Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
ป
ปกรณ์ ปราสาททอง
•
ติดตาม
2 ธ.ค. 2021 เวลา 07:25 • ปรัชญา
พระแม่พระธรณี ..(๘) ..ครูบาอาจารย์ มาสอนเตือน ไม่ใช่พูดว่า ฉันทิ้งแล้วๆ มันทิ้งไม่จริงหรอก มันทิ้งแบบมายา ทิ้งจริง..ทิ้งอยู่ที่จิตที่เป็น..ที่จิตเฉย จิตไม่มีอะไร นั่นแหละ จะเป็นของจริง แล้วทิ้งให้จริง
ว่าอยากจะมาคุยด้วยแล้ว มีมากราบท่าน ก็เลยอยู่มาคุยด้วย ทำดี เห็นมั้ยว่า ปู่ท่านก็ให้น้ำธรรม ให้เราอาบน้ำธรรมจากแสงรัตนะ แสงที่เป็นสุข ไม่มีใครได้ นอกจากปู่ท่านจะมาทำให้ ตักให้ แต่ก็ไม่มีบารมีก็ ตักไม่ได้ ฉันยังตักไม่ได้เลย ตักแล้วไม่ติด มีตักได้เหมือนกันแหละ ได้แต่ขันเปล่าๆ ไม่มีอะไรติดนะ ก็เป็นมงคลเป็นสิ่งที่ดี
การกระทำดี จิตดี ตั้งใจดี สิ่งนั้นก็ เค้าก็ส่งเสริม เห็นว่าเป็นหลักของศาสนาในการสร้างบุญก็ดี การประพฤติปฏิบัติก็ดี จะได้กระจายเรื่องราวเหล่านี้ ให้กับศาสนาไป ฉันก็ดีใจด้วย ที่ท่านได้โปรดเมตตาโยม เข้าใจในธรรม เข้าใจเหตุผล แล้วปฏิบัติตามที่เราได้พบได้เห็นด้วยปัญญาของเรา สิ่งที่ท่านเห็นประจักษ์กับตัวเราก็คือ การที่ได้ฟังธรรม แล้วเราไปคร่ำครวญ พิจารณาเรื่องราวต่างๆ ไม่ได้เชื่อแบบหลงงมงาย เหมือนกับคนอื่น ที่มาแล้วเห็นดีแล้วเชื่อเลย เชื่อแล้วก็ออกจากกุฏิไป แล้วเค้าก็ทิ้งข้างกุฏิกันหมด ไม่เก็บไปพิจารณาให้ถ้วนถี่ ก็เลยไม่ได้เรื่องเหตุผลของธรรม ที่เกิดขึ้นกับจิต
การที่ทำบุญ สร้างกุศลเรื่องราวต่างๆ ถ้าไม่ใส่ใจจริงก็จะไม่รู้เรื่องราวต่างๆจริง ขอองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ท่านทำจริง ปฏิบัติจริง ทำทุกอย่างในเรื่องศาสนา ต้องทำจริง แล้วเราก็ได้ของจริงเกิดขึ้น ได้เรื่องราวต่างๆ เค้าก็มาสอนมาชี้ ได้เรื่องราวต่างๆนั้น มากมายก่ายกองเหลือเกิน นั่นก็มาจากกายวาจาใจของเรานั่นแหละ มาขยายเรื่องราวต่างๆให้เกิดขึ้น แล้วก็ยิ่งมาโยมได้มาประจักษ์เรื่องพระแม่พระธรณียิ่งเข้าใจมากขึ้น เรื่องราวของธรรม เรื่องราวของโลภโกรธหลงเนี่ย อยู่ที่ไหน อยู่ที่อะไร ที่มีผู้ที่จะขยายให้เราเข้าใจ ก็ต้องไปพิจารณา ไปฝึก ไปปฏิบัติให้จิตละเอียดขึ้นๆ ก็จะรู้จัก เรื่องราวต่างๆมากขึ้น
ไม่ใช่ทำ เป็นฆราวาส ไม่ได้บวช ไม่ได้ละจากเพศต่างๆก็จริง ไม่ได้เป็นผู้สำเร็จ ไม่มีใครเป็นผู้สำเร็จทั้งนั้น ทำเพื่อไปรอคอย รอคอยดวงอาทิตย์ เมื่อไหร่จะขึ้น แล้วเราก็จะได้เกิดมาเป็นดอกบัวที่งามสง่า ที่จะบานพร้อมกับ แสงอาทิตย์ ที่ส่องแสงลงมาต้องจิตของเรา กลีบดอกบัวเหมือนกรรม กลีบของกรรมก็หลุดล่วงไป แสงพระอาทิตย์ก็ส่องมาที่จิต คือ เหมือนกับเกสรดอกบัวของเรา นั่นตรงนั้นแหละ คือความสะอาดสะอ้าน และยุติการเกิดก็อยู่ตรงนี้
ทำไมเราถึงจะดึงสลัดกลีบดอกบัว ที่หุ้มห่อของภายในจิตของเรา ถ้าไม่มีกลีบดอกบัวมาหุ้มห่อจิตของเราก็ไม่สามารถที่จะพยุง หรือ ว่าส่งมาถึงให้พ้นน้ำได้ อย่างนั้น จิตของเราก็จมอยู่ในน้ำ ก็เพราะว่า กลีบดอกบัวเนี่ย กบีบดอกบัวที่ดี กรรมดีๆ ของเรา ที่หุ้มห่อจิตของเราให้พ้นน้ำ ก็คอยเวลาแสงอาทิตย์ที่เกิดขึ้น กรรมนั้นก็จะหลุดออกจากการหุ้มห่อของจิต จิตก็ได้รับแสงเรื่องราวต่างๆที่เกิดขึ้น
การหลุดพ้น นี่เปรียบเทียบให้ฟังว่า กลีบดอกบัวก็เหมือนกรรม แต่บางทีมันก็ไม่ได้ขึ้นมาเหนือน้ำ การจมเป็นเหยื่อของกุ้งหอยปูปลา ถึงแม้จะเป็นดอกบัวก็จริง แต่ไม่ใช่ดอกบัวที่ใช้การได้ แต่ใช้ดอกบัวที่ใช้การไม่ได้ แม้แต่ดอกบัว ตอนนี้ขึ้นมา คนก็ไปเก็บมาหมด มาบูชาพระอะไรต่างๆ ก็เลยไม่มีโอกาสได้บานอยู่ในต้น แต่นั้นเค้าแสดงให้เห็นเท่านั้น ว่ากลีบดอกบัวหลุดล่วงอย่างไรไปดู ตามสระบ้าง ว่าดอกบัวที่เค้าเบ่งบาน บานอยู่ภายในสระ ที่มีเกสรออกมา มันสวยงามอย่างไร เกสรนั้นเมื่อต้องแสงพระอาทิตย์เกิดขึ้น
นั้นก็เป็นเรื่องเปรียบเทียบให้ฟัง ว่าจิตของเราเมื่อถึงเวลานั้น เมื่อต้องแสงแห่งองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า หรือ องค์พระศรีอริยเมตไตรย จิตของเราก็สง่างามเหมือน ที่กลีบดอกบัวได้หลุดล่วงลงไป ก่อนที่เค้าจะหลุดลาวงลงไป เค้าจะหลุดล่วงลงไปทีละกลีบสองกลีบต่างๆ เค้าเรียกว่าสลัดกรรมไปได้ เรื่องโลภโกรธหลง เรื่องทิฐิ เรื่องความอวดดีถือดีอะไรต่างๆ ค่อยๆหมดไป แม้แต่ทรัพย์สมบัติก็ละทิ้งไปหมด เหลือจิตดวงเดียว
ถ้าถึงตอนนั้น ไม่ใช่ว่าจะหนีง่ายๆนะ ทรัพย์สมบัติ มันหนีอยาก แม้แต่เราไม่เป็นผู้หามา มีผู้หามาไว้ เรานั่ง..เกิดมาเราก็นั่งอยู่บนกองเงินกองทอง จะหนี..ยังหนีไม่ได้ มีเรื่องราวมายาต่างๆ ที่ดึงเราอยู่ในกองเงินกองทอง ฉะนั้น ทรัพย์สมบัติคือ มายาที่ดึงจมอยู่ ให้จิตเราจมอยู่ตรงนั้น เมื่อดึงมากเข้า เราก็ไปไหนไม่ได้ ไอ้โลภโกรธหลงก็เหมือน โซ่ที่ผูกมัดข้อเท้าของเรา เมื่อไหร่เราถึงจะแกะออก มันติดอยู่อย่างงั้น แต่วันหนึ่งเราก็มีปัญญาที่จะแกะออกได้ เพราะจะหนี เราจะเห็นว่าโจรขโมยที่เค้าเก่งกาจ เค้าไม่ได้ใช้เรื่องไสยศาสตร์ต่างๆ แต่เค้าสามารถหนีตำรวจได้ เค้าสามารถทำให้โซ่นั้นหลุดออกจากข้อเท้า เค้าก็หนีเตลิดเปิดเปิงไป นั่นก็คือการหนีกรรม หนีความทุกข์ลำบากแห่งกายวาจาใจของเรา นั่นเป็นเรื่องของโลก แต่เรามาเปรียบเทียบเรื่องราวของเรา ที่อยู่ภายในใจของเรา ที่มีโลภโกรธหลงอยู่
แล้วสิ่งที่น่ากลัวที่สุด คือ เรื่องคาถาอาคม ไสยศาสตร์ ความยึดมั่น เชื่อมั่น ถอดยาก มันเป็นโซ่ที่คล้องขา คล้องมือเราถอดออกยากเหลือเกิน ใครไปท่องไปแตะต้องมันเข้า กว่าจะ..ต้องใช้เป็นชาติๆ กว่าจะหลุด เรื่องราวไสยศาสตร์ออกไปได้ เพราะเป็นโซ่ที่ ผนึกเป็นโซ่ เหมือนโซ่ที่เป็นสนิม เกะกะไปหมด สนิมก็รู้แล้วว่า เราไม่สามารถที่จะถอดมันได้ง่าย เพราะมันรัดตึง เพราะฉะนั้น เราก็รู้แล้วว่าสิ่งเหล่านี้ ใครไปท่องไปจับต้องเข้า มันจะอยู่ตรงนั้นแหละ ไม่ไปไหน เรื่องคาถาอาคม แล้วมันก็คล้องเราไปสู่อบายภูมิ ไม่ว่าจะเป็นผู้ขมังเวทย์ หรือ เป็นผู้ที่นำเอาเรื่องราวต่างๆ ที่เค้าส่งมาให้ ก็เชื่อมั่นในสิ่งเหล่านั้น นั้นแหละ คือ โซ่กรรม ที่ผูกติดคล้องคอลากเราไปสู่อบายภูมิ ไม่มีอะไรที่จะแก้ไขได้
การทำบุญอย่างเดียวมีมันไม่เพียงพอ ต้องแก้ไขด้วยปัญญาที่เกิดขึ้น ก็ต้องใช้เวลา เป็นชาติๆเหมือนกัน เมื่อเราได้เกิดมาเป็นมนุษย์ครบอาการสามสิบสอง ถ้าไม่รีบขวนขวายทิ้งเรื่องราวต่างๆ โอกาส เค้าให้เราน้อยเหลือเกิน เอาไว้โอกาส โน้น..แต่นั่นแหละ ในสมัยพระศรีอริยเมตไตรย เวลาก็ยาวมากขึ้น จากร้อยปี อาจจะเป็นร้อยปีสองร้อยปีเกิดขึ้น กว่าเราจะสิ้นไป คราวนี้ ถ้าไม่ทำกรรมดี สองร้อยปี ไม่มีประโยชน์อะไรเลย มีแต่จมลงไปลึกลงไป ที่จะเป็นโกฎเป็นกัปป ก็ไม่มีเปเรื่องอเวจีหนักหนาสาหัสเกิดขึ้น แต่ผู้ที่กอบโกยบุญกุศล มีเวลากอบโกยที่ยาวนาน ตอนนี้ อย่างโยมนี่มากอบโกย กอบโกยก็ได้แปดสิบปีร้อยปี เดียวเดียวมีก็หมดแล้ว เดี๋ยวหมดไปวันหนึ่งๆ เวลามันน้อย เพราะฉะนั้น การที่จะทิ้งอะไรต่างๆ ก็ต้องมีเหตุมีผลเกิดขึ้น ถึงจะไปได้
ไม่ใช่พูดว่า ฉันทิ้งแล้วๆ มันทิ้งไม่จริงหรอก มันทิ้งแบบมายา ทิ้งจริง..ทิ้งอยู่ที่จิตที่เป็น..ที่จิตเฉย จิตไม่มีอะไร นั่นแหละ จะเป็นของจริง แล้วทิ้งให้จริง
เอาล่ะ วันนี้ที่คอยจะบอกโยมก็คือ เรื่องนี้ เรื่องแสงรัตนะ ที่เค้าเทแสงรัตนะให้กับเราได้อาบแสงรัตนะ อาบน้ำของธรรม ก็เรียกว่าเป็นมงคล ที่จิตของเราจะประพฤติปฏิบัติเกิดขึ้น เอ้า..ฉันก็ไปแล้ว มีเวลาแค่นี้ แหละ สาธุ สาธุ สาธุ นี่ขอบอกอีกนิดหนึ่ง ฉันไม่ได้ไปยึดติดปู่ท้าว..เพียงแต่ระลึกคุณของท่านก็มาช่วยเหลือท่าน ในเรื่องราวต่างๆ พอสมควรแก่เหตุ ฉันก็มีเวลาที่จะรอคอยเท่านั้นเอง เอาล่ะ เดินทางด้วยความสุขกายสุขใจ สาธุ สาธุ สาธุ
บันทึก
1
2
1
2
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย