8 ธ.ค. 2021 เวลา 12:58 • หนังสือ
======================
“สัปดาห์ละบทสองบท” || วันพุธ
======================
💶• MON€Y LECTURE
✍🏻• ลงทุนศาสตร์ เขียน
🔖• บทที่ 3 วาดด้วยมือตัวเอง [ 1/2 ] || ก่อนจะติดเครื่องยนต์ || เสียใจด้วย แต่คุณ (บางคน) ไม่ได้ไปต่อ || จาก SMART สู่ SMIRT

📝• บันทึกใจความแบบดิบ ๆ ที่ยังไม่ผ่านกระบวนการแปรรูป พร้อม บันทึกการอ่านของ อิคิ ∙ 生き
[ MON€Y LECTURE ]
===============
ก่อนจะติดเครื่องยนต์
===============
เราจะลงทุนไปทำไม?
เป้าหมายในการลงทุนนั้นสำคัญมาก
———
[ อิคิ ∙ 生き ]
หากให้ อิคิ ∙ 生き สรุปสั้น ๆ ก็คือ แผนการเงินที่ขาดเป้าหมาย ก็เปรียบเสมือนการเดินทางที่ไม่รู้จุดหมายปลายทาง หากเราเดินทางแบบนั้น จะทำให้เราเดินไปอย่างสะเปะสะปะ ไร้ทิศทาง เดินวนไปวนมา ที่สำคัญเราจะไม่มีวันถึงจุดหมายค่ะ เพราะเราไม่มีเป้าหมายตั้งแต่แรก หรือ ไม่รู้ว่าจะเดินไปไหนนั่นเอง
———
[ MON€Y LECTURE ]
ปกติเรามักตั้งเป้าหมายด้วยหลักการของ SMART โดยเป้าหมายที่ดีจะประกอบด้วยองค์ประกอบต่าง ๆ ดังต่อไปนี้
⌜S⌟ = Specific || เฉพาะเจาะจงและชัดเจน
⌜M⌟ = Measurable || วัดผลเป็นตัวเลขได้ชัดเจนว่าเราทำสำเร็จหรือไม่
⌜A⌟ = Achievable || บรรลุได้จริง ไม่ง่ายจนเรารู้สึกไม่ท้าทายและไม่ยากจนเรารู้สึกหมดหวัง
⌜R⌟ = Relevant || ต้องมีความสัมพันธ์กับเป้าหมายของคนอื่น ๆ ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง รวมไปถึงสอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน และสอดรับกับเป้าหมายที่อยู่สูงขึ้นไป
⌜T⌟ = Time-bounded || ต้องมีกรอบระยะเวลากำหนดชัดเจน ว่าจะทำให้สำเร็จโดยใช้เวลานานแค่ไหน เพื่อจะได้วางแผน วัดผล และสรุปผลลัพธ์ได้ง่าย
[ MON€Y LECTURE ]
====================
เสียใจด้วย แต่คุณ (บางคน)
ไม่ได้ไปต่อ
====================
แต่สำหรับการวางแผนการเงิน ซึ่งแตกต่างจากการตั้งเป้าหมายทั่วไป คุณลงทุนศาสตร์ (ผู้เขียน) จะยังคงคำว่า Specific || Measurable || Time-bounded ของ SMART ไว้
แต่จะตัด Achievable ออก เพราะเห็นว่า ปกติ SMART จะเป็นการตั้งเป้าหมายที่เน้นการทำงานในองค์กร และแน่นอนว่าองค์กรย่อมมีความทะเยอทะยานอยากที่จะเติบโตตลอดเวลา แต่การวางแผนการเงินนั้นแตกต่าง
สำหรับการวางแผนการเงิน แม้บางเป้าหมายอาจจะทำได้ง่ายมาก แต่เราก็ต้องตั้งเป้าหมายนั้นไว้ เพราะสิ่งนั้นมันจำเป็นที่ต้องมีในชีวิตอย่างขาดไม่ได้
ในทางกลับกัน เราก็สามารถตั้งเป้าหมายที่ท้าทายมากได้เช่นเดียวกัน หากเรามีความพากเพียร ศึกษาหาความรู้ ขยั่นหมั่นเพียร พัฒนาตัวเองอยู่เสมอ รวมไปถึงเข้าใจการลงทุนและความเสี่ยงที่ยอมรับได้ เราก็สามารถตั้งเป้าหมายที่ดูห่างไกลเรามาก ๆ ในวันนี้ได้เช่นกัน
นอกจากจะตัด Achievable ออกแล้ว คุณลงทุนศาสตร์ก็ตัด Relevant ออกเช่นกัน เพราะการตั้งเป้าหมายทางการเงินส่วนบุคคลไม่ได้ซับซ้อนเหมือนการตั้งเป้าหมายระดับองค์กร
เป้าหมายการเงินที่เรากำลังจะตั้งมันคือเป้าหมายของชีวิตเราคนเดียว ตามที่คุณลงทุนศาสตร์ ได้กล่าวไว้ว่า “เราผู้ตั้งเป้าหมายกับเราผู้ตัดสินก็เป็นคนเดียวกัน จะหลงใหลใฝ่ฝันในสิ่งใดก็ล้วนแต่เป็นสิ่งที่ทำได้”
ตัวละครหลักของเป้าหมายชีวิตเราค่ะ ไม่ได้มีทีมงานส่วนอื่น ๆ ของบริษัทมาเกี่ยวข้อง ที่เราจะต้องตั้งเป้าให้สอดคล้องกันทั้งองค์กร
[ MON€Y LECTURE ]
=================
จาก SMART สู่ SMIRT
=================
ดังนั้นคุณลงทุนศาสตร์ จึงได้สูตรการตั้งเป้าหมายใหม่ ด้วยการดัดแปลง SMART เป็น SMIRT โดยเปลี่ยนจาก ⌜A⌟ = Achievable เป็น ⌜I⌟ = Important และ เปลี่ยนจาก ⌜R⌟ = Relevant ของ SMART เป็น ⌜R⌟ = Risk Acceptance
เรามาพูดถึง ⌜I⌟ = Important กันก่อนนะคะ
⌜I⌟ = Important คือ ระดับความสำคัญต่อชีวิต ในการวางแผนการเงินสิ่งที่เราต้องเข้าใจเป็นอย่างมาก คือ ลำดับความสำคัญ และ ทรัพยากรที่มีจำกัด ( แต่ความอยากได้ของเราไม่มีจำกัด ) หากเราเลือกจะตั้งเป้าหมายทุกอย่างโดยไม่เรียงลำดับความสำคัญ ด้วยทรัพยากรที่เรามีอยู่อาจไม่สามารถทำให้เราบรรลุทุกเป้าหมายได้
ดังนั้นคุณลงทุนศาสตร์จึงแนะนำให้แบ่งระดับความสำคัญเป็น 2 ระดับ ดังต่อไปนี้
Want (ต้องการ) คือ อยากได้ แต่มีก็ได้ ไม่มีก็ได้ หากไม่มีเรายังสามารถใช้ชีวิตต่อไปได้ตามปกติ
Need (จำเป็น) คือ ต้องมี หากขาดไป ชีวิตจะลำบากอย่างมาก
ตัวอย่างเช่น การไปเที่ยวต่างประเทศ คือ เป้าหมายระดับ Want แต่การเก็บเงินเพื่อเกษียณเป็นเป้าหมายระดับ Need
———
[ อิคิ ∙ 生き ]
นอกจากตัวอย่างของคุณลงทุนศาสตร์ข้างต้น อิคิ ∙ 生き ขอกล่าวถึงอีกหนึ่งตัวอย่างที่คุณรวิศได้กล่าวไว้ในหนังสือ “รุ่งอรุณแห่งการเปลี่ยนแปลง” ในบทที่ชื่อว่า “ปริมาณความสุข”
คุณรวิศกล่าวว่า รถยนต์สำหรับเขามีสองประเภท
ประเภทที่หนึ่ง คือ รถที่เอาไว้ใช้งาน เป็นส่วนหนึ่งของงานที่ช่วยคุณรวิศหาเงินไม่ทางตรงก็ทางอ้อม สำหรับรถประเภทนี้ คุณรวิศจะเลือกรถที่แข็งแรง ปลอดภัย พังยาก ซ่อมง่าย ฯลฯ เรื่องภาพลักษณ์ความงามถือเป็นเรื่องรองลงมา
ส่วนรถประเภทที่สอง คือ รถที่ทำให้หัวใจพองโต เป็นรถที่เมื่ออยู่หลังพวงมาลัยแล้ว เวลาจะหยุดนิ่ง เราจะมีความสุขมากที่ได้ขับรถคันนี้ เหตุผลที่ซื้อรถประเภทนี้มักจะเป็นเหตุผลทางด้านอารมณ์ เอาเป็นว่าถ้าเราคิดด้วยเหตุผลเราคงซื้อรถประเภทนี้ไม่ลงแน่นอนค่ะ
