เมื่อหนุ่มสาวชาวญี่ปุ่นเปรียบเทียบหน้ากากอนามัยเป็นกางเกงในของใบหน้า 🤔
เพราะเจ้าโควิด-19 ตัวร้าย ทำให้ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าพวกเราต้องอยู่กับชีวิตที่มีหน้ากากอนามัยแปะบนใบหน้ากันมา 2 ปีแล้ว
ที่ฮิโรชิมะ มีการสำรวจโดยภาคเอกชนซึ่งมีผู้ตอบแบบสอบถามจากทั่วประเทศ
ปรากฎว่า 70% ของผู้ตอบแบบสอบถามบอกว่าแม้ว่าโควิด-19 จะหยุดระบาดแล้วแต่พวกเขาก็ยังจะใส่หน้ากากอนามัยต่อไป
เหตุผลก็คือ พวกเขากลัวการไม่สวมหน้ากากอนามัย ไม่อยากให้ใครเห็นใบหน้าที่แท้จริง การสวมหน้ากากอนามัยช่วยลดความวิตกกังวลเมื่อต้องเผชิญหน้ากับผู้อื่นได้ 😅
พนักงานออฟฟิศหญิงวัย 24 ปีคนหนึ่งที่อาศัยอยู่ในนิชิ-คุ ฮิโรชิมะ ก็ได้กล่าวว่า เวลาใส่หน้ากากจะดูสวยขึ้นอีก 20% เชียวนะคะ แม้โควิด-19 จะไม่ระบาดแล้ว ก็ยังจะใส่ต่อไปค่ะ เวลาถอดหน้ากากอนามัยออกแล้วไม่อยากให้มีคนคิดว่า "ผิดหวังจัง" 🥺
นอกจากนี้ตอนที่ไปเดทกับแฟน แล้วต้องถอดหน้ากากอนามัยเพื่อกินอาหารก็รู้สึกอายที่จะให้แฟนเห็นปากตัวเองจนถึงขั้นกินอาหารไม่อร่อยเลยค่ะ
ถ้าไม่ใส่หน้ากากอนามัย ก็รู้สึกเหมือนเวลาออกไปข้างนอกแล้วไม่ได้ใส่กางเกงในไปนั่นแหละ มันไม่สบายใจค่ะ 😅
ความคิดเช่นนี้ไม่ใช่มีเพียงแค่เธอคนเดียวเท่านั้น แต่หลายความเห็นในอินเทอร์เน็ต ก็เปรียบเทียบหน้ากากอนามัยว่าเป็น "กางเกงในของใบหน้า" เช่นกัน
คุณหมอทะมุระ ผู้อำนวยการ Tamura Mental Clinic ได้ให้ความเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า
การที่หน้ากากอนามัยกลายเป็นที่พึ่งทางใจของคนหนุ่มสาวในยุคปัจจุบันนั้นเป็นปัญหาของการสื่อสารรูปแบบหนึ่ง
ซึ่งกำลังจะกลายเป็น "ความเจ็บป่วยในยุคใหม่" ของคนรุ่นโซเชียลที่มีปัญหาด้านสื่อสารแบบเผชิญหน้ากับผู้คน ทำให้การปกปิดใบหน้าเป็นเหมือนการปกป้องตัวเอง ปกปิดความซับซ้อน และช่วยเวลาขาดความมั่นใจ
แม้ว่าโควิด-19 จะหยุดระบาดแล้ว แต่หลายคนคงจะสวมหน้ากากด้วยความสมัครใจกันต่อไป
ภาษาญี่ปุ่นน่ารู้ 📚
顔パンツ (かおぱんつ คาโอ พันสึ)
แปลว่า กางเกงในของใบหน้า
残念な顔 (ざんねんなかお ซานเน็นนะคะโอ)
แปลว่า ใบหน้าที่เห็นแล้วทำให้รู้สึกผิดหวัง
- 26
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
