14 ธ.ค. 2021 เวลา 12:40 • การศึกษา
8 เรื่องที่ควรเริ่มต้นศึกษาในปีหน้าเพื่อตามอนาคตให้ทัน
6
รู้สึกเหมือนกันไหมว่าทำไมปีนี้มันมีศัพท์แสงใหม่ๆ เรื่องใหม่ๆ เพิ่มขึ้นมามากมายเหลือเกิน…
2
คุณไม่ได้รู้สึกคนเดียว ผมก็รู้สึก แบบว่าเผลอแป๊ปๆ ก็มีคำใหม่ๆ เข้ามาอีกแล้ว
2
ใจนึงก็ขี้เกียจ อีกใจนึงก็รู้ว่า “ความเปลี่ยนแปลง” เป็น “สิ่งที่แน่นอน”
3
บางเรื่องมันอาจจะยังไม่เป็นรูปเป็นร่าง บางเรื่องเราอาจจะยังไม่เห็นภาพ แต่ถ้าเราลองพยายามศึกษาดู เราอาจจะเจอสิ่งที่ทำให้โลกนี้เปลี่ยนแปลงไปยัง Wave ใหม่ก็ได้นะ
8
จะ Ride the wave หรือ lost in the wave… ทางเลือกเป็นของคุณ
3
ป.ล. โพสต์นี้ผมเขียนขึ้นโดยอิงจากสิ่งที่ตัวเองกำลังศึกษาอยู่ (และกำลังจะศึกษาในปีหน้า) ถ้ามีเรื่องอื่นเรื่องไหนที่น่าสนใจ น่ารู้เพิ่ม มาแชร์กันได้นะครับ 🙂
2
1. Digital Literacy
1
เรื่องความรู้ความเข้าใจในโลกดิจิทัลเป็นเรื่องพื้นๆ ที่ไม่พื้นๆ เรื่องพื้นฐานอย่างพวก Security / 2 Factor Authen หรือเรื่องอะไรก็แล้วแต่ที่ทำให้คุณไม่โดนหลอกเป็นเรื่องสำคัญ
3
หรือเรื่องที่ผมจะเขียนถึงในข้อถัดๆ ไป ในตอนนี้อาจจะเป็นเรื่องใหม่ แต่ในอนาคต หลายๆ ข้อจะเป็นเรื่องที่ถูกพูดถึงโดยทั่วไป
2
ยิ่งพื้นฐานแน่น การต่อยอดจะไปต่อได้ไกล
2
ข้อนี้ในอนาคตจะสำคัญไม่แพ้ (หรือสำคัญกว่า) เรื่องภาษาเลย
1
#เริ่มยังไง ท่าง่ายๆ เลยคือไปทำ Account ต่างๆ บนโลกออนไลน์ของคุณให้ปลอดภัยก่อน เปิด 2 Factor Authentication
6
2. Coding, Low Code & No-code
Coding ถือเป็นหนึ่งในสกิลที่สำคัญสำหรับโลกอนาคต และมันเป็นสิ่งพื้นฐานที่จะทำให้เกิดสิ่งต่างๆ ที่ผมจะเขียนในข้อถัดๆ ไป
3
ใครที่เขียน Code ก็จะมีโอกาสต่อยอดพัฒนาไปได้มากกว่า
4
ทั้งนี้ ในฐานะที่ตอนปี 1 ผม D ในวิชา Java (น่าจะเป็น D คนสุดท้ายก่อน F 😂) ผมเข้าใจดีเลยว่าการเขียน Code มันไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับทุกคน
2
ในปัจจุบันมันก็มีเครื่องไม้เครื่องมือต่างๆ ที่ขอแค่มีไอเดียและ Logic ที่ดีในหัวก็ทำสิ่งต่างๆ ที่คิดไว้ให้เป็นจริงได้โดยที่ไม่ต้องพึ่งพานักพัฒนาไปซะทุกอย่าง ตัวอย่างเช่น WordPress.org, Weblflow.com, Bubble.io หรือ Connector อย่างพวก Zapier, Automate.io หรือ Integromat เป็นต้น
5
ซึ่งเครื่องมือเหล่านี้ที่เป็น Low Code หรือ No-code Platform นั้นก็เริ่มรองรับการพัฒนาซอฟต์แวร์ที่มี Logic ที่ซับซ้อนแล้ว (ไม่ใช่แค่แสดงผลทางหน้าบ้านอย่างเดียว แต่ User ยังสามารถ Interact และสร้าง Custom Logic ได้อีกด้วย)
4
ในอนาคต การ Democratize การพัฒนาซอฟต์แวร์ โปรแกรม หรือแอปต่างๆ นั้นจะยิ่งทำให้ทุกคนสามารถเข้าถึงได้มากขึ้น
1
ขอแค่มีหนึ่งสมอง สองมือ สี่ห้องหัวใจ พร้อมไอเดียดีๆ ก็ทำสิ่งที่คิดไว้ให้เกิดได้
1
#เริ่มยังไง ถ้าคิดว่าเรื่องการเขียน Code ยากเกินไป/ไม่ใช่ Priority ลองเข้าไปดูเครื่องมือ Low code หรือ No-code ต่างๆ ที่ผมแนะนำทางด้านบนได้ครับ หรือถ้าอยากเริ่มต้นเขียน Code อาจจะลองไปเรียนผ่านแอปอย่าง Mimo หรือ Sololearn
3
3. Data
ด้วยความที่ข้อมูลถูกเก็บไว้บนโลกดิจิทัล มันเลยมีจำนวนมากมายมหาศาลมาก (Big Data) ยิ่งขึ้น และสามารถนำมาวิเคราะห์ได้ดียิ่งขึ้น
4
ทักษะการวิเคราะห์และการจัดการข้อมูลเป็นเรื่องจำเป็น
3
นอกจากนั้นแล้ว เรื่อง Privacy เองก็มาแรงมากๆ จะเห็นได้จากที่ Apple เริ่มเข้มเรื่อง Privacy มากขึ้นใน iOS14 (คนยิง Ads ปวดหัวเพราะ Target Audience ได้ไม่แม่นเท่าเดิม) กฏหมาย GDPR, CCPA รวมไปถึง PDPA ของไทยที่ได้ข่าวมาว่า “มาแน่” (ถ้าไม่มีการเปลี่ยนแปลงด้านการเมือง)
8
#เริ่มยังไง ถ้ามีเว็บของตัวเอง ไปเล่น Google Analytics หรือมี Page ก็ไปดู Stat ใน Social หลังบ้านดู ไม่ต้องยิ่งใหญ่อลังการ เอาที่เกี่ยวข้องกับตัวเองก่อนก็พอ
2
4. AI
1
AI ย่อมาจาก Artificial Intelligence หรือเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ ที่เรียนรู้สิ่งต่างๆ จาก Data จำนวนมาก จนทำให้มันสามารถแนะนำหรือทำสิ่งต่างๆ ได้เหมือนมีสมองคิดได้เอง
6
ตัวอย่างเช่นในปีที่ผ่านมาผมเคยใช้ระบบ AI Writer ในการลองเขียนบทความ ซึ่งมันทำออกมาได้ดีระดับนึงเลย คือใส่ Input เข้าไปประโยคนึงแล้วให้มันเขียนเป็นพารากราฟออกมาให้
3
ซึ่งระบบ AI Writer หลายๆ เจ้าที่ผมใช้นั้นมันถูกสร้างบน Open AI ของ Elon Musk & Sam Altman ที่น่าจะเป็นบริษัทที่ทำเรื่อง NLP (Natural Language Processing) ที่ Advance ที่สุดในเวลานี้
3
#เริ่มยังไง ลองไปอ่านบทความ “[แชร์ประสบการณ์] ทดลองเขียนคอนเทนต์ด้วย AI Writer” ของผมเพื่อทำความเข้าใจดู https://contentshifu.com/blog/ai-writers-test
4
5. Blockchain
Blockchain คือเทคโนโลยีการเก็บข้อมูลที่ไม่มีตัวกลาง แต่เราจะรู้ว่าใครเป็นเจ้าของข้อมูลชุดไหน และ (ตามทฤษฏีแล้ว) แฮ๊คไม่ได้
5
สาเหตุที่ Blockchain เป็นเรื่องที่น่าศึกษาเพิ่มเติมเพราะว่ามันเป็นรากฐานที่สำคัญต่อเรื่องต่างๆ อีกมากมายหลายเรื่องที่อยู่ในลิสต์นี้ ถ้าเราไม่รู้จัก ไม่เข้าใจ Blockchain จะไปศึกษาเรื่องอื่นต่ออาจจะยิ่งงง
1
#เริ่มยังไง ด้วยความที่ว่า Blockchain มันไม่มีให้เห็นเป็นชิ้นเป็นอัน เพราะฉะนั้นวิธีง่ายที่สุดก็คือการอ่านครับ ลองไปอ่านดูได้ที่ https://techsauce.co/tech-and-biz/understand-blockchain-in-5-minutes หรือ https://www.investopedia.com/terms/b/blockchain.asp
1
6. Cryptocurrency
2
Cryptocurrency หรือสกุลเงินดิจิทัลถือเป็นอีกเรื่องที่ถูกพูดถึงมากที่สุดในปีนี้
7
เชื่อว่าน่าจะไม่มีใครที่ไม่รู้ว่าที่ Bitkub ถูกซื้อหุ้นไป 51% โดย SCB รวมมูลค่ากว่า 17,850 ล้านบาท
2
ซึ่งถ้าจะให้อธิบาย Cryptocurrency ง่ายๆ นั้นมันก็คือสกุลเงินคล้ายๆ กับ THB, USD แหละ แต่เป็นในรูปแบบดิจิทัลที่ถูกสร้างโดยเทคโนโลยี Blockchain ซึ่งสกุลเงินดังๆ ที่มีคนใช้เยอะก็อย่างเช่น Bitcoin, Etherium
1
#เริ่มยังไง ลองไปศึกษาการใช้งานของ Crypto Marketplace ของไทยอย่าง Bitkub, Zipmex, Satang หรือของต่างประเทศอย่าง Binance ดู
การลงทุนมีความเสี่ยง คุณควรศึกษาข้อมูลให้ดีก่อนลงทุนนะ (นี่ผมก็ดอย Crypto อยู่ 🥲)
2
7. NFT
NFT ย่อมาจาก Non-fungible Token ซึ่งคำนี้ถือเป็นคำที่มาแรงมากๆ ในช่วงครึ่งปีหลังนี้
1
ซึ่ง NFT คือสินทรัพย์บนโลกดิจิทัล (ไม่ว่าจะเป็นรูป งานศิลปะ ไอเทมในเกม หรืออสังหาริมทรัพย์บนโลกออนไลน์) ที่คุณสามารถซื้อแล้วเป็นเจ้าของได้ ซึ่ง NFT นั้นก็ถูกสร้างขึ้นมาด้วยเทคโนโลยี Blockchain และใช้ Crypto ในการซื้อขายกัน
2
อาจจะอ่านแล้วดูงงว่าจะมีใครซื้ออะไรแบบจริงๆ รึเปล่า
1
ก็ต้องบอกว่ามีครับ ซึ่งมันเป็นเรื่องของ Demand/Supply แหละ อย่าง NFT ของ Beeple ตัวนี้ https://www.theverge.com/2021/3/11/22325054/beeple-christies-nft-sale-cost-everydays-69-million ก็ถูกซื้อไปในราคา $69 ล้าน หรือถ้าจะให้ยกตัวอย่างที่ใกล้ตัวหน่อย ผมชอบ NFT ของ Uninspired by current events ครับ ลองไปดู NFT ที่เขาขายได้ที่ https://foundation.app/@ubce
3
#เริ่มยังไง ลองไปดูลิงก์ด้านบนที่ผมส่งให้ก่อน หรือถ้าอยากลองขาย NFT ดูก็ลองวาดรูปและเอาไปวางขายใน NFT Marketplace อย่าง OpenSea
3
8. Metaverse
1
โลกเสมือนอาจจะมาซ้อนทับโลกแห่งความจริงเร็วกว่าที่คิด เมื่อบริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง Meta (Facebook), Microsoft และอีกหลายบริษัทลงมาเล่นตลาดนี้
2
ผมชอบคำอธิบายนี้จาก Meta ครับ เขาบอกว่า Metaverse คือพื้นที่โลกเสมือนจริงที่คุณสามารถสร้างและค้นหาสิ่งต่างๆ กับคนอื่นที่ไม่ได้อยู่ในโลกแห่งความจริงที่เดียวกับคุณ
1
ซึ่ง Keyword ที่เกี่ยวข้องกับ Metaverse นอกจากเรื่อง Blockchain/Crypto แล้วคงเป็นเรื่อง AR & VR (Augmented Reality & Virtual Reality) ครับ ไปลองหาศึกษาต่อได้
2
#เริ่มยังไง ผมเคยทำคลิปอธิบาย Metaverse แบบสั้นๆ ไว้ ลองไปดูได้ที่นี่ https://youtu.be/fOspLf26Ocw ลองไปอ่านดูที่พี่ Mark อธิบายได้ที่นี่ https://www.youtube.com/watch?v=gElfIo6uw4g&ab_channel=CNET หรือถ้าอยากได้อะไรที่ล้ำๆ หน่อยก็ไปดูหนังไซไฟเรื่อง Ready Player One ครับ
สรุป
1
และนี่คือ “8 เรื่องที่ควรเริ่มต้นศึกษาในปีหน้าเพื่อตาม Future ให้ทัน” ในความเห็นของผมนะครับ
อ่านมาถึงตรงนี้แล้วถ้ารู้สึกว่าเยอะจัง จะเรียนรู้ยังไงหมด ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกครับ 😂 ทั้งนี้ผมมีเทคนิคที่ผมใช้มาฝากครับ คือพยายามเดินทางสายกลาง ศึกษาหลายๆ เรื่อง ตามอ่านตามฟังข่าวบ้าง และเน้นลงลึกแค่บางเรื่อง เพื่อที่ว่าในอนาคตจะได้สามารถ Connect the dots เชื่อมต่อสิ่งต่างๆ เข้าด้วยกันได้
6
ถ้ามีเรื่องอื่นที่น่าสนใจ น่าเรียนรู้เพิ่มเติม เพื่อตามโลกให้ทัน มาแชร์กันเพิ่มได้นะครับ 🙂
บทความนี้ถูกเผยแพร่ครั้งแรกที่ https://sitthinunt.com/self-development/learn-for-the-future/
1
ผมทำคอนเทนต์เกี่ยวกับ Business, Productivity, Self-development & Tech เป็นประจำ
 
ไม่พลาดคอนเทนต์ดีๆ ที่จะทำให้คุณเป็นคนที่ดีขึ้นกว่าเดิม เพียงเลือกติดตามผ่านทางช่องทางด้านล่าง :)
READ
💬 LINE: https://link.sitthinunt.com/line หรือแอด LINE ID: @sitthinunt
หรือเข้าไปอ่านบทความที่ผมเคยเขียนไว้ในเว็บไซต์อื่นของผมได้ที่ https://magnetolabs.com/blog/ และ https://contentshifu.com/author/bank/
โฆษณา