เมื่ออ่านถึงตรงนี้ อิคิ ∙ 生き เชื่อว่าเพื่อน ๆ พอจะเดาออกแล้วนะคะ ว่ารถประเภทแรกที่เราเอาไว้ใช้งาน คือ Need เพราะถ้าเราไม่มีรถคันนี้ รายได้เราอาจลดลง ประสิทธิในการทำงานน้อยลง แต่รถประเภทที่สอง ที่ทำให้หัวใจพองโต เป็นความสำคัญระดับ Want ค่ะ คือไม่มีก็ได้ ยังไงเราก็สามารถใช้บริการรถสาธารณะได้ หรือจะซื้อรถ ECO CAR มาใช้ก็ยังพาเราไปไหนมาไหนได้เช่นกันค่ะ
[ MON€Y LECTURE ]
ส่วนอีกข้อที่คุณลงทุนศาสตร์ปรับแก้ คือ การเปลี่ยนจาก ⌜R⌟ = Relevant ของ SMART เป็น ⌜R⌟ = Risk Acceptance ค่ะ
⌜R⌟ = Risk Acceptance คือ ระดับความเสี่ยงที่เรายอมรับได้ คนเราแต่ละคนสามารถยอมรับความเสี่ยงได้ไม่เท่ากัน บางคนรับความเสี่ยงได้มาก บางคนรับความเสี่ยงได้น้อย การเข้าใจตัวเองว่าเรารับความเสี่ยงได้ระดับใดจะเราการวางแผนการลงทุนที่เหมาะกับเราได้มากขึ้น
[ อิคิ ∙ 生き ]
อิคิ ∙ 生き ขออนุญาตยกตัวอย่างให้เห็นภาพชัดเจนมากขึ้นค่ะ เช่น ระหว่างลงทุนคนบางคนขาดทุน 20% ก็ยังมองว่าเป็นเรื่องธรรมดา ในขณะที่บางคนขาดทุนเพียงแค่ 5% อาจจะทนไม่ได้ ต้องขายเงินลงทุนทั้งหมดออกมาค่ะ
มีทีมงาน อิคิ ∙ 生き ท่านหนึ่งเคยบอก อิคิ ∙ 生き ว่าก่อนหน้านี้เขาไม่เคยเงินไปฝากธนาคารเลย จะเก็บไว้เป็นเงินสดอยู่กับตัวเท่านั้น เพราะเขารู้สึกว่ามีเงินอยู่กับตัวแล้วอุ่นใจ เอาเงินไปฝากธนาคารแล้วกลัวเงินจะหาย นี่เป็นตัวอย่างแบบสุดโต่งของคนที่ไม่สามารถรับความเสี่ยงใด ๆ ได้เลยค่ะ
ประเด็นสำคัญ คือ การรับความเสี่ยงได้มาก ก็จะสามารถคาดหวังผลตอบแทนได้มากเช่นกัน แต่ต้องแลกมาด้วยความผันผวนระหว่างทางนะคะ ส่วนคนที่รับความเสี่ยงได้น้อยก็จะคาดหวังผลตอบแทนได้น้อย แต่ก็ได้ความสบายใจระหว่างการลงทุนเพิ่มขึ้นค่ะ
[ MON€Y LECTURE ]
สมมุติว่าเราต้องการเงิน 10,000,000 บาทตอนเกษียณอายุ 60 ปี เราต้องหาผลตอบแทนให้ได้ 10% แต่เมื่อทดสอบแล้ว เรารับความเสี่ยงได้ปานกลาง เพียงแค่ 5% เราจำเป็นต้องปรับแผน เช่น ลดมูลค่าเป้าหมาย หรือ ใส่เงินลงทุนสะสมแต่ละเดือนให้มากขึ้น
[ อิคิ ∙ 生き : หรือไม่ก็ยืดอายุการเกษียณให้มีระยะเวลาสะสมเงินมากขึ้น จากที่จะเกษียณอายุตอน 60 ปี เราอาจต้องเกษียณช้าลงอีก 5 ปี เป็นอายุ 65 ปี เป็นต้น ]
คุณลงทุนศาสตร์แนะนำให้ทุกคนทดสอบความเสี่ยงที่ยอมรับได้ก่อนวางแผนลงทุน ตาม LINK นี้ค่ะ
คุณลงทุนศาสตร์กล่าวว่าแบบทดสอบนี้ทำง่าย สนุก ไม่น่าเบื่อค่ะ
[ อิคิ ∙ 生き's Memo ]
ปกติเวลาที่ อิคิ ∙ 生き สอนทีมงานวางแผนงาน อิคิ ∙ 生き จะวาดรูป △ สามเหลี่ยมหน้าจั่วขึ้นมา 1 รูป โดย อิคิ ∙ 生き จะเรียก △ สามเหลี่ยมนี้ว่า “△ สามเหลี่ยมทรัพยากร” ค่ะ
เมื่อ อิคิ ∙ 生き วาด △ สามเหลี่ยม เรียบร้อยแล้ว อิคิ ∙ 生き จะเขียนคำว่า . . .
• เวลา ไว้ที่สามเหลี่ยมมุมหนึ่ง
• ปริมาณงาน ไว้ที่สามเหลี่ยมอีกมุม
• จำนวนคนทำงาน ที่สามเหลี่ยมมุมสุดท้ายที่เหลือ
โดย อิคิ ∙ 生き จะบอกทีมงานว่า ถ้าเรามีเวลาจำกัด ให้เราลองดูว่าเราหาคนมาช่วยงานเราเพิ่มได้หรือไม่ หากไม่ได้ เราอาจต้องลดปริมาณงานที่ทำลง โดยเรียงจากลำดับความสำคัญของงาน
แต่ถ้าหากเรามีคนทำงานจำกัดและเราก็ไม่สามารถลดปริมาณงานได้ เราก็ต้องเพิ่มเวลาในการทำงาน
หรือ ถ้าเราไม่สามารถเลื่อนงานไหนออกไปได้เลย เรามีทางเลือก คือ เราต้องเพิ่มจำนวนคนที่มาช่วยทำงาน ถ้าไม่อย่างนั้น เราก็ต้องเพิ่มเวลาทำงานล่วงเวลา หรือ ทำงานวันหยุดแทน
สรุปคือ ถ้าเราตัวแปรไหนติดเงื่อนไขหรือมีข้อจำกัด เราจะต้องมาบริหารจัดการตัวแปรที่เหลือค่ะ
เมื่ออ่านส่ิงที่คุณลงทุนศาสตร์ได้เขียนไว้ในบทนี้ ทำให้ อิคิ ∙ 生き คิดได้ว่า เราน่าจะใช้สามารถประยุกต์ใช้ “△ สามเหลี่ยมทรัพยากร” กับการวางแผนการเงินได้เช่นกัน โดยเปลี่ยนคำต่าง ๆ ดังนี้ค่ะ
• จำนวนคนทำงาน เปลี่ยนเป็น ความสามารถในการรับความเสี่ยง
• ปริมาณงาน เปลี่ยนเป็น จำนวนเงินลงทุน
• ส่วนคำว่า เวลา หรือ กรอบระยะเวลา อิคิ ∙ 生き ยังคงไว้ค่ะ
ดังนั้น หากเรามีความสามารถในการรับความเสี่ยงได้น้อย เราคงต้องเพิ่มเงินลงทุน หรือ เพิ่มระยะเวลาลงทุน โดยการยืดกำหนดเป้าหมายออกไปค่ะ
แต่ถ้าเรามีจำนวนเงินลงทุนไม่มาก เราก็ต้องเพิ่มระยะเวลาในการลงทุน หรือไม่ก็เพิ่มความสามารถในการรับความเสี่ยง หรือ กล่าวอีกอย่างว่าเพิ่มผลตอบแทนคาดหวังให้สูงขึ้น [ แต่การเพิ่มผลตอบแทนให้สูงขึ้น เราต้องรับความผันผวนในการลงทุนระหว่างทางที่มากขึ้นได้ด้วยนะคะ ]
สุดท้ายถ้าเรามีเวลาในการลงทุนไม่มาก เราก็ต้องเพิ่มความสามารถในการรับความเสี่ยง หรือ ไม่ก็จำนวนเงินลงทุนค่ะ
หลังจากอ่านบทความนี้ อิคิ ∙ 生き อยากแนะนำให้เพื่อน ๆ ลองจำ △ สามเหลี่ยมทรัพยากรในการวางแผนการเงินที่ อิคิ ∙ 生き อธิบายข้างต้นไว้ก่อนนะคะ อิคิ ∙ 生き เชื่อว่าในบันทึกการอ่านบทต่อ ๆ ไป เพื่อน ๆ จะได้ใช้ประโยชน์จาก △ สามเหลี่ยมนี้อย่างแน่นอนค่ะ
สำหรับวันนี้ อิคิ ∙ 生き ขอลาไปก่อนแล้วพบกันใหม่กับ Money Lecture ในวันพุธหน้านะคะ สวัสดีค่ะ 🙏🏻😊
หมายเหตุ : หากเพื่อน ๆ ท่านใดสนใจอยากรีบวางแผนการเงินของตนเอง จนอดใจรอ อิคิ ∙ 生き สรุปทีละบทไม่ไหว เพื่อน ๆ ก็สามารถสั่งซื้อหนังสือได้ที่ Link ด้านล่างนะคะ https://www.naiin.com/Product/Detail/509724?gclid=CjwKCAiAv_KMBhAzEiwAs-rX1HDPUGqFAoZi1Sf92jNRAxLAMPnoRJtKUXs1OYqAy_XoiliPqgau7xoCaCoQAvD_BwE
#สัปดาห์ละบทสองบท #moneylecture

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา