3 ธ.ค. 2021 เวลา 04:34 • หนังสือ
📚 รีวิวหนังสือ AI 2041 โดย Kai-Fu Lee ผู้เขียนหนังสือ AI Superpowers (ตอนที่ 7) 📚
⭐️ Quantum Computing คืออะไร ? แล้วจะเข้ามาเปลี่ยนโลกอนาคตของเราได้อย่างไร ? ⭐️
💡 “Quantum Computing” หรือ “QC” เป็นอีกหนึ่งเทคโนโลยีที่ก็มีการคิดค้นมาสักพักแล้วแต่เราเพิ่งมาได้ยินในช่วงไม่นานมานี้ บางคนอาจะเคยได้ยินว่าพลังของ Quantum Computing จะสามารถมาทำลายระบบความปลอดภัยที่ว่ากันว่ามีความปลอดภัยสูงมาก ๆ เช่น Cryptocurrency อย่าง Bitcoin ได้ 😱
ต้องบอกว่า Quantum Computing จริง ๆ ไม่ได้เป็นเทคโนโลยีอะไรที่เกี่ยวข้องกับ AI แต่ประสิทธิภาพและ computing power ของมันจะช่วยเร่งการพัฒนาของ AI ได้อย่างมากครับ
📍 อธิบายให้เข้าใจง่าย ๆ เลย Quantum Computing ก็คือเทคโนโลยีแบบใหม่ของคอมพิวเตอร์ที่มีความสามารถในการประมวลผลและคำนวณสูงมาก ๆ สูงกว่าคอมพิวเตอร์ในปัจจุบันอย่างมาก (นึกภาพคอมพิวเตอร์แบบใหม่ที่สามารถประมวลผลเรื่องที่คอมพิวเตอร์ในปัจจุบันใช้เวลาประมวลหลายปีให้เสร็จในเวลาแค่ไม่กี่นาทีดูครับ) ซึ่งการที่มีเทคโนโลยีตัวนี้และเราสามารถนำมันไปใช้แก้ปัญหาในเรื่องที่มีความซับซ้อนสูง ๆ ที่คอมพิวเตอร์ในแบบในปัจจุบันไม่สามารถแก้ไขได้ก็คาดว่าจะเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่จะมาเปลี่ยนโลกของเราเลยทีเดียวครับ
ในหนังสือเล่มนี้นั้นผู้เขียนเปรียบการเกิดขึ้นของ Quantum Computing เสมือนตอนที่มนุษย์คิดค้นเครื่องจักรไอน้ำ หรือกระแสไฟฟ้าขึ้นมาบนโลกใบนี้เลยครับ !! ⚡️
……………..
“What is Quantum Computing?”
🌏 อย่างที่เกริ่นไว้ข้างต้นว่า Quantum Computing ก็คือคอมพิวเตอร์รูปแบบใหม่ที่ใช้หลักการของ Quantum Mechanics ในการมาคำนวณซึ่งมันมีประสิทธิภาพและความเร็วมากกว่าคอมพิวเตอร์ในปัจจุบันเป็นหลาย ๆ เท่าเลยครับ
1
💻 คอมพิวเตอร์ในปัจจุบันใช้สิ่งที่เรียกว่า ”bits” (บิต) ในการคำนวณซึ่งมันจะมาในรูปแบบของ 0 หรือ 1 หรือที่เรียกว่า Binary bits นั่นเอง คือไม่ 0 ก็ 1 เป็นไปได้แค่สองอย่าง (เปรียบง่าย ๆ เหมือนสวิตช์ไฟที่มีแค่ปิดกับเปิด) ซึ่งเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชันต่าง ๆ ก็สร้างมาจาก bits พวกนี้จำนวนมาก
💡 แต่สำหรับ Quantum Computing นั้นใช้สิ่งที่เรียกว่า “Quantum Bits” หรือ “qubits” (คิวบิต) ซึ่งเจ้าตัว qubits นี้มีความสามารถพิเศษที่แต่ละตัวมันสามารถไปอยู่ในหลายสถานะได้พร้อม ๆ กันในเวลาใด ๆ (หรือเรียกว่า superposition) ซึ่งการที่มันสามารถไปอยู่ได้ในหลายสถานะจะทำให้มันสามารถสร้างการคำนวณหลาย ๆ ครั้งในเวลาเดียวกัน อีกทั้งมันยังมีคุณสมบัติการเพิ่ม computing power แบบ exponential อย่างก้าวกระโดดด้วยครับ
ด้วยคุณสมบัติพิเศษที่น่าทึ่งของ qubits นี่เองก็มากับต้นทุนที่สูงลิบเพราะมันจำเป็นต้องอยู่ในสภาวะที่มีการควบคุมอย่างดี อย่างการที่ต้องอยู่ในระบบสุญญากาศ (vacuum chamber) หรือมีระบบหล่อเย็นเพื่อควบคุมอุณหภูมิที่เย็นมาก ๆ ประมาณ -273 องศาเซลเซียส (supercooling) ตัวเครื่องของ quantum computer ก็จะมีหน้าตาแบบในรูปเลยครับ
ด้วยความยากในการสร้าง qubits นั้นทำให้เมื่อปี 1998 เรามีแค่ 2 qubits เพียงเท่านั้นในโลกและเพิ่มขึ้นเป็นเพียง 65 qubits ในปี 2020 🤨 ซึ่งยังเป็นจำนวนน้อยมากเกินไปที่จะสามารถนำมาประยุกต์ใช้งานได้ (ในหนังสือบอกว่าต้องมีประมาณ 4,000 qubits จึงจะนำมาประยุกต์ใช้กับปัญหาที่เราต้องการได้)
Google เองนั้นก็มีการพัฒนาด้านนี้เช่นกัน โดยใช้ชื่อว่า “Quantum Supremacy” ในปี 2019 โดยนำมาทดลองใช้แสดงให้เห็นถึงการแก้ปัญหา ๆ หนึ่งที่คอมพิวเตอร์แบบปัจจุบันใช้เวลาหลายปีในแก้ปัญหาโดยใช้เวลาเพียงไม่กี่นาทีเท่านั้น!
