18 ธ.ค. 2021 เวลา 12:00 • ธุรกิจ
รู้จัก กลยุทธ์เหาฉลาม ที่ทำให้ธุรกิจเติบโตด้วยการเกาะคนอื่น
2
เหาฉลาม คือปลาชนิดหนึ่งที่ทำตัวคล้ายเหา ซึ่งมันจะเกาะติดกับฉลามอยู่เสมอ เพื่อว่าจะได้กินเศษอาหารที่เหลือจากปลาใหญ่เหล่านี้ โดยที่ไม่ต้องเสียเวลาและเหนื่อยกับการหาอาหารเอง
3
ดังนั้นหากเลือกฉลามได้ถูกตัว เหาฉลามก็จะสามารถมีชีวิตอยู่ได้อย่างสบายไปตลอด
1
กลยุทธ์เหาฉลาม.. ก็คล้ายกับสัตว์ที่กล่าวถึงเลย
1
โดยเป็นกลยุทธ์ทางธุรกิจ ที่มักนิยมสำหรับธุรกิจที่มีขนาดเล็ก เพื่อใช้สร้างการเติบโตและเสริมความแข็งแกร่งได้อย่างรวดเร็ว โดยการเกาะกระแสหรือบริษัทใหญ่ต่าง ๆ แล้วเติบโตไปด้วยกัน
1
แล้วกลยุทธ์เหาฉลาม มีกี่แบบ และอะไรบ้าง ?
กลยุทธ์เหาฉลาม จะแบ่งเป็น 2 ส่วนหลัก ดังนี้
1
1. เหาฉลามเกาะแพลตฟอร์มหรือบริษัทใหญ่
เริ่มจากฝั่งออนไลน์ก่อน หลายคนคงรู้ว่าการสร้างเว็บไซต์เป็นของตัวเอง เพื่อขายสินค้านั้น ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย มีเรื่องชวนปวดหัวมากมาย
ตั้งแต่การออกแบบเว็บไซต์ให้ใช้งานง่าย การโปรโมตดึงดูดลูกค้า สร้างระบบการเก็บข้อมูลที่ดี และการบริหารในส่วนอื่น ๆ
1
หากคิดแล้ว ก็ดูเหมือนว่าการเลือกพึ่งพาตัวเอง จะมีค่าใช้จ่ายที่สูงเกินไป และอาจต้องใช้เวลานานในการสร้างธุรกิจ
1
ดังนั้นคงดีกว่า หากเราใช้กลยุทธ์เหาฉลาม โดยการนำแบรนด์ของตัวเอง ไปวางขายหรือโปรโมตผ่านแพลตฟอร์มที่มีชื่อเสียงและฐานผู้ใช้งานจำนวนมากอยู่แล้ว
1
เช่น Shopee และ Lazada แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ ที่ปัจจุบันมีฐานลูกค้าเฉพาะในไทยนับหลักสิบล้านคน และมีระบบซัปพอร์ตอีกมากมายสำหรับการทำธุรกิจอยู่แล้ว
3
รวมถึงมีโปรโมชันแจกจ่ายให้ผู้ใช้งาน/ลูกค้า โดยที่บางครั้งร้านค้าไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายเลย
1
หรือ TikTok ก็ตาม ก็ถือเป็นอีกแพลตฟอร์มที่น่าสนใจสำหรับการเกาะ เพราะช่วยให้เราโปรโมตธุรกิจแก่คนจำนวนมาก โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใด ๆ เลย
ส่วนทางฝั่งออฟไลน์ เชื่อว่าหลายคนก็คงจะเคยเห็นแล้ว แต่ไม่ได้นึกถึง เพราะคุ้นชินไปแล้ว
หากยกตัวอย่างก็เช่น อาหารแผงลอย ที่ไปวางขายหน้าร้านสะดวกซื้ออย่าง 7-Eleven และ Lotus's go fresh ซึ่งเป็นสถานที่ที่มีคนสัญจรเยอะอยู่แล้ว ทำให้กลุ่มพ่อค้าแม่ค้าประเภทนี้ได้รับประโยชน์ไปเต็ม ๆ
3
หรือการเดินขายของตามสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ ก็ตาม
พวกนักท่องเที่ยวเอง ก็พร้อมจะใช้เงินเพื่อจับจ่ายใช้สอย
จากตัวอย่างคงสรุปได้ว่า การเกาะแพลตฟอร์มหรือบริษัทใหญ่ สามารถสร้างโอกาสได้มากกว่าการที่เราลุยทำธุรกิจเพียงคนเดียวจริง ๆ
1
2. เหาฉลามเกาะกระแส
เหาฉลามประเภทนี้ จะพยายามใช้กระแสที่มีอยู่ ณ ขณะนั้น ในการโปรโมตแบรนด์ตัวเองควบคู่ไปด้วย
เช่น ช่วงฟุตบอลโลก สังเกตได้ว่า มีร้านค้าและแบรนด์มากมาย ที่ตกแต่งร้านค้าของตนในธีมฟุตบอล อย่างประดับธงแต่ละชาติ พนักงานสวมเสื้อฟุตบอล เพื่อเกาะกระแสและดึงดูดลูกค้าได้
3
และกระแสอื่น ๆ อีกมากมาย ที่ธุรกิจต่างพยายามเกาะไปด้วย ตั้งแต่ บุพเพสันนิวาส ที่มีหลายร้านอาหารเกาะทำการตลาดไปด้วย จนล่าสุดที่มีหลายแบรนด์ต่างไปโปรโมตผ่านช่องทางไลฟ์สดของ 2 พระสงฆ์
2
ตัวอย่างแบรนด์ดังที่นิยมใช้กลยุทธ์เหาฉลามเกาะกระแส คงไม่พ้น Tops Thailand ที่มักจะหยิบสินค้าที่วางขาย มาสร้างสรรค์เป็นคอนเทนต์ที่เกาะกับแต่ละกระแสในช่วงเวลานั้น ๆ
หากดูผลตอบรับที่ผ่านมา จะเห็นได้ว่าสร้างสีสันให้แก่ลูกค้าได้เป็นอย่างดี
3
ข้อดีหลักของเหาฉลามประเภทนี้คือ สินค้าหรือแบรนด์มีโอกาสเป็นไวรัล เกิดกระแสการแชร์บนโลกออนไลน์และบอกต่ออย่างรวดเร็ว โดยที่แทบไม่ต้องใช้เงินทุนในการโปรโมต
ซึ่งจะเรียกว่า ทำน้อยแต่ได้มากก็ว่าได้
นั่นทำให้ปัจจุบันมีหลายแบรนด์นิยมใช้วิธีนี้กันมากมาย ไม่ว่าจะเป็นบริษัทขนาดเล็กหรือใหญ่
1
และทั้งหมดนี้คือ กลยุทธ์เหาฉลาม นั่นเอง
จะเห็นได้ว่า หากเราเจอโอกาส และใช้กลยุทธ์ได้ถูกต้อง แม้ว่าธุรกิจจะเล็กเพียงใด เงินทุนน้อยแค่ไหนก็ตาม ก็สร้างการรับรู้ สร้างชื่อเสียงให้แบรนด์ จนสามารถเติบโตและประสบความสำเร็จได้เช่นกัน..
1
โฆษณา