12 พ.ย. 2021 เวลา 05:03 • ปรัชญา
การเสาะแสวงหาความรู้ เราต้องใช้สายตาใช้หูฟัง เรื่องราวต่างๆ มีการจดจำยึดเป็นอัตตาจดจำได้บ้างไม่ได้บ้าง เข้าใจบ้างไม่เข้าใจบ้าง ก็เรียนๆไปตามที่เค้าว่าเป็นความรู้ เรียนไปตามยุคสมัยที่มีการจัด มีการจัดให้เรียนรู้ เรียนไปเพื่อไปทำอะไร เพื่อไปทำมาหาหากิน เสาะแสวงหาปัจจัย หาเงินหาทอง ด้วยแรงกายของตน มีวุฒิบัตรรองรับบ้าง ไม่มีบ้าง มีประสบการณ์ ไม่มีประสบการณ์ รวมๆ เค้าบอกว่า คนมีความรู้ไม่มีความรู้ ความรู้ที่ร่ำเรียนมาก็มุ่งไปสู่เรื่องการทำมาหากิน หล่อเลี้ยงสังขารกรรม เป็นแรงงานหล่อเลี้ยงเศรษฐกิจที่ว่ากัน ทำงานเหนื่อยก็พักผ่อน ฟังเพลงให้เพลิดเพลิน ดูหนังดูละคร ลืมความเหนื่อยยากของกาย ทุกข์ของกายทุกข์ของอารมณ์ ผ่านวันผ่านปี จนแก่เฒ่า
ถึงคราวเจ็บป่วย ก็ขาดเงินขาดทอง มีความรู้เรื่องงานทำอะไรก็ ไม่มีประโยชน์ เพราะร่างกายไม่อำนวย ถึงตอนนั้น ความรู้มีประโยชน์อะไรบ้าง ยิ่งมีเรื่องเส้นเลือดในสมองแตก ไอ้ความรู้ที่ว่าเก่ง มันหายไปไหน เจ็บปวดไปหมดทุกข์ทรมาน แล้วเราจะเสาะแสวงหาหาความรู้อะไรดี
มีคำว่า ปัญญาในทางโลกก็จมอยู่กับคำว่าทำมาหากินหล่อเลี้ยงสังขารที่เราพูดถึงนั้น มันเป็นปัญญาที่ให้อารมณ์ปรุงแต่งสังขาร ที่ไปรับเรื่องราวต่างๆ มีอารมณ์นำไป เสาะแสวงหาหาความรู้เรื่องนั้นเรื่องนี้ จดจำไปเพื่อทำมาหากิน ที่เกิดจากอารมณ์กรรม ชักนำพาให้กาย วิญญาณทั้งหกเคลื่อนไหว ไปทำมาหากิน จมอยู่ในเรื่องราวของคำว่าโลภโกรธหลง ความรู้ที่ได้เรียนมาก็มุ่งอยู่กับคำว่าอยากได้มีเงินมีทอง มียศฐานบรรดาศักดิ์ ไปจนเจ็บแก่เฒ่าชราก็ตายจากไป
บางคนไม่ทันตาย ก็หลงลืมความรู้ที่อุตส่าห์ร่ำเรียนมา จะไปไหนก็ต้องเขียนชื่อที่อยู่ใส่กระเป๋าเสื้อ เพราะกลัวตัวเองกลับบ้านไม่ถูกก็มี ความรู้เรื่องทำมาหากิน มันมีประโยชน์ก็ตอนที่ร่างกายแข็งแรง อาการยังครบสามสิบสองอยู่ พอร่างกายเปลี่ยนแปลงไปตามหรือมีกรรมมาตัดรอน ความรู้ที่อุตส่าห์ร่ำเรียนมา ก็ไม่ได้นำมาใช้ แล้วมันเกิดประโยชน์อะไร บางคนก็เรียนมามากมาย แต่ก็ไม่สามารถทำอะไรได้จากความรู้ที่อุตส่าห์ร่ำเรียนมา แต่นั้นแหละ คนมีความรู้เวลาโกรธ กับคนไม่มีความรู้อะไร เวลามีอารมณ์โกรธ โมโหมันต่างกันตรงไหน แม้แต่เด็กอายุน้อย กับอายุมาก เวลาโกรธโมโห มันต่างกันตรงไหน
ปัญญาที่เกิดจากประพฤติปฏิบัติธรรม เพื่อให้เข้าใจในเรื่องที่ สิ่งต่างๆ ไหลมาแต่เหตุ นั้น คือ อะไร อะไรที่ทำให้เราต้องเวียนว่ายตายเกิด เหมือนอย่างคำหนึ่งที่เราได้ยินได้ฟังกันบ่อยๆ เรื่องของคำว่าอวิชชา เราก็ได้ยินได้ฟังกัน แต่เราก็เข้าไปไม่ถึง คำว่าแท้จริงของอวิชชาเป็นอย่างไร ทำไมถึงมีคำพูดว่าอวิชชาปกปิดจิตของสรรพสัตว์ทั้งหลาย มันเป็นลักษณะอย่างไร มีตัวมีตนเป็นอย่างไร ทำไมอวิชชานั้นถึงเกิดขึ้น แล้วตัวตนที่แท้จริงของจิตเป็นอย่างไร อารมณ์ทั้งหลายที่เราพูดกันได้ ที่จริงแล้วอารมณ์เป็นอย่างไร ทำไมถึงมีอำนาจเหนือจิต แล้วทำไมต้องมีการสะสมบารมีหลีกหนีการเกิด ทำไมต้องทำกันเป็นอเนกชาติ แล้วเรื่องของภพภูมิ ทำไมต้องไปเกิดในภพนั้น รับทุกข์หรือสุข แล้วทำไมต้องเกิดมาอาศัยกายมนุษย์
มันมีหลายเรื่องราว ที่จิตจะต้องเรียนแก้ไขจิตของตนเอง เพื่อรอดพ้นบ่วงมารทั้งหลาย หยุดการเกิดต้องทำอย่างไรปัญญาที่เกิดจากประพฤติปฏิบัติธรรม เพื่อให้เข้าใจในเรื่องที่ สิ่งต่างๆ ไหลมาแต่เหตุ นั้น คือ อะไร อะไรที่ทำให้เราต้องเวียนว่ายตายเกิด
เหมือนอย่างคำหนึ่งที่เราได้ยินได้ฟังกันบ่อยๆ เรื่องของคำว่าอวิชชา เราก็ได้ยินได้ฟังกัน แต่เราก็เข้าไปไม่ถึง คำว่าแท้จริงของอวิชชาเป็นอย่างไร ทำไมถึงมีคำพูดว่าอวิชชาปกปิดจิตของสรรพสัตว์ทั้งหลาย มันเป็นลักษณะอย่างไร มีตัวมีตนเป็นอย่างไร ทำไมอวิชชานั้นถึงเกิดขึ้น แล้วตัวตนที่แท้จริงของจิตเป็นอย่างไร อารมณ์ทั้งหลายที่เราพูดกันได้ จริงแล้วเป็นอย่างไร ทำไมถึงมีอำนาจเหนือจิต แล้วทำไมต้องมีการสะสมบารมีหลีกหนีการเกิด ทำไมต้องทำกันเป็นอเนกชาติ แล้วเรื่องของภพภูมิ ทำไมต้องไปเกิดในภพนั้น รับทุกข์หรือสุข แล้วทำไมต้องเกิดมาอาศัยกายมนุษย์ มันมีหลายเรื่องราว ที่จิตจะต้องเรียนแก้ไขจิตของตนเอง เพื่อรอดพ้นบ่วงมารทั้งหลาย หยุดการเกิดต้องทำอย่างไร
ถ้าเราไม่รู้จัก เหมือนกับตัวเรารู้จักตัวตนที่แท้จริงของเราเป็นเช่นไร เหมือนคำว่าจิต ใครก็พูดได้ แต่รู้จักกันจริงหรือไม่ เช่น คำว่ากาย อารมณ์ จิต สามคำเรารู้จัก แยกแยะออกจากกันได้มั้ย ปัญญาในทางธรรม ต้องเกิดจากการประพฤติปฏิบัติธรรม เพื่อชำระสะสางหยุดเหตุนั้น หยุดการเกิด เกิดทีไรมันก็ทุกข์ ไม่เกิดเลยก็ไม่มีทุกข์ เข้าพระนิพพาน แล้วจะต้องทำอย่างไร
ถ้าเราไม่รู้จัก เหมือนกับตัวเรารู้จักตัวตนที่แท้จริงของเราเป็นเช่นไร เหมือนคำว่าจิต ใครก็พูดได้ แต่รู้จักกันจริงหรือไม่ เช่น คำว่ากาย อารมณ์ จิต สามคำเรารู้จัก แยกแยะออกจากกันได้มั้ย ปัญญาในทางธรรม ต้องเกิดจากการประพฤติปฏิบัติธรรม เพื่อชำระสะสางหยุดเหตุนั้น หยุดการเกิด เกิดทีไรมันก็ทุกข์ ไม่เกิดเลยก็ไม่มีทุกข์ เข้าพระนิพพาน แล้วจะต้องทำอย่างไร
เราก็ลองมาดูศึกษา ทำความเข้าใจ ในเรื่องชาดกขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า เรื่องของเจ้าชายสิทธัตถะท่านทำอะไร แล้วเราก็ลองมาเปรียบเทียบกับตัวเราบ้าง เราบำเพ็ญทานบุญบารมีมามั้ย จนไปถึงเยี่ยงอย่างองค์พระสิทธัตถะ ที่ท่านมีปัญญา ไปบำเพ็ญบารมีกลางป่า ด้วยเสื้อผ้าชุดเดียว เราทำได้มั้ย แล้วท่านทำอย่างไร ต้องศึกษาหาผู้ที่ชี้แนวทางปฏิบัติให้ถูกทาง เพื่อประพฤติปฏิบัติธรรมตามรอยคำสอนขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ผู้เป็นบรมครูแก่จิตเรา
โฆษณา