Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
Main Stand
ยืนยันแล้ว
•
ติดตาม
13 พ.ย. 2021 เวลา 14:00 • กีฬา
บันได หรือ เหว : "โค้ชเจอร์ราร์ด" เจ๋งแค่ไหนเหมาะกับ แอสตัน วิลล่า หรือไม่ ? | MAIN STAND
1
กุนซือแชมป์ไร้พ่ายแห่งลีกสกอตแลนด์อย่าง สตีเว่น เจอร์ราร์ด ก้าวขึ้นมาเป็นนายใหญ่คนใหม่ของ แอสตัน วิลล่า เรียบร้อยแล้ว
2
เชื่อว่าหลายท่าที่กำลังอ่านบทความนี้คงไม่ได้มีโอกาสชมเกมการแข่งขันของ กลาสโกว์ เรนเจอร์ส ในยุคที่มี สตีเว่น เจอร์ราร์ด คุมทีมมากนัก ซึ่งก็แน่นอนว่าการจะหาชมการถ่ายทอดสดฟุตบอลสกอตแลนด์ หรือยูโรปา ลีก นั้นค่อนข้างยากอยู่ ดังนั้นเราคงต้อง "มองเขาจากคนที่เคยร่วมงานด้วย"
Main Stand จะมาส่องวิธีการวางแทคติก วิธีการควบคุมนักเตะ และการสร้างทีมในแบบฉบับ "โค้ชเจอร์ราร์ด" ว่าเป็นอย่างไร จะเหมาะสมกับงานชิ้นใหม่ของเขาหรือไม่ ? ติดตามได้ที่นี่
เจอร์ราร์ด สไตล์ไหน ?
เจอร์ราร์ด สมัยยังเป็นนักเตะอาจจะออกแนวกัปตันทีมสายลุยบู๊แหลก แต่ในความเป็นจริงเรื่องของกึ๋นและความใส่ใจในแทคติกก็ถือว่าเขาเป็นคนที่ให้ความสำคัญกับสิ่งนี้มาก ๆ
ในช่วงที่เล่นให้กับ ลิเวอร์พูล เจอร์ราร์ด ได้ร่วมงานกับโค้ชอย่าง เชราร์ อุลลิเยร์, รอย ฮอดจ์สัน, เคนนี่ ดัลกลิช และ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส แต่ไม่มีกุนซือคนไหนที่เข้ากับเขาได้ดีในเรื่องของการสอนและแทคติกได้เท่ากับ ราฟา เบนิเตซ อีกแล้ว
เบนิเตซ ถือเป็นกุนซือที่พาลิเวอร์พูลคว้าแชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก สมัยที่ 5 ในปี 2005 สิ่งที่ทำให้เขาเล่นเกมแบบนัดต่อนัดเก่งขนาดนั้นก็เพราะว่าเขาเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านแทคติกเบอร์ต้น ๆ ของโลก ณ เวลานั้น เจอร์ราร์ด ใช้เวลาที่ร่วมงานกันเป็นกาวประสานระหว่างกุนซือกับนักเตะในทีม และนั่นทำให้เขาได้ซึมซับเรื่องแทคติกฟุตบอลจาก "เอล บอส" มาไม่น้อย
1
"ตอนที่ผมเข้ามาทำ ลิเวอร์พูล ผมชวนนักเตะทุกคนมาเข้าประชุมกันเพื่อบอกแนวทางที่เราจะเล่น ผมพยายามวาดแทคติกในหัวผมให้ทุกคนรู้ และนั่นเป็นครั้งแรกที่ผมได้คุยกับ สตีเว่น เจอร์ราร์ด ทีเป็นกัปตันทีม" ราฟา เริ่มกล่าว
"เราไม่ได้คุยกันเรื่องวัฒนธรรมประเพณีหรือกฎระเบียบอะไรเลย คุณเชื่อไหม สิ่งที่ผมกับเจอร์ราร์ดถกกันตลอดทั้งวันคือเรื่องแทคติกของผม สตีวี่ กระตือรือร้นมาก ๆ และนั่นแหละผมว่าเป็นเหตุผลที่เขาจะกลายเป็นผู้จัดการทีมในอนาคตได้ เขาสนใจใคร่รู้ในสิ่งที่บางทีเขาไม่จำเป็นต้องทำด้วยซ้ำ"
หลังจากแขวนสตั๊ดกับ แอลเอ กาแล็กซี่ ในเมเจอร์ลีกซอคเกอร์ สหรัฐอเมริกา เจอร์ราร์ด เริ่มจับงานคุมทีมเป็นโค้ชเยาวชนของ ลิเวอร์พูล ทีมอู่ข้าวอู่น้ำของเจ้าตัวเอง เขาพาทีมชุดยู-18 ชนะ 7 เกมรวดในพรีเมียร์ลีก และผ่านเข้ารอบแบ่งกลุ่มใน ยูฟ่า ยูธ ลีก ด้วยชัยชนะถึง 5 จาก 6 นัด และนักเตะที่อยู่ในทีมชุดนั้นที่ปัจจุบันก้าวสู่การเป็นแข้งชุดใหญ่ได้สำเร็จคือ เคอร์ติส โจนส์ กองกลางดาวรุ่งของทีมนั่นเอง
"เจอร์ราร์ด เป็นยังไง เคอร์ติส โจนส์ ก็เติบโตในทีมของเขามาแบบนั้นแหละ ที่ผมรู้มาคือตอนที่ โจนส์ ลงเล่นในชุดยู-18 เจอร์ราร์ด คือคนที่เข้มงวดกับเขามาก ๆ เพราะตอนที่เขายังเด็ก โจนส์ ค่อนข้างจะเป็นเด็กที่มีความเย่อหยิ่งเล็กน้อยเพราะเก่งกว่าใคร ... โชคดีมากที่ เจอร์ราร์ด จับเข่าคุยกับเขาและพาเขาออกมาจากจุดนั้น ผมอาจจะไม่เห็นทั้งหมดว่า เจอร์ราร์ด ปฏิบัติกับ โจนส์ แบบละเอียดอย่างไรบ้าง แต่ที่แน่ ๆ มันคือความหวังดีที่มาพร้อมกับความเข้มข้นและหนักหน่วงอย่างแน่นอน" มาร์ค ลอว์เรนสัน อดีตนักเตะ ลิเวอร์พูล กล่าว
1
คุณเริ่มจะเห็นภาพลาง ๆ แล้วว่า เจอร์ราร์ด ถือว่าเป็นโค้ชที่มีคุณสมบัติผู้สร้าง ตรงที่การพยายามแก้ไขทัศนคติของนักเตะในการดูแลของเขาเพื่อให้ทุกอย่างเป็นไปในแง่บวก การทำงานกับทีมเยาวชนอาจจะไม่ได้กดดันมากมายนัก แต่ก็มีความยากในแบบของมัน เพราะนักเตะที่เก่งมาก ๆ จะถูกดันไปเล่นรุ่นอายุสูงขึ้น นั่นคือหน้าที่ของโค้ชที่ต้องแก้ปัญหา ไม่ว่าจะวิธีการหาใครมาเล่นแทน, เปลี่ยนแผน หรือใด ๆ ก็ตาม
1
ก้าวต่อไปของ เจอร์ราร์ด จะกดดันยิ่งกว่านี้มาก ๆ เมื่อเขารับข้อเสนอจาก กลาสโกว์ เรนเจอร์ส ยักษ์หลับแห่งวงการฟุตบอลสกอตแลนด์ หลังจากที่โดนปรับตกชั้น จนต้องเสียเวลาไต่เต้าขึ้นมาใหม่หลายปี และปล่อยให้ กลาสโกว์ เซลติก คู่ปรับตลอดกาลสอยแชมป์ลีกเป็นว่าเล่น โดยเหตุผลที่ทางฝั่ง เรนเจอร์ส เลือก เจอร์ราร์ด นั่นก็เพราะว่าพวกเขาต้องการโค้ชรุ่นใหม่ที่มีแนวทางการทำทีมที่เน้นการดึงศักยภาพนักเตะภายในทีมเป็นหลัก เพราะ เรนเจอร์ส เองก็ไม่ได้มีเงินเยอะมากมาย
พวกเขาเสี่ยงกับ เจอร์ราร์ด และจากนั้นเทพนิยายแห่ง เรนเจอร์ส ก็เกิดขึ้น
กว่าจะเป็นแชมป์ไร้พ่าย
เจอร์ราร์ด เข้ามาทำทีม เรนเจอร์ส ครั้งแรกในฤดูกาล 2018-19 อย่างที่กล่าวไว้ในข้างต้น สโมสรไม่ต้องการกดดันให้เขาคว้าแชมป์ตั้งแต่ปีแรก แต่สิ่งที่อยากเห็นคือการให้ เจอร์ราร์ด ทำแบบที่เขาเคยทำนั่นคือการสร้างนักเตะในทีมให้มีทัศนคติของผู้ชนะและเป็นนักเตะที่ดีขึ้น ด้วยการดึงศักยภาพของทีมชุดนี้ที่ซ่อนอยู่ออกมาให้ได้
1
ทีมมีงบให้ทั้งหมด 2 ล้านปอนด์ และ เจอร์ราร์ด ต้องเล่นแร่แปรธาตุถ้าเขาอยากได้ทีมที่ต้องการ เขาเริ่มขายนักเตะที่ทำเงินได้อย่าง จอช วินดาส ให้กับ วีแกน ได้เงินมา 2.5 ล้านปอนด์ และปล่อยกองหลังค่าเหนื่อยแพงที่สุดในทีมอย่าง บรูโน่ อัลเวส ให้กับ ปาร์ม่า นั่นทำให้เขาได้นักเตะเข้ามาในทีมถึง 12 คน (ขายออกไปทั้งหมด 11 คน) ในจำนวนนี้มีนักเตะ 6 คนที่เป็นตัวหลักของทีมจนถึงวันนี้หลังผ่านมาแล้ว 3 ปี ... ไม่เลวนักสำหรับตลาดแรกกับเงื่อนไขการสร้างทีมของ เจอร์ราร์ด
1
ปีแรก เจอร์ราร์ด ได้รับการชื่นชมมาก สามารถทำทีมจบที่ 2 ได้ตามเป้า และเรื่องสร้างทีมก็อย่างที่ได้กล่าวไป นักเตะในทีมเปลี่ยนโฉมหน้าไปเยอะ และแต่ละคนอายุยังน้อย ๆ ทั้งนั้น ดูเหมือนทุกอย่างน่าจะง่ายดาย แต่ฤดูกาลต่อมา (2019-20) เจอร์ราร์ด ต้องได้เจอกับความกดดันในฐานะเฮดโค้ชจริง ๆ เสียที นั่นคือช่วงเวลาที่ทีมผลงานไม่เป็นใจ แทนที่จะขยับเข้าใกล้ เซลติก ให้มากกว่าเดิม กลายเป็นโดนทิ้งห่างถึง 13 แต้ม เสียแชมป์แบบโดนนำม้วนเดียวจบ นอกจากนี้แชมป์แรกในฐานะโค้ชก็ยังพลาดอีก ด้วยการโดน เซลติก ย้ำแค้นอีกดอกในรอบชิงชนะเลิศ สกอตติช ลีก คัพ
ณ เวลานั้นแฟนบอลของ เรนเจอร์ส ก็เริ่มสงสัยในตัว เจอร์ราร์ด ไม่น้อย เริ่มมีการพูดถึงประสบการณ์ของเขา และเป็นห่วงว่าทีมจะต้องตามหลัง เซลติก ไปอีกนาน ซึ่งตัว เจอร์ราร์ด เองก็เข้าใจในความคาดหวังนี้ดี เพียงแต่ว่าเขารู้ว่าโปรเจ็กต์ของเขายังคงอยู่ เพียงแต่เขาต้องการเสริมทัพในแบบของเขา นั่นคือการหาคนที่อยากจะชนะจริง ๆ ไม่ใช่แค่มาเล่นที่สกอตแลนด์ เพราะตกอับมาจากลีกอังกฤษอะไรทำนองนั้น
