29 พ.ย. 2021 เวลา 05:34 • ข่าวรอบโลก
*** ความเปลี่ยนแปลงที่เกิดจาก กระแส Woke ***
หลังจากผู้อ่านทุกท่านได้ติดตามบทความ “เข้าใจ Woke ใน 15 นาที” จะพบว่ากระแสการเคลื่อนไหวของ Woke นั้นพัฒนาการจากจุดเริ่มต้นของการเห็นสังคมที่ “เลือกปฏิบัติ, ความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจ, รวมไปการละเลยต่อปัญหาสิ่งแวดล้อม” ที่เกิดขึ้นในทั่วทุกมุมโลก
ทว่าในบางครั้งการลุกขึ้นต่อต้านอำนาจเดิมอาจนำไปสู่วงการแบ่งแยกหรือกดทับผู้ที่ไม่เห็นด้วย จนเดินเข้าสู่วังวนของความขัดแย้งที่ไม่จบสิ้นดังที่บทความ “สนิมเหล็กเกิดแต่เนื้อในตน Woke Edition” ยกตัวอย่างให้เห็น
ใจความสำคัญที่บทความนี้จะแสดงให้เห็นคือ “ตัวอย่างความเปลี่ยนแปลงจากกระแส Woke” ที่เกิดขึ้นจากทั่วทุกมุมโลก เพื่อให้เห็นว่ากระแสดังกล่าวได้สร้างอะไรขึ้นแล้วบ้าง และมีอะไรที่ยังต้องสานต่อไป อย่างไรก็ตามเราต้องทำความเข้าใจว่า ความหมายของ Woke คือนิยามการต่อสู้เพื่อความเป็นธรรมของสังคมอย่างกว้างๆ มากกว่าการผูกโยงกับกลุ่มการเคลื่อนไหวกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง ดังนั้นตัวอย่างที่นำมาในบทความนี้แม้มักถูกตีความว่าเป็นส่วนหนึ่งของกระแส woke แต่บางทีก็ถูกตีความเป็นอย่างอื่น
*** ทำความเข้าใจความเคลื่อนไหวด้านการเมือง ***
ปัจจัยแรกที่เราควรทำความเข้าใจเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นคือ “กระแส Woke นั้นเกิดขึ้นมาตั้งแต่ 2014 ก็จริง แต่เริ่มแพร่ขยายจนกลายเป็นกระแสในหลายประเทศทั่วโลกเพียงหนึ่งปีที่ผ่านเท่านั้น”
ดังนั้นการเคลื่อนไหวดังกล่าวยังต้องเผชิญกับความท้าทางทางสังคม, เศรษฐกิจ, สิ่งแวดล้อม, และทิศทางที่เกิดจากความแตกต่างทางแนวคิดของผู้ร่วมอุดมการณ์อีกมาก
*** สิ่งแวดล้อม ***
การต่อสู้เพื่อสิ่งแวดล้อมถือเป็นผลงานโดดเด่นที่สุดของการเคลื่อนไหวดังกล่าว
เนื่องจากเยาวชนและนักกิจกรรมจำนวนมากเห็นพ้องต้องกันว่า
“ปัญหาด้านธรรมชาติและความเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกต่อไป"
ภาพแนบ: การ์ตูนล้อเลียนนโยบายของผู้นำชาติมหาอำนาจต่อปัญหาสภาพอากาศเปลี่ยนแปลง
อีกทั้งผู้มีอำนาจทางเศรษฐกิจและการเมืองยุคปัจจุบันยังมองเห็นเพียงการแสวงหาผลประโยชน์ส่วนตัว และทิ้งให้คนรุ่นหลังเผชิญกับปัญหาน้ำทะเลที่สูงขึ้น, จำนวนอาหารที่ลดลง, และการทำลายแหล่งธรรมชาติเพื่อเพิ่มพื้นที่อยู่อาศัยจากปริมาณประชากรที่สูงขึ้น
จนทำให้เกิดความร่วมมือของนักกิจกรรมเพื่อสิ่งแวดล้อมอย่างกลุ่ม Sunrise Movement ในสหรัฐที่มีผู้สนับสนุนราว 6.5 ล้านคน หรือกลุ่ม Celebrity Activists ซึ่งใช้ชื่อเสียงทางสังคมมาสนับสนุนการเคลื่อนไหวเพื่ออนุรักษ์สิ่งแวดล้อม
ภาพแนบ: เกรียตาท่ามกลางฝูงชนผู้สนับสนุนเธอ
เกรียตา ทุนแบร์ย เด็กหญิงชาวสวีเดนได้รับเชิญเข้าไปกล่าวสุนทรพจน์บนเวทีการประชุมของสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศโลกครั้งที่ 24 (COP24) ด้วยใจความที่ตีแสกหน้าเหล่าผู้มีอำนาจทั้งหลายว่า
“เธอไม่ได้มายังเวทีแห่งนี้เพื่อร้องขอให้ผู้นำชาติมหาอำนาจมาสนใจในสิ่งที่พวกเขาละเลย แต่มาเพื่อสร้างความเปลี่ยนแปลงด้วยตนเอง”
ด้วยเวลาเพียง 3 นาทีกว่าๆ เธอก็กลายบุคคลที่ได้รับการจับตามองจากฝ่ายต่างๆ ในทันที
ภาพแนบ: เกรียตาขณะเข้าร่วมการเคลื่อนไหวด้านสิ่งแวดล้อมร่วมกับนักกิจกรรมคนอื่นๆ
เมื่อเห็นว่าความเคลื่อนไหวของตนได้รับการตอบสนอง เกรียตาจึงเดินทางไปตามประเทศต่างๆ อาทิ สหรัฐอเมริกา, แคนาดา, สวิสเซอแลนด์, และอังกฤษ เพื่อร่วมรณรงค์กับเยาวชนนักกิจกรรมให้ทั่วโลกตระหนักถึงปัญหาโลกร้อน จนกลายเป็นปรากฏการณ์ “The Greta Effect”
แม้หลายคนจะ “หมั่นไส้” เกรียตาเพราะเธอใช้คำพูดรุนแรง แต่มันก็สร้างแรงบันดาลใจให้กับเยาวชนนักอนุรักษ์จำนวนมาก และทำให้กระแสอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมได้รับความสนใจมากขึ้น
ภาพแนบ: ผู้นำพรรคกรีนของเยอรมนี
*** ความเปลี่ยนแปลงทางการเมืองในเยอรมนี ***
ที่เยอรมันมีพรรคการเมืองชื่อพรรคกรีนที่ชูสโลแกน “ทุกสิ่งเป็นไปได้” ผ่านคำมั่นสัญญาในการผลักดันนโยบายการฟื้นฟูเศรษฐกิจและการลงทุนที่เอื้อประโยชน์ต่อแรงงานในประเทศ โดยคำนึงถึงการเคารพเชื้อชาติ, ศาสนา, และเพศสภาพที่หลากหลาย เช่นเดียวกับนโยบายการลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลง 70 เปอร์เซ็นต์ภายในปี 2030 เพื่อเดินหน้าสู่การใช้พลังงานสะอาด เพื่อทดแทนการพึ่งพาโรงไฟฟ้านิวเคลียร์
ภาพแนบ: การกระท้วงในเบลารุส
นอกจากนี้พรรคการเมืองดังกล่าว ยังเชิดชูนโยบายสนับสนุนหลักสิทธิมนุษยชนทั้งในและนอกประเทศ
โดยเฉพาะการใช้มาตราการกดดันทางการเมืองและสนับสนุนการเคลื่อนไหวเชิงสร้างสรรค์ของภาคประชาชนในประเทศที่ปกครองด้วยระบอบอำนาจนิยมอย่างเบลารุส, รัสเซีย, พม่า, และประเทศอื่นๆ
ภาพแนบ: ภาพแสดงความเปลี่ยนแปลงของที่นั่งพรรคการเมืองในเยอรมัน
นโยบายเหล่านี้โดนใจชาวเยอรมันเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะในหมู่คนรุ่นใหม่ พวกเขาช่วยกันลงคะแนนให้พรรคกรีนจนสามารถครองตำแหน่งพรรคการเมืองอันดับสามที่นับเป็น 14.8 เปอร์เซ็นต์ของคะแนนโดยรวม
ทำให้ตามหลังเพียงสองพรรคใหญ่อย่าง พรรคสังคมประชาธิปไตยเยอรมนี (SDP) และพรรคสหภาพประชาธิปไตยคริสเตียนกับพรรคสหภาพสังคมคริสเตียน (CDP/CDU)
ภาพแนบ: อังเกลา แมร์เคิล นายกหญิงเยอรมนีจากพรรค CDP ที่ครองตำแหน่งนานกว่า 16 ปี
นี่ทำให้พรรคที่มีอุดมการณ์กลางขวาอย่าง CDP ที่ครองอำนาจมาเป็นเวลานานกว่า 10 ปี เสียอำนาจ
โดยพรรคกรีนฟอร์มรัฐบาลกับพรรค SPD และได้รับตำแหน่งเป็นรัฐมนตรีต่างประเทศและเศรษฐกิจ โดยมีนโยบายเน้นการรักษาสิ่งแวดล้อมและความเป็นธรรมทางสังคมตามที่เคยสัญญาเอาไว้ในช่วงหาเสียง
ภาพแนบ: กลุ่มเยาวชนที่ออกมาเรียกร้องสิทธิการเลือกตั้งด้วยอายุ 16 ปี
นอกจากนี้รัฐบาลเยอรมันยังได้หารือเกี่ยวกับความเป็นไปได้เกี่ยวกับการแก้ไขกฏหมายกำหนดอายุผู้มีสิทธิเลือกตั้งลงจาก 18 ปีเหลือ 16 ปี
เพื่อให้คนรุ่นใหม่เข้ามามีบทบาททางการเมืองมากขึ้นในอนาคต ถือเป็นก้าวสำคัญของขบวนการขับเคลื่อนทางการเมืองที่สำคัญ
*** การสมรสเท่าเทียมในไต้หวัน ***
ไต้หวันถือเป็นหนึ่งในรัฐที่ได้รับการยกย่องว่ามี “รากฐานของระบอบประชาธิปไตยที่เข้มแข็ง” และยังเป็นชาติแรกที่อนุมัติการออกกฎหมายสมรสเพศเดียวกันในเอเชีย
อย่างไรก็ตามเส้นทางของการต่อสู้นั้นก็ไม่ใช่เรื่องง่าย… เพราะพวกเขาใช้เวลากว่า 35 ปีในการได้มาซึ่งกฏหมายฉบับดังกล่าว
ภาพแนบ: ฉีเฉียเหวยผู้จุดประกายการสมรสเท่าเทียม
การจุดประกายครั้งแรกเกิดขึ้นในปี 1986 เมื่อนายฉีเฉียเหวยดำเนินการฟ้องร้องต่อศาลแขวงไทเป หลังตนไม่ได้รับอนุญาตให้จดทะเบียนสมรสกับคู่รักเพศเดียวกัน แต่เขากลับถูกทางการจับกุมเป็นเวลา 6 เดือนในข้อหาต่อต้านรัฐบาล จากนั้นการต่อสู้เพื่อสิทธิสมรสเพศเดียวกันก็ตกอยู่ในภาวะล้มลุกคลุกคลาน
จนกระทั่งปี 2009 ได้เกิดกลุ่มเอ็นจีโอที่ใช้ชื่อว่า TAPPCR หรือกลุ่มพันธมิตรเพื่อการสมรสเท่าเทียมซึ่งทำการศึกษาและนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของเพศทางเลือก โดยสามารถรวบรวมรายชื่อของผู้สนับสนุนกว่า 150,000 รายชื่อ
*** พื้นที่โฆษณา ***
เปิดให้จองแล้ววันนี้ Box Set ซีรีส์ “The Wild Chronicles” ครบชุด 7 เล่ม!
หลังจากหนังสือชุด The Wilds Chronicles ที่พิมพ์ครั้งก่อนทุกเล่มขายหมดจากตลาดไปนานแล้ว ผมจึงมีแผนจะพิมพ์ใหม่ทั้งหมด โดยปรับปรุงเนื้อหาเพิ่มเติมให้ดียิ่งขึ้น เป็นปัจจุบันมากขึ้น
และนอกจากนั้นแล้ว เพื่อเป็นการขอบคุณท่านผู้อ่านที่ติดตามกันมานาน ผมได้จัดทำ Box Set ขึ้นเป็นพิเศษ เพื่อรวมหนังสือทั้งเก่าใหม่ไว้ด้วยกัน
หนังสือในเซ็ต มีดังต่อไปนี้นะครับ:
1. พยัคฆ์ทมิฬสิ้นชาติ: เรื่องกบฏพยัคฆ์ทมิฬในศรีลังกาเหนือ ต้นกำเนิดของการก่อการร้ายยุคใหม่
2. เชือดเช็ดเชเชน: เรื่องกบฏชาวเชเชนในรัสเซียใต้ ที่ต้องเผชิญการปราบปรามอย่างโหดสัสรัสเซีย
3. อสุราอาหม: เรื่องประวัติศาสตร์ชาวไทอาหมในอินเดียเหนือ บรรพบุรุษสุดโหดของชาวไทยในปัจจุบัน
4. โลหิตอิสราเอล: เรื่องประวัติศาสตร์การดิ้นรนของชาวยิว และดินแดนอิสราเอล แผ่นดินศักดิ์สิทธิ์ที่นองเลือดมานานกว่าพันปี
5. ประวัติย่อก่อการร้าย: ที่มาที่ไปของการก่อการร้ายตั้งแต่อดีตกาล และสงครามก่อการร้ายที่ยังส่งผลมาจนถึงปัจจุบัน
6. สุริยันพันธุ์เคิร์ด: เรื่องของชนกลุ่มน้อยเคิร์ดอิรักที่ลุกขึ้นสู้กับมหาอำนาจตะวันออกกลางเพื่อความฝันในการตั้งประเทศของตัวเอง
7. ดาวแดงแห่งเคิร์ด: เรื่องของชนกลุ่มน้อยเคิร์ดซีเรียที่ขับเคลื่อนด้วยพลังของสตรี
ทั้งหมดนี้รวมค่าส่งในราคา 3,150 บาทเท่านั้น! (เฉพาะในประเทศนะครับ ส่วนต่างประเทศคิดราคาตามจริง)
ท่านไหนที่สนใจ สามารถชำระและใส่ที่อยู่ที่ link แนบได้เลย (ระบบนี้จะมีเมลคอนเฟิร์มไปด้วยแต่ช้าหน่อยนะครับ)
อนึ่งท่านที่ซื้อหนังสือหรือสั่งจองบางเล่มแยกไปแล้วอยากเปลี่ยนเป็นเซ็ตนี้ สามารถติดต่อทาง Line OA https://lin.ee/fNEO1jr หรือ Inbox ของเพจเพื่ออัพเกรดได้นะครับ โดยจะคิดราคาตามจริงลดหลั่นไปตามเล่ม ส่วนราคากล่องอย่างเดียว 375 บาท (จะส่งไปแบบพับ ลดปัญหากล่องมุมยับ)
สส. แห่งพรรคประชาธิปไตยก้าวหน้าเป็นผู้สนับสนุนให้มตินี้สามารถเข้าสู่กระบวนการ ทำให้สภานิติบัญญัติไต้หวันพิจารณาร่างกฎหมายสมรสเท่าเทียมจากข้อเสนอ อันว่าด้วยการคุ้มครองสถานะในกฏหมายแพ่งของคู่สมรสเพศเดียวกันให้ได้รับสิทธิเช่นเดียวกับคู่สมรสชายหญิงในปี 2013
แม้จะถูกต่อต้านจากองค์ศาสนาที่อ้างว่าการตัดสินใจดังกล่าวจะทำลายสถาบันครอบครัวดั้งเดิม
ในปี 2017 พวกเขาประสบชัยชนะเล็กๆ เมื่อศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยว่าการห้ามบุคคลเพศเดียวกันสมรสนั้นขัดต่อรัฐธรรมนูญและรัฐจะดำเนินการแก้ไขกฏหมายใหม่ภายในเวลา 2 ปี
เมื่อการเคลื่อนไหวขยายตัวออกไปกลุ่ม TAPCPR ได้ยกระดับการต่อสู้ด้วยการจัดงาน International Forum Connect the Rainbow Dots Marriage Equality and LGBT Movement in East Asia พร้อมกับเชิญนักเคลื่อนไหวจากชาติต่างๆในเอเชียเข้ามาแลกเปลี่ยนประสบการณ์ต่อสู้ร่วมกัน
ภาพแนบ: กลุ่มบาทหลวงและผู้เคร่งศาสนาที่ต่อต้านการสมรสเท่าเทียม เนื่องจากเกรงว่าเป็นการทำลายสถานบันครอบครัวเดิม
อย่างไรก็ตามเพียงหนึ่งปีหลังจากนั้น… เมื่อฝ่ายต่อต้านทำแบบสำรวจเกี่ยวกับกฎหมายแพ่งว่า “คุณเห็นด้วยหรือไม่ที่กฎหมายแพ่งว่าด้วยการสมรสควรสงวนไว้เฉพาะชายและหญิงเท่านั้น?”
เพื่อชักจูงให้ผู้ทำแบบสอบถามตอบว่า “เห็นด้วย” ซึ่งจะทำให้ฝ่ายต้านสามารถอ้างได้ว่าสังคมไต้หวันยังไม่พร้อมกับการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้น
มีอาสาสมัครจำนวนมากต่างออกมา รณรงค์เพื่อชี้แจงข้อเท็จจริงเกี่ยวกับประเด็นดังกล่าว แต่สุดท้ายแล้ว ผู้ตอบคำถาม 62 เปอร์เซ็นต์ก็ยังตอบ “เห็นด้วย” กับคำถามดังกล่าว
แต่ความผิดหวังเหล่านั้นก็ไม่ได้อยู่นานนัก เมื่อในวันที่ 17 พฤษภาคม 2019 สภานิติบัญญัติไต้หวันได้ผ่านกฎหมาย 748 โดยมีสาระสำคัญคือ
“การอนุญาตให้บุคคลเพศเดียวกันสามารถจดทะเบียนในรูปแบบของกฎหมายเฉพาะ โดยถือเป็น ‘คู่สมรส’ เหมือนกับชายหญิงตามกฎหมายแพ่ง"
แต่ยังมีข้อจำกัดบางประเด็นเช่น การรับบุตรบุญธรรม, การอุ้มบุญ, และการสมรสกับชาวต่างชาติ
โดยผู้ก่อตั้ง TAPCPR ให้สัมภาษณ์ว่า “แม้จะยังไม่ใช่ผลลัพธ์ที่เป็นไปตามเป้าหมาย แต่ถือว่าเหมาะสมกับสถานการณ์และบริบทของสังคมในขณะนี้”
โดยสาเหตุสำคัญที่รัฐบาลพยายามผลักดันให้กฎหมายฉบับนี้เป็นจริงคือการทำให้สถานะของไต้หวันกลายเป็นรัฐแห่งแรกในเอเชียที่ยอมรับ “กฏหมายสมรสเท่าเทียม” ตามกระแสของประเทศประชาธิปไตยทั่วโลก
สิ่งนี้ถูกมองอย่างกว้างขวางว่าเป็นการส่งสัญญาณต่อจีนแผ่นดินใหญ่ว่า “อุดมการณ์ทางการเมืองของไต้หวันแตกต่างจากแผ่นดินใหญ่ที่ปิดกั้นเพศทางเลือก”
*** การต่อสู้เพื่อความแตกต่างทางชาติพันธุ์ในอิสราเอล ***
ภายหลังจากอิสราเอลตัดสินใจโจมตีทางอากาศต่อเขตฉนวนกาซาระหว่างวันที่ 9 พฤษภาคม ถึง 12 มิถุนายน 2021 ประชาชนหลายพันชีวิตจากทั่วทุกมุมโลกต่างรวมตัวกันหน้าสถานทูตอิสราเอลและใจกลางเมืองต่างๆ ทั่วโลก เพื่อประท้วงการ กระทำดังกล่าว
แม้ว่าฝ่ายอิสราเอลจะอ้างว่าการโจมตีที่เกิดขึ้นดำเนินไปเพื่อต่อต้านปฏิบัติการของกลุ่มฮามาสที่ระดมยิงจรวดกว่า 400 นัดต่อวันเข้าใส่เป้าหมายในอิสราเอล แต่หลายฝ่ายกลับแสดงความเห็นว่า “การกระทำของอิสราเอลยิ่งทำให้สถานการณ์ที่คุกกรุ่นอยู่แล้ว ยกระดับความตึงเครียดขึ้นไปอีก”
ประเด็นที่น่าสนใจคือปฏิกิริยาการต่อต้านส่วนหนึ่ง เกิดขึ้นจากชาวยิวจำนวนหนึ่งที่มีจุดมุ่งหมายในยุติความขัดแย้งระหว่างชาวยิวและชาวอาหรับ
นอกจากนี้กลุ่ม NGO ต่างๆ อาทิ วินโดว์แชนแนลฟอร์คอมมิวนิเคชัน, สแตนดิงทูเก็ตเธอร์, และนักเคลื่อนไหวอื่นๆ ต่างออกมาเคลื่อนไหวเพื่อกดดันรัฐบาลอิสราเอลร่วมกับชาวปาเลสไตน์ตามความเชื่อว่า “ทั้งสองฝ่ายต่างใฝ่หาสันติภาพบนความร่วมมือและเคารพในความแตกต่างของกันและกัน”
...แม้ว่าแนวคิดดังกล่าวยังไม่ใช่อุดมการณ์กระแสหลักในสังคมอิสราเอล แต่ก็แสดงให้เห็นว่ามีชาวยิวจำนวนมากที่เห็นพ้องต้องกันว่า
“สงครามไม่ใช่คำตอบของการยุติความขัดแย้ง” ระหว่างอิสราเอลและปาเลสไตน์…
ภาพแนบ: กลุ่มรัฐบาลอิสราเอลใหม่
นอกจากความเปลี่ยนในสังคมที่เกิดขึ้น ทำให้เกิดความพยายามเปลี่ยนแปลงทางการเมืองเมื่อพรรค เยส อทิด ที่มีอุดมการณ์สายกลางและมี 17 ที่นั่งในรัฐสภา สามารถจัดตั้งรัฐบาลร่วมกับพรรคอุดมการณ์ซ้าย, กลาง, และขวา รวมถึงพรรคราอัมของชาวอาหรับ จนสามารถตั้งรัฐบาลได้สำเร็จในเวลาฉิวเฉียด เป็นการโค่นล้มพันธมิตรพรรคลิคุดที่เป็นขวาจัด
อย่างไรก็ตามชัยชนะดังกล่าวย่อมมาพร้อมข้อแลกเปลี่ยน เพราะผู้นำฝ่ายค้านอย่างนายยาอีร์ ลาปิด ต้องยอมให้นายนาฟตาลี เบนเน็ตต์ ซึ่งมาจากพรรคที่มีอุดมการณ์ขวา ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเป็นเวลาสองปี ก่อนจะเกิดการเปลี่ยนตัวผู้นำ
แน่นอนว่าหลายฝ่ายยังแสดงความกังวลเกี่ยวกับเสถียรภาพของรัฐบาลใหม่ แต่ก็ถือเป็นก้าวแรกที่เราสามารถเห็นความหวังที่ชาวยิวและปาเลสไตน์จะสามารถอยู่ร่วมกันได้ท่ามกลางความแตกต่าง
*** การต่อต้านการถูกกดขี่สิทธิมนุษยชนในหลายประเทศ ***
การตื่นตัวของวัฒนธรรม Woke ทำให้เกิดความตระหนักในสิทธิขั้นพื้นฐานต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสังคมที่ถูกกดทับจากระบอบอำนาจนิยมที่กำหนดบรรทัดฐานของสังคมอย่างแคบจนขาดความหลากหลาย
ภาพแนบ: นักร้องชาวเชชเนีย (ขวา) ที่เป็นชาวเพศทางเลือก ซึ่งเสียชีวิต อย่างเป็นปริศนาโดยหลายฝ่ายคาดว่าเกิดจากทางการ
เมื่อการกดทับด้วยมาตรฐานทางสังคม ดำเนินมาถึงจุดแตกหัก เหล่าผู้ต่อต้านจึงรวมตัวกันเพื่อต่อต้านอำนาจรัฐอย่างเช่นกรณีของกลุ่มต่อสู้เพื่อเพศหลากหลายในรัสเซีย ซึ่งรวมตัวกันต่อต้านการกดทับนโยบายของรัฐบาลและศาสนาที่ผลัดให้พวกเขากลายเป็น “คนชายขอบทางสังคม”
เช่นเดียวกับการแอบให้ความช่วยเหลือกลุ่มเพศหลากหลายจากพื้นที่อย่างเชชเนีย ซึ่งผู้กุมอำนาจมีการปฏิบัติต่อกลุ่มคนเหล่านี้ด้วยความโหดร้ายเกินบรรยาย ตั้งแต่การไล่จับกุม, ทรมาน, หรือสังหาร
ส่วนกรณีของอัฟกานิสถาน เมื่อรัฐบาลตาลีบันพยายามลดบทบาททางสังคมของผู้หญิงจนกลายเป็นวิกฤตด้านสิทธิสตรี ทำให้หลายฝ่ายออกมาต่อต้าน
ขณะที่ประเทศในตะวันตกก็เกิดการเคลื่อนไหวเพื่อต่อต้านนโยบายการกีดกันผู้อพยพจากตะวันออกกลาง แม้ว่าหลายคนจะยอมรับว่า “ผู้อพยพบางคนอาจสร้างปัญหาจริง” ทว่าคนเหล่านี้ล้วนเป็นมนุษย์ที่ได้รับสิทธิในการมีชีวิตอยู่และควรได้รับการปกป้องสิทธิ์ไม่ต่างจากประชาชนของสหภาพยุโรปอื่นๆ
เหตุการณ์เหล่านี้แสดงให้เห็นว่าการตื่นตัวของกระแสดังกล่าว ทำให้เกิดการเคลื่อนไหวด้านสังคมเพื่อรักษาสิ่งแวดล้อมแลส่งเสริมสิทธิมนุษยชนโดยไม่มีการแบ่งแยก เพศ, ศาสนา, หรือเชื้อชาตินั่นเอง
*** สรุป ***
ท้ายที่สุดแล้ว เราอาจจะยังไม่ทราบถึงปลายทางการต่อสู้ที่เกิดขึ้นว่าขบวนการต่างๆ จะดำเนินไปในทิศทางใด แต่หากเราพิจรณาจากข้อมูลต่างๆ ที่ปรากฏตามสื่อและงานวิชาการต่างชี้ให้เห็นตรงกันว่า
“กระแสการตื่นรู้ทั่วโลกเริ่มทำงานและผู้ที่เคยตกเป็นฝ่ายถูกกระทำมีการเรียกร้องมากขึ้น”
แม้จะมีความขลุกขลักจากความสุดโต่งในบางจุด และแต่ภาพรวมก็ถือเป็นเรื่องน่ายินดี
ภาพแนบ: การประท้วงภาวะโลกร้อนในอินเดียที่ได้รับแรงบันดาลใจจากการลุกขึ้นมาเปลี่ยนแปลง
แหล่งอ้างอิง:
อีกครั้งนะครับ Box Set ซีรีส์ “The Wild Chronicles” ครบชุด 7 เล่ม เปิดให้จองแล้ววันนี้!
หลังจากหนังสือชุด The Wilds Chronicles ที่พิมพ์ครั้งก่อนทุกเล่มขายหมดจากตลาดไปนานแล้ว ผมจึงมีแผนจะพิมพ์ใหม่ทั้งหมด โดยปรับปรุงเนื้อหาเพิ่มเติมให้ดียิ่งขึ้น เป็นปัจจุบันมากขึ้น
และนอกจากนั้นแล้ว เพื่อเป็นการขอบคุณท่านผู้อ่านที่ติดตามกันมานาน ผมได้จัดทำ Box Set ขึ้นเป็นพิเศษ เพื่อรวมหนังสือทั้งเก่าใหม่ไว้ด้วยกัน
หนังสือในเซ็ต มีดังต่อไปนี้นะครับ:
1. พยัคฆ์ทมิฬสิ้นชาติ: เรื่องกบฏพยัคฆ์ทมิฬในศรีลังกาเหนือ ต้นกำเนิดของการก่อการร้ายยุคใหม่
2. เชือดเช็ดเชเชน: เรื่องกบฏชาวเชเชนในรัสเซียใต้ ที่ต้องเผชิญการปราบปรามอย่างโหดสัสรัสเซีย
3. อสุราอาหม: เรื่องประวัติศาสตร์ชาวไทอาหมในอินเดียเหนือ บรรพบุรุษสุดโหดของชาวไทยในปัจจุบัน
4. โลหิตอิสราเอล: เรื่องประวัติศาสตร์การดิ้นรนของชาวยิว และดินแดนอิสราเอล แผ่นดินศักดิ์สิทธิ์ที่นองเลือดมานานกว่าพันปี
5. ประวัติย่อก่อการร้าย: ที่มาที่ไปของการก่อการร้ายตั้งแต่อดีตกาล และสงครามก่อการร้ายที่ยังส่งผลมาจนถึงปัจจุบัน
6. สุริยันพันธุ์เคิร์ด: เรื่องของชนกลุ่มน้อยเคิร์ดอิรักที่ลุกขึ้นสู้กับมหาอำนาจตะวันออกกลางเพื่อความฝันในการตั้งประเทศของตัวเอง
7. ดาวแดงแห่งเคิร์ด: เรื่องของชนกลุ่มน้อยเคิร์ดซีเรียที่ขับเคลื่อนด้วยพลังของสตรี
ทั้งหมดนี้รวมค่าส่งในราคา 3,150 บาทเท่านั้น! (เฉพาะในประเทศนะครับ ส่วนต่างประเทศคิดราคาตามจริง)
ท่านไหนที่สนใจ สามารถชำระและใส่ที่อยู่ที่ link แนบได้เลย (ระบบนี้จะมีเมลคอนเฟิร์มไปด้วยแต่ช้าหน่อยนะครับ)
อนึ่งท่านที่ซื้อหนังสือหรือสั่งจองบางเล่มแยกไปแล้วอยากเปลี่ยนเป็นเซ็ตนี้ สามารถติดต่อทาง Line OA https://lin.ee/fNEO1jr หรือ Inbox ของเพจเพื่ออัพเกรดได้นะครับ โดยจะคิดราคาตามจริงลดหลั่นไปตามเล่ม ส่วนราคากล่องอย่างเดียว 375 บาท (จะส่งไปแบบพับ ลดปัญหากล่องมุมยับ)
ท่านที่สนใจอ่านเรื่องราวแปลกๆ จากรอบโลกสามารถสมัครเข้ากลุ่ม illumicorgi
อนึ่งกลุ่มนี้เป็นกลุ่ม exclusive ผมจะใช้ลงบทความพิเศษ ซึ่งมีเนื้อหาเจาะลึกกว่าที่ลงในเพจ The Wild Chronicles และบทความส่วนใหญ่ในกลุ่มจะเกี่ยวกับธีมของหนังสือที่ผมกำลังเขียน
ผู้ที่ต้องการสมัครเข้ากลุ่มให้ทำดังนี้เลยนะครับ
(1) กดสมัคร Line OA ของ The Wild Chronicles มาทาง link นี้ https://lin.ee/fNEO1jr
(2) กด add เป็นเพื่อน
(3) กด chat
(4) จากนั้น พิมพ์ชื่อที่ท่านใช้ใน Facebook มาทางช่องแชทของ Line OA เพื่อให้ทีมงานบ่งชี้ได้ว่าบัญชีของท่านสมัครมาแล้ว
(5) จากนั้นจะมีแอดมินมาคุยกับท่าน ให้แจ้งประเภทสมาชิกที่ท่านต้องการสมัคร แอดมินจะส่ง link เพื่อชำระค่าสมาชิก และแนะนำวิธีการเข้ากลุ่มต่อไป
::: ::: :::
ประวัติศาสตร์ สงคราม เรื่องต่างประเทศ กดติดตาม เพจ The Wild Chronicles ได้เลยนะครับ https://facebook.com/pongsorn.bhumiwat
โฆษณา