20 ธ.ค. 2021 เวลา 13:01 • นิยาย เรื่องสั้น
ทีมสร้างละครต้องมาและ ด้วยบทนี้……เรื่องที่2
กุ๊กรุ่นพ่อกับลูกวัยต๊าซ
แนวความคิด : อยากเล่าเรื่องวัตถุดิบอาหารและอาหารของ 5 ภาค ในช่วงโควิค19
พ่อ(พระเอก) ( สะท้อนถึงคนรุ่นก่อนที่ต้องมาปรับเปลื่ยนชีวิตจากสถานการณ์ โควิค ) เป็นเชฟประจำโรงแรม 5 ดาว ที่ตกงานจากการปิดตัวของโรงแรมเนื่องจากสถานการณ์ โควิด
ลูก (สะท้อนถึงเด็กรุ่นใหม่ที่ต้องการสร้างตัวตน) กำลังจะเข้าเรียนมหาลัย แต่ต้องหยุดเรียนเพราะสถานการณ์โควิด
การเล่าเรื่อง
เริ่มเรื่อง
วันแรก
- พ่อ+ลูก : พ่อตื่นนอนก็มาเข้าห้องน้ำและเดินไปเปิดทีวีกับทำอาหารเช้า พอทำอาหารเสร็จก็ได้ไปปลุกลูกให้มากินข้าว ช่วงที่กินข้าวก็มีข่าวเรื่องสถานการณ์ โควิด ที่ประกาศเรื่อง LOCKDOWN กทม. พอกินข้าวเสร็จก็แยกย้ายกันไปทำกิจวัตรประจำวันของตัวเอง
- พ่อ : ก็ไปทำงานบ้าน ( ช่วงนี้ก็จะมีการถ่ายรอบห้องให้เห็นป้ายรางวัลเชฟดีเด่นของพ่อ กับรูปถ่ายพ่อใส่ชุดเชพคู่กับรางวัลที่ได้ )
วันที่สอง (กิจวัตรเป็นแบบเดียวกับวันแรก เพิ่มเติมพ่อมีซักผ้ากับตากผ้า)
วันที่สาม (วันหยุด)
ช่วงเช้า
- พ่อ : ก็ได้ทำกิจวัตรประจำวันตามปกติเหมือนเดิม แต่ในช่วงกินข้าวเช้า มีรายการอาหารในช่องทีวีช่องหนึ่ง ที่ฉายเป็นแบบรีรัน นำเสนออาหารท้องถิ่นของภาคอีสาน ก็ทำให้พ่อนึกถึงอดีต
ย้อนอดีต
- พระเอก(พ่อ) : จะเป็นตอนพระเอกอายุประมาณ 15 ปี เป็นช่วงที่พ่อแม่ของพระเอกเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางรถยนตร์ ทำให้ต้องไปอยู่กับปู่ย่า ด้วยฐานะที่ยากจน จึงทำให้พระเอกต้องหางานทำ งานแรกที่ได้ทำเป็นงานล้างจานที่ร้านอาหารอีสานแห่งหนึ่ง โดยในช่วงพักกลางวันเจ้าของร้านก็ทำอาหารท้องถิ่นให้พระเอกกิน แต่อาหารที่เจ้าของร้านทำนั้นดันเป็นอาหารจานเดียวกับที่แม่ตัวเองชอบทำให้กินบ่อยๆ ทำให้พระเอกรู้สึกอยากทำอาหารจานนี้เป็นบ้าง จะได้ทำกินในยามที่นึกถึงแม่ จึงได้ถามเจ้าของร้านว่าทำอย่างไรถึงจะทำอาหารรสชาติแบบนี้ได้ เจ้าของร้านก็ตอบตกลงที่จะสอนให้ แต่จะขอให้พระเอกเข้ามาช่วยเตรียมวัตถุดิบในครัวหลังจากล้างจานเสร็จเพื่อจะได้เรียนรู้การทำอาหารจากเจ้าของร้าน
กลับมาปัจจุบัน
- พ่อ : กำลังยืนล้างจานอยู่
- ลูก : ก็เดินมาบอกพ่อว่า “ พ่อตอนเที่ยงไม่ต้องทำอาหารนะ จะสั่งอาหารมากิน ”
ช่วงเที่ยง
- ลูก : ได้ออกมารับอาหารเป็นอาหารอิตาลี(ประเภทเส้น) พอรับเสร็จก็ได้เดินไปที่ครัวเอาจานมาใส่อาหาร
- พ่อ : กำลังเก็บผ้าที่ตากอยู่และได้เดินเข้ามาที่โต๊ะกินข้าวก็เห็นอาหารที่ลูกเตรียมไว้ จึงทำให้นึกถึงอดีต
ย้อนอดีต (ผ่านไปประมาณ 1 ปีหลังจากที่พ่อแม่เสียชีวิต : อายุพ่อประมาณ 16 ปี)
- พระเอก(พ่อ) : ได้มีร้านอาหารมาเปิดใหม่ในหมู่บ้านพระเอก พระเอกจึงอยากไปลองกินดู เลยชวนเจ้าของร้านอาหารอีสานไปกินด้วยกัน พอพระเอกได้ไปกินก็สงสัยมากว่าเป็นอาหารประเภทอะไร เจ้าของร้านอาหารอีสานก็บอก “ เป็นอาหารเหนือถ้าเราสนใจก็ลองไปถามกับเจ้าของร้านดูสิ ” พระเอกก็ได้เดินเข้าไปถามกับเจ้าของร้านอาหารเหนือ เจ้าของร้านก็บอกว่า “ อันนี้เป็นอาหารพื้นบ้านของภาคเหนือน่ะ ถ้าเราอยากทำ หรือศึกษาอาหารของภาคเหนือ มีที่ๆนึงที่สามารถไปเรียนรู้การทำอาหารได้ เจ้าของร้านก็แนะว่าให้ไปที่วัดๆนึง ซึ่งเป็นวัดที่ตั้งอยู่ในภาคเหนือและให้ติดต่อที่หมู่บ้านนั้นดู” พระเอกได้ยินแบบนั้นก็ดีใจและขอบคุณเจ้าของร้านที่แนะนำข้อมูลให้
ด้วยที่พระเอกยังเด็กก็ยังกลัวที่จะไปคนเดียว จึงทำให้เจ้าของร้านอาหารอีสานแนะนำว่าถ้าพระเอกสนใจก็ลองไปดูจะได้ไม่มาเสียดายทีหลัง พระเอกจึงตัดสิ้นใจวางแผนที่จะไปโดยจะเก็บเงินให้ได้สักก้อนนึงก่อน แล้วแบ่งส่วนนึงให้ปู่กับย่า อีกส่วนจะเป็นค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปภาคเหนือ
ย้อนอดีต ( วันที่จะไปภาคเหนือ : อายุพ่อประมาณ 18 ปี)
- พระเอก(พ่อ) : ไปที่สถานีรถไฟเพื่อขึ้นรถไฟฟรี จะได้ลดค่าใช้จ่ายในการเดินทาง ก่อนขึ้นรถไฟพระเอกได้เดินผ่านป้ายแผนผังสถานีรถไฟ จึงได้ยืนมองเพื่อดูเส้นทางจากสถานีอีสานตัดเส้นไปสถานนีภาคเหนือและค่อยๆ มองลงมาที่สถานีภาคใต้ สักพักปู่กับย่าก็มาตามให้เตรียมตัวไปขึ้นรถไฟ พระเอกจึงรีบวิ่งขึ้นรถไฟและบอกลาปู่กับย่าบนรถไฟ ก่อนรถไฟจะออกเดินทางมุ่งหน้าไปภาคเหนือ พอถึงสถานีรถไฟภาคเหนือพระเอกก็ได้ถามเจ้าหน้าที่ว่าจะไปที่วัดนี้ได้ยังไง เจ้าหน้าที่ก็ได้แนะนำพระเอกว่าให้นั่งรถไปที่วัด พอถึงที่วัดพระเอกได้เข้าไปหาหลวงพ่อ และเล่าเรื่องที่ตัวเองอยากมาศึกษาอาหารพื้นบ้านของหมู่บ้าน จึงอยากขอมาอาศัยอยู่วัดสักระยะนึง หลวงพ่อก็ตกลงและบอกให้พระเอกนอนที่นี้คืนนี้ก่อนแล้วพรุ่งนี้ค่อยไปช่วยหลวงพ่อบิณฑบาตที่หมู่บ้านกัน
ย้อนอดีต (วันถัดมา )
- พระเอก(พ่อ) : ตื่นเช้ามาพระเอกก็ได้ไปช่วยยกของให้หลวงพ่อตอนบิณฑบาต และหลวงพ่อได้พาเดินไปที่บ้านผู้ใหญ่บ้าน เพื่อแนะนำพระเอกให้กับผู้ใหญ่บ้านได้รู้จัก พระเอกก็ได้คุยกับผู้ใหญ่บ้านและตกลงกันว่าหลังจากบิณฑบาตเสร็จแล้วจะมาเจอที่บ้านของผู้ใหญ่บ้าน ก็จะตัดภาพเป็นพระเอกมาหาผู้ใหญ่บ้านและผู้ใหญ่บ้านได้พาไปแนะนำคนในหมู่บ้าน เพื่อพาไปชมวิถีชีวิตของคนในหมู่บ้าน และดูวัตถุดิบในการทำอาหารของหมู่บ้านกับอาหารที่ชาวบ้านทำกินกันในหมู่บ้าน (จะเป็นอาหารเหนือประเภทเส้น)
กลับมาปัจจุบัน
- พ่อ+ลูก : พ่อกำลังล้างจานอยู่และได้หันไปถามลูกว่า “ ลูกอยากกินอาหารเหนือรึเปล่า ” ลูกบอกว่าอยากกิน พอพ่อล้างจานเสร็จก็ได้เดินไปหาบันทึกของภาคเหนือในตู้เก็บของ เพื่อหาชื่อผู้ใหญ่บ้าน เนื่องจากตอนนั้นยังไม่มีเบอร์ติดต่อ พ่อจึงให้ลูกช่วยหาเบอร์ติดต่อให้ พอลูกหาเบอร์ติดต่อเจอก็ได้เอาเบอร์ให้พ่อโทรหาผู้ใหญ่บ้าน ผู้ใหญ่บ้านก็ได้รับสายและได้พูดคุยอัพเดทเรื่องราวในชีวิตซึ่งกันและกัน จนพ่อบอกเรื่องอยากให้ส่งวัตถุดิบของอาหารชนิดนึงมาให้ ผู้ใหญ่บ้านก็ตกลง
สองวันถัดมา
- พ่อ : ของที่พ่อสั่งมาส่งแล้วพ่อก็ได้ออกไปรับ และนำมาเตรียมทำอาหาร พอทำอาหารเสร็จก็เรียกลูกมากิน
- ลูก : เดินมาจากโซฟา เห็นอาหารบนโต๊ะก็ดีใจไม่ได้กินอาหารเหนือมานานแล้ว เลยรีบนั่งเก้าอี้และกินอาหาร ด้วยความอร่อยและนึกถึงฝีมือแม่จึงพูดออกมาว่า “ อร่อยเหมือนตอนแม่ทำเลยครับ ”
- พ่อ : กำลังกินอาหารอยู่และได้ยินที่ลูกพูดก็นึกย้อนอดีตตอนเจอแม่ครั้งแรก
ย้อนอดีต (ตอนที่พ่อเจอแม่ที่ภาคใต้ : อายุพ่อประมาณ 20 ปี)
- พระเอก(พ่อ) : กำลังนั่งรถไฟจากเหนือลงที่ภาคใต้พอถึงสถานีรถไฟ พระเอกก็ได้ถามเจ้าหน้าที่ว่าอยากไปทะเลจะเดินทางไปอย่างไรได้บ้าง เจ้าหน้าที่ก็ได้แนะนำรถให้พอพระเอกคุยเสร็จ พระเอกก็ได้ขึ้นรถมาลงแถวๆชายหาด ด้วยความที่เห็นทะเลครั้งแรกในชีวิตจึงลงไปเล่นน้ำก่อน ตอนที่เล่นน้ำได้เห็นท่าเรือประมงอยู่ไกลๆจึงได้เดินเข้าไปดู พอถึงท่าเรื่อประมงได้เจอกลุ่มผู้หญิงกำลังแล่ปลาอยู่ ก็ได้เดินเข้าไปถามเรื่องจะหาที่พักราคาถูก นางเอก(แม่) ก็ได้ตอบกลับไปว่า “ ที่บ้านมีเปิดห้องพักราคาถูกอยู่ ” พระเอกสนใจจึงตกลง นางเอกก็ได้พาพระเอกไปที่พัก ขณะที่กำลังเดินเข้าไปในบ้าน พระเอกได้เห็นห้องครัวของบ้านนางเอก พระเอกเลยได้ถามว่า “ สามารถทำอาหารได้มั้ย ” นางเอกตอบ “ ใช้ได้เลย ” แล้วก็เดินพาพระเอกเข้าไปดูห้องพัก
ย้อนอดีต (ตอนเย็น)
- พระเอก(พ่อ) : ได้ลงมาทำอาหารเย็นเป็นอาหารเหนือเพราะมีนำวัตถุดิบมาด้วย และได้แบ่งให้ครอบครัวนางเอกกิน ครอบครัวนางเอกชอบอาหารเหนือมาก นางเอกได้บอกพระเอกว่า “ อยากให้สอนทำอาหารนี้หน่อย ” จากนั้นก็จะเป็นบรรยากาศการพูดคุยของพระเอกกับครอบครัวนางเอกที่เล่าเรื่องตอนไปภาคเหนือ
ตัดมาปัจจุบัน
- พ่อ : พ่อยืนดูรูปแม่อยู่ที่ห้องนอน
- พ่อ+ลูก : ลูกกำลังดู YOUTUBE ที่ห้องนั่งเล่นอยู่ เป็นรายการของ YOUTUBER ด้านการทำอาหารเลยเอามาให้พ่อดู และถามพ่อว่า “ พ่อสนใจที่จะทำมั้ยครับ ถ้าสนใจผมจะช่วยทำวิดีโอให้แล้ว แล้วอัพลงYOUTUBE ถ้ายอดวิวเยอะ ก็สามารถสร้างรายได้ได้ด้วยครับ ” พ่อก็ตกลงเพราะก็ไม่มีอะไรทำอยู่แล้ว ทั้งคู่จึงแยกย้ายไปทำส่วนของตัวเอง
- พ่อ : คิดเตรียมเมนูที่จะถ่ายทำ
- ลูก : ได้ติดต่อเพื่อนที่ถนัดตัดต่อวิดีโอและขอคำแนะนำในการทำ
สองวันถัดมา(เริ่มทำ YOUTUBE)
วันที่หนึ่ง : ถ่ายทำวิดีโอแบบเห็นแค่พ่อตอนทำอาหารไม่มีพูดคุยแนะนำอะไร คนก็ยังดูไม่เยอะ
วันที่สอง : ถ่ายทำแบบเดิมแต่ลูกเพิ่มรายละเอียดว่าเครื่องปรุงมีอะไรยังไงบางเป็นตัวหนังสือ คนก็ยังดูไม่เยอะ
วันที่สาม : ให้พ่อพูดแนะนำรายละเอียดด้วยและลองบูสโพส คนก็ดูเยอะตามบูสโพส แต่ก็ไม่ได้เพิ่มขึ้นหลังบูสโพส
วันที่สี่ : ลูกก็เริ่มเหนื่อยแต่ก็ยังไม่ท้อ พ่อก็เลยไปดูบันทึกที่เคยเขียนและนึกถึงอดีต
ย้อนอดีต (หลังจากที่แต่งงานกับแม่แล้วและได้ไปภาคตะวันตก : อายุพ่อประมาณ 24 ปี )
- พ่อ+แม่ : ได้ไปทำงานในร้านอาหารพื้นบ้านที่ภาคตะวันตก ซึ่งช่วงนั้นก็ได้มีรายการโทรทัศน์มาถ่ายทำที่ร้านอาหาร เป็นลักษณะรายการอาหารที่นำเสนอเกี่ยวกับ การเล่าเรื่องวัตถุดิบในการทำอาหาร จนถึงขั้นตอนการทำอาหาร ตอนที่กำลังถ่ายทำแม่ได้พูดกับพ่อว่า “ รายการนี้ดีนะทำให้คนรู้จักอาหารพื้นบ้านและสนใจในวัตถุดิบมากขึ้น คนที่ดูก็จะเกิดความรู้สึกว่าวัตถุดิบนั้นมีความสำคัญและเป็นการเพิ่มมูลค่าให้กับอาหารด้วย ”
ตัดมาปัจจุบัน
- พ่อ : ก็ได้นำคำพูดของแม่มาบอกลูก และคิดว่าเราน่าจะทำอาหารแต่ล่ะภาคที่พ่อเคยไป แล้วนำมาทำเป็นเนื้อเรื่องในการถ่ายทำ โดยจะเล่าเรื่องที่มาของวัตถุดิบกับขั้นตอนในการทำ คนดูน่าจะสนใจมากขึ้น
- ลูก : งั้นถ้าผมจะเสนอให้พ่อเล่าเรื่องที่พ่อได้ไปเจอก่อนทำอาหารมาเป็นการเปิดเรื่อง เพื่อให้ผู้ชมเกิดอารมณ์ร่วมด้วยจะโอเคมั้ยครับ
- พ่อ : rjvก็ตกลงและเสนอทำอาหารอีสานเป็นเมนูแรก โดยได้ติดต่อไปที่ร้านอาหารอีสานที่เคยทำตอนเด็ก เพื่อให้ส่งวัตถุดิบมาให้
- ลูก : ได้เขียนลำดับการเล่าเรื่องในการถ่ายทำ กับมีปรึกษาเพื่อนที่ตัดต่อวิดีโอและทำช่อง YOUTUBE ใหม่
สัปดาห์ต่อมา
- พ่อ : เริ่มต้นการถ่ายทำ
- (พูดสำเนียงอีสาน ภาพถ่ายบรรยากาศห้องครัว ) “ ผม(ชื่อเล่นพ่อ) อดีตเชฟโรงแรมที่ตกงานเพราะสถานการณ์ โควิค19 ทำให้ตอนนี้อยู่ที่บ้านกับลูกหนึ่งคน จนวันหนึ่งตอนผมกินข้าวเช้าและได้เห็นรายการอาหารทางโทรทัศน์ เป็นรายการอาหารพื้นบ้านของชาวอีสาน ทำให้ผมนึกถึงอดีตที่ผ่านมาของการเริ่มต้นทำอาหาร ตอนนั้นผมอายุได้ 15 ปี หลังจากพ่อแม่ผมเสียชีวิตผมก็ได้ไปอยู่กับปู่ย่า ทำให้ต้องหารายได้เพื่อจุนเจือครอบครัว ด้วยการไปเป็นเด็กล้างจานที่ร้านอาหารอีสาน แล้วในช่วงพักกลางวันเจ้าของร้านก็ทำอาหารให้กิน เป็นอาหารชนิดเดียวกับที่แม่ผมชอบทำให้กิน ผมจึงได้ขอให้เจ้าของร้านอาหารสอนผมทำ และเจ้าของร้านก็ตกลงและได้เล่าว่า รู้มั้ยอาหารชนิดนี้หากินได้แค่ที่หมู่บ้านเราเพราะผักที่ใช้มีแค่ที่นี้เท่านั้น ”