"ผมคิดแล้วคิดอีกกับสิ่งที่เกิดขึ้น ผมเจ็บปวดยิ่งกว่าใครกับผลงานในเกมนี้ ผมหวังอย่างยิ่งว่าจบเกมเราจะเป็นผู้ชนะ และผมขอบอกตรง ๆ เลยว่าผมไม่อาจประทับใจกับปฏิกิริยาของลูกทีมของผมในเกมนี้เลย" เขากล่าวหลังเกมแพ้ ฮาร์ทส์ ตกรอบ 8 ทีมสุดท้าย สกอตติช คัพ ในฤดูกาล 2019-20
"เราให้ทุกอย่างกับนักเตะของเรา ประคับประคองพวกเขาทั้งในและนอกสนาม แต่สิ่งที่เกิดขึ้นมันไม่เป็นไปในทิศทางที่เราอยากให้เป็นนัก ผมไม่สามารถปฏิเสธได้ว่านี่คือช่วงเวลาที่ยากเย็นที่สุดในชีวิตผู้จัดการทีมของผมเลย"
1
นักเตะคนใดที่ไม่ได้ใช้และไม่ตรงกับแผน เจอร์ราร์ด ปล่อยออกหมดเกลี้ยง ขณะที่ตัวหลัก ๆ ที่ยังอยู่ เจอร์ราร์ด สามารถพูดได้เต็มปากจริง ๆ ว่า "นี่คือกลุ่มนักเตะของผม" หนึ่งในนั้นคือ เจมส์ ทาวาเนียร์ แบ็กขวากัปตันทีม ผู้เป็นดาวซัลโว (ยิง 19 ลูก) ในฤดูกาล 2020-21
1
ทาวาเนียร์ คือนักเตะที่แฟนบอลให้ความเคารพมาก ในปีที่ เจอร์ราร์ด พาทีมฟอร์มตก ทาวาเนียร์ เป็นแนวหน้าและออกมากระตุ้นแฟนบอลว่า "เรากำลังไปในทิศทางที่ถูกต้อง" สิ่งที่โค้ชอย่าง เจอร์ราร์ด ต้องการคือแรงสนับสนุนจากกองเชียร์ และอีกไม่นานทุกคนจะได้เห็นในสิ่งที่ไม่เคยเห็นแน่นอน
"ผมอยากให้แฟนบอลของเราสนับสนุนเขามากกว่านี้หน่อย มันคงไม่ดีนักที่คนหนึ่งจะโดนกดจนจมดินในระหว่างการทำงานที่กำลังผลักดันทุกอย่างไปข้างหน้า"
"เจอร์ราร์ด มีมาตรฐานสูงที่สุดเท่าที่ผมเคยเล่นให้กับทีม ๆ นี้ เขาปลูกฝังเด็ก ๆ ของเรา เขามีวิธีการและแทคติกเป็นของตัวเอง ผมอยากให้ทุกคนตั้งตารอสิ่งนั้น" ทาวาเนียร์ กล่าว
ปีนั้น เจอร์ราร์ด ได้รับบทเรียนอะไรหลาย ๆ อย่าง การเติมนักเตะที่มีความกระหาย และเล่นบอลในแบบฟุตบอลสมัยใหม่ที่ต้องมีเกมรับที่แข็งแกร่งช่วยกันเล่นทั้งทีม ซึ่งต้องเป็นนักเตะที่ฟิตมาก ๆ จึงจะรับระบบนี้ได้ เจอร์ราร์ด ได้จ้างฟิตเนสโค้ชใหม่ จอร์แดน มิลซอม ที่เคยร่วมงานกันสมัยอยู่กับลิเวอร์พูลเข้ามาสู่ทีม
ขณะที่เกมรุกก็ต้องเล่นให้หลากหลาย ไม่ใช่แค่การเปิดโหม่งเล่นไดเร็กต์แบบสกอตติชแท้ ๆ อย่างเดียว เรนเจอร์ส ในแบบของ เจอร์ราร์ด จึงดึงนักเตะเกมรุกที่เข้ามาสร้างความแตกต่างเพิ่มขึ้นทั้ง ยานิส ฮาจี้, เจอร์เมน เดโฟ และ เคมาร์ รูฟ สุดท้าย เจอร์ราร์ด ปลุกทีม เรนเจอร์ส ชุดที่สุกงอมที่สุดสำเร็จจนได้ในฤดูกาล 2020-21
สถิติแชมป์ไร้พ่ายในลีก เสมอแค่ 6 ที่เหลือชนะรวด เสียประตูแค่ 13 ลูก ยิงได้ 92 ลูก เก็บแต้มไปทั้งหมด 102 แต้ม ทิ้งห่าง เซลติก ขาดลอยที่สุดแบบไม่เคยมีมาก่อนถึง 25 แต้ม ... นั่นคือสิ่งที่ เจอร์ราร์ด ทำ มันตรงกับที่ เจมส์ ทาวาเนียร์ บอกแฟน ๆ ของพวกเขาว่าสิ่งนี้จะต้องเกิดขึ้นแน่ แค่อดใจรอกันสักหน่อยเท่านั้น
1
ช่วงเวลา 3 ปีที่ เรนเจอร์ส เจอร์ราร์ด ไม่ได้เจองานง่ายอย่างที่ใครคิด แม้การแข่งขันจะไม่ได้เข้มข้นเหมือนพรีเมียร์ลีก แต่สิ่งหนึ่งที่เขาทำได้แน่ ๆ คือการกุมลูกทีมไว้ให้เป็นหนึ่งเดียวกัน มีแนวทางการเล่นฟุตบอลในแบบที่ทันสมัย เพรสซิ่งทั้งเกมรุกและรับ วิ่งเยอะที่สุด และต้องวิ่งพร้อมกันทั้งทีม เหนือสิ่งอื่นใดคือการบริหารคนแบบไม่มีการถนอมน้ำใจหรือสงสารกันจนเสียเรื่องเสียราว
1
เห็นจุดอ่อนต้องแก้ เห็นจุดแข็งยิ่งต้องทำให้เด่นยิ่งกว่าเดิม ... นี่แหละคือสไตล์ของ เจอร์ราร์ด ก่อนที่เขาจะโยกมาคุม แอสตัน วิลล่า ในเวลานี้
แอสตัน วิลล่า บันได หรือ เหว ?
เจอร์ราร์ด เข้ามารับงานกับ แอสตัน วิลล่า แทนที่ของ ดีน สมิธ หลังทำฟอร์มย่ำแย่แพ้มา 5 เกมติดต่อกัน ... สิ่งหนึ่งที่ เจอร์ราร์ด จะได้จากทีมใหม่แน่ ๆ คือนักเตะที่เก่งขึ้นแบบที่เขาต้องการ ซึ่งหลัก ๆ แล้วนี่คือการยกระดับในหน้าที่การงานแบบที่เขาปฏิเสธไม่ได้
เจอร์ราร์ด ถือว่าทำได้ดีที่สุดแล้วในตอนคุม เรนเจอร์ส โดยเจ้าตัวยืนยันว่าหากจะให้ทีมไปไกลถึงระดับเข้ารอบลึก ๆ ฟุตบอลยุโรปและได้แชมป์ทุกรายการในประเทศ ทีมจะต้องใช้เงินเสริมทัพอีกเยอะมาก ซึ่งนั่นไม่เข้ากับสถานการณ์ของโลกฟุตบอลปัจจุบัน ที่เพิ่งตั้งไข่กันอีกครั้งหลังเหตุการณ์ระบาดของโควิด-19
2
ดังนั้น แอสตัน วิลล่า ที่มีงบประมาณสร้างทีมมากกว่า มีนักเตะที่มีคุณภาพกว่า และบอร์ดบริหารก็พร้อมสนับสนุนการทำงานของเขาเต็มที่ คือเหตุผลที่ทำให้ เจอร์ราร์ด ตกลงรับข้อเสนอนี้
เราได้บอกสิ่งที่ เจอร์ราร์ด ถนัดและสไตล์การสร้างทีมของเขาไปแล้ว ทีนี้เราก็ต้องมาดูกันว่า แอสตัน วิลล่า ชุดนี้ขาดอะไรไป และ เจอร์ราร์ด จะเหมาะสมหรือไม่ ?
