20 ธ.ค. 2021 เวลา 13:30 • ข่าว
เปิดข้อมูลวัคซีน Pfizer-BioNTech สำหรับเด็ก 5-11 ปี ผลข้างเคียงเป็นอย่างไร
1
วันนี้ (20 ธันวาคม) สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) อนุญาตการฉีดวัคซีน Pfizer-BioNTech ในเด็กอายุ 5-11 ปีเป็นยี่ห้อแรก โดยฉีด 2 เข็มห่างกัน 3 สัปดาห์ แต่ขนาดวัคซีนที่ใช้จะลดลงเหลือ 10 ไมโครกรัม หรือคิดเป็น 1 ใน 3 เท่าของขนาดวัคซีนที่ฉีดในวัยรุ่นและผู้ใหญ่ THE STANDARD รวบรวมข้อมูลเพื่อประกอบการตัดสินใจของผู้ปกครองดังนี้
9
วัคซีน Pfizer-BioNTech เป็นวัคซีนชนิด mRNA ได้รับการขึ้นทะเบียนครั้งแรกในสหรัฐอเมริกาเมื่อเดือนธันวาคมปีที่แล้วในผู้ใหญ่อายุ 16 ปีขึ้นไป ต่อมาได้รับอนุญาตให้ขยายกลุ่มอายุเป็น 12 ปีขึ้นไปเมื่อเดือนพฤษภาคม 2564 และขยายลงมาถึง 5 ปีขึ้นไปเมื่อเดือนตุลาคม 2564 ปัจจุบันในสหรัฐฯ มีเด็กอายุ 5-11 ปี ได้รับวัคซีนอย่างน้อย 1 เข็ม ประมาณ 6 ล้านคน คิดเป็น 2.5% ของผู้ได้รับวัคซีนทั้งหมด
6
วัคซีน Pfizer-BioNTech สำหรับเด็กอายุ 5-11 ปี มีขนาดการใช้ 10 ไมโครกรัม ในขณะที่วัยรุ่นและผู้ใหญ่จะฉีด 30 ไมโครกรัม ฉีดเข้ากล้ามเนื้อ ตารางการฉีด 2 เข็มห่างกัน 21 วัน การศึกษาประสิทธิผลของวัคซีนพบว่าสามารถกระตุ้นภูมิคุ้มกันได้ใกล้เคียงกับผู้ใหญ่อายุ 16-25 ปี และมีประสิทธิผลป้องกันอาการป่วยเท่ากับ 90.7% ซึ่งศึกษาในช่วงที่มีการระบาดของสายพันธุ์เดลตา
สำหรับความปลอดภัย จากการติดตามผู้เข้าร่วมการวิจัยประมาณ 3,000 ราย ไม่พบผลข้างเคียงร้ายแรงรวมถึงภาวะกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ ส่วนผลข้างเคียงที่พบได้บ่อยภายใน 7 วันหลังฉีดวัคซีนเข็มที่ 2 ประกอบด้วยอาการเฉพาะที่ ได้แก่ ปวดบริเวณที่ฉีด 77.5% บวม 6.8% รอยแดง 5.7% และอาการทั่วไป เช่น อ่อนเพลีย 65.6% ปวดศีรษะ 60.9% ปวดกล้ามเนื้อ 40.8% ไข้ 17.2%
1
นอกจากสหรัฐฯ ยังมีอีกหลายประเทศที่อนุมัติการฉีดวัคซีน Pfizer-BioNTech ในเด็ก 5-11 ปีแล้ว เช่น องค์การยาแห่งสหภาพยุโรปเมื่อ 25 พฤศจิกายน 2564 สิงคโปร์เมื่อ 11 ธันวาคม 2564 ในขณะที่บางประเทศอนุมัติการฉีดวัคซีน Sinovac เช่น จีน (อายุ 3-17 ปี) เมื่อเดือนมิถุนายน 2564, ชิลี (อายุ 6-11 ปี) เมื่อวันที่ 28 กันยายน 2564 ส่วนสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์อนุมัติวัคซีน Sinopharm (อายุ 3-17 ปี)
4
เรื่อง: นพ.ชนาธิป ไชยเหล็ก
โฆษณา