26 พ.ย. 2021 เวลา 08:09 • ข่าวรอบโลก
*** สนิมเหล็ก เกิดแต่เนื้อในตน Woke Edition ***
ปัจจุบัน กระแส Woke ซึ่งเริ่มต้นจากประเทศอเมริกา กำลังขยายไปหลายๆ ที่ทั่วโลก ทำให้เกิดการเรียกร้องความเป็นธรรมในหลายหัวข้อ เช่นการปฏิบัติทางเพศ, การใช้กำลังเกินกว่าเหตุของเจ้าหน้าที่รัฐ, ความมั่นคงทางเศรษฐกิจ ฯลฯ
เจตนาของ Woke ที่มองว่าตนเอง “ตื่น” และจะไม่ปล่อยให้สังคมถูกกดทับอีกต่อไปดูเป็นเรื่องดี แต่ขณะเดียวกัน การกระทำหลายอย่างกลับทำให้ผู้คนหมั่นไส้มากขึ้น แม้แต่ฝ่ายเสรีนิยมด้วยกัน (Woke ถือเป็นกระแสการเมืองเสรีนิยมสายหนึ่ง)
ต่อไปนี้คือสิ่งที่กลุ่ม Woke ได้ทำลงไป และกลายเป็นจุดอ่อนที่ทำให้โดนกระแสสวนกลับมาบ่อยครั้ง จนการเรียกร้องบางอย่างมีกำลังอ่อนลงอย่างน่าใจหาย เปรียบเหมือนกับสนิมเหล็กเกิดแต่เนื้อในตน...
*** กลายเป็นคนที่ตัวเองเกลียด ***
แม้กลุ่ม Woke จะมีเป้าหมายในการต่อสู้เพื่อความเป็นธรรมในสังคม ขจัดความไม่เท่าเทียม แต่บางทีก็ยังเผลอติดหล่มความสุดโต่งบ่อยๆ ยกตัวอย่างเช่นกลุ่ม Social Justice Warrior หรือ SJW
แรกสุด SJW ถือเป็นคำชมของผู้ที่ลุกขึ้นมาเปลี่ยนแปลงสังคม แต่ความหมายเริ่มเปลี่ยนไปในทางลบช่วง 2010s กลายเป็นคำที่เอาไว้ประชด เนื่องจากกลุ่ม SJW มักใช้ cancel culture หรือ call-out culture ที่แปลแบบไทยๆ ได้ว่า “การล่าแม่มด” ในการโจมตีบุคคลที่ตนเองไม่เห็นด้วยอย่างรุนแรง
ภาพแนบ: เจ. เค. โรว์ลิง ผู้เขียนแฮร์รี่ พอตเตอร์ เคยวิจารณ์ LGBTQ ทำให้โดนแอนตี้หนัก และถูกเปิดเผยที่อยู่ส่วนตัวเพื่อก่อกวน
บางครั้งกลุ่ม SJW ก็ถึงขั้นแฉข้อมูลส่วนตัว เช่นที่อยู่ ที่ทำงาน เบอร์โทรศัพท์ ของคนที่ตนไม่ชอบ เพื่อให้มีคนไปก่อกวน ทำให้ผู้อื่นได้รับความเสื่อมเสีย จนหลายคนต้องหมดอนาคตในอาชีพการงาน หรือเสียโอกาสทางสังคม ทั้งที่ยังไม่มีการหาข้อมูลหลักฐานอย่างจริงจัง
...จึงเกิดคำถามว่านี่เป็นการเรียกร้องความยุติธรรม โดยการลัดกระบวนการยุติธรรมหรือเปล่า?
ภาพแนบ: อนุสาวรีย์ จอร์จ วอชิงตัน โดนปาสีใส่
*** เปลี่ยนอดีต-สร้างอนาคต? ***
หนึ่งในประเด็นที่ Woke โดนมองในแง่ลบคือ “การพยายามลบประวัติศาสตร์”
ในที่นี้ขอกล่าวถึงกลุ่มบุคคลที่ก่อตั้งอเมริกาที่เรียกว่า Founding Fathers ซึ่งปกติถูกนับถือเป็นวีรบุรุษของชาติ
แต่ไม่กี่ปีมานี้กลับมีกระแสต่อต้านพวกเขา เพราะกลุ่มผู้ก่อตั้งประเทศมักมีทาสในครอบครอง ถึงไม่ได้เป็นสิ่งผิดในสมัยนั้น แต่ประชากรบางส่วนของอเมริกา โดยเฉพาะคนผิวดำ มองย้อนไปด้วยสายตาของคนปัจจุบันแล้วรับไม่ได้
คนเหล่านั้นบอกว่า กลุ่มผู้ก่อตั้งฯ เหยียดชนชาติ ทำให้อัตลักษณ์ของคนผิวดำจางหาย จึงมีการพยายามทำลาย, กดดันให้รัฐรื้อถอนรูปปั้น และการเปลี่ยนชื่อสถานที่ทางประวัติศาสตร์ต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง
ภาพแนบ: รูปโลหะเจฟเฟอร์สัน
กรณีล่าสุดเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 23 พ.ย. 2021 คือการถอดถอนรูปหล่อโลหะของโธมัส เจฟเฟอร์สัน ในอาคารว่าการรัฐนิวยอร์ก ซึ่งทำขึ้นมาตั้งแต่ปี 1833 อนึ่งเจฟเฟอร์สันเป็นผู้ร่างคำประกาศอิสรภาพอเมริกา และประธานาธิบดีคนที่ 3 ของประเทศ แต่ถูกลบหลู่ด้วยเหตุผลว่าเขามีทาสไว้ในครอบครอง
เป็นเรื่องน่าคิดว่าการทำลายหลักฐานในอดีตที่เราไม่ชอบเป็นสิ่งที่ควรทำได้ไหม? ในเมื่อค่ายกักกันเอาชวิตซ์ที่ฝั่งยุโรป ก็ยังถูกเก็บไว้บอกเล่าประวัติศาสตร์อันดำมืดได้?
ภาพแนบ: ส่วนหนึ่งในห้องเรียนของไกป์
*** ข้อถกเถียงเรื่องการศึกษา ***
เรื่องการเรียนก็เป็นอีกหัวข้อที่กลุ่ม Woke เข้าไปมีอิทธิพลกันมาก และมีการพยายามเปลี่ยนแปลงอะไรหลายๆ อย่าง ยกตัวอย่างเช่น...
เกเบรียล ไกป์ อาจารย์โรงเรียนมัธยมปลายใน แคลิฟอร์เนีย เขาได้ใช้สิทธิความเป็นครูแขวนรูปของเหมาเจ๋อตง และธงแอนติฟา (กลุ่มสังคมนิยมต่อต้านฟาสซิสต์ ที่หลังๆ ถูกจัดไว้เป็นพวกซ้ายสุดโต่ง) ไว้ในห้องเรียน
เมื่อนักเรียนบอกว่าเห็นแล้วไม่สบายใจ ไกป์ก็ตอบไปว่า ธงนี้มีไว้เพื่อทำให้พวกฟาสซิสต์ไม่สบายใจ ถ้านักเรียนรู้สึกอย่างนั้น ก็ไม่รู้จะพูดยังไง
ภาพแนบ: เกเบรียล ไกป์
นอกจากนี้ เขายังสนับสนุนให้นักเรียนไปร่วมชุมนุมประท้วงต่อต้านฝั่งขวา โดยจะโพสต์รูปปฏิทินรายอาทิตย์ว่ามีงานไหนเมื่อไหร่บ้าง โดยหากนักเรียนไปตาม, ถ่ายรูป, เขียนบรรยายความรู้สึก เขาจะเพิ่มคะแนนพิเศษให้
ผู้ปกครองรู้สึกไม่สบายใจกับการกระทำนี้ เลยเรียกร้องให้มีการสอบสวน ปรากฏว่านอกจากการตกแต่งห้องด้วยสัญลักษณ์แอนติฟาและรูปเหมาแล้ว เขายังสอนเรื่องสังคมนิยมสุดโต่ง และมีการตรวจการบ้านโดยใช้แสตมป์เป็นรูปผู้นำคอมมิวนิสต์ เช่น โจเซฟ สตาลิน, ฟิเดล คาสโตร, รวมไปถึง คิม จอง อึน แห่งเกาหลีเหนือด้วย…
ภาพแนบ: UCLA
เรื่องต่อมา หลังเกิดเหตุการณ์ฆาตกรรมจอร์จ ฟลอยด์ ช่วงพ.ค. 2020 ขึ้นเพียงสัปดาห์นิดๆ กอร์ดอน ไคลน์ ศาสตราจารย์ประจำคณะบัญชีของมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย (UCLA) ได้รับเมลจากนักศึกษาผิวดำคนหนึ่ง ใจความว่า... ขอให้อาจารย์มอบเกรดดีๆ ให้นักศึกษาผิวดำ เพื่อโต้ตอบความไม่ยุติธรรมในสังคม
ศ.ไคลน์เป็นงง ความยุติธรรมแบบไหนกัน? ถ้าจะให้คะแนนกับนักศึกษาผิวดำดีๆ แล้วนักศึกษาเชื้อชาติอื่นๆ ล่ะ?
ภาพแนบ: กอร์ดอน ไคลน์
ปรากฏว่าพอแสดงความเห็นไปแบบนี้ ศ.ไคลน์กลับโดนนักศึกษาประท้วงและตราหน้าว่าเป็นพวกเหยียดเชื้อชาติทันที ทั้งถูกคณะสอบสวนและสั่งพักงานในที่สุด พร้อมมีการสำทับว่าอาจถูกไล่ออกด้วย
เรื่องนี้ทำให้ศ.ไคลน์เสียชื่อเสียงและรายได้อย่างมาก (เขาเป็นที่ปรึกษาบัญชีให้กับอีกหลายบริษัทด้วย ซึ่งบริษัทเหล่านี้เลิกจ้างเขาเมื่อเกิดเรื่อง) แถมยังโดนส่งเมลข่มขู่มากมาย โดยหนึ่งในเมลเหล่านั้น ได้พูดจากระทบเชื้อชาติยิวของเขาด้วยว่า “แย่ที่เยอรมันไม่จับพวกแกเข้าห้องรมแก๊ส”
ภาพแนบ: โปสเตอร์ละครเวทีเรื่อง Show Boat
*** ความหลากหลาย (?) ในสื่อบันเทิง ***
วงการบันเทิงในอเมริกา เริ่มตั้งไข่จากการแสดงสดช่วงหลังสงครามกลางเมือง (1861-1865) แต่สมัยก่อนมักมีเพียงคนผิวขาวแสดง คนดำต้องแยกไป (อนึ่งหากเกิดมีบทคนดำ ก็ใช้คนทาตัวดำเล่นแทนเอา)
กว่าคนต่างสีผิวจะมาแสดงร่วมเวทีกันได้ ก็คือปี 1927 ในละครเพลงเรื่อง Show Boat ซึ่งผู้สร้างตั้งใจสื่อเรื่องราวทางสังคมโดยเฉพาะ ถือเป็นการเปิดศักราชใหม่ของวงการบันเทิงในอเมริกา
กระนั้นบทของคนผิวดำรวมทั้งชนกลุ่มอื่นๆ ก็ยังจำกัดจำเขี่ยมาตลอดหลายสิบปีในสื่อต่างๆ หากเทียบกับคนขาว
ดังนี้เองในช่วงหลังๆ ถึงมีการเรียกร้องให้ “เพิ่มความหลากหลาย” ให้มากขึ้น ซึ่งวงการบันเทิงก็ให้การตอบรับ เพียงแต่การเปลี่ยนแปลงนั้น ก็สร้างข้อสงสัยตามมาว่าทำแบบนี้ดีจริงๆ หรือ?
ภาพแนบ: ฮัลลี ไบลีย์
เริ่มต้นจากบริษัทยักษ์ใหญ่อย่างดิสนีย์ ที่เตรียมจะสร้างหนังนางเงือกน้อย The Little Mermaid ฉบับคนแสดงขึ้นมา
ในปี 2019 ทางบริษัทได้ประกาศนักแสดงนำที่จะมารับบทของแอเรียลคือ ฮัลลี ไบลีย์ นักร้องวัยรุ่นผิวสีชื่อดังจากวง Chloe x Halle (คนละคนกับ ฮัลลี เบอร์รี ที่แสดงเป็นสตรอมใน X-Men นะครับ)
เรื่องนี้ทำให้เกิดเสียงวิพากย์วิจารณ์อย่างหลากหลาย มีทั้งคนที่ออกมาชม “ความกล้า” ของดิสนีย์ เช่นศิลปินดัง มาราย์ แคร์รี และนางแบบสาว คริสซี ทีเกน
ส่วนคนที่ไม่พอใจในตัวเลือกนี้ก็มีไม่น้อย จนเกิดเป็นแฮชแท็ก NotMyAriel และ NotMyMermaid ติดเทรนด์ทวิตเตอร์ เพราะตามเรื่องแล้ว แอเรียลผิวขาว ตาฟ้า ผมแดง แถมยังมีมีต้นแบบมาจากเทพนิยายเดนมาร์ก
ผู้ใช้ทวิตเตอร์รายหนึ่งให้ความเห็นว่า: “ทุกคนบอกว่า ‘เธอต้องเป็นพวกเหยียดผิวแน่ๆ เลยต่อต้านคนผิวดำมารับบทแอเรียล’ เอ่อออ ไม่ใช่! จะมาโทษที่คนอยากเห็นตัวละครหลักเหมือนต้นฉบับไม่ได้! ฉันก็คงหัวร้อนเหมือนกันแหละถ้าเขาทำโพคาฮอนทัสหรือเทียนา (เจ้าหญิงกบ) ตัวขาวออกมา”
*** พื้นที่โฆษณา ***
เปิดให้จองแล้ววันนี้ Box Set ซีรีส์ “The Wild Chronicles” ครบชุด 7 เล่ม!
หลังจากหนังสือชุด The Wilds Chronicles ที่พิมพ์ครั้งก่อนทุกเล่มขายหมดจากตลาดไปนานแล้ว ผมจึงมีแผนจะพิมพ์ใหม่ทั้งหมด โดยปรับปรุงเนื้อหาเพิ่มเติมให้ดียิ่งขึ้น เป็นปัจจุบันมากขึ้น
และนอกจากนั้นแล้ว เพื่อเป็นการขอบคุณท่านผู้อ่านที่ติดตามกันมานาน ผมได้จัดทำ Box Set ขึ้นเป็นพิเศษ เพื่อรวมหนังสือทั้งเก่าใหม่ไว้ด้วยกัน
หนังสือในเซ็ต มีดังต่อไปนี้นะครับ:
1. พยัคฆ์ทมิฬสิ้นชาติ: เรื่องกบฏพยัคฆ์ทมิฬในศรีลังกาเหนือ ต้นกำเนิดของการก่อการร้ายยุคใหม่
2. เชือดเช็ดเชเชน: เรื่องกบฏชาวเชเชนในรัสเซียใต้ ที่ต้องเผชิญการปราบปรามอย่างโหดสัสรัสเซีย
3. อสุราอาหม: เรื่องประวัติศาสตร์ชาวไทอาหมในอินเดียเหนือ บรรพบุรุษสุดโหดของชาวไทยในปัจจุบัน
4. โลหิตอิสราเอล: เรื่องประวัติศาสตร์การดิ้นรนของชาวยิว และดินแดนอิสราเอล แผ่นดินศักดิ์สิทธิ์ที่นองเลือดมานานกว่าพันปี
5. ประวัติย่อก่อการร้าย: ที่มาที่ไปของการก่อการร้ายตั้งแต่อดีตกาล และสงครามก่อการร้ายที่ยังส่งผลมาจนถึงปัจจุบัน
6. สุริยันพันธุ์เคิร์ด: เรื่องของชนกลุ่มน้อยเคิร์ดอิรักที่ลุกขึ้นสู้กับมหาอำนาจตะวันออกกลางเพื่อความฝันในการตั้งประเทศของตัวเอง
7. ดาวแดงแห่งเคิร์ด: เรื่องของชนกลุ่มน้อยเคิร์ดซีเรียที่ขับเคลื่อนด้วยพลังของสตรี
ทั้งหมดนี้รวมค่าส่งในราคา 3,150 บาทเท่านั้น! (เฉพาะในประเทศนะครับ ส่วนต่างประเทศคิดราคาตามจริง)
ท่านไหนที่สนใจ สามารถชำระและใส่ที่อยู่ที่ link แนบได้เลย (ระบบนี้จะมีเมลคอนเฟิร์มไปด้วยแต่ช้าหน่อยนะครับ)
อนึ่งท่านที่ซื้อหนังสือหรือสั่งจองบางเล่มแยกไปแล้วอยากเปลี่ยนเป็นเซ็ตนี้ สามารถติดต่อทาง Line OA https://lin.ee/fNEO1jr หรือ Inbox ของเพจเพื่ออัพเกรดได้นะครับ โดยจะคิดราคาตามจริงลดหลั่นไปตามเล่ม ส่วนราคากล่องอย่างเดียว 375 บาท (จะส่งไปแบบพับ ลดปัญหากล่องมุมยับ)
ภาพแนบ: โจดี เทอร์เนอร์-สมิธ ในบท แอนน์ โบลีน
นอกจากนี้ทางยุโรปก็มีกรณีคล้ายๆ กันคือ ช่วงกลางปี 2021 มีการสร้างละครอิงประวัติศาสตร์ชื่อ Anne Boleyn ขึ้นทางช่อง Channel 5 ของอังกฤษ โดยเลือกผู้รับบทแอนน์ โบลีน เป็นดาราผิวดำมากความสามารถชื่อ โจดี เทอร์เนอร์-สมิธ (Without Remorse) มาเล่น
แม้จะไม่มีใครสงสัยในฝีมือ แต่คนจำนวนหนึ่งก็อดขมวดคิ้วไม่ได้ ที่การทำละคร “อิงประวัติศาสตร์” ไม่ต้องเหมือนประวัติศาสตร์ก็ได้หรอ? ทำไมคนผิวดำเล่นเป็นคนผิวขาวในประวัติศาสตร์ได้ แต่ทำไมคนผิวขาวเล่นเป็นคนผิวสีอื่นๆ ไม่ได้? ทั้งๆ ที่ก็ไม่จำเป็นต้องทาตัวเป็นเชิงล้อเลียนด้วยซ้ำ?
ภาพแนบ: สการ์เล็ต โยฮันสัน ใน Ghost in the Shell
ทางผู้จัดทำละครออกมาให้สัมภาษณ์ว่า พวกเขาใช้หลัก identity-conscious casting แบบเดียวกับที่ละครเวทีมักใช้ ที่ไม่ว่าใคร จะชาติไหน คนดำ ลาติน เอเชีย ฯลฯ ขอแค่ความสามารถเหมาะกับบทก็เล่นได้
จริงๆ การวัดคนด้วยความสามารถก็ก็ฟังดูมีเหตุผล แต่ก็มีคนตั้งข้อสังเกตว่า ถ้าใช้หลักการเดียวกันนี้ ก็ไม่ควรจะมีดราม่าเวลาคนผิวขาวรับบทคนชาติอื่น (เช่น สการ์เล็ต โยฮันสัน รับบทผู้พันคุซานางิ โมโตโกะ ใน Ghost in the Shell ปี 2017) เช่นกันหรือไม่?
*** เปิดกว้าง (?) วงการกีฬา ***
เรื่องนี้เกี่ยวกับการเรียกร้องความเท่าเทียมทางเพศ และเป็นที่โต้เถียงกันในวงการกีฬามายาวนาน เพราะมันถูกมองได้จากหลายๆ มุม
กลุ่มบุคคลแปลงเพศก็อยากได้สิทธิ “เท่าเทียม” เช่นหญิงแท้ แต่คนเป็นหญิงแท้ก็รู้สึกว่านี่คือความ “ไม่เท่าเทียม” ทางกายภาพ โดยเฉพาะกีฬาที่ต้องใช้กำลัง เช่น ยกน้ำหนัก หรือกีฬาการต่อสู้
กรณียกน้ำหนัก ย้อนกลับไปช่วงโตเกียวโอลิมปิก 2020 คณะกรรมการโอลิมปิกสากล (IOC) และองค์กรกีฬาต่าง ๆ อนุมัติให้ “ลอเรล ฮับบาร์ด” นักกีฬายกน้ำหนักชาวนิวซีแลนด์ที่แปลงเพศจากชายมาเป็นหญิง สามารถเข้าแข่งกับนักกีฬาหญิงแท้ได้ หลังผ่านตรวจปริมาณฮอร์โมนเพศชายว่าไม่มากไปกว่าเกณฑ์ที่กำหนดไว้ ...ซึ่งเมื่อประกาศเช่นนั้นก็ทำให้เกิดดราม่าขึ้นทันที
นักกีฬายกน้ำหนักหญิงคนอื่น เช่นตัวแทนเบลเยียมได้ให้สัมภาษณ์ว่า แม้เธอจะสนับสนุนเพศทางเลือก แต่มันต้องไม่กระทบใคร การตัดสินใจนี้ดูไม่ยุติธรรมต่อทั้งวงการกีฬาและนักกีฬาหญิงคนอื่นๆ เพราะผู้หญิงข้ามเพศนั้นยังมีสรีระบางส่วนแบบผู้ชาย โดยเฉพาะมีมวลกระดูกที่หนาแน่นกว่า ทำให้ยกน้ำหนักได้เยอะกว่า
ภาพแนบ: แมทช์การต่อสู้ระหว่างแมคโลลินกับโพรโวต์ จากเพจ Combate Global
ส่วนกรณีกีฬาต่อสู้ เป็นเรื่องในวงการ MMA หรือศิลปะการต่อสู้ผสม เมื่อ อลานา แมคโลลิน ผู้หญิงข้ามเพศที่เคยเป็นทหารในหน่วยรบพิเศษของกองทัพสหรัฐมาก่อนได้ขึ้นชกกับ ซีลีน โพรโวต์ นักชกสาวจากฝรั่งเศสซึ่งมีประสบการณ์มายาวนานนับสิบปี
ปรากฏว่าแมคโลลินล็อกคอฝ่ายตรงข้ามนอนพื้น จบการต่อสู้ภายใน 3 นาที 32 วินาที
เรื่องนี้ความเห็นแตกเป็น 2 ฝ่ายหลักๆ คือ กลุ่มผู้มีความหลากหลายทางเพศ (LGBTQ) กับกลุ่มเฟมินิสต์
กลุ่ม LGBTQ บอกว่า เราควรทำให้คนข้ามเพศไปแข่งกีฬากับเพศเดียวกันที่พวกเขาเป็นในปัจจุบันได้เหมือนคนทั่วๆ ไป ไม่ควรจะต้องนำมาเป็นประเด็นหรือมาเหยียดว่าไม่ใช่ผู้หญิงแท้
แต่กลุ่มเฟมินิสต์มองว่า ต่อให้แปลงเพศมายังไง ฮอร์โมนจะอยู่ในเกณฑ์เหมือนผู้หญิงแค่ไหน มวลกระดูกหรือโครงสร้างกล้ามเนื้อแบบผู้ชายก็ยังอยู่ ดังนั้นย่อมมีแรงมากกว่า และการให้แข่งกันแบบนี้ต่างหาก ที่เป็นการเหยียดเพศโดยแท้จริง
ภาพแนบ: การประจานช่วงปฏิวัติวัฒนธรรม
*** ก้าวต่อจากนี้? ***
การกระทำของกลุ่ม Woke หลายครั้ง ถูกคนจำนวนมากนำไปเปรียบเทียบกับพวก “เรดการ์ด” (Red Guard) ในเหตุการณ์ “ปฏิวัติวัฒนธรรม” ที่จีนระหว่างปี 1966 - 1976
ช่วงนั้นทุกคนโดนเรดการ์ดบังคับให้ปฏิบัติตามแนวทางใหม่ หากใครแสดงความนับถือสิ่งเก่าแม้เพียงเล็กน้อยจะโดนทั้งประณาม บ้างก็เลยไปถึงขั้น คุมขัง, ทรมาน หรือฆ่าทิ้งก็มี ทั้งๆ ที่เรดการ์ดย้ำนักย้ำหน้าว่ามนุษย์นั้นเท่าเทียมกัน
นอกจากนี้ในช่วงเวลาดังกล่าว งานศิลปะยังถูกเซนเซอร์แบบสุดโต่ง ทำให้เกิดศิลปะแนวใหม่ที่มองโลกเป็นขาว/ดำ คือชาวนาและชนชั้นแรงงานทั้งหมดเป็นคนดี ส่วนชนชั้นนายทุนทั้งหมดเป็นคนเลว
ตอนนั้นถึงกับเชื่อว่าพฤติกรรมที่ดีคือพฤติกรรมแบบชนชั้นกรรมาชีพที่พูดเสียงดังโผงผาง ขากถุยน้ำลายแบบแมนๆ ไม่กระแดะเหมือนพวกคนรวย ...นี่เป็นผลกระทบที่ทำให้คนจีนในปัจจุบันมีมารยาทสังคมที่ค่อนข้างมหัศจรรย์
อย่างไรก็ตาม เรื่องราวทั้งหมดที่เล่ามา ไม่สามารถนำมาตัดสินได้ว่า Woke จะเป็นแบบนี้กันหมด ตามที่ผมบอกไปว่า เจตนารมณ์แต่แรกของกลุ่มคือการต่อสู้เพื่อความเป็นธรรมในสังคม ซึ่งนั่นเป็นเรื่องที่ดีอย่างไม่ต้องสงสัย
เพียงแต่ไม่ว่าจะกลุ่ม Woke หรือตัวเราเอง ก็ต้องเรียนรู้จะแสดงออกบนพื้นฐานของเหตุและผล โดยไม่ลืมเคารพสิทธิของผู้อื่น และคำนึงถึงความหลากหลายทางความคิด ไม่ใช่การบังคับให้คนอื่นคิดเช่นฝ่ายตน ดังนี้แล้วการพัฒนาสังคมบนหลักประชาธิปไตยโดยแท้จริงถึงจะเกิดขึ้นได้...
::: อ้างอิง :::
- Founding Fathers and Slaveholders smithsonianmag (ดอต) com/history/founding-fathers-and-slaveholders-72262393/
- New York city hall removes Thomas Jefferson statue theguardian (ดอต) com/us-news/2021/nov/23/thomas-jefferson-statuue-new-york-city-hall
- Antifa teacher who wanted to indoctrinate students to reportedly be fired nypost (ดอต) com/2021/09/02/pro-antifa-teacher-gabriel-gipe-reportedly-will-be-fired/
- Why I Am Suing UCLA bariweiss (ดอต) substack (ดอต) com/p/why-i-am-suing-ucla
- Unpopular Opinion: Color-Blind Casting Isn’t ‘Woke’ — It’s Racist thecrimson (ดอต) com/article/2020/12/9/unpop-opinion-color-blind-casting/
- Alana McLaughlin knows exactly what he’s doing feministcurrent (ดอต) com/2021/09/15/alana-mclaughlin-knows-exactly-what-hes-doing/
อีกครั้งนะครับ Box Set ซีรีส์ “The Wild Chronicles” ครบชุด 7 เล่ม เปิดให้จองแล้ววันนี้!
หลังจากหนังสือชุด The Wilds Chronicles ที่พิมพ์ครั้งก่อนทุกเล่มขายหมดจากตลาดไปนานแล้ว ผมจึงมีแผนจะพิมพ์ใหม่ทั้งหมด โดยปรับปรุงเนื้อหาเพิ่มเติมให้ดียิ่งขึ้น เป็นปัจจุบันมากขึ้น
และนอกจากนั้นแล้ว เพื่อเป็นการขอบคุณท่านผู้อ่านที่ติดตามกันมานาน ผมได้จัดทำ Box Set ขึ้นเป็นพิเศษ เพื่อรวมหนังสือทั้งเก่าใหม่ไว้ด้วยกัน
หนังสือในเซ็ต มีดังต่อไปนี้นะครับ:
1. พยัคฆ์ทมิฬสิ้นชาติ: เรื่องกบฏพยัคฆ์ทมิฬในศรีลังกาเหนือ ต้นกำเนิดของการก่อการร้ายยุคใหม่
2. เชือดเช็ดเชเชน: เรื่องกบฏชาวเชเชนในรัสเซียใต้ ที่ต้องเผชิญการปราบปรามอย่างโหดสัสรัสเซีย
3. อสุราอาหม: เรื่องประวัติศาสตร์ชาวไทอาหมในอินเดียเหนือ บรรพบุรุษสุดโหดของชาวไทยในปัจจุบัน
4. โลหิตอิสราเอล: เรื่องประวัติศาสตร์การดิ้นรนของชาวยิว และดินแดนอิสราเอล แผ่นดินศักดิ์สิทธิ์ที่นองเลือดมานานกว่าพันปี
5. ประวัติย่อก่อการร้าย: ที่มาที่ไปของการก่อการร้ายตั้งแต่อดีตกาล และสงครามก่อการร้ายที่ยังส่งผลมาจนถึงปัจจุบัน
6. สุริยันพันธุ์เคิร์ด: เรื่องของชนกลุ่มน้อยเคิร์ดอิรักที่ลุกขึ้นสู้กับมหาอำนาจตะวันออกกลางเพื่อความฝันในการตั้งประเทศของตัวเอง
7. ดาวแดงแห่งเคิร์ด: เรื่องของชนกลุ่มน้อยเคิร์ดซีเรียที่ขับเคลื่อนด้วยพลังของสตรี
ทั้งหมดนี้รวมค่าส่งในราคา 3,150 บาทเท่านั้น! (เฉพาะในประเทศนะครับ ส่วนต่างประเทศคิดราคาตามจริง)
ท่านไหนที่สนใจ สามารถชำระและใส่ที่อยู่ที่ link แนบได้เลย (ระบบนี้จะมีเมลคอนเฟิร์มไปด้วยแต่ช้าหน่อยนะครับ)
อนึ่งท่านที่ซื้อหนังสือหรือสั่งจองบางเล่มแยกไปแล้วอยากเปลี่ยนเป็นเซ็ตนี้ สามารถติดต่อทาง Line OA https://lin.ee/fNEO1jr หรือ Inbox ของเพจเพื่ออัพเกรดได้นะครับ โดยจะคิดราคาตามจริงลดหลั่นไปตามเล่ม ส่วนราคากล่องอย่างเดียว 375 บาท (จะส่งไปแบบพับ ลดปัญหากล่องมุมยับ)
ท่านที่สนใจอ่านเรื่องราวแปลกๆ จากรอบโลกสามารถสมัครเข้ากลุ่ม illumicorgi
อนึ่งกลุ่มนี้เป็นกลุ่ม exclusive ผมจะใช้ลงบทความพิเศษ ซึ่งมีเนื้อหาเจาะลึกกว่าที่ลงในเพจ The Wild Chronicles และบทความส่วนใหญ่ในกลุ่มจะเกี่ยวกับธีมของหนังสือที่ผมกำลังเขียน
ผู้ที่ต้องการสมัครเข้ากลุ่มให้ทำดังนี้เลยนะครับ
(1) กดสมัคร Line OA ของ The Wild Chronicles มาทาง link นี้ https://lin.ee/fNEO1jr
(2) กด add เป็นเพื่อน
(3) กด chat
(4) จากนั้น พิมพ์ชื่อที่ท่านใช้ใน Facebook มาทางช่องแชทของ Line OA เพื่อให้ทีมงานบ่งชี้ได้ว่าบัญชีของท่านสมัครมาแล้ว
(5) จากนั้นจะมีแอดมินมาคุยกับท่าน ให้แจ้งประเภทสมาชิกที่ท่านต้องการสมัคร แอดมินจะส่ง link เพื่อชำระค่าสมาชิก และแนะนำวิธีการเข้ากลุ่มต่อไป
::: ::: :::
ประวัติศาสตร์ สงคราม เรื่องต่างประเทศ กดติดตาม เพจ The Wild Chronicles ได้เลยนะครับ https://facebook.com/pongsorn.bhumiwat
โฆษณา