28 ธ.ค. 2021 เวลา 12:40 • ความคิดเห็น
แชร์ประสบการณ์การทำ New Year’s Resolutions ของตัวเองให้สำเร็จไป 57%
ปีหน้าฉันจะสุขภาพดี…
ปีหน้าฉันจะมีเงินเก็บเยอะขึ้น…
ปีหน้าฉันจะทำนู่นนี่นั่นให้สำเร็จ…
ปีหน้า…. ไว้เดี๋ยวค่อยทำ New Year's Resolutions อันใหม่แล้วกัน
ขึ้นปีใหม่ทีไร วางแผนไว้อย่างดี วาดฝันไว้อย่างสวยหรู สัญญากับตัวเองว่าจะทำขอเวลาอีกไม่นาน แต่สิ่งเหล่านั้นมักจะถูกหลงลืมไปหลังปีใหม่ผ่านไปในเวลาแค่ไม่กี่สัปดาห์…
คุณเองก็เป็นหนึ่งในคนที่ตั้ง New Year's Resolutions ไว้ แต่ทำจริงไม่เคยได้รึเปล่า?
1
ผมเองก็เป็นแบบนั้นมาตลอดทั้งชีวิต จนกระทั่งปีที่ผ่านมาทั้งปี ได้ลอง “เปลี่ยน” วิธีการ
ในโพสต์นี้ ผมจะมาแชร์วิธีการที่ช่วยให้ในปีที่ผ่านมา ผมสามารถทำ New Year's Resolutions ได้สำเร็จไป 57%
ถ้าอ่านจบแล้วทำตาม ผมไม่รับรองว่าคุณจะประสบความสำเร็จทุกอย่างตาม New Year's Resolutions ที่ตั้งไว้ แต่รับรองว่าคุณจะทำสิ่งที่คุณอยากทำให้สำเร็จได้มากขึ้นแน่ๆ ครับ
7 เทคนิคทำให้ New Year's Resolutions ประสบความสำเร็จ
1. ตั้งเป้า
1
ขึ้นชื่อว่า New Year's Resolutions แล้วสิ่งแรกๆ ที่ควรทำคือการตั้งเป้า แต่การตั้งเป้าว่าฉันจะเงินเดือนเยอะขึ้น ฉันจะเก่งขึ้น ฉันจะสุขภาพดีขึ้น นั้นไม่เพียงพอเพราะมันวัดผลไม่ได้
สิ่งสำคัญคือคุณต้องทำให้เป้าหมายที่คุณตั้งไว้ SMART – Specific (เฉพาะเจาะจง), Measurable (วัดผลได้), Attainable (ทำได้จริง), Relevant (เกี่ยวข้อง) และ Time-bounded (มีกรอบระยะเวลาที่ชัดเจน)
อยากเงินเดือนเยอะขึ้น ก็ต้องบอกไปเลยว่าอยากเยอะขึ้นเท่าไหร่ เช่น จาก 30,000 ต่อเดือน เป็น 40,000 ต่อเดือน
อยากเก่งขึ้น ก็ต้องหาวิธีวัดผลมา เช่นไปสอบ IELTS แล้วได้ 7.5 หรือสอบ Certifiate ของ Facebook/Google ผ่าน
อยากสุขภาพดี ก็อาจจะตั้งเป้าให้ไขมันลดลง เช่นจากเดิมที่มี 25% ในมวลร่างกาย ให้ลดลงเหลือ 20%
“ถ้าเป้าเบลอ จะเผลอผลัด ถ้าเป้าชัด จะซัดง่าย”
1
2. จดอย่าแค่จำ
มีสุภาษิตจีนอันนึงเขียนไว้ว่า “The faintest ink is more powerful than the strongest memory – หมึกที่เจืองจางที่สุดยังทรงพลังกว่าความทรงจำที่แข็งแรงที่สุด”
ถ้าคุณทำ New Year's Resolutions ด้วยก็บอกตัวเองว่า “ปีหน้าฉันจะสุขภาพดี” โดยที่คุณไม่ได้จดมันไว้ที่ไหน สัปดาห์ถัดมา คุณก็จะยังคงเป็นคุณคนเดิมที่นอนผึ่งพุงดูทีวีพร้อมกินขนมถุงใหญ่โดยไม่ยอมไปออกกำลังกายเหมือนเดิม
การเขียนคือการย้ำเตือน คือการเรียบเรียงความคิด และที่สำคัญคือการให้สัญญาแบบเป็นลายลักษณ์อักษรกับตัวเอง
คุณจะเขียนลงในสมุดหรือพิมพ์เก็บไว้ในคอมพิวเตอร์ของคุณก็ได้ (หรือจะปริ้นออกมาแล้วใส่กรอบรูปไว้ก็เป็นท่าที่น่าสนใจ) สิ่งสำคัญคือต้องเปลี่ยนความคิดในสมองออกมาเป็นตัวหนังสือให้ได้ครับ
“ถ้าจดเอาไว้ จะเรียกใช้ได้ง่าย”
Note: ผมจด New Year's Resolutions ของผมไว้ใน Google Sheet ครับ ลองเอาไฟล์นี้ (https://docs.google.com/spreadsheets/d/1tJqXIaMbiUKjVXba80DULO7Fb-iD2LjV3wypA4UKmG8/edit#gid=1648085064) ไปดูเป็นตัวอย่างได้ครับ (ขอปิดข้อมูลจริงบางส่วนไว้นะครับ 🙂 )
3. ซอยเป้าให้เล็กลง
การตั้งเป้าหมายแบบเป็นรายปีและพยายามทำตามให้ได้ ก็เหมือนกับการที่เราเดินอยู่กลางทะเลทราย เห็นโอเอซิสแล้ว แต่เดินไปเท่าไหร่ก็ไปไม่ถึงสักที พอเดินไปได้สักพักก็จะเริ่มท้อ และสุดท้าย… ก็จะเลิกเดิน
1
เพราะฉะนั้นการซอยเป้าหมายให้เล็กลงเลยเป็นเรื่องสำคัญ
ผมเอาสูตรการซอยเป้าหมายที่ผมใช้กับธุรกิจมาใช้กับตัวผมเองครับ ซึ่งสูตรที่ว่านี้คือ OKR (Objectives & Key Results) ซึ่งการทำ OKR จะเป็นการเอาเป้าหมายที่ตั้งไว้เป็นรายปีมาซอยย่อยให้เป็นรายไตรมาส (ราย 3 เดือน)
O (Objectives) คือเป้าหมายที่อยากจะทำให้ได้ในไตรมาสนั้นๆ
KR (Key Results) คือผลลัพธ์ที่เป็นตั้งบ่งชี้ว่า Objective นั้นๆ สำเร็จหรือไม่สำเร็จ
ซึ่ง OKR ที่ตั้งนั้นจะต้องไป Contribute หรือตอบอะไรบางอย่างให้กับเป้าหมายทั้งปีของเรา และ OKR ที่ดีนั้นควรจะต้องมีทั้ง Committed (คือเป็นสิ่งที่เราตั้งใจจะต้องทำให้ได้ทั้งหมด) และ Aspirational (คือเป้าหมายแบบ Moonshot ทำได้ยาก ต้องใช้ความคิด ใช้แรง หรือต้องลองวิธีการใหม่ๆ)
“ซอยให้สั้น แล้วจะปั่นได้นาน”
Note: ตัวอย่าง OKR ที่ผมตั้งไว้อยู่ในไฟล์ Google Sheet อันเดิม (https://docs.google.com/spreadsheets/d/1tJqXIaMbiUKjVXba80DULO7Fb-iD2LjV3wypA4UKmG8/edit#gid=1648085064) ลองเข้าไปดูได้นะครับ
4. สร้าง Habits
เทียบกับข้ออื่นๆ แล้ว ข้อนี้เป็นข้อที่สำคัญที่สุดที่จะ Make or Break New Year's Resolutions ของคุณเลย ต่อให้ทำและวางแผนข้ออื่นมาดีแค่ไหน แต่ถ้าทำข้อนี้ไม่ได้ก็จบกัน
Habits คือกิจวัตรประจำวัน นิสัย พิธีกรรมที่คุณจะทำในทุกวัน สิ่งสำคัญคือต้องพยายามตัดนิสัยที่ไม่ดีทิ้ง และเพิ่มนิสัยที่ดีเข้ามาแทน
1
เช่นตอนเช้าผมจะตื่นมา ออกกำลังกาย อ่านหนังสือ ไม่เล่นโทรศัพท์ เขียนบล็อก/ทำคอนเทนต์ กินชา/กาแฟดีๆ ไม่ใส่น้ำตาล
ตอนเย็นก็จะกินข้าวกับครอบครัว Reflect สิ่งที่ทำในวันนี้ จดสิ่งที่จะต้องทำของวันรุ่งขึ้น นั่งสมาธิ
ผมพยายามให้ไม่หลุด Routine ด้านบนนี้ แต่แน่นอนว่าผมเป็นมนุษย์ที่มีกิเลสและมีหัวจิตหัวใจ ไม่ใช่หุ่นยนต์ ระหว่างปีมันก็จะมีบางช่วงที่หลุดๆ (อย่างในเดือน 11 ที่งานเยอะ + ติดเกม FM2022 ผมก็ไม่ค่อยได้นั่งสมาธิหรือทำคอนเทนต์ส่วนตัว)
ซึ่งสิ่งที่ผมใช้เพื่อทำให้ตัวเองอยู่กับร่องกับรอยมากขึ้นคือ “Habit Tracker” ที่ผมจะใช้คอย Track Habits ที่ทำทุกวันอยู่ ซึ่งไอ้ Habit Tracker อันนี้จะทำให้รู้ตัวเองมากขึ้น และเมื่อรู้ตัวเองก็จะกลับลำได้ไว
1
“นิสัยอันเล็กน้อย มาพร้อมกับความเปลี่ยนแปลงอันใหญ่ยิ่ง – With small habits come big changes” ( ขออนุญาตยืมวลีจากเรื่อง Spiderman ที่ว่า With great power comes great responsibilities มานะครับ)
5. ให้กำลังใจตัวเอง + ผ่อนปรนบ้าง
เอาจริงๆ การฝืนทำสิ่งที่ไม่อยากทำ/เหนื่อยเพื่อผลลัพธ์ระยะยาวมันเป็นไม่ใช่เรื่องง่ายเลย เพราะคุณต้องต่อสู้กับตัวเองอยู่เรื่อยๆ เป็นระยะ ผมเองก็เป็นอยู่บ้างที่ตื่นเช้ามาไม่อยากออกกำลังกาย หรืออยากกินบุฟเฟต์แบบจัดหนักๆ หรืออยากนั่งโง่ๆ ไม่ต้องทำอะไรเลย
ความสบาย ความง่าย ในระยะสั้นๆ ที่รู้แหละว่ามันไม่ดีกับเราในระยะยาว แต่มันช่างหอมหวานเย้ายวนใจซะเหลือเกิน
คำแนะนำของผมคืออย่าเป็นไม้บรรทัดที่ยอมหักไม่ยอมงอ ทำตัวให้เหมือนต้นไม้ที่ลู่ลมจะดีกว่า
วันไหนที่ทำสิ่งที่ต้องทำได้ดีก็ชื่นชมและให้กำลังใจตัวเอง วันไหนที่ทำได้ไม่ดีก็อย่ารู้สึกแย่กับตัวเอง ต้องผ่อนปรนกับตัวเองบ้าง
การได้ทำอะไรนอกตาราง ว่าง่ายๆ คือมี Cheat Day บ้าง ไม่ว่าจะเป็นการไปกิน เที่ยว ดื่ม ช๊อป หรืออะไรก็แล้วแต่ ก็เป็นสิ่งที่ช่วยให้เส้นทางการไปสู่ New Year's Resolutions ง่ายละมีความหมายมากยิ่งขึ้น
“เธอน่ะทำได้ดีแล้ว ถ้าไม่ไหวก็พักก่อน แล้วค่อยกลับมาวิ่งตามฝัน อย่าฝืนกายฝืนใจเกินไป”
6. Review & Reflect
บางครั้งเมื่อเวลาผ่านไปไม่กี่เดือน New Year's Resolutions ที่ตั้งมาอาจจะดูไม่เข้าท่า OKR ที่เขียนไว้อาจจะยากเกิน หรือ Habits ที่ตั้งไว้อาจจะทำไม่ได้จริง
การคิดทบทวนสิ่งต่างๆ อีกครั้งเป็นเรื่องที่สำคัญ (แนะนำให้ลองไปอ่านหนังสือเรื่อง Think Again)
แล้วถามว่าควรบ่อยแค่ไหน?
จากที่ผมทำคือผมจะรีวิว New Year's Resolutions และ OKRs ทุกไตรมาส (3 เดือน)
Habits ที่จะทำในแต่ละวันทุกเดือน
รีวิวสัปดาห์ที่ผ่านมาและวางแผนที่จะทำในสัปดาห์ถัดไป ทุกวันอาทิตย์
และผมพยายามทำ To do list เพื่อเช็คว่าทำอะไรเสร็จไปบ้าง และทำ Journaling จดสิ่งที่ได้เรียนรู้ (Things I learned) สิ่งที่ขอบคุณ (Things I'm grateful for) ในทุกๆ วัน
7. เทคนิคและคำแนะนำสุดท้าย
ถ้าคุณอ่านมาถึงตรงนี้ ต้องบอกว่า ยินดีด้วยครับที่คุณได้กุมชะตาชีวิตของคุณในปีหน้าไว้แล้ว
แต่บทความนี้จะเป็นบทความเปลี่ยนชีวิตหรือเป็นแค่ Inspiration (ที่ทำให้คุณรู้สึกดี แต่จบปีหน้าสิ่งที่ตั้งเป้าไว้ก็ยังเป็นแค่เป้าต่อไป) จะขึ้นอยู่กับเนื้อหาที่คุณจะอ่านต่อไปทางด้านล่างนี้ครับ
.
.
.
สิ่งที่สำคัญมากกว่าการอ่านบทความนี้ หรือการกลับไปอ่านรีวิวเนื้อหาในบทความ/โพสต์นี้ซ้ำๆ คือ…
.
1
.
.
คือ…
.
.
.
คือ… (ขอเว้นบรรทัดเยอะหน่อยเพื่อความตื่นเต้น 😂)
.
.
.
คือ “การลงมือทำ” ครับ
เพราะฉะนั้นอ่านจบแล้ว อย่าลืมเอากลับไปทำจริงๆ ด้วยนะครับ
ผมมีเนื้อหาและเครื่องมืออื่นๆ อีกหลายตัวที่เคยเขียนไว้แล้วที่จะทำให้การลงมือทำของคุณง่ายขึ้น ลองไปศึกษาเพิ่มได้นะครับ
บทความ
เครื่องมือ
1
อ่านบทความนี้จบแล้ว ลองเอาไปปรับใช้กับ Workflow ส่วนตัวดูนะครับ ผมรู้สึกว่าท่าที่ผมใช้แอบต้องใช้ความพยายามเยอะเกินไปนิด 😅
เดี๋ยวปีหน้าจะลองปรับ Workflow แล้วเอามาแชร์อีกครั้งครับ
ย้ำอีกครั้ง สิ่งสำคัญที่จะทำให้ New Year's Resolutions ในปีหน้าและปีหน้าๆ สำเร็จได้คือการ “ลงมือทำ” ครับ
สุดท้าย ผมขออวยพรให้คุณตั้ง New Year's Resolutions และทำตามที่ตั้งเป้าไว้ให้ได้มากเท่าที่คุณหวังไว้นะครับ
ป.ล ถ้าคุณตั้ง New Year's Resolutions เสร็จแล้ว เอามาแชร์กันในคอมเมนต์ได้นะครับ 🙂
ผมทำคอนเทนต์เกี่ยวกับ Business, Productivity, Self-development & Tech เป็นประจำ
ไม่พลาดคอนเทนต์ดีๆ ที่จะทำให้คุณเป็นคนที่ดีขึ้นกว่าเดิม เพียงเลือกติดตามผ่านทางช่องทางด้านล่าง :)
READ
💬 LINE: https://link.sitthinunt.com/line หรือแอด LINE ID: @sitthinunt
หรือเข้าไปอ่านบทความที่ผมเคยเขียนไว้ในเว็บไซต์อื่นของผมได้ที่ https://magnetolabs.com/blog/ และ https://contentshifu.com/author/bank/
โฆษณา