Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
Main Stand
ยืนยันแล้ว
•
ติดตาม
14 ธ.ค. 2021 เวลา 14:09 • กีฬา
AGUEROOOOO! : ทดเจ็บประวัติศาสตร์ที่เปลี่ยน แมนฯ ซิตี้ สู่ "บิ๊กทีม" | MAIN STAND
เป็นที่น่าเสียดายเมื่อ เซร์คิโอ อเกวโร่ ดาวยิงชาวอาร์เจนไตน์ ประกาศแขวนสตั๊ดด้วยปัญหาเรื่องของหัวใจ โดยที่เขาแทบไม่ได้ลงเล่นหรือสร้างช่วงเวลาดี ๆ ให้กับสังกัดใหม่อย่าง บาร์เซโลน่า เลยแม้แต่น้อย
อย่างไรก็ตาม หากมองในแง่มุมของเจ้าตัวเชื่อว่าเขาคงไม่เสียใจกับทุกสิ่งที่ตัวเองเลือก เพราะบนเส้นทางค้าแข้งของเขาได้สร้างปรากฎการณ์มากมาย
และผลงานมงกุฎยอดเพชรคือประตูชัยนาทีที่ 94 ในเกมสุดท้ายของ พรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2012-13 นี่คือประตูที่เปลี่ยนทุกอย่างของสโมสร แมนฯ ซิตี้ อย่างแท้จริง
ติดตามเรื่องราวทั้งหมดของวินาทีประวัติศาสตร์ของ "อเกวโร่ กุน" ได้ที่ MainStand
ทีมของพวกพลาสติกแฟน ?
แมนฯ ซิตี้ คือสโมสรที่ลืมตาอ้าปากได้อย่างเต็มตัวจากการโดนเทคโอเวอร์ครั้งสำคัญโดยกลุ่มทุน อาบูดาบี ในปี 2008 สิ่งที่เพิ่มขึ้นมานอกจากยอดเงินในบัญชีและความสำเร็จคือแฟนบอล เพียงแต่ว่าในช่วงแรก ๆ แฟนบอลของ ซิตี้ ถูกเรียกว่า "พลาสติกแฟน" หรือแปลความง่าย ๆ ว่ากองเชียร์ที่มาตามกระแส แม้ว่ากองเชียร์แมนฯ ซิตี้ ตัวจริงนั่นจะได้ชื่อว่าเป็นกลุ่มแฟนบอลเหนียวแน่นมาก ๆ ก็ตาม
ถ้าคุณนึกภาพไม่ออก ก็คงจะคล้ายกับวันที่ นิวคาสเซิล ได้เจ้าของสโมสรใหม่ มีเงินซื้อนักเตะไม่อั้น พร้อมเปลี่ยนทีมเป็นทีมลุ้นเเชมป์ วินาทีเดียวกันพวกเขาก็มีแฟน ๆ ในโลกออนไลน์เพิ่มขึ้นมามากมาย หลายคนออกตัวว่าเป็นแฟนนิวคาสเซิลตั้งแต่เด็ก ... ซึ่งจริง ๆ แล้วไม่ใช่เรื่องผิดเลยสักนิดหากใครจะเลือกเชียร์ทีมไหน ทุกคนล้วนมีเหตุผล และทางเลือกของตัวเองทั้งนั้น
ดังนั้นคำว่า "สโมสรพลาสติก" หรือ "แฟนบอลพลาสติก" อาจจะมีความหมายอีกนัยซ่อนอยู่ นั่นคือแฟน ๆ ของสโมสรอื่น ๆ ก็หวั่น ๆ ว่าเมื่อทีมเหล่านี้มีเงิน พวกเขาจะเปลี่ยนไปจากหลังมือเป็นหน้ามือ ดีขึ้นผิดหูผิดตา และก้าวขึ้นมาเป็นทีมที่ยิ่งใหญ่กว่าทีมรักของพวกเขา ซึ่งนั่นคือสิ่งที่แฟน ๆ และสโมสรแมนฯ ซิตี้ โดนแซวมาตลอด
แม้เงินจะเต็มกระเป๋าแต่การจะทำทีมฟุตบอลให้เป็นแชมป์พรีเมียร์ลีกได้นั้นไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ ตรงกันข้ามกับแฟนบอลทีมอื่น ๆ ที่รอซ้ำในวันที่ ซิตี้ พลาด ประโยคประมาณว่า "มีแต่เงินไม่มีฝีมือ" ก็มักจะดังขึ้นมาเสมอ
