6 ธ.ค. 2021 เวลา 06:03 • กีฬา
วิงแบ็คฟอร์มสะเด่า "เจา คันเซโล่" - OhMyScnd
ต้องบอกเลยว่าเรื่องราวของเขาคนนี้ไม่ธรรมดาเลยสำหรับอดีตดาวรุ่งตำแหน่งปีกที่หันมาเอาดีทางด้านวิงแบ็ค ต้องยอมรับตรงๆกันเลยว่าฟุตบอลในยุคสมัยใหม่ผู้เล่นตำแหน่งสำคัญอีกตำแหน่งหนึ่งเลยคือแบ็ค ฟูลแบ็คในอดีตนั้นคือผู้เล่นเกมรับที่ยืนอยู่บริเวณริมเส้นทั้งสองฝั่ง ต้องเก่งเกมรับ ต้องมีความเร็วเพื่อช่วยป้องกันทีมในแนวกว้าง ด้วยวิวัฒนาการรูปแบบการเล่นในปัจจุบันมีความเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก คุณต้องทำหน้าที่มากกว่าหนึ่งตำแหน่งด้วยซ้ำ จึงได้เกิดตำแหน่งที่พัฒนามากขึ้นอย่าง วิงแบ็ค แบ็คที่เติมเกมรุกมากขึ้น ช่วยเหลือเกมรุกด้านข้าง จนพัฒนาสู่คอมพรีทวิงแบ็ค แบ็คที่ทำหน้าที่ทุกอย่างทั้งรับทั้งรุก จนปัจจุบันเกิดตำแหน่งใหม่เพิ่มมากอีกนั้นคือ วิงแบ็คตัวหุบข้างใน เขาทำหน้าที่อะไรเพิ่มเข้ามาอีก เขาเล่นแบบไหน สังเกตุได้จากเขาคนนี้ "เจา คันเซโล่"
ก่อนอื่นต้องมารู้จักกับตำแหน่งใหม่กันก่อน ในฟุตบอลยุคใหม่มันจะมีอยู่สองคำที่เพิ่มเข้ามาตามตำแหน่งใหม่ที่เกิดขึ้น นั้นก็คือ Complete wing back หรือเรียกภาษาทั่วไปก็คือวิงแบ็คเบ็ดเสร็จ ที่ทำหน้าที่ทุกอย่างริมเส้น โดยจะเน้นไปที่เกมรุกเป็นหลัก(เติมสูงยันสุดเส้นหลัง) ต่างจากเดิมคือ วิงแบ็ค ที่จะเป็นแบ็คเกมรับที่ขึ้นมาช่วยสนับสนุนเกมรุกได้ดีนั้นเอง(โดนหน้าที่หลังยังยืนต่ำกว่าปีกอยู่ดี) สังเกตุง่ายๆชัดๆเลยก็คือ ดานี่ อัลเวส สมัยค้าแข็งอยู่กับบาเซโลน่า เขาทำหน้าที่ทุกอย่างในฝั่งขวาทั้งรับทั้งรุก แต่เนื่องด้วยบาซ่าเป็นทีมที่เน้นบุกอัดฝั่งตรงข้ามดีอยู่แล้วเขาจึงประจำการอยู่ในแนวสูงได้ อีกคนที่ชัดเจนในตำแหน่งนี้เลยคือ เทรน อเล็กซานเดอ อาโนล แบ็ตดาวรุ่งอนาคตไกลของลิเวอร์พูล เขาจะยืนฝั่งขวาเต็มรูปแบบ คอยทำเกมจากแนวกว้างเข้ามา เพราะรูปแบบของลิเวอร์พูล จะใช้ โมเหม็ด ซาล่า ตัดเขาในไปยิง แล้วคันเซโล่ล่ะ??
เจา คันเซโล่ เดิมทีนั้นเป็นเขาเป็นผู้เล่นที่แจ้งเกิดในตำแหน่งปีกมาก่อนสมัยค้าแข้งอยู่กับบาเลนเซีย ยอดทีมจากแดนกระทิงดุ ทำให้ไม่ต้องถามต่อว่าทำไมเขาจึงถนัดในเกมรุกมากกว่าเกมรับ ปีสุดท้ายของเขากับบาเลนเซียนั้นเอง เขาถูกจับไปเล่นในตำแหน่งแบ็คอีกครั้ง(นับตั้งแต่สมัยเยาวชน)และด้วยความที่เขาเป็นคนที่ปรับตัวได้กับทุกตำแหน่งนั้นเองเขาจึงแจ้งเกิดกับตำแหน่งใหม่ ยาวไปจนร่วมทีมงูใหญ่ อินเตอร์มิลาน และยูเวนตุสในเวลาต่อมา หลังจากนั้นโชคชะตาได้พลิกผันอีกครั้ง แมนเชสเตอร์ซิตี้ที่เวลานั้นมีแบ็คขวานามว่า ไคล์ ว็อคเกอ ประจำการอยู่แล้ว แต่ด้วยความที่ไคล์ เป็นแบ็คยุคเก่าไม่ชำนาญเกมรุกมากนัก เจา จึงได้ย้ายมาร่วมทีมด้วยค่าตัวถึง65ล้านปอนด์(35ล้านบวกกันดานิโล่)
เขาใช้เวลาปรับตัวอยู่ถึงหนึ่งฤดูกาลกว่าๆ ขวบปีแรกของเขานั้นเป็นไปด้วยความลำบาก เขาถูกจับนั่งอยู่ข้างสนามบ่อยครั้ง เพราะต่อให้ ไคล์จะไม่เด่นเกมรุกแต่เกมรุกของแมนซิตี้จะขึ้นเกมทางฝั่งซ้ายเป็นส่วนใหญ่ จึงไม่จำเป็นต้องบุกมากนัก อีกทั้งการย้ายข้ามประเทศมายังเป็นเรื่องยากในการปรับตัวกับเรื่องนอกสนามอีกด้วย ทำให้ต้องใช้เวลาในการปรับตัวซักระยะหนึ่ง
ขวบปีที่สองของ คันเซโล่ เริ่มแสดงความสามารถออกมาได้อย่างเต็มที่ เขาถูกใช้สลับกับ ไคล์ ว็อคเกอร์อยู่เป็นระยะตามรูปเกม ถ้านัดไหนต้องการบุกอัด ผจก.ทีมก็จะเลือกใช้ คันเซโล่ ถ้านัดไหนต้องการเกมรับ รักษาผลการแข่งก็จะใช้ ว็อคเกอ ซึ่งเขาก็ได้ลงเล่นมากขึ้น จนเกือบยึดตัวจริงได้ถาวรเลยก็ว่าได้
ปีที่สามหรือก็คือฤดูกาลปัจจุบัน แมนซิตี้มีปัญหาแบ็คซ้ายเนื่องจาก เบนจาแมง เมนดี้ ต้องโทษคดีใหญ่ ทำให้ถูกพักงานและจำคุกรอการตัดสินโทษไปก่อน รวมทั้งอเล็กซานโดร ซินเชนโก้ มีปัญหาบาดเจ็บเล่นงานอยู่เรื่อยๆรวมทั้งปัญหาเรื่องความฟิต จึงเป็น คันเซโล่ นี่แหละที่ถูกขยับมาเป็นแบ็คซ้ายจำเป็นตั้งแต่ช่วงต้นฤดูกาลจนถึงปัจจุบัน ถ้าเป็นบุคคลทั่วไปก็คงจะได้ประคองตัว แต่เขาคือ เจา คันเซโล่ เขาถูกปรับขยับตำแหน่งบ่อยครั้งอยู่แล้วจึงไม่มีปัญหาเรื่องการปรับตัว
แล้วตำแหน่งของ คันเซโล่ คืออะไร ต้องบอกว่าปีนี้เขาถูกสลับทั้งซ้ายและขวาอยู่เสมอ จึงเกิดตำแหน่งใหม่ขึ้นมา แม้ว่าครั้งแรกตำแหน่งนี้ไม่ได้ถูกใช้เรียกตัวเขาก็ตาม ตำแหน่งของ คันเซโล่ถูกเรียกว่า Inverted Wing Back หรือแบ็คกลับด้าน อ่านไม่ผิด ตำแหน่งนี้ถูกเรียกว่า วิงแบ็คกลับด้าน ซึ่งเป็นการเขามาสร้างสรรคเกมรุกด้านในแทน ไม่ว่าจะฝั่งซ้ายหรือฝั่งขวาผู้เล่นตำแหน่งนี้จะยืนในระนาบเดียวกับกองกลางตัวรับคือยืนหลังกองกลางแต่ยืนหน้ากองหลังอีกที แต่การยืนจะฉีกออกมาด้านกว้างแต่ไม่ถึงริมเส้น ภาษาบอลเรียกจุดนี้ว่า "ฮาล์ฟสเปซ"
แล้วตำแหน่งนี้เวลารับหรือรุกต่างกันอย่างไร เวลาเล่นเกมรับหรือเป็นฝ่ายตั้งรับจะยืนริมเส้นตามตำแหน่งตัวรับริมเส้นแบบปกติ และหากฝั่งตรงข้ามตัดเข้าในก็สามารถตามมารับด้านในได้ ส่วนจังหวะเล่นเกมรุกหรือบุกก็จะยืนในตัวแหน่งด้านข้างกองกลางตัวรับคอยแทงบอลจากแนวลึกได้ ซึ่ง คันเซโล่ ทำได้ดีเกินคาดหวังไว้มาก
คันเซโล่ มีจุดเด่นในเรื่องความเร็วเป็นทุนเดิมอยู่แล้วในจุดนี้ ซึ่งไม่ต้องสาธยายอะไรมาก เรียกได้ว่าจรวดทางเรียบก็ว่าได้(พอๆกับว็อคเกอหรือสเตอริ่งเลย) แต่จุดเด่นที่ทำให้ฟอร์มการเล่นของเขาดีเยี่ยมขึ้นมาอีกก็คือการจ่ายบอลในแนวลึกซึ่งเป็นผลพวงมาจากการเล่นด้านในของเขานั้นเอง ย้อนกลับไปห้านัดหลังสุด เขาสร้างความประหลาดใจให้กับแฟนบอลอย่างมากด้วยการดีดไซด์ก้อยจากฝั่งซ้ายทะลุไปถึงกองหน้าทำประตูได้ หรือแม้กระทั่งการครอสบอลจากฝั่งซ้ายด้วยเท้าขวา ซึ่งดักทางได้ยาก ข้ามหัวกองหลังไปถึงเพื่อนที่วิ่งหาช่องทำประตูได้ทันที
อีกจุดเด่นของเขาปีนี้ที่จะไม่พูดถึงไม่ได้เลยคือ "การยิงไกล" เนื่องจากที่เขาเคยเล่นตำแหน่งปีกมาก่อน ไม่ต้องสืบสาวราวเรื่องถึงความคมกริบในการยิงประตูของเขาได้เลย เรียกว่าคมกว่ากองหน้าบางคนอีกก็ว่าได้ ช่วยทีมเบิกสกอร์ได้หลายต่อหลายครั้งอีกด้วย เป็นแบ็คที่ยิงไกลดีที่สุดคนหนึ่งเลยก็ว่าได้
เพราะเหตุนี้เองฟอร์มการเล่นของเขาในฤดูกาลนี้จึงเรียกได้ว่าที่สุดของวิงแบ็คแห่งปีคนหนึ่งเลยก็ว่าได้ เทคนิคอันแพรวพราวจากตำแหน่งเดิมที่เล่นเกมรุกอยู่แล้ว ความเร็วและการเพรชชิ่งเกมรับทำให้ตัวเขาสมบูรณ์แบบอย่างมาก จึงถือเป็นผู้เล่นฝั่งริมเส้นที่ฟอร์มดีที่สุดเลยก็ว่าได้ และคาดหวังว่าเขาจะทำผลงานแบบนี้ต่อไปอีกนาน เนื่องจากปัจจุบัน ไคล์ ว็อคเกอ อายุอานามเข้าสู่วัย31ปีแล้ว เรียกได้ว่าอายุการค้าแข้งเหลืออีกไม่มาก เจา คันเซโล่จึงเป็นนักเตะที่จะรับตำแหน่งนั้นไปได้ในที่สุด
ทางผู้เขียนก็คงต้องขอจบบทความเกี่ยวกับชายคนนี้ไว้เพียงแค่นี้ก่อน มีความเห็นอย่างไรกันบ้างกับเขาคนนี้ "เจา คันเซโล่" แบ็คขวา(หรือซ้าย)ตัวรุกเกินลิมิตของแมนซิตี้ สามารถพูดคุยกันได้ครับ ต่อไปจะเป็นใคร กดติดตามกดถูกใจไว้ได้เลย ทางผู้เขียนจะพยายามปรับปรุงการใช้ถ้อยคำเพื่อง่ายต่อความเข้าใจของผู้อ่านยิ่งขึ้น เพราะเราคือบทความเขียนสด ถ่ายทอดผ่านความรู้สึกและข้อมูลที่ได้รับมา รวมถึงประสบการณ์การดูบอลมาอย่างยาวนาน ผ่านถ้อยคำของคนดูบอลที่มีความรู้สึก มีดีใจ เสียใจ โกรธ เศร้า ปะปนอยู่ในเนื้อหาบ้าง - OhMyScnd
โฆษณา