( ถ่ายวัตถุดิบในการทำอาหารบนโต๊ะครัว ) หลังจากนั้นพ่อก็ทำอาหารให้ดูและบอกขั้นตอนทำอาหาร พอทำเสร็จก็บอกว่าชื่ออาหารคืออะไร และได้ขอบคุณคุณผู้ชม ฝากติดตาม..... พูดจนครบก็เป็นการจบวิดีโอ
- ลูก : ได้นำวิดีโอที่ได้ไปทำการตัดต่อและทำการอัปโหลดวิดีโอลง YOUTUBE
สองวันต่อมา
- ลูก : ได้มาดูวิดีโอ ก็มีคนมาดูเยอะกว่าที่คิดกับมีคอมเม้นเข้ามาจำนวนมากเช่น
(ในส่วนนี้จะเขียนเป็นคอมเม้นที่เราสามารถต่อยอดในการทำอาชีพได้เช่น)
- ทำให้คิดถึงอาหารที่บ้านเลยครับ ขอบคุณครับ TT__TT
- อยากเห็นสถานที่ปลูกและวัตถุดิบจังเลย
- ถ้าอยากทำอาหารแบบนี้ต้องหาซื้อวัตถุดิบจากที่ไหนครับ
- มีเพจให้ติดตามรีเปล่าคะ สนใจมากเลยค่ะ
- ลูก : เนื่องจากกระแสตอบรับดี เลยคิดว่าน่าจะหาคนทำเพิ่มจึงได้ติดต่อเพื่อนที่ช่วยสอนตัดต่อวิดีโอว่าสนใจรับงานเปล่า และตัวเองจะไปทำเพจเพิ่มเพื่อให้คนติดตามได้ง่ายขึ้น
ผ่านไป 1 เดือน
- ลูก : ได้เปิดโปรแกรมประชุมออนไลน์ เพื่อคุยเรื่องจำนวนผู้ชมในช่องกับทีมงาน (โดยจะมีทั้งทีมทำช่อง YOUTUBE กับฝ่ายดูแลเพจช่อง YOUTUBE และฝ่ายติดต่อลูกค้ากับผู้ผลิตวัตถุดิบ) โดยตอนที่ได้ดูจำนวนคนดูของช่องนั้น มีจำนวนคนดูมากเกินจำนวนที่กำหนดในการสร้างรายได้แล้ว ทั้งทีมก็ดีใจกันยกใหญ่
- พ่อ : กำลังยืนดูรูปถ่ายวันที่พ่อได้รางวัลเชฟดีเด่นก่อนจะนึกถึงอดีตของรูปถ่าย
ย้อนอดีต (ตอนที่ได้รางวัลเชฟดีเด่น: อายุพ่อประมาณ 25 ปี)
- พระเอก(พ่อ) : ( ช่วงนี้อยากได้แบบแค่เสียงบรรยากาศโดยไม่มีบทพูดใดใด)
เป็นตอนที่พระเอกกำลังถูกถ่ายรูปรับรางวัลเชฟดีเด่น และก็มีเพื่อนร่วมงานมาแสดงความยินดีจนมีเสียงโทรศัพท์ดังเข้ามา เป็นแพทย์ที่ดูแลนางเอกอยู่ให้มาที่โรงพยาบาลโดยด่วน พระเอกจึงขอตัวรีบไปที่โรงพยาบาล เมื่อถึงโรงพยาบาลก็ไม่ทันแล้วนางเอกได้เสียชีวิตไปแล้ว ตอนนั้นพระเอกก็ได้ยืนข้างเตียงผู้ป่วยและร้องไห้ออกมาลูกก็ได้เดินตรงมาที่พ่อและกอดขาพ่อไว้ พ่อก็ได้หันมาและกอดลูกกลับ
ตัดมาปัจจุบัน
- พ่อ : จะเป็นพ่อถือรูปถ่ายของแม่มาวางไว้ข้างรูปเชพ และเดินไปแสดงความยินดีกับลูกด้วย
จบเรื่อง
โฆษณา