แมนฯ ซิตี้ เองถูกมองข้ามและโดนเพ่งเล็งหนักเป็นพิเศษมานานโข นักเตะที่เข้ามาตั้งแต่ยุคที่โดนเทคโอเวอร์ครั้งแรกโดย ทักษิณ ชินวัตร อย่างพวก โรแลนโด้ เบียงคี่, เวดาน ชอร์ลูก้า, จอร์จอส ซามาราส, เบนจานี่ และ โรบินโญ่ หรือคนอื่น ๆ อีกมากมายก็กลายเป็นพวกผ่านมาและผ่านไป ไม่มีใครก้าวขึ้นมาแบกทีมได้จริง ๆ จัง ๆ สักที
จนกระทั่งเปลี่ยนมาเป็นยุคกลุ่มทุนอาบูดาบี แม้นักเตะจะดีขึ้น ทีมเริ่มยกระดับตัวเองขึ้นมาเป็นทีมหัวตารางได้ แต่นั่นก็ไม่ใช่เป้าหมายที่บอร์ดบริหารตั้งไว้ พวกเขาต้องการเป็นเบอร์ 1 ของอังกฤษ โดยที่สมัยนั้นยังเป็นยุคที่เรียกว่าท็อปโฟร์ ประกอบด้วย แมนฯ ยูไนเต็ด, เชลซี, ลิเวอร์พูล และ อาร์เซน่อล ซึ่ง แมนฯ ซิตี้ ก็ยังไม่เคยแย่งเเชมป์ลีกมาได้เลยสักครั้ง
พวกเขาพยายามคว้าแข้งระดับแนวหน้าเข้ามาหลายคน หลายคนดีพอเป็นตำนานทั้ง ดาบิด ซิลบา, แว็งซ็อง ก็องปานี หรือ ยาย่า ตูเร่ แต่เชื่อเถอะรายชื่อทั้งหมดนี้ยังไม่มีใครสร้างอิมแพ็คต์ได้เท่ากับที่ เซร์คิโอ อเกวโร่ ดาวยิงวัยรุ่นที่พวกเขาได้ตัวมาจาก แอตฯ มาดริด เลยสักคน .... เพราะนี้คือตำนานของสโมสรแห่งทศวรรษที่ผ่านมาโดยไม่ต้องสงสัย
การย้ายทีมที่ไม่ได้มีอะไรพิเศษ
1
อเกวโร่ ย้ายมาอยู่กับ แมนฯ ซิตี้ ในปี 2011 ด้วยค่าตัว 30 ล้านปอนด์โดยประมาณ ณ เวลานั้นเขาอาจจะพูดผ่านสื่อว่าต้องการมาเปลี่ยนแปลงประวัติศาสตร์หรืออะไรก็ตามที่เป็นสัมภาษณ์ย้ายทีมแบบยาหอมทีมใหม่ แต่เมื่อไม่นานนี้เขาบอกว่าการย้ายมา แมนฯ ซิตี้ ในตอนแรกนั้นในความรู้สึกของเขาคือ ไม่มีสิ่งใดเป็นพิเศษเลย เขาแค่อยากจะเล่นให้กับสโมสรไหนก็ได้ในพรีเมียร์ลีกก็พอ
"ตอนผมตัดสินใจจะย้ายมาที่นี่ ผมคิดอย่างเดียวว่าผมแค่อยากเล่นพรีเมียร์ลีกก็พอ ผมถามเอเย่นต์และเขาก็บอกว่าคุณต้องย้ายไป แมนฯ ซิตี้ ซึ่งผมก็ตอบว่าโอเคไม่มีปัญหา เพราะผมชอบพรีเมียร์ลีกเป็นทุนเดิมอยู่เเล้ว" อเกวโร่ กล่าวกับ Sky Sport
แม้จะไม่ได้คาดหวังเรื่องความสำเร็จใหญ่โตเกินโต แต่เมื่อ อเกวโร่ มาถึง สิ่งที่เขาแสดงออกคือการเป็นมืออาชีพ เขาไม่เคยมองว่า ซิตี้ เป็นทางผ่านของเขา เขาแค่ต้องรีบปรับตัวให้ได้ เล่นให้ดี และช่วยยกระดับทีมให้ได้ ซึ่งในตอนแรกนั้นไม่ง่ายเลย
อเกวโร่ เล่าว่าเขาพูดภาษาอังกฤษไม่เป็นเลยแม้แต่คำเดียว เขาไม่เคยมีคาบเรียนวิชาภาษาอังกฤษเลยที่ อาร์เจนติน่า ดังนั้นการต้องมาฟังคำสั่งและการสนทนาในทีมแบบภาษาอังกฤษล้วน 100% พูดเร็วและไว คือปัญหาที่เขาต้องรับมือเป็นอย่างมาก
แต่อย่างที่กล่าวไว้เมื่อเป็นมืออาชีพ ไม่ว่ายากแค่ไหนก็ต้องทำให้ได้ และ อเกวโร่ เป็นคนแบบนั้น แม้จะเริ่มหัดเรียนหัดพูดอังกฤษได้แบบงู ๆ ปลา ๆ แต่เขาเข้าใจสิ่งที่สำคัญกว่านั้นของการเป็นกองหน้า ยิ่งกว่าการพูดอังกฤษให้ได้ คือการ "ยิงประตู"
เปรี้ยงหายสไตล์กุน
อเกวโร่ คือกองหน้าแบบกองหน้าแท้ ๆ ใครที่เคยทำงานกับเขาก็เล่าเรื่องราวไม่ต่างกัน ในเรื่องวิธีการทำประตูที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว การใช้ความเร็ว เปลี่ยนสเต็ปเท้าแหวกกองหลังของคู่แข่ง และวินาทีการวางเท้ายิงที่เฉียบคม นำมาซึ่ง สกอร์ที่ไหลมาเทมาในการเล่นที่อังกฤษซีซั่นแรก
ริโอ เฟอร์ดินานด์ กองหลังของ แมนฯ ยูไนเต็ด ที่ผ่านการดวลกับ อเกวโร่ ในช่วงพีก ๆ อยู่บ่อย ๆ เล่าถึงมุมมองของกองหลังอย่างเขาว่า สาเหตุที่อเกวโร่ เป็นคนที่วางเท้าดี ทรงตัวเวลายิงได้เเข็งแกร่งก็เพราะจุดศูนย์ถ่วงที่ต่ำ เหนือสิ่งอื่นใดคือการตัดสินใจที่แม่นยำและรวดเร็ว คิดจะยิงต้องยิงทันที โดยไม่ให้ใครได้ตั้งตัว
"อเกวโร่ มีครบเลยจุดศูนย์ถ่วงต่ำ เร็ว และพุ่งเป็นเส้นตรงไปที่ประตูของคุณ เขาไม่ใช่กองหน้าที่ชอบสัมผัสบอลเยอะอะไรแต่ทีเด็ดคือเป็นคนที่ตัดสินใจได้รวดเร็วมาก ๆ คุณลองดูก็ได้ เขาจะแตะบอลประมาณ 1-2 ครั้ง ไม่ค่อยจะเกินนี้หรอก เข้าซ้ายก็ยิงซ้าย เข้าขวาก็ยิงขวา คุณจะปวดหัวเลยเพราะคุณคาดเดาไม่ได้ว่าเขากำลังจะทำอะไร ... พูดก็พูดเถอะ อเกวโร่ คือหนึ่งในนักเตะที่สร้างความยากลำบากมากที่สุดเเล้วในช่วงท้ายอาชีพของผม" เฟอร์ดินานด์ กล่าว
1
สิ่งที่เฟอร์ดินานด์อธิบายบอกทุกอย่างชนิดที่ว่าทำให้เรานึกภาพการเล่นและการยิงของ อเกวโร่ ออกทันที การยิงแบบทันทีทันควันคือสิ่งที่เขาพยายามฝึกมาตลอด มันไม่ใช่แค่เรื่องการวางเท้ายิง แต่มันต้องใช้สมาธิและการอ่านเกมด้วย
"ผมมองหาช่องว่างที่จะเข้ากรอบเขตโทษเสมอ 10 นาทีแรกของเกมเป็นเวลาที่ดีที่สุดที่ผมจะหาช่องว่างนั้นได้ ต่อให้ยิงไม่ได้ก็ไม่เป็นไร แต่มันจะทำให้คุณเห็นทั้งเกมเลย เห็นว่าคู่แข่งตั้งรับอย่างไร คุณสามารถรู้ได้เลยว่าคุณจะต้องยืนตำแหน่งแบบไหน"
"สมาธิคือสิ่งที่คุณควรมี ผมอ่านเกมและพยายามวิ่งให้เร็วที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ ถ้าผมถึงคนแรกทุกอย่างจบเลย ... ฉะนั้นถ้าคุณสังเกตดี ๆ ผมจะเป็นคนที่มองการเคลื่อนที่ของเพื่อนร่วมทีม ผมดูว่า ซาเมียร์ นาสรี่ หรือ เฆซุส นาบาส เคลื่อนไหวอยู่เสมอ และเมื่อไหร่ที่พวกเขาเริ่มครอสบอลเข้ามา ผมก็จะอ่านจังหวะได้ก่อนและวิ่งไปรอที่จุดนัดพบได้เลย"
"รายละเอียดเหล่านี้ต้องพยายามศึกษาเพื่อนร่วมทีมให้ได้มาก ๆ จนถึงขั้นที่คุณทำได้แบบอัตโนมัติเลย นักเตะแต่ละคนล้วนมีวิธีเล่นที่แตกต่าง การส่งบอลที่ไม่เหมือนกัน แต่ไม่ว่าใครจะเปิดแบบไหน สิ่งสำคัญที่สุดคือคุณต้องไปให้ถึงจุดนัดพบคนแรกเสมอ" นี่คือส่วนหนึ่งที่ อเกวโร่ บอกถึงวิธีเล่นของเขา และทุกสิ่งหลังจากนี้ "คือตำนาน"
AGUEROOOO!
สิ่งที่ อเกวโร่ อธิบายถึงวิธีการเล่นของเขา ผลิดอกออกผลไม่หยุดในแง่ของประตู แม้จะเล่นในพรีเมียร์ลีกฤดูกาลแรก แต่ลีลาการมุดยิง และซัดเข้ามุมด้วยเท้าซ้ายและขวาของเขา แต่ไม่มีประตูไหนจดจำเท่ากับเกมนัดสุดท้ายของฤดูกาล 2011-12
สถานการณ์ตอนนั้น แมนฯ ซิตี้ มีแต้มเท่ากันกับ แมนฯ ยูไนเต็ด คู่ปรับตลอดกาลของพวกเขาเป๊ะที่ 86 คะแนน เกมสุดท้าย ยูไนเต็ด จะต้องออกไปเยือน ซันเดอร์แลนด์ ขณะที่ ซิตี้ เปิดบ้านรับการมาเยือนของ คิวพีอาร์
จริง ๆ มันควรจะเป็นงานง่ายของ ซิตี้ ที่เล่นดีดุดันมาตลอดทั้งปี แต่ถ้าเป็นอย่างนั้นมันก็คงไม่เป็นตำนาน ในขณะที่ ยูไนเต็ด ได้ประตูจาก เวย์น รูนี่ย์ ตั้งแต่ครึ่งแรกและลากยาวจนจบเกม ในเวลาไล่ ๆ กัน ซิตี้ กลับเล่นในบ้านและถูก คิวพีอาร์ ยิงนำไป 0-1 และเป็นสกอร์นั้นจนถึงนาทีที่ 88 ของเกม ด้วยสถานการณ์ที่แค่เสมอก็ไม่พอ ทำให้แฟน ๆ ของ ยูไนเต็ด เริ่มยิ้มหวานเเล้วกับสกอร์นี้
อย่างไรก็ตาม เอดิน เชโก้ ต่อชะตาให้กับ แมนฯ ซิตี้ ในนาที่ 89 ของเกม ด้วยการยิงประตูเสมอ 1-1 และลากยาวมาจนถึงช่วงทดเวลานาทีที่ 4 นาทีประวัติศาสตร์ที่เปลี่ยนแปลงสโมสรนี้ก็เริ่มขึ้น
มาร์ติน ไทเลอร์ ผู้บรรยายจากช่องสกายสปอร์ต เริ่มพูดประโยคที่ถูกเล่นซ้ำไม่รู้กี่รอบต่อกี่รอบ "แมนฯ ซิตี้ ยังไม่ตายและเดินหน้าบุกในเวลานี้ .... บาโลเตลี่ ... อเกวโร่ววววววววววววววววว"
"สาบานได้เลยคุณไม่มีทางเห็นอะไรแบบนี้เกิดขึ้นอีกครั้งแน่นอน จงเบิกตาดูและดื่มด่ำนาทีประวัติศาสตร์" ไทเลอร์ พากย์ในการถ่ายทอดสด
มันเป็นลูกยิงของถนัดที่ อเกวโร่ ทำบ่อย ๆ เขาอ่านการเคลื่อนไหวของ บาโลเตลี่ หนึ่งในนักเตะที่คาดเดาว่าจะทำอะไรในจังหวะต่อไปได้ยากที่สุด เขาถอยตัวลงมาต่ำและรอเล่นแถวสองปล่อยให้ผู้เล่น คิวพีอาร์ ที่ยืนในกรอบเขตโทษตัวเองเกือบทั้งทีม ตอนนี้เขาว่างแล้ว และเขากำลังทำในสิ่งที่เขาอธิบายไปในข้างต้น นั่นคือเขาไปถึงบอลคนแรก ดังคำที่ว่า "ถ้าผมถึงคนแรกทุกอย่างจบเลย"
youtube.com
AGUEROOOOO!! Man City vs QPR w/intense music
This literally gave me goosebumps while I was editing this!!! One of the greatest moments in the whole of the premier league history!!!! Please like and subs...
"ตอนผมสัมผัสบอล ผมคิดในใจว่า 'โอเค อาจจะพอเรียกจุดโทษได้' เซ็นเตอร์ของคิวพีอาร์สัมผัสผมนิดหน่อย แต่ไม่แรงเท่าไร ผมเลยวัดใจด้วยการลากต่อไปอีก พอถึงตรงนั้นผมได้คำตอบว่าต้องยิงเท่านั้น แต่ขึ้นอยู่กับว่าจะง้างเท้าเมื่อไหร่แค่นั้นเอง"
"เมื่อจังหวะและโอกาสมาถึงผมยิงในแบบของผมเสมอ นั่นคือการตัดสินใจยิงให้แรงที่สุดโดยเล็งไปที่เสาแรก" อเกวโร่ เล่าวินาทีนั้น
ประตูดังกล่าวส่งให้ แมนฯ ซิตี้ เป็นแชมป์พรีเมียร์ลีกสมัยแรก ดับคำวิจารณ์ทั้งหมดที่ทุกคนเคยมีกับสโมสรนี้ว่า "มีแต่เงินไม่มีคลาสไม่มีทางเป็นแชมป์ได้" เช่นเดียวกับฝั่งแฟนบอลคู่ปรับอย่าง แมนฯ ยูไนเต็ด ที่เคยพูดมาเสมอว่า "แมนเชสเตอร์ มีแค่สโมสรเดียว" เอาไว้ข่มฝั่ง ซิตี้ มาตลอด ถึงนาทีประวัติศาสตร์นั้นทุกอย่างได้นำมาสู่การเริ่มต้นรัชสมัยของ แมนฯ ซิตี้ อย่างที่เราเห็นกันอยู่ทุกวันนี้
กุน อเกวโร่ ทำให้ แมนเชสเตอร์ มี 2 สโมสรโดยที่ไม่มีใครกล้าโต้แย้ง และเหนือสิ่งอื่นใดคือ ณ เวลานี้จุดเริ่มต้นจากฤดูกาล 2011-12 ส่งให้ ซิตี้ กลายเป็นสโมสรที่ประสบความสำเร็จมากกว่า ยูไนเต็ด ในรอบทศวรรษที่ผ่านมา
แชมป์ครั้งนั้นไม่ใช่แค่ถ้วย และการลบล้างคำดูถูก แต่มันคือการฝัง DNA ของผู้ชนะลงไปให้กับทั้งสโมสรแมนฯ ซิตี้ พวกเขาไม่จำเป็นต้องเดินห่อไหล่เพราะโดนใครแซวอีกเเล้ว นักเตะในทีมเมื่อมีประสบการณ์เป็นเเชมป์ พวกเขาก็กลายเป็นนักเตะที่ดีขึ้นเก๋าขึ้น สโมสรที่มีแชมป์ประดับก็ทำให้ทีมมีมูลค่าสูงขึ้น และเมื่อมีแชมป์ มีความยิ่งใหญ่ก็ดึงดูดโค้ชทีดีและนักเตะที่ดีขึ้นได้
แม้ส่วนประกอบของความสำเร็จของ แมนฯ ซิตี้ จะมีมากมายหลายประการ แต่เราไม่อาจปฎิเสธได้เลยว่าประตูนั้นของ อเกวโร่ สำคัญกับสโมสร แมนเชสเตอร์ ซิตี้ แค่ไหน ...
บทความโดย ชยันธร ใจมูล
แหล่งอ้างอิง :
https://bleacherreport.com/articles/2542452-sergio-aguero-changes-to-no-10-shirt-at-manchester-city-will-sign-any-no-16s
https://indianexpress.com/article/sports/football/english-premier-league/sergio-aguero-goal-that-changed-football-6408461/
https://www.skysports.com/football/news/11679/10871583/remembering-sergio-agueros-man-city-title-winning-goal-five-years-on
https://www.skysports.com/football/news/11095/12313197/sergio-aguero-tells-martin-tyler-about-premier-league-winning-goal-vs-qpr-his-decade-at-man-city-and-his-future
https://www.fourfourtwo.com/performance/training/sergio-aguero-shake-your-marker
https://footballpredictions.net/blog/why-are-manchester-city-fans-called-plastic
5 บันทึก
11
1
5
11
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย