มหากรุณาธารณีสูตร ๘๔ ประโยค (๕)
ประโยค ๒๙ หม่อฮอฮัวแซเหย่ตี
นี่คือพระโพธิสัตว์ปรากฏกายเป็นแม่ทัพมหาพละ
ถือคทามาคุ้มครองสรรพสัตว์ ซึ่งปฏิบัติธรรมอยู่
บรรยายภาพ “หม่อฮอฮัวแซเหย่ตี” หมายถึงธรรมอันไพศาล สามารถปลดความเกิดดับกิเลสได้ ไม่ต้องภัยพิบัติต่าง ๆ ทุกคนสำเร็จเป็นพุทธได้ แต่สำคัญที่จะต้องกำจัดความหลงผิดกำจัดความเห็นแก่ตัวเอง ปล่อยวางปัจจัยทางโลก เมื่อจิตบริสุทธิ์ เหล่ามารไม่กล้ามารบกวน และต้องให้ความโกรธ ความโลภ ความหลงราคะซึ่งเป็นความคิดชั่วร้ายต้องให้ระงับไปทันที อย่าเกิดอารมณ์เพราะวิสัยภายนอก มรรคผลจะสำเร็จแก่ตน พุทธอยู่ที่จิตเราต้องการ
ประโยค ๓๐ ทอลาทอลา
นี่คือพระโพธิสัตว์ปรากฏเป็นมหาบุรุษ ทำทุกข์กิริยา
บรรยายภาพ “ทอลาทอลา” เป็นธารณี ถ้าทำจิตเสมือนอากาศโปร่งใสไม่มีละอองแม้แต่น้อย ก็จะไปเกิดในสวรรค์ชั้นพรหมได้
ประโยคนี้ เป็นสาระสำคัญของธรรม ฝุ่นละอองสามารถปกปิดความสว่างของภาวะตน ถ้าในใจมีเศษกากแม้แต่ขณะจิตก็ไม่มีทางจะเห็นธรรม มารจะติดตามมาทันทีความนึกคิดที่ไม่ชอบความหลงผิดก็จะเข้ามา ไม่เพียงแต่รบกวนสภาวะดั้งเดิมของเราแม้กายใจก็ไม่สามารถควบคุมได้ การปฏิบัติธรรม ความสำคัญจึง ได้แก่การกำจัดความคิดคำนึง
ประโยค ๓๑ ตีลีนี
นี่คือพระโพธิสัตว์ปรากฏกายเป็นสิงหราช ทดสอบการศึกษาธรรมของเหล่ามนุษย์
บรรยายภาพ “ตี” คือโลก “ลี” คือสัตว์ทั้งหลายล้วนสามารถรับการโปรดได้ “นี” หมายความว่าพรหมจาริณีที่ปฏิบัติธรรมอยู่ พระโพธิสัตว์กล่าวประโยคนี้ เพื่อโปรดหญิงสาวให้ปฏิบัติธรรมโดยเร็ว ถ้าได้มีจิตปฏิบัติแล้ว พระพุทธเจ้าทวยเทพนาคราชจะคุ้มครอง แปลงกายเป็น 40 กรปราบพวกมารร้าย ให้หญิงสาวได้ข้ามไปฝั่งโน้น เพศหญิงควรรีบปฏิบัติ เพื่อมิให้เสียความตั้งใจของพระโพธิสัตว์
ประโยค ๓๒ สึดฮูลาเย
นี่คือพระโพธิสัตว์ปรากฏเป็นพระรามโพธิสัตว์ มือถือคทาทองคำ ปราบปรามมารและบริวารของมาร
บรรยายภาพ “สึดฮูลาเย” หมายความว่าเมื่อปฏิบัติธรรมเข้าถึงความสมบูรณ์แห่งสภาวะเดิมแล้ว จะมีความสว่างปรากฏในกายของตน