Sky Sports วิเคราะห์ความล้มเหลวของ ดีน สมิธ กับ วิลล่า ครั้งนี้ว่า เขาระเริงกับเงินที่ได้มาจากการขาย แจ็ค กรีลิช ในราคา 100 ล้านปอนด์มากเกินไป เขาเอาเงินไปซื้อนักเตะมาต่อยอดผลงานในปีที่แล้ว แต่เป็นการซื้อมาแล้วต้องเปลี่ยนวิธีการเล่น ซึ่งหลายอย่างไม่เวิร์ก เช่นการซื้อ แดนนี่ อิงส์ มาในราคา 30 ล้านปอนด์ ทั้ง ๆ ที่มีดาวซัลโวอย่าง โอลลี่ วัตกินส์ อยู่แล้ว จนทีมต้องปรับแผนการเล่นใหม่และออกมาไม่เวิร์กเลย แทนที่จะยิงประตูได้มากขึ้น กลายเป็นการเสียสมดุลทั้งเกมรับและเกมรุกไป
1
ขณะที่นักเตะในเกมรุกมีค่าตัวรวมกัน 60 ล้านปอนด์อย่าง ลีออน ไบลี่ย์ และ เอมิลิโน่ บูเอนเดีย ก็ไม่ต่างกัน ไม่มีใครยึดตัวจริงได้ตามที่หวัง ทีมยังต้องใช้นักเตะอย่าง อันวาร์ เอล กาซี่ ปีกคนเดิมต่อไป ยิ่งไปกว่านั้น สิ่งที่ วิลล่า ขาดหายไปคือความกระหาย เมื่อเด็กถิ่นอย่าง กรีลิช ออกจากทีมไป พวกเขาก็มีแต่นักเตะหน้าใหม่ที่ซื้อมาจากทีมอื่น ๆ ทั้งสิ้น
ตอนนี้ แอสตัน วิลล่า มีนักเตะชุดใหญ่ที่สร้างขึ้นมาเองและอยู่ในโควตาโฮมโกรนรายเดียวเท่านั้นคือ เจค็อบ แรมซี่ย์ ซึ่งจุดนี้ทางทีมวิเคราะห์ของ Sky มองว่าทำให้ความมุ่งมั่นในสนามขาดหายไป เพราะไม่มีนักเตะตัวหลักที่มี DNA ของทีมจริง ๆ
1
ทั้งหมดนี้คือสิ่งที่ เจอร์ราร์ด จะต้องเจอ ซึ่งก็ดูจะเข้ากับสิ่งที่เขาเคยทำมาก่อนสมัยอยู่กับ เรนเจอร์ส เขามีเด็กหนุ่มอย่าง ลีออน ไบลี่ย์ ที่ต้องแก้ไขทัศนคติเป็น "ทีมเพลเยอร์" ให้ได้เหมือนที่เคยเปลี่ยน เคอร์ติส โจนส์ นอกจากนี้เขาจะต้องทำให้นักเตะเกมรุกคนอื่น ๆ เช่น บูเอนเดีย หรือ แดนนี่ อิงส์ ขยันและทำมากกว่าหน้าที่ของตัวเองไปบ้าง เหมือนกับที่เคยใช้แนวทางนี้ที่ เรนเจอร์ส มาก่อน
3
สิ่งที่ยากที่สุดคือการสร้างวัฒนธรรมการ "อยากชนะ" ให้นักเตะทุกคน คิดเสมอว่าไม่มีสิ่งใดน่าพอใจไปกว่าการได้คว้า 3 แต้ม การลงสนามด้วยความมั่นใจคือกุญแจสำคัญ หากบริหารห้องแต่งตัวได้ไม่ดี ปล่อยให้นักเตะใหญ่กว่าทีม ลงสนามไปด้วยการไร้ความกระหายนั่นก็เปรียบเหมือนการแพ้ตั้งแต่มุ้งยังไม่กาง
Photo : www.avfc.co.uk
ทั้งหมดคือสิ่งที่ เจอร์ราร์ด เคยเปลี่ยนแปลงได้สำเร็จมาแล้วในงานที่สกอตแลนด์ของเขา แต่ฟุตบอลไม่สามารถมาเทียบบัญญัติไตรยางค์ได้ เราไม่สามารถเอา วิลล่า มาเทียบกับ เรนเจอร์ส ได้ เพราะรื่องความกดดันนั้นต่างกันพอสมควร
เจอร์ราร์ด จะต้องกดดันแน่กับงานระดับพรีเมียร์ลีกที่เน้นกันทุกนัด จุดนี้เขาจะต้องเค้นทุกสิ่งที่เคยผ่านมาจากประสบการณ์ออกมาใช้ รวมถึงคิดต่อยอดในการแข่งขันระดับที่ต้องใช้กึ๋นและแทคติกมากกว่าที่เคย งานชิ้นนี้จะสำเร็จได้ไม่ใช่แค่เขาทำให้นักเตะในทีมพัฒนาขึ้น แต่เขาต้องเป็น เจอร์ราร์ด ในแบบฉบับที่เก่งยิ่งกว่าตอนที่ตัวเองเป็นแชมป์ไร้พ่ายที่สกอตแลนด์อีกด้วย
1
แม้หน้าที่และเนื้องานดูจะเหมาะและลงตัว แต่สุดท้ายแล้วก็ไม่มีอะไรที่สามารถฟันธงได้ เจอร์ราร์ด เจองานที่เหมาะกับงานที่เขาอยากจะทำแล้ว แต่หลังจากนี้เราต้องมาพิสูจน์กันว่า เขาจะมีฝีมือพอจะรับผิดชอบงานที่ตัวเองคาดหวังหรือไม่ ?
1
บทความโดย ชยันธร ใจมูล
แหล่งอ้างอิง
https://www.sundaypost.com/fp/new-rangers-boss-steven-gerrard-will-get-instant-respect-says-james-tavernier/
https://www.otbsports.com/soccer/steven-gerrard-lfc-1161698
https://www.skysports.com/football/news/11677/12463017/dean-smith-sacked-aston-villa-show-ruthless-edge-as-credit-runs-out-but-what-went-wrong
https://www.birminghammail.co.uk/sport/football/football-news/aston-villa-bannan-smith-gerrard-22133062
https://www.bbc.com/sport/football/56277644
https://www.bbc.com/sport/football/59093195
https://theathletic.com/2943618/2021/11/11/why-gerrard-left-rangers-to-join-villa-and-what-next-for-scottish-champions/
https://www.goal.com/en-au/news/the-rise-of-curtis-jones-from-gerrards-gem-to-klopps-king/1njg24m7fpaz41xb3fuvfwdtnr
https://www.liverpoolecho.co.uk/sport/football/football-news/how-liverpool-legend-steven-gerrard-13943515
https://www.espn.com/soccer/club/liverpool/364/blog/post/3483299/steven-gerrard-made-big-impact-at-liverpool-in-short-time-as-u18-boss
9 บันทึก
23
1
2
9
23
1
2
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย