลี่จื้อเฉิงจะกลายเป็นจักรพรรดิองค์ใหม่ แต่ยังไปถึงจุดนั้นไม่ได้ เพราะยังมีอีกสองตัวแปร หนึ่งคือแม่ทัพราชวงศ์หมิง อู๋ซานกุ้ย หนึ่งคือแม่ทัพแมนจู ดอกอน
ทันใดนั้นก็เกิดสุญญากาศแห่งอำนาจ แผ่นดินจีนหลังราชวงศ์หมิงสามารถตกเป็นของใครก็ได้ ระหว่างหลี่จื้อเฉิง อู๋ซานกุ้ย หรือแมนจู
1
พวกแมนจูฉวยโอกาสใช้ความตายของจักรพรรดิให้เป็นประโยชน์ ประกาศว่าจะแก้แค้นให้จักรพรรดิฉงเจิน เพื่อดึงพวกจงรักภักดีต่อราชวงศ์หมิงมาเป็นพวก
1
เนื่องจากทัพของอู๋ซานกุ้ยเป็นปราการสุดท้ายที่สามารถต้านได้ทั้งแมนจูหรือหลี่จื้อเฉิง อู๋ซานกุ้ยจึงกลายเป็นตัวแปรสำคัญที่จะชี้ชะตาอนาคตของแผ่นดิน ทั้งขุนทัพดอกอนฝ่ายแมนจูกับหลี่จื้อเฉิงพยายามขอแรงสนับสนุนจากอู๋ซานกุ้ย
1
ด่านซันไห่กวน (เครดิต : Prince Roy / Creative Commons Attribution 2.0)
แต่อู๋ซานกุ้ยฉลาดพอที่ยังไม่เลือกข้าง
1
หลี่จื้อเฉิงพยายามซื้อตัวอู๋ซานกุ้ยทุกทาง สัญญามอบทรัพย์สินเงินทอง ตำแหน่ง รวมทั้งจับบิดาของอู๋ซานกุ้ย ขุนพลอู๋เสียง เป็นตัวประกัน สั่งให้เขียนจดหมายถึงลูกชาย โน้มน้าวใจให้เข้ากับหลี่จื้อเฉิง
ตอนแรกอู๋ซานกุ้ยตั้งใจจะเข้ากับหลี่จื้อเฉิง แต่เมื่อบิดาถูกจับเป็นตัวประกัน อีกทั้งเห็นความโหดร้ายของกองทัพหลี่จื้อเฉิง ก็เปลี่ยนใจ
1
เขาเขียนจดหมายไปติเตียนบิดา และตัดสัมพันธ์ เชื่อว่าเพื่อหวังช่วยชีวิตบิดาและครอบครัว
แน่นอน หลี่จื้อเฉิงสั่งฆ่าบิดาของอู๋ซานกุ้ย
อู๋ซานกุ้ยมีกำลังทหารประมาณ 40,000-50,000 คน ขณะที่หลี่จื้อเฉิงมีกำลังคน 60,000-100,000 คน อู๋ซานกุ้ยรู้ว่ากำลังของตนไม่พอสู้หลี่จื้อเฉิง จึงหันไปหาพวกแมนจู นำทัพโดยขุนทัพดอกอน อนุชาของหวังไท่จี๋ ฮ่องเต้ของแมนจู ขอกำลังมาช่วย โดยมีข้อแม้ว่า ขอรักษาราชวงศ์หมิงไว้ แลกกับการที่แมนจูครองบางพื้นที่ของจีน
3
หงเฉิงโฉว กุนซือชาวจีนที่แปรพักตร์ไปทำงานกับฝ่ายแมนจู เสนอความคิดดอกอนว่า โอกาสมาถึงแล้ว น่าจะฉวยโอกาสนี้ยึดแผ่นดินจีนเสียเลย
(ซ้าย) อู๋ซานกุ้ย (ขวา) ดอกอน
ดอกอนเห็นด้วย
ดอกอนจึงโน้มน้าวใจอู๋ซานกุ้ยให้มาเข้ากับฝ่ายตน อู๋ซานกุ้ยปฏิเสธ
5 พฤษภาคม หลี่จื้อเฉิงส่งกองทัพไปชนทัพอู๋ซานกุ้ย แต่แตกพ่ายกลับมา วันที่ 18 หลี่จื้อเฉิงยกทัพหกหมื่นคนจากปักกิ่งไปเอง มีชัยเหนืออู๋ซานกุ้ย
วันต่อมาอู๋ซานกุ้ยส่งจดหมายไปขอความช่วยเหลือจากขุนทัพดอกอน ดอกอนฉวยโอกาสขอให้อู๋ซานกุ้ยแปรพักตร์มาเข้ากับแมนจู ถึงตรงนี้อู๋ซานกุ้ยก็ไม่มีทางเลือก ต้องยอมรับ
ดอกอนยกทัพไปที่ด่านซานไห่ทันที ระหว่างทางพบทัพของถังทงที่รับคำสั่งหลี่จื้อเฉิงให้โอบตีอู๋ซานกุ้ยจากด้านหลัง กองทัพชิงขยี้ทัพถังทงจนแตกพ่าย ถังทงยอมจำนนต่อชิง
วันที่ 26 พฤษภาคม ทัพดอกอนอยู่ห่างจากด่านซานไห่เพียงแปดกิโลเมตร เขาสั่งให้ทหารนอนทั้งในชุดรบ เมื่อถึงเที่ยงคืนก็บุกต่อทันที โดยมีอีกสองทัพชิงเสริมสองปีก
1
เช้าตรู่ทัพชิงถึงด่านซานไห่ อู๋ซานกุ้ยรอพวกเขาอยู่และยื่นจดหมายยอมแพ้ อู๋ซานกุ้ยสั่งทหารของเขาผูกผ้าสีขาวกับตัว เพื่อให้ดูต่างจากทหารของหลี่จื้อเฉิง
ประวัติศาสตร์จารึกว่า วันที่ 27 พฤษภาคม 1644 อู๋ซานกุ้ยเปิดประตูด่านซานไห่กวน ให้กองทัพแมนจูเข้ามา
ทัพหลี่จื้อเฉิงชนทัพอู๋ซานกุ้ยจนแตกกระเจิง แต่ต้องตกใจเมื่อเห็นทัพแมนจูมาเสริม ทันใดนั้นกองทัพหลี่จื้อเฉิงต้องสู้กับศัตรูสองฝ่าย คืออู๋ซานกุ้ยและทัพแมนจู คราวนี้ทัพหลี่จื้อเฉิงต้านไม่ได้ ทหารหลายพันคนถูกฆ่าในยุทธภูมิซานไห่
3
หลี่จื้อเฉิงถอยทัพที่เหลือกลับไปตั้งหลักที่ปักกิ่ง ทหารของหลี่จื้อเฉิงเริ่มปล้นสะดมเมือง
ครั้นวันที่ 3 มิถุนายน ณ พระราชวังอู่อิง หลี่จื้อเฉิงก็ตั้งตนเป็นจักรพรรดิ และอยู่ที่วังจนกระทั่งกองทัพแมนจูมาประชิด ทหารของหลี่จื้อเฉิงก็เผาพระราชวัง แล้วทิ้งเมือง หนีไปทางตะวันตก
4
ชาวเมืองรุมฆ่าทหารหลี่จื้อเฉิงที่หนีไม่ทันไปราวสองพันคน แล้วตั้งขบวนรออู๋ซานกุ้ยและเจ้าชายหมิง คาดหวังว่าราชวงศ์หมิงจะครองบัลลังก์ต่อไป
แต่พวกเขาตกตะลึงใหญ่หลวงเมื่อขบวนทหารที่เข้าเมืองเป็นข้าศึกแมนจู นำโดยดอกอน
วันที่ 19 ตุลาคม ซุนจื่อพระชันษาห้าพรรษาแห่งราชวงศ์ชิงก็เสด็จมาถึง วันที่ 8 พฤศจิกายน ขึ้นเป็นฮ่องเต้ชิงองค์แรกที่ครองแผ่นดินจีน (แต่เป็นองค์ที่สองของราชวงศ์ชิง) ดอกอนเป็นผู้สำเร็จราชการ
3
หลี่จื้อเฉิงหนีไปที่เมืองซีอาน เมืองหลวงของส่านซี ไม่มีใครรู้แน่ว่าหลี่จื้อเฉิงตายอย่างไร และเมื่อไร เชื่อว่าหลี่จื้อเฉิงน่าจะตายในปี 1645 แต่ก็มีเรื่องเล่าว่าเขาไม่ตาย และหนีไปได้ ไปบวชเป็นพระ และตายในปี 1674
2
แต่สงครามยังไม่จบทีเดียว ฝ่ายหมิงที่แตกไปรวมตัวทางใต้ ตั้งราชวงศ์หมิงใต้ ยกเจ้าชายจูหยูซงขึ้นเป็นจักรพรรดิ ทรงพระนามว่าหงกวง
3
ปี 1645 ราชวงศ์ชิงกวาดล้างราชวงศ์หมิงใต้ราบคาบ หงกวงฮ่องเต้ถูกจับส่งไปปักกิ่ง และสิ้นพระชนม์ในปีถัดมา
3
ราชวงศ์หมิงใต้ยังไม่หมดลมหายใจ แต่ย้ายลงใต้ไปอีก จักรพรรดิองค์สุดท้ายคือหย่งลี่ฮ่องเต้ ถูกจับและถูกปลงพระชนม์โดยอู๋ซานกุ้ยในปี 1662
ความจริงจักรพรรดิฉงเจินพยายามทำดีที่สุดเท่าที่ทำได้ที่จะรักษาอาณาจักรหมิง แต่ชะตากรรมของราชวงศ์หมิงเกิดขึ้นเพราะบ้านเมืองเสื่อมเกินแก้ไข อีกปัญหาคือจักรพรรดิทรงมีอาการระแวง ทรงสั่งประหารแม่ทัพ นายกอง ข้าราชการไปจำนวนมาก
ราชวงศ์หมิงยังมีทหารดีๆ มาก แต่ไม่พอ อาการระแวงของจักรพรรดิฉงเจินทำให้ไม่มีใครกล้าเสนอความคิด แผนต่อต้านศัตรู
การตัดสินพระทัยที่ผิดพลาดที่สุดคือการประหารแม่ทัพหยวนฉงห้วน ผู้เป็นคนรักชาติ ต่อต้านการรุกรานของหนี่เจินหรือแมนจูที่มารุกราน เชี่ยวชาญด้านปืนใหญ่ เอาชนะทัพแมนจูได้หลายครั้ง แต่ด้วยความหวาดระแวงของจักรพรรดิ ถูกประหาร เชื่อกันว่าอาจเป็นแผนบ่อนทำลายของพวกหนี่เจิน
1
การเคลื่อนทัพของแมนจูสู่ด่านซานไห่กวน
ยุทธการซานไห่กวน 1644
การประหารแม่ทัพหยวนฉงห้วนทำให้ขวัญกำลังใจของกองทัพเสื่อมลง และทำให้กองทัพแมนจูได้เปรียบขึ้นมาทันที
มาถึงจุดนี้ เราก็คงเข้าใจแล้วว่าทำไมตัวเอกของเรื่อง เพ็กฮวยเกี่ยม แซ่หยวน และทำไมหยวนเฉิงจื้อต้องการล้างมลทินให้พ่อ
1
ก็เพราะพ่อของเขาก็คือแม่ทัพหยวนฉงห้วน
สำหรับองค์หญิงฉางผิง เมื่อราชวงศ์ชิงครองแผ่นดิน ฉางผิงขออนุญาตจักรพรรดิชิงบวชเป็นนางชี แต่ไม่ได้รับอนุญาต นางแต่งงาน และเกิดเหตุแท้งลูก และเสียชีวิตในวัย 17 ชันษา
2
แต่ฉางผิงในโลกนิยายกำลังภายในเป็นอีกเรื่องหนึ่ง
ฉางผิงกลายเป็นนางชีมีวิทยายุทธ์ชั้นเยี่ยม ฉายาแม่ชีเทพเจ้าแขนเดียว (獨臂神尼) ลูกศิษย์คนหนึ่งของนางคือหลี่ซื่อเหนียง ซึ่งมีตำนานอีกเรื่องหนึ่งคือหลี่ซื่อเหนียงไปลอบสังหารองค์ชายสี่จักรพรรดิหย่งเจิ้ง ในเรื่อง ศึกสายเลือด
4
องค์หญิงฉางผิงก็มีบทบาทในนวนิยายเรื่อง สามกระบี่สาว (江湖三女俠) ของเนี่ยอู้เซ็ง
3
ส่วนเวอร์ชั่นองค์หญิงฉางผิงของกิมย้งมีสองเรื่อง คือ เพ็กฮวยเกี่ยม กับ อุ้ยเซี่ยวป้อ ในเรื่องแรกนางชื่ออาเก้า (อาจิ่ว) รักกับหยวนเซ่งจี่
1
ในเรื่องหลังฉางผิงกลายเป็นนางชี ชื่อ เก้าลั้ง (จิ่วหนาน)
เป็นคนสอนวิชาให้อุ้ยเซี่ยวป้อ
คำถามที่น่าสนใจคือ ทำไมอู๋ซานกุ้ยจึงทรยศต่อแผ่นดินเกิด ไปเข้ากับพวกแมนจู ทั้งที่หากจับมือกับหลี่จื้อเฉิง ก็อาจมีอนาคตไกลเช่นกัน อาจจะแตกกับหลี่จื้อเฉิง แต่ก็ยังมีโอกาส
1
จุดนี้มีตำนาน
1
และตำนานก็มีหญิงงามมาเกี่ยวข้อง
สตรีผู้นี้เป็นหญิงงามในรอยต่อของราชวงศ์หมิงกับชิง นาม เฉินเหยียนเหยียน (陳圓圓) เป็นหญิงงามเมือง
1
ในตำนานเชื่อว่านางอาจเป็นตัวแปรการตัดสินใจแปรพักตร์ของอู๋ซานกุ้ยจากหมิงไปหาชิง
3
เพราะชายอีกคนหนึ่งคือหลี่จื้อเฉิง
เฉินเหยียนเหยียนเกิดในครอบครัวชาวนา หลังพ่อตายก็หาเลี้ยงชีพโดยการขายตัว ถูกซื้อตัวไปจนในที่สุดก็กลายเป็นของอู๋ซานกุ้ย
ตำนานเวอร์ชั่นหนึ่งที่มักถูกนำไปอ้างเป็นประวัติศาสตร์คือ หลี่จื้อเฉิงมีความสัมพันธ์กับเฉินเหยียนเหยียน อนุภรรยาของอู๋ซานกุ้ย
เมื่อหลี่จื้อเฉิงก่อกบฏจวนสำเร็จ ได้พยายามซื้อตัวอู๋ซานกุ้ย ขณะเดียวกันก็บีบให้บิดาอู๋ซานกุ้ยเขียนจดหมายโน้วน้าวใจลูกชายให้เข้ากับตน
ตำนานเล่าว่า ทีแรกอู๋ซานกุ้ยตั้งใจจะเข้ากับหลี่จื้อเฉิง แต่เมื่อได้ข่าวว่าหลี่จื้อเฉิงชิงเฉินเหยียนเหยียนไปเป็นภรรยา ก็โกรธแค้น และนั่นเป็นจุดเปลี่ยนประวัติศาสตร์ ทำให้อู๋ซานกุ้ยตัดสินใจเข้ากับแมนจู เปิดด่านให้ข้าศึกเข้าเมือง
1
แต่นักประวัติศาสตร์เชื่อว่านี่เป็นเรื่องแต่ง
บั้นปลายชีวิตของนางเฉินเหยียนเหยียนมีหลายเวอร์ชั่น เช่น หลังราชวงศ์ชิงครองอำนาจ นางกับลูกชายที่เกิดจากอู๋ซานกุ้ยหลบไปซ่อนตัวในหมู่บ้านแห่งหนึ่งที่กุ้ยโจว
บางเวอร์ชั่นเล่าว่านางหนีไปบวชเป็นชี
อีกเวอร์ชั่นของเรื่องแต่งคือ เฉินเหยียนเหยียนอยู่รอดการเปลี่ยนราชวงศ์ และกลับไปอยู่กับอู๋ซานกุ้ย ต่อมาเมื่ออู๋ซานกุ้ยก่อกบฏและล้มเหลว นางก็บวชเป็นชีที่คุนหมิง
ชีวิตของนางในโลกนิยายมีสีสันกว่ามากชีวิตจริงมาก!
1
แต่นางมิใช่หญิงงามเมืองที่ขายตัวเพียงคนเดียวในประวัติศาสตร์ช่วงนั้น
ในช่วงปลายราชวงศ์หมิงมีขุนนางและแม่ทัพหลายคนแปรพักตร์ ขายตัวเพื่อลาภยศ
การล่มสลายของอาณาจักรหมิงสาเหตุใหญ่เกิดจากการทำลายตัวเอง และขุนนางที่สามารถทรยศต่อแผ่นดินเกิดเพื่อแลกกับผลประโยชน์ เช่น อู๋ซานกุ้ย หงเฉิงโฉว ฯลฯ
หงเฉิงโฉวเดิมเป็นขุนนางหมิง มีความสามารถสอบได้ตำแหน่งจิ้นซื่อ แต่แปรพักตร์ไปเข้ากับแมนจู และประสบความสำเร็จในชีวิตการเมืองของราชวงศ์ชิง
ในช่วงลมหายใจสุดท้ายของอาณาจักรหมิง อู๋ซานกุ้ยก็มิใช่ขุนศึกคนเดียวที่ทรยศต่อราชวงศ์หมิง นอกจากอู๋ซานกุ้ยแล้ว ยังมีนายทหารอีกสองคนร่วมด้วย คือ เกิ่นจินจง และซ่างเข่อสี่
หลังจากคนเหล่านี้ทรยศต่อแผ่นดินเกิดจนพวกแมนจูเข้ามาครองแผ่นดินสำเร็จ ราชวงศ์ชิงก็ตอบแทนพวกเขาอย่างไม่อั้น อู๋ซานกุ้ยดำรงตำแหน่งเจ้าพิชิตประจิม พร้อมทรัพย์สิน ที่ดิน และสิทธิปกครองภาคใต้ของจีน
แม่ทัพเกิ่นจินจงได้รับตำแหน่งองค์ชายแห่งเจียงหนาน แม่ทัพซ่างเข่อสี่กลายเป็นองค์ชายแห่งสันติภาพทักษิณ เมื่อเขาตาย ตำแหน่งของเขาก็ส่งต่อให้ลูกชาย ซ่างจือซิ่น
5
พวกแมนจูก็ยังพยายามสานสัมพันธ์กับอู๋ซานกุ้ย โดยเชื่อมเป็นทองแผ่นเดียวกัน ยกเจ้าหญิงเจี้ยนหนิง ให้บุตรชายอู๋ซานกุ้ย เจ้าหญิงเจี้ยนหนิงเป็นพระธิดาของฮ่องเต้หวังไท่จี๋ ผู้ก่อตั้งราชวงศ์ชิง
5
อู๋ซานกุ้ยกลายเป็นพวกแมนจูไปโดยปริยาย
แต่พยัคฆ์ร้ายที่มีพิษสงรอบตัวเช่นอู๋ซานกุ้ยก็รู้ดีว่าราชวงศ์ชิงไม่มีทางไว้ใจคนทรยศเช่นพวกเขา
แน่นอนแมนจูไม่เคยไว้ใจอู๋ซานกุ้ย
1
คนที่ทรยศต่อแผ่นดินเกิดย่อมไว้ใจไม่ได้
3
แต่โศกนาฏกรรมของมนุษยชาติคือ ทุกแผ่นดินมีคนทรยศและ ‘หญิงงามเมือง’ ทางการเมืองเสมอ
เพ็กฮวยเกี่ยม เขียนมา 65 ปีแล้ว นับเป็นเรื่องแรกๆ ที่ตัวเอกตกเขา พบคัมภีร์ และอาวุธพิเศษ กลายเป็นโมเดลใหม่ของนิยายตระกูลนี้
3
โดยสาระ นี่เป็นนิยายอิงประวัติศาสตร์ที่สะท้อนให้เห็นถึงการแย่งชิงอำนาจ การหลอกลวงทางการเมือง การแสวงหาผลประโยชน์ และคำสัญญาของคนที่ต้องการขึ้นสู่อำนาจ เป็นสัจธรรมว่าอำนาจมิเคยอยู่ค้ำฟ้า วงจรของการชิงอำนาจหมุนวนไป เป็นวัฏฏะของมัน ท้ายที่สุดระบอบใหม่ก็มักเลวร้ายไม่ต่างจากระบอบเก่า
5
เป็นเช่นนี้เสมอมา

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา