22 พ.ย. 2021 เวลา 05:14 • ปรัชญา
เรื่องตายแล้วไม่เกิด เรื่องตายแล้วเกิดเวียนว่าย เป็นวัฎฎะ ไปเกิดในสถานที่ต่างๆ ที่เรียกว่าภพภูมิ นรก สัตว์ เปรต อสุรกาย มนุษย์ เทพอินทร์ พรหรม นั้นท่านไม่ได้กล่าวมาลอยๆ เมื่อไหร่ มันเรื่องของคำว่า สิ่งต่างๆไหลมาแต่เหตุ ในคำว่าเหตุนั้น เราก็ไม่รู้ว่ามันหมายถึงอะไรบ้าง คำว่าสิ่งต่างๆไหล มาแต่เหตุท่านก็ตรัสให้ดับเหตุ นั้นเสีย แล้วเราเองเข้าใจว่าอย่างไร
คราวนี้ เราก็มาดูเรื่องราวชาดกของท่าน ท่านบอกเรื่องราวชาดกนั้น ท่านทำอะไรมาบาง ในคำว่าทานบุญกุศลบารมี ท่านก็สร้างทานด้วยการสละปัจจัยที่หามาได้ สละออกไป เรื่อยๆ แบ่งปัน ยิ่งทำจิตทานก็กว้างขวางขึ้น คือไม่เป็นยึดนั้นเอง ในชาติพระเวสสันดร ท่านก็พยายามสละออกไป แต่อารมณ์ที่ยังยึดกัญหาชาลีอยู่ ก็ทำให้ท่านต้องกลับมาอยู่เวียงหวัง ต้องกลับมาเกิดมนุษย์ในชาติสุดท้าย ที่ท่านเห็นการอยู่ในเวียงวังเป็นเรื่องน่าเบื่อหน่าย มีคนรับใช้มากมาย ท่านเห็นเรื่องนี้ เป็นเรื่องราวของกรรม ถ้ายังใช้มันอยู่ มันก็ต้องกลับมาเกิดใช้มันอีก ท่านจึง ทิ้งทั้งหมด ออกจากเวียงวัง ไปนั่งนิ่งๆ อยู่กลางป่า ไปดูฤาษี เค้าทำกายนิ่ง ท่านก็ไปศึกษาแล้วเอามาทำบ้าง แต่ท่านทำกายนิ่ง ไม่ใช่เพื่อเอาฤทธิ์แบบฤาษี ท่านทำกายนิ่ง ให้จิตนิ่งตามกาย มันมีสิ่งอะไรเกิดขึ้นมาบ้าง ในคำว่ากายนิ่งจิตนิ่ง มันก็เรื่องราวต่างๆ ที่ไหลออกมาภายในกาย อารมณ์ต่างๆ
มีอารมณ์ต่างไหลมาจากตรงไหนบ้าง ท่านก็รักษากายนิ่งจิตนิ่ง ต้องขันติขนาดไหน ในการนั่งปฏิบัติธรรมรักษากายนิ่ง จิตนิ่ง ท่านทำในกิริยาของผู้ที่มีความนอบน้อม มี่ผู้บอกว่าที่จริงนั้น ท่านนั่งพับเพียบนะ ท่านก็ทำจนจิตท่านนิ่งกายก็นิ่ง ท่านนั่งพิจารณา ในสิ่งต่างๆ มีอะไรเกิดขึ้นจากการทำกายนิ่งจิตนิ่งได้ เมื่อจิตนิ่งได้กายนิ่ง ทำได้มากเข้า จนไปถึง ธาตุทั้งสี่ วิญญาณหกก็นิ่ง ก็เกิดคำว่าแสงรัตนะ ขึ้น
ท่านก็อาศัยแสงรัตนะ ดูเรื่องราวต่างๆ ท่านก็ได้ศึกษาว่า สิ่งต่างๆ ที่ไหลมาแต่เหตุนั้นมาจากตรงไหน มาจากแม่ทั้งสี่ ที่จิตอาศัยนั้นมีสีต่างๆ สีดำสีม่วง สีต่างเหล่านี้ กระจายออกมาเป็นอะไรบ้าง ท่านก็ศึกษาของท่าน แล้วชำระสะสางธาตทั้งสี่ให้หมดจด จนเป็นแก้ว เรื่องราวของคำญาณอะไรต่างๆ ก็ขึ้นกับจิตของท่าน จิตของท่านไม่อะไรเกิดขึ้นมาเข้ามาภายในจิต อารมณ์ต่างก็หมดไป ไม่มีอีกแล้ว เมื่อไม่มันก็ไม่ต้องเกิด หลุดพ้นการเวียนว่ายตายเกิด
คราวนี้ เมื่อเราสงสัย เรื่องการเกิด ไม่เกิด เราอยากศึกษา เราก็ลงทุนตัวเองเสียหน่อย ลงทุนสละเวลา ไปนั่งหน้าพระ นั่งพับเพียบ นึกถึงว่าเอากายพ่อแม่มาสร้างบุญกุศล กราบพระแล้ว ก็อธิฐานของเดินตามรอยองค์พระสัมมาพุทธเจ้า นั่งภาวนาพุทโธ คำเดียว ไม่ต้องเอาอย่างอื่นเข้ามา อามรณ์นึกคิดอะไรเข้ามา ปัดทิ้งให้หมด มีหน้าที่ทำกายให้นิ่ง จิตให้นิ่งๆๆ ทำได้มั่ย มันไม่น่ายากเย็นอะไรนะ มานั่งนิ่งๆไม่เคลื่อนที่ไปไหน ไม่มีอะไรให้เหนื่อยนิ ไปทำดู ลองทำ แล้วใช้ปัญญาที่เรามีคร่ำครวญพิจารณาเหตุผลดู ว่ามีอะไรเกิดบ้าง มีสติมั้ย มีหงุดหงิดมั้ย รักษาสติได้มั้ย หรือฟุ้งช่านอะไรมากมาย นั่นแหละ สิ่งที่เกิดขึ้น คือกรรมที่เรายังมียังยึดที่จะต้องเวียนว่ายตายเกิดแหละ
โฆษณา