ประโยคนี้ เป็นคาถาที่พระโพธิสัตว์ที่ประกาศความยอดเยี่ยมของพระธรรม หวังให้ทุกคนได้เข้าถึงมรรคผล ถ้าผู้ใดสามารถปล่อยวางทางโลก ไม่ก่อเรื่องยุ่งยากขึ้น จิตใจจะสะอาด สำเร็จเป็นพีชะแห่งพุทธิอันเปล่งปลั่งไปด้วยแสงรัศมี และสามารถปรากฏกายไปแสดงธรรมได้ทุกแห่งหน ทำการโปรดสัตว์
ประโยค ๓๓ เจลาเจลา
นี่คือพระโพธิสัตว์ปรากฏกายเป็นหักหาญโพธิสัตว์ มือถือสุวรรณจักร โปรดเหล่ามารให้มายอมน้อมนอบต่อพระศาสนา
บรรยายภาพ “เจลาเจลา” หมายถึงความโกรธดุ ประกาศเหมือนเสียงคำรามฟ้าร้อง ดังไปทั่วทุกทิศ
ประโยคนี้ เป็นคาถาของพระโพธิสัตว์เห็นสรรพสัตว์ ถูกจูงไปตามเหล่ามาร ไม่สามารถหลุดพ้นได้ จึงแสดงความโกรธดุเพื่อโปรดให้หลุดพ้น เป็นการห้ามปรามผู้ปฏิบัติต้องปฏิบัติด้วยความสัจจริง มารคือความโลภของตนเอง ฉะนั้นจึงต้องฟังพระสัจธรรมเพื่อทำลายความหลงผิด ธรรมเหมือนกับฟ้าร้อง ดังไปทั่วฟ้า เป็นเสียงแห่งพรหม สะเทือนไปทั่วทศทิศ เหล่ามารได้ยินก็เกิดความสดุ้งกลัว
ประโยค ๓๔ มอมอฮัวมอลา
นี่คือพระโพธิสัตว์ ปรากฏเป็นรูปอภิจารกมารวชิร มือถือสุวรรณจักรคุ้มครองสัตว์โลก ให้มีความเป็นศิริมงคล
บรรยายภาพ “มอมอ” หมายถึงการทำดี ก็จะสามารถทำลายความกังวลภยันตรายได้ “ฮัวมอลา” หมายถึงธรรมเป็นสิ่งลึกซึ้งเข้าใจยาก มีความศักดิ์สิทธิ์ไม่สามารถคาดคิดได้ เป็นประโยชน์ที่ไม่มีสิ่งใดเท่าเทียม
ประโยคนี้ เป็นคาถาของพระโพธิสัตว์ที่ตั้งใจโปรดสัตว์ ปรากฏเป็นเมตตาจิต คุ้มกันผู้ปฏิบัติให้ได้รับมหามงคล ได้ไปเกิดในพุทธภูมิทุกๆ ชาติ ไม่ตกอยู่วัฏสงสารซึ่งต้องรับทุกข์ทรมาน
ประโยค ๓๕ หมกตีลี
นี่คือรูปพระพุทธเจ้าและพระโพธิสัตว์ พนมมือ ทำใจสดใสฟังและสวดคาถา ผู้ปฏิบัติถ้าปฏิบัติแบบนี้ จะบรรลุพระพุทธผล
บรรยายภาพ “หมกตีลี” หมายความว่าหลุดพ้น หมายถึงหลับตา ทำใจให้ผ่องใสสวดธารณีเงียบๆ เป็นประโยคหนึ่งที่พระโพธิสัตว์สอนให้คนเราปฏิบัติธรรมต้องเริ่มด้วยละปล่อยทางโลก มีจิตเป็นหนึ่ง มีความสำรวมตลอดเช้าเย็นปลดความโลภความเห็นแก่ตัวออก เจริญเมตตากรุณาจิต มีอุบายอนุโลม กำจัดกิเลส เข้าถึงโมกขธรรม ผู้ถือบัตรเจริญคาถานี้ พระพุทธเจ้าทิศตะวันตก จะยกย่องอนุโมทนา นี่พอจะเห็นได้ว่าเป็นคาถาที่หาค่ามิได้แล้ว
ที่มา หนังสือมหากรุณาธารณี
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