นอกจากนี้ก็ยังมีบริษัท IBM ที่ก็ตั้งเป้าหมายไว้ว่าจะสร้าง qubits ให้ได้ 1,000 qubits ภายในปี 2023
……………..
“Application of Quantum Computing”
หนึ่งในสิ่งที่เราจะนำเทคโนโลยีนี้ไปใช้และก่อให้เกิดประโยชน์อย่างมากกับมนุษย์ของเราเลยก็คือ การนำไปใช้ในการคิดค้นตัวยาและวัคซีนต่าง ๆ นั่นเองครับ 💊💉 ในตอนที่แล้วที่เราเล่าให้ฟังไว้ว่าการพัฒนายาและวัคซีนนั้นใช้เวลาที่ค่อนข้างนานมาก ๆ ซึ่งการที่เรามี Quantum Computing ที่มีการจำลองโมเดลและคำนวณที่รวดเร็วกว่าคอมพิวเตอร์ในปัจจุบันมากนั้นแน่นอนว่าจะเข้ามาช่วยลดเวลาในการพัฒนาในเรื่องนี้ได้อย่างแน่นอน 👍🏻
นอกจากนี้เราจะสามารถนำเทคโนโลยีนี้ไปใช้แก้ปัญหาที่เราไม่สามารถแก้ไขหรือคิดได้ในปัจจุบัน เช่น เรื่องของการจำลองโมเดลและหาว่าจะทำอย่างไรกับสภาวะของ Climate Change  หรือ ความสามารถในการทำนายความเสี่ยงในการเกิด pandemic รวมถึงการประดิษฐ์คิดค้นวัสดุชนิดใหม่ ๆ ตลอดจนการสำรวจอวกาศได้เลยครับ 🚀
……………..
“Application of Quantum Computing to Security” 🔐
ในหนังสือเล่มนี้ได้ยกตัวอย่างของโลกอนาคตที่มีการขโมย Bitcoin โดยการใช้ Quantum Computing ซึ่ง Bitcoin นั้นเป็นสกุลเงินดิจิทัลที่อยู่ในอินเตอร์เน็ต ไม่มีมีรูปร่าง จับต้องไม่ได้ ถูกสร้างมาจากการคำนวณทางคณิตศาสตร์ที่ซับซ้อนโดยความสามารถของคอมพิวเตอร์ที่เรามีในปัจจุบันนั้นไม่สามารถจะแฮ็กมันได้ครับ ก็เลยเป็นที่เข้าใจกันว่า Bitcoin เป็นอะไรที่มีความปลอดภัยสูงมาก ๆ จากการเก็บข้อมูลและการเข้ารหัสโดยใช้เทคโนโลยีที่เรียกว่า blockchain ครับ
📈 เมื่อไม่นานมานี้คนที่ติดตามข่าวของ Bitcoin จะพอทราบว่าราคาของมันกระโดดขึ้นมาสูงมาก ๆ จากเมื่อก่อน และได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ ในยุคที่เกิด COVID-19 เนื่องจากหลาย ๆ ฝ่ายต่างมองหาสินทรัพย์ที่มีความปลอดภัยสูงที่จะไม่โดนผลกระทบของการอัดฉีดเงินเข้าระบบ (Quantitative Easing) ที่ทำให้เกิดเงินเฟ้อนั่นเอง และด้วยความที่ราคามันกระโดดไปมาก ก็ยิ่งดึงดูดให้นักลงทุนทั้งหลายเข้ามาให้ความสนใจกันมากเข้าไปอีกครับ
❗️ถามว่าแล้ว Quantum Computing จะเข้ามาทำลายหรือกระทบ Bitcoin อย่างไร?
⏪ ก่อนอื่นต้องเท้าความไปก่อนว่า Bitcoin นั้นมันจะประกอบไปด้วย public key และ private key ในการใช้งานซึ่งประกอบด้วยตัวอักษรจำนวนมากแบบ password ที่เราใช้งานคอมพิวเตอร์ทำนองนั้นครับ
โดย private key นั้นจะถูกใช้เป็นสิ่งยืนยันความเป็นเจ้าของคล้าย ๆ กับ digital signature ที่ห้ามเปิดเผยให้คนอื่นรู้ เหมือน password ที่เราใช้ทำการเข้าใช้คอมพิวเตอร์หรือเข้าใช้ Facebook ทำนองนั้น
ในขณะที่ public key นั้นเป็นเสมือนคล้าย ๆ เลขบัญชีธนาคารของเราที่คนอื่นสามารถมองเห็นได้ โดยถูกสร้างมาจาก private key อีกทีหนึ่ง
💡 ซึ่งอย่างที่เราได้ทราบกันมาแล้วว่า Quantum Computing นั้นมีพลังในการคำนวณที่เร็วมาก ๆ คือมันจะสามารถเข้าไปเอา public key มาทำการแก้จนสามารถรู้ private key ของเราได้โดยใช้เวลาเพียงแป๊ปเดียวและสุดท้ายก็จะสามารถเข้าไปขโมยเอา Bitcoin ของเราได้!
🚨 แต่อย่าเพิ่งตกใจไปครับ public key แบบที่ถูกแฮ็กได้นี้มีแค่สำหรับ Bitcoin ในรูปแบบเก่าแค่นั้นเองครับที่เรียกว่าแบบ P2PK ซึ่งมีจำนวนแค่ 2 ล้าน Bitcoin โดยครึ่งหนึ่งก็เป็นของผู้คิดค้น Bitcoin (Satoshi Nakamoto) เองนั่นแหละครับ แต่เมื่อปี 2010 นั้น public key ก็ได้มีการเปลี่ยนรูปแบบใหม่เป็นแบบ P2PKH ทำให้ transaction ที่เกิดขึ้นใหม่นี้ความปลอดภัยมากขึ้นไปอีกครับ
แต่ปัญหาคือหากเกิดการขโมย Bitcoin ขึ้นเราจะไม่สามารถไปฟ้องร้องหรือร้องเรียนกับใครได้เลยครับ เนื่องจากว่าสกุลเงินดิจิทัลนั้นไม่ได้ถูกควบคุมโดยรัฐบาลหรือกฎหมายธนาคารใด ๆ
ซึ่งทางแก้เรื่องนี้ก็มีครับคือจริง ๆ แล้วเราสามารถ upgrade ตัว cryptocurrency ใหม่ได้โดยการนำ Quantum Computing เข้ามาใช้ซะเองเลยครับ ซึ่งมีคนทำแล้วนะครับ โดยเค้าเรียกว่า “Quantum resistance algorithm” แต่อย่างไรก็ตามการออกแบบแบบนี้ยังมีต้นทุนที่สูงมาก ๆ เกินกว่าจะนำมาใช้งานได้จริง ซึ่งผู้เขียนบอกว่าเราคงต้องรอให้เรื่องของการโจรกรรม Bitcoin เกิดขึ้นเสียก่อน ผู้คนถึงจะตื่นตัวกับเรื่องนี้และหันมาพัฒนาการป้องกันอย่างจริงจังครับ
……………..
📌 และสำหรับตอนต่อไปจะเป็นตอนสุดท้ายของหนังสือ AI 2041 นี้แล้วครับ ซึ่งจะเป็นการเล่าถึงเมื่อ AI เข้ามาแทนที่มนุษย์เราแล้วในอนาคต จะเกิดอะไรขึ้น มนุษย์จะตกงานมั้ย และสังคมจะเป็นอย่างไรในอนาคตเมื่อเงินอาจจะไม่ใช่สิ่งที่มนุษย์ต้องการสูงสุดอีกต่อไปครับ...
To be Continued…
#AI2041 #BookReview #รีวิวหนังสือ #สิงห์นักอ่าน
ป.ล. ถ้าไม่อยากพลาดการติดตามการรีวิวหนังสือดี ๆ แบบละเอียดยิบ ฝากกด Like กดติดตามเพจ รวมถึงยังติดตามได้อีกหนึ่งช่องทางใน blockdit - - https://www.blockdit.com/thecrazybookreader
โฆษณา