14 ธ.ค. 2021 เวลา 00:17 • หุ้น & เศรษฐกิจ
“ราคาน้ำมันดิบปรับเพิ่มขึ้น” หลังนักลงทุนเริ่มคลายความกังวลเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของโอมิครอน
จากข้อมูลการศึกษาเบื้องต้นในประเทศแอฟริกาใต้ โควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนอาจมีความรุนแรงน้อยกว่าสายพันธุ์อื่นๆ ก่อนหน้านี้ แต่อาจแพร่ระบาดได้เร็วกว่าเดิม โอมิครอนส่งผลทำให้ราคาน้ำมันปรับลดลงหนักในช่วง 2 สัปดาห์ก่อน โดยราคาลดลงไปมากกว่า 10% อย่างไรก็ตาม ราคาน้ำมันเริ่มกลับมาปรับเพิ่มขึ้น หลังจากอาการของผู้ติดเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน พบว่าไม่มีความรุนแรงมากนักและไม่น่าจะส่งผลให้เกิดการล็อกดาวน์ทั่วโลกอีกครั้งหนึ่ง แม้ว่าบางประเทศจะเริ่มมีมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดที่เข้มงวดขึ้นบ้างแล้วก็ตาม
ผับและสถานบันเทิงในฝรั่งเศสถูกสั่งให้ปิดทำการทั้งสิ้นสี่สัปดาห์หลังจากนี้ ในขณะที่สหราชอาณาจักรขอให้ประชาชนทำงานจากที่บ้านเป็นหลักเพื่อลดการพบปะผู้คน และเดนมาร์กตัดสินใจปิด ร้านอาหาร ผับ และโรงเรียน ส่วนประเทศจีนที่ยังคงใช้นโยบาย Zero-COVID ได้มีการใช้มาตรการที่เข้มงวด เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโอมิครอน โดยในเขตเจิ้นไห่ ถูกล็อกดาวน์เป็นเวลา 2 สัปดาห์ หลังจากตรวจพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 5 ราย ทางด้านประเทศไทยได้มีการห้ามไม่ให้นักท่องเที่ยวที่มาจากกลุ่มประเทศในแอฟริกาที่มีความเสี่ยงสูงในการแพร่ระบาดของโอมิครอน เดินทางเข้าประเทศไทย และประเทศไทยเริ่มตรวจพบผู้ติดเชื้อสายพันธุ์ใหม่แล้วในสัปดาห์ก่อน
ราคาน้ำมันดิบ West Texas Intermediate (WTI) และราคาน้ำมันดิบเบรนท์ ปรับเพิ่มขึ้นเกือบ 10% จากระดับต่ำสุดในรอบ 4 เดือน เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม เป็นประมาณ 73.22 ดอลลาร์ และ 76.56 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลในวันที่ 9 ธันวาคมที่ผ่านมา ตามลำดับ โดยตลาดได้รับแรงหนุนจากการที่บริษัท BioNTech และ Pfizer ได้เปิดเผยว่าวัคซีนป้องกันโควิด-19 โดสที่ 3 ของทางบริษัทอาจช่วยป้องกันการติดเชื้อสายพันธุ์โอมิครอนได้ จากผลทดสอบพบว่าในระยะถัดไปวัคซีนที่ผลิตออกมา เพื่อป้องกันโอมิครอนโดยเฉพาะอาจจะมีความจำเป็น โดย Pfizer คาดว่าจะสามารถพัฒนาวัคซีนใหม่ได้แล้วเสร็จภายในช่วงไตรมาสที่ 1 ปีหน้า
รูปที่ 1: ราคาน้ำมันดิบ
จากข้อมูลของ FlightRadar24 จำนวนเที่ยวบินยังคงเพิ่มขึ้น เมื่อเทียบกับระดับก่อนการระบาดของโควิด-19 ซึ่งชี้ให้เห็นว่าการระบาดของโอมิครอนยังไม่ได้ทำให้ความต้องการน้ำมันลดลงอย่างมีนัยสำคัญ นอกจากนี้ทาง Bloomberg รายงานว่าจำนวนการใช้ถนนทางหลวงในสหรัฐฯ ยังอยู่ในระดับสูงสุดนับตั้งแต่เริ่มมีการระบาดอีกด้วย
ส่วนในประเทศแอฟริกาใต้ซึ่งเป็นศูนย์กลางการแพร่ระบาดของโอมิครอน ปกติจำนวนเที่ยวบินมีจำนวนน้อยอยู่แล้ว และปริมาณการใช้ถนนไม่ได้ลดลงแต่อย่างใด ในตอนนี้มาตรการการป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่เข้มงวดมีวงจำกัดอยู่เพียงในประเทศที่ใช้น้ำมันในปริมาณไม่มากนักจึงทำให้ความต้องการน้ำมันไม่ได้รับผลกระทบหนัก แอฟริกาใต้โดยปกติแล้วจะมีใช้น้ำมันประมาณ 550,000 บาร์เรลต่อวันก่อนการแพร่ระบาด ส่วนสหรัฐอเมริกามีการใช้น้ำมันเฉลี่ยประมาณ 20 ล้านบาร์เรลต่อวันซึ่งสูงกว่าประเทศอื่นมาก
รูปที่ 2: จำนวนการเดินทางโดยเครื่องบิน
ในสัปดาห์ที่แล้ว สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐฯลดลง 241,000 บาร์เรล ซึ่งเป็นสัปดาห์ที่สองติดต่อกัน ถือเป็นการลดลงต่ำกว่าคาดในขณะเดียวกัน OPEC+ มีข้อตกลงที่จะรักษาระดับการเพิ่มขึ้นของการผลิตทุกเดือนที่ 400,000 บาร์เรลต่อวัน แต่อาจจะมีการเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลาเนื่องจากความไม่แน่นอนของตลาด
รูปที่ 3: การเปลี่ยนแปลงในสต๊อกน้ำมันดิบรายสัปดาห์ของสหรัฐฯ
ไวรัสสายพันธุ์ Omicron ได้สร้างความไม่แน่นอนให้กับตลาดน้ำมัน ซึ่งเห็นได้จากความผันผวนของราคาน้ำมันที่พุ่งสูงขึ้น สำนักงานข้อมูลพลังงาน (EIA) ปรับลดประมาณการของราคาน้ำมันดิบเบรนท์และราคาน้ำมันดิบ WTI ลงเกือบ 2 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลในปีหน้า เนื่องจากบางประเทศยังคงมีมาตรการจำกัดการเดินทาง นอกจากนี้ ยังปรับลดประมาณการความต้องการใช้น้ำมันทั่วโลกสำหรับปีนี้เป็น 96.91 ล้านบาร์เรลต่อวัน ลดลง 620,000 บาร์เรลต่อวัน จากการประมาณการในเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ในปี 2564 คาดว่าตลาดน้ำมันทั่วโลกจะมีความต้องการเฉลี่ย 100.46 ล้านบาร์เรลต่อวัน รัฐบาลสหรัฐฯยังคงหามาตรการ เพื่อลดราคาเชื้อเพลิง ขณะที่กลุ่ม OPEC+ ตัดสินใจที่จะเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันตามแผนที่วางไว้
EIA คาดว่าราคาน้ำมันดิบเบรนท์ในเดือนธันวาคม 2564 จะมีราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 71 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ในไตรมาสแรกของปี 2565 จะมีราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 73 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลและราคาเฉลี่ยทั้งปีอยู่ที่ 70 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
รูปที่ 4: EIA ปรับลดประมาณการความต้องการน้ำมันดิบในปี 2564 และ 2565
Bangkok Bank Post ฉบับวันที่ 13 ธันวาคม พ.ศ. 2564
ผู้เขียน :
ธีระภูมิ วุฒิปราโมทย์ Economist, Bnomics
ปรียา ชัชอานนท์ Economist, Bnomics
ภาพประกอบ :
จินดาวรรณ อรรถมานะ Graphic Designer, Bnomics

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา