🔆วัฒนธรรม “นัดบอด” ที่เกาหลีใต้🔆
เห็นกันบ่อยในละคร กับประโยคที่ว่า “อาทิตย์หน้าจะไปนัดบอด” “ไปนัดบอดดีไหมนะ” “นัดบอดให้ฉันหน่อยสิ” ว่าแต่การนัดบอดที่เกาหลีเป็นเรื่องปกติแค่ไหน??
ชีวิตที่วุ่นวายและจริงจังที่เกาหลี ผู้คนทำงานหนักในสังคมที่แข่งขันกันตลอดเวลา ทำให้ไม่ค่อยมีโอกาสได้เจอผู้คนใหม่ๆ
.
.
จากเรื่อง Touch Your Heart
การพบคนถูกใจตามท้องถนนแล้วพุ่งเข้าหา ไม่ได้สร้างความรู้สึกที่ดีเท่าไร ถึงจะรู้สึกถูกใจจริงๆ อีกฝ่ายอาจจะคิดในมุมมองที่ไม่ดีได้ การนัดบอดผ่านคนกลางจึงเป็นเรื่องทั่วไป ไม่ใช่เรื่องแปลกประหลาด
.
.
ความสิ้นหวังของดินดินในการหาคู่(จาก 2D1N)
การนัดบอดมีหลายแบบด้วยกัน ลองมาดูนะคะว่ามีแบบไหนบ้าง
📍โซเกติ้ง (소개팅) เป็นการนัดพบกันตัวต่อตัว ผ่านการแนะนำของคนรู้จักหรือเพื่อนในแวดวงเดียวกัน เมื่อคนกลางเห็นว่าทั้งสองฝ่ายยังโสด และมีลักษณะนิสัย หรือคุณสมบัติที่น่าจะไปกันได้ ก็จะแนะนำทั้งสองฝ่ายให้รู้จักกัน โดยมากมักจะพิจารณาจากรูปถ่าย หากเป็นที่ถูกใจก็จะหาวันเวลามานัดพบกันจริงๆ
.
.
โซเกติ้งจะเป็นการนัดแบบ 1:1 (จากเรื่อง What’s wrong with secretary Kim)
เมื่อก่อนโซเกติ้งนัดพบกันตามร้านอาหารแล้วค่อยไปต่อร้านขนมหวานหรือคาเฟ่
แต่ปัจจุบันการนัดพบกันเริ่มที่คาเฟ่หรือร้านกาแฟ หากคุยกันแล้วไม่ถูกใจจะได้ไม่ต้องเสียเวลาค่ะ มูฟออนได้อย่างรวดเร็ว
.
.
ท่านรองฯไม่ถูกใจสิ่งนี้ (จากเรื่อง What’s wrong with secretary Kim)
📍มีตติ้ง (미팅) นิยมในกลุ่มวัยรุ่นมหาลัย เป็นการนัดบอดเป็นกลุ่มใหญ่ เช่น เพื่อนต่างคณะ ต่างสถานศึกษา โดยจะนัดจำนวนฝ่ายชาย-หญิงมาจำนวนเท่าๆกัน แล้วทำกิจกรรมร่วมกันหรือเล่นเกมสนุกๆเพื่อทำความรู้จักกันให้มากขึ้น
วิธีนี้ไม่ค่อยกดดัน เป็นการเข้าสังคมในอีกรูปแบบหนึ่ง ถ้าถูกใจกันหลังจากนี้ จะสานต่อก็ไปคุยกันเองค่ะ
นัดเป็นกลุ่ม5:5จากเรื่อง Go Back Couple
📍มัดซอน (맞선) เหมาะสำหรับผู้ใหญ่เป็นการนัดบอดที่จริงจังขึ้นมาอีกขั้น วิธีนี้เป็นการนัดดูตัวผ่านการตัดสินใจของผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่าย และมีเป้าหมายที่นำไปสู่การแต่งงาน คู่นัดจะได้รับการพิจารณาภูมิหลังครอบครัว หน้าที่การงาน อายุ ความเหมาะสมกันมาอย่างดี
การนัดในทำนองนี้มักจะเป็นการจัดการของพ่อแม่ที่อยากให้ลูกลงหลักปักฐาน คู่นัดที่ถูกเลือกจึงไม่พ้นลูกของเพื่อนหรือคนในแวดวงของพ่อแม่
พ่อแม่นัดหาคู่หมายให้ (จาก Something in the rain)
🔆ปัจจุบันหาคู่ผ่านเทคโนโลยี🔆
ชีวิตที่เร่งรีบ ไม่มีเวลาตรวจสอบสเปคหรือภูมิหลังฝ่ายตรงข้ามทำให้มีวิธีประหยัดเวลาในการหาคู่อีกมากมาย เช่น ใช้บริการบริษัทหาคู่ผ่านระบบสมาชิก หรือสมัครผ่านแอพพลิเคชั่นหาคู่ต่างๆ ซึ่งปัจจุบันมีหลากหลายแอพให้เลือกใช้
สถานการณ์การระบาดของโควิด-19ที่ต่อเนื่องยาวนานมาเป็นปี ผู้คนต้องเว้นระยะห่างจากกัน พฤติกรรมการนัดบอดของคนรุ่นใหม่จึงเริ่มเปลี่ยนไป
‼️”การวิดีโอคอลเดทออนไลน์”ผ่านแอพลิเคชั่นเริ่มเป็นที่นิยมอย่างมาก
‼️ล่าสุดแอพพลิเคชั่น “Clubhouse” ก็กลายเป็นอีกช่องทางที่ฮิตในโลกออนไลน์ การแนะนำตัวโดยผ่านการพูดคุยในห้องคลับเฮ้าส์เริ่มได้รับความสนใจ
น่าตื่นเต้นตรงที่ข้อมูลส่วนตัวผู้เข้าร่วมจะไม่ได้รับการเปิดเผย การตัดสินว่าชอบหรือไม่ชอบใคร จะฟังผ่านน้ำเสียงและบทสนทนา
ผู้เข้าร่วมจะได้แนะนำตัวในห้องโดยมีคนกลางคอยควบคุมการสนทนาเพื่อช่วยสรุปผลการพูดคุย และค้นหาคนที่ถูกใจ
🔆ได้อะไรจากการเรียนรู้วัฒนธรรมนี้🔆
วัฒนธรรมการนัดบอดในเกาหลีใต้นี้ ยังสามารถบ่งบอกอะไรได้หลายอย่าง แสดงถึงสภาพสังคมที่ทำงานกันอย่างหนักหน่วง Work Hard Play Hard จนไม่มีเวลาไปเจอใคร
นอกจากนี้จะได้เห็นถึงอิทธิพลของการตัดสินใจจากครอบครัว การหาคู่จึงอาจจะไม่ใช่แค่เรื่องของคนสองคน
แม่ตัดสินใจจับคู่ให้ (จากเรื่อง Strongest Delivery Man)
อย่างไรก็ตามการนัดบอดเพียงครั้งสองครั้งไม่ได้หมายความว่าจะได้เจอคนที่ใช่จริงๆ การมูฟออนจากการนัดบอดที่ไม่ถูกใจสามารถเกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็ว
ที่เกาหลีใต้การนัดบอดเป็นวิธีการหนึ่งที่ใช้ในการทำความรู้จักและสร้างความสัมพันธ์ ส่วนจะประสบความสำเร็จไหมก็เป็นอีกเรื่องนึง
บางคนนัดบอดมาเป็น 100 ครั้งก็ยังไม่เจอคนที่ถูกใจ ส่วนคนโชคดีอาจจะได้พบคนที่ใช่และแต่งงานกันหลังคบหากันไม่นาน
ว่าแต่ใครเคยมีประสบการณ์นัดบอดที่เกาหลีกันบ้างลองมาแชร์ให้ฟังกันได้นะคะ
สำหรับวันนี้ สวัสดีค่ะ
- 13
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
