27 ธ.ค. 2021 เวลา 05:33 • ไลฟ์สไตล์
INTRODUCTION ก่อนมาอเมริกา (5)
สานฝันแม่พ่อให้เป็นจริงโดยการพาเดินป่า หาดูต้นไม้แปลกๆที่อเมริกา
กิ๊ทำใจอยู่ซักอาทิตย์นึง ใจนึงโล่งอกไปกับที่บ้าน เพราะคุณตาไม่ทรมานอีกแล้ว อีกใจนึงชั่งน้ำหนักเกี่ยวกับเรื่องเรียนต่อ ทำใจตัดออสเตรเลียออกจากลิสต์ เพราะต่อให้ขอวีซ่าอีกรอบก็คงแป้ก ตอนนั้นประเทศที่มองไว้คือนิวซีแลนด์กับอเมริกา
กิ๊อยากเลือกนิวซีแลนด์มาก เพราะประทับใจกับสิ่งแวดล้อมที่นั่นตอนไปเรียนครั้งที่ได้ทุน แต่พอคำนวณเงินที่มี กับค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน บวกกับการที่หลายคนพูดว่าหางาน part-time ยากมาก เพราะงานน้อย มันเลยดูเสี่ยงว่าเราจะมีเงินหมุนไม่พอระหว่างที่อยู่โน่น ไม่พอค่าบ้าน ไม่พอค่าเรียน
กิ๊เลยเลือกอเมริกาแทน สาเหตุหลักคือ ป้าโกะ ป้าแท้ๆ ของกิ๊อยู่ที่นี่ และครอบครัวเค้าใจดีมากๆ ที่จะให้กิ๊อยู่บ้านได้ระหว่างที่เรียน จะได้ไม่ต้องไปจ่ายค่าอพาร์ตเมนท์แพงๆ
พอตัดสินใจได้แล้วก็กลับเข้าสู่วงจรหาโรงเรียน สมัครเรียน ขอวีซ่าอีกรอบ วงจรที่คุ้นเคย
คราวนี้กิ๊สมัครเรียนระดับ Certificate สาขา Global Business Program หลักสูตร 9 เดือน หลังจากนั้นฝึกงานได้ 1 ปี
สาเหตุที่เลือกสาขานี้ในตอนนั้นใช่ว่ากิ๊จะอยากทำธุรกิจของตัวเอง แต่ดูจากประวัติส่วนตัว และงบที่มีไม่เยอะ เอเจนท์แนะนำว่าสาขานี้ดูสมเหตุสมผลในการขอวีซ่าที่สุดแล้ว ในสถานการณ์แบบนี้ในหัวกิ๊มีแต่คิดหาทางออกไปใช้ชีวิตที่ต่างประเทศ ไม่เคยใช้เวลาไตร่ตรองว่าจริงๆ แล้วกิ๊อยากเรียนอะไร ทำงานอะไร ทั้งที่เป็นคนที่เก่งหลายด้าน แต่กลับไม่รู้ลึกซักด้าน
สิ่งที่รู้ดีที่สุดคือกิ๊อยากอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่ต้องใช้ภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวัน
สิ่งแวดล้อมที่อยู่แล้วมีความหวัง
สิ่งแวดล้อมที่เป็นตัวของตัวเองได้เต็มที่
สิ่งแวดล้อมที่พอทำงานหนักแล้วได้ค่าตอบแทนสมน้ำสมเนื้อ
สิ่งแวดล้อมที่ส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์
สิ่งแวดล้อมที่มีระบบขนส่งสาธารณะที่เชื่อถือได้
สิ่งแวดล้อมที่มีความท้าทาย กระตุ้นให้เราเติบโต ผลิบาน
สิ่งแวดล้อม…ที่เอื้อต่อการมีแฟนฝรั่ง
กิ๊คร่ำเคร่งมากกับการเตรียมตัวสัมภาษณ์วีซ่านักเรียนไปอเมริกา พยายามอุดรูรั่วหลังจากโดนปฏิเสธวีซ่าออสฯ มาสองรอบ รวบรวมคำถามที่อาจโดนถามและซ้อมถามตอบกับตัวเองหลายสิบรอบ
วันสัมภาษณ์จริงคือทั้งตื่นเต้นทั้งกลัว ระหว่างตอบคำถามก็รู้สึกเลยว่าหัวใจเต้นแรงมาก เจ้าหน้าที่ถามไม่กี่คำถาม แต่ละคำถามก็ไม่ได้ลึกมาก หลังจากนั้นก็พูดแสดงความยินดี บอกว่าวีซ่าผ่านแล้วนะ เดี๋ยวส่งพาสปอร์ตคืนให้ตามที่อยู่ที่กรอก
ฮะ? ผ่านแล้วหรอวะ?
ง่ายๆ แบบนี้เลยหรอวะ?
กิ๊เกือบจะกระโดดแล้วก็ว้ากดังๆ ณ ตอนนั้น
บทจะง่ายก็ง่ายจนงง ราบรื่นเหมือนตอนขอวีซ่าท่องเที่ยวอเมริกาสมัยตอนที่ทำงานสายการบิน เหมือนกับว่าช่วงเวลาระหว่างทำวีซ่าออสฯ และโดนปฏิเสธทั้งสองรอบเป็นแค่เรื่องตลกร้าย
วันนั้นจำได้เลยว่าพอนั่งวินมอไซค์จากสถานทูตอเมริกาไปสถานี BTS เพื่อกลับหอเพื่อนที่ลาดกระบัง กิ๊จ่ายค่าวินด้วยแบงค์ห้าสิบแล้วบอกเค้าไม่ต้องทอน ใจพอง ความสุขกับความหวังที่เคยริบหรี่ตอนนี้พุ่งทะลุเพดาน
ครอบครัวก็ยินดีกับกิ๊มากๆ หลังจากที่ค้างคาหน้าหม่นมานาน
หลังจากนั้น กิ๊ทำเรื่องขอวีซ่าท่องเที่ยวให้พ่อกับแม่เพื่อจะได้บินไปดูที่อยู่ที่เรียนพร้อมกัน ไปเยี่ยมป้าโกะ และถือโอกาสไปเที่ยวด้วย ก่อนสัมภาษณ์ก็พยายามติวเข้มพ่อแม่เหมือนที่ติวเข้มตัวเอง วีซ่าผ่านฉลุย
เราจัดการซื้อตั๋วเครื่องบิน เตรียมของ เตรียมตัว เตรียมใจ และบิน
เราสามคนพ่อแม่ลูกมาถึงอเมริกาเดือนมีนาคม ปี 2018 โรงเรียนกิ๊จะเปิดเรียนปลายเดือนมีค. ระหว่างนั้นป้าโกะก็พาเราก็เที่ยวรอบๆ รัฐ Washington และรัฐใกล้เคียง ได้ลองชิมอาหารและขนมหลายๆ แบบ
กิ๊เรียนรู้และปรับตัวกับวิถีชีวิตใหม่ๆ หลายๆ อย่าง เช่น วิธีใช้รถเมล์ รถไฟ รถราง ดูตารางเวลา เติมเงินในบัตร ใช้ app ดูว่ารถจะมาเมื่อไหร่ การขึ้นรถประตูหน้า ออกประตูหลัง การสร้างบัญชี Amazon เพื่อจะได้สั่งของออนไลน์และหนังสือเรียนได้ เปิดบัญชีธนาคาร ลงทะเบียนซิมมือถือ ลองผิดลองถูกกับการเลือกกล่องใส่อาหารกลางวันที่กันรั่วและกระติกน้ำที่ใส่ได้ทั้งเครื่องดื่มร้อนเย็น
พยายามชินกับการใส่เสื้อหนาๆ พร้อมกับการแบกกระเป๋าหนักๆ ไปโรงเรียน เรียนรู้ที่จะอยู่กับครอบครัวป้าโกะซึ่งมีสมาชิกหลายคนในบ้าน
นี่คือการรีเซ็ทตัวเองครั้งใหม่ของกิ๊ คล้ายๆ กับตอนที่เพิ่งไปถึงนิวซีแลนด์ปี 2010 และเมลเบิร์นปี 2015 มันมีทั้งความสนุก ตื่นเต้น กังวล อยากรู้อยากเห็นอยากลองไปหมด
แต่คราวนี้มีประเด็นให้ต้องคิดมากขึ้นเพราะกิ๊อายุเพิ่มขึ้น ถึงเวลาที่ต้องสร้างอาชีพหรือทำอะไรที่เป็นชิ้นเป็นอันซักที ไม่ว่าสุดท้ายจะได้อยู่อเมริกายาวๆ หรือต้องกลับไทย การมีทักษะวิชาเฉพาะทางก็จะสร้างโอกาสให้ชีวิตมากขึ้น เลือกได้มากขึ้นว่าอยากทำงานที่ไหน ประเทศไหน ไม่งั้นก็จะเอาแต่รีเซ็ทชีวิตอยู่เรื่อยไปแต่ไร้จุดหมายจนหมดแรง
(จบซีรี่ส์)
เพจนี้เล่าเรื่องเกี่ยวกับชีวิตความเป็นอยู่ การเรียน การทำงาน ของกิ๊ มินิมอลลิสต์สาวไทย ผู้บูชาความเรียบง่าย มาดูกันว่ากิ๊ใช้ชีวิตอย่างไรให้ใจสบายในแดนที่หมุนด้วยทุนสุดโต่งแบบประเทศอเมริกา
กิ๊เรียนจบสาขา Programming จาก Seattle Central College กำลังบ่มเพาะสกิลการทำเว็บไซต์ WordPress แบบ low-carbon และสกิลการเขียน ทั้งไทยและอังกฤษ อดีตทำงานเป็น Web Manager ของทีมหนังสือพิมพ์โรงเรียน
ไม่อยากพลาดบทความใหม่ๆ รับการแจ้งเตือนที่นี่: https://www.subscribepage.com/a_thai_minimalist_in_a_capitalist_land

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา