8 พ.ย. 2021 เวลา 10:00 • นิยาย เรื่องสั้น
👻👻ตอน2..เสียงจาก.......ความเงียบ😅😅
การเขียนวิวทะเลของเราก็ดำเนินไปตามกำหนดการที่อาจารย์ได้วางไว้ การเขียนสดๆแบบนี้ มันก็มีขีดจำกัดสำหรับพวกเราพอสมควร เช่นแสงเงาที่เปลี่ยนไปตามช่วงเวลา รวมถึงสภาพอากาศที่เราต้องผจญ งานของเราเป็นงานสีน้ำครับ ถ้าฝนตก เราจะมีเทคนิคพิเศษเป็นรอยจ่ำๆของเม็ดฝน ประทับๆไปทั้งภาพ ซึ่งมันยากมากที่จะแก้กลับมาให้สีเสมอกันเหมือนเดิม ทำให้งานช้าลงไปอี๊กกกกกกก
เย็นนั้น..หลังจากกลับจากการเขียนวิวทะเล พอเราถึงค่ายพัก ก็แยกย้ายกันไปพักตามอัธยาศัย..โดยอาจารย์ได้นัดประชุมก่อนนอนกันอีกล่ะครับ เรื่องการย้อมใจพวกเราไม่เคยพลาด แต่ก็ต้องมีรับผิดชอบหมู่คณะด้วย ด้วยความเป็นสุภาพบุรุษ ( หัวเราะ)
อิ้งค์..เป็นคนชอบเล่นกีต้าร์ แถมมีพรสวรรค์ในการแต่งเพลงอีกด้วย ตอนนี้เพลงของอิ้งค์ ก็เป็นหนึ่งในตำนานของสถานศึกษาไปเรียบร้อยแล้วครับ ( หัวเราะ)
.....🍷🍾อิ้งค์ไม่เอาอบายมุขทั้งหลาย เหล้า บุหรี่ไม่แตะครับ แต่เวลาเปิดวง พวกเราจะขาดอิงค์ไม่ได้แหละ ผมมักจะร่วมบรรเลงร่วมกับอิ้งค์เสมอ เรียกว่าคู่ดูโอก็ว่าได้...
...... "อิ้งค์คืนนี้ ประชุมเสร็จแล้วเจอใต้ตึก2นะ " อิ้งค์พยักหน้างึก..เป็นการตอบรับ รู้กัน
พวกเราแบ่งกันพักที่ตึกนอนทั้งหมด 3หลัง ผู้หญิงตึกแรก ตึก 2-3ของหนุ่มๆครับ ส่วนอาจารย์จะมีที่พักต่างหากครับ อิ้งค์อยู่เรือนนอนคนละหลังกับผม เรือนนอนเราห่างกันประมาณ150เมตรเห็นจะได้ ไอช่วงห่างนี่สิ วังเวงพิกล..มันไม่มีแสงสว่างสักเท่าไหร่ อีกทั้งต้นไม้จะครึ้มๆอยู่สักหน่อย มันจึงบังแสง จากไฟส่องทาง ที่พึ่งคือไฟฉายครับ
......คืนนั้นเป็นคืนเดือนดับ แม้ดาวยังหาทำยายาก เราก็เริ่มบรรเลงกันไปจนจะครึ่งคืนแล้ว ตึกนอนต่างๆ ก็ค่อยๆดับไฟในที่สุดก็มืดสนิท
 
 
 
(ต่อจากนี้..มีคำพูด และการกระทำที่ไม่เหมาะสม ผู้อ่านโปรดใช้วิจารณญาณ นะครับ)
น้ำค้างเริ่มพรม..แต่ความรู้สึกหนาวมันไม่ได้มาจากน้ำค้างราตรีหรอกนะฮะ ไอ้เสกเริ่มหันรีหันขวาง..สีหน้าของมัน ทำให้เพื่อนๆต้องถาม
"เชี่ย...เสก มึงมองหาเชี่ยอะไรวะ" มันมองมาที่พวกเราแววตามันมีแววกังวลอะไรบางอย่าง
"เปล่า... " มันอึ้งไปนิด
"ข้าว่าดึกแล้ว นอนเหอะ พรุ่งนี้ตื่นเช้านะมึง เดี๋ยวเขียนงานไม่ไหว"
" เออ หมดขวดนี้แล้วแยกย้ายโว้ย หมดพอดีมึง" พวกเราต่อรอง
" เออๆมากูชงให้" ไอ้เสก รินหัวเชื้อปริมาณสักเป็กนึงต่อแก้ว ผสมน้ำคนๆๆ แล้วส่งให้ตามจำนวนคน
"เชี่ยเสก ชงแบบนี้เดี๋ยวก็คลานกลับล่ะมึง จะรีบไปไหนวะ"
"ดึกแล้ว มันเวลาของคนอื่นเขา รีบแ_กไวๆ"
"เออๆๆๆๆๆ...งั้นกูเล่นเพลงปิดรายการแล้วกัน กูก็ง่วงแล้ว" อิ้งค์บอก (อิ้งค์ไม่ได้ดื่มนะครับ) ผมถึงกับเหวอ นึกจะจบก็จบซะงั้น
อิ้งค์ประทับกีตาร์ขึ้นตัก เริ่มกรีดนิ้ว บรรเลงเพลงกีต้าร์คลาสสิค มันเพราะมากครับ แต่เพลงที่เล่นสิ มันกระชากอารมณ์สุดๆ
เสียงกีตาร์คลาสสิคเพลง "เขมรไทรโยค" สะท้อนแผ่วไปในความมืดสนิทของบรรยากาศ แถมยังเงียบสงัดจนเสึยงเพลงดังชัดไปในความมืด
" ฮึ่ม..หึ่ม.......ฮึ่ม..ฮิ้มมมมมมมมมมม.........." ครับมีเสียงฮัมเพลงตามทำนองที่อิงค์กำลังบรรเลง... พวกเราหยุดหายใจ ในขณะนิ้วของอิ้งค์หยุดกรีดไหวบนสายกีต้าร์ ไม่ต้องถามหาคนร้อง เพราะเสียงนั้นแหลมเล็ก เยือกเย็นจนเรามองหน้ากัน มันเป็นเสียงของผู้หญิงครับ ไอ้ที่เห็นตัวเป็นๆนี่ บักหำล้วนๆ แล้วเสียงมาจากไหน.......ตอนนี้มันเงียบสงัดเลยครับ ไม่มีเสียงเพลง ไม่มีเสียงพูดคุย แต่ละคนมองหน้ากันแล้วค่อยยืนขึ้น หนึ่งในพวกเราบอกว่า
"ค่อยๅเดินนะเมิง ห้ามวิ่งนะมึง"
แต่แล้วเพลงจบของจริง ก็บรรเลงขึ้นฝ่าชั้นบรรยากาศที่มืดสนิทมาจากที่ใดสักแห่ง
....บรุ บรุ...บรู๋วววววววววว,......
เสียงใครคนหนึ่งตะโกนว่า "เชี่ย"
จากนั้นก็มีเสียง
.......ตับๆๆๆๆๆๆๆๆๆ.......
เสียงฝีเท้า นักวิ่ง4*100 สับอย่างพร้อมเพรียงไม่มีใครรอใครล่ะครับ......
ราตรีสวัสดิ์ครับ..พี่น้องชาวไทย

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา