27 ธ.ค. 2021 เวลา 19:01 • ไลฟ์สไตล์
ปั่นเดี่ยวเที่ยวเกาะช้าง @ DAY 4 ##มาอัพเดทเพิ่มครับ##
เดินทางมาถึงเกาะช้างแล้วครับ
DAY 4
ช่วงเช้ามืดกำลังนอนหลับสนิทอยู่ในเปล ก็ต้องสะดุ้งตื่น
เพราะมีป้าคนนึงมาตะโกนเรียก จนท. ป่าไม้
“คุณ คุณ ป้าขอไปใส่ปุ๋ย(ต้นอะไรซักอย่างผมจำไม่ได้) หน่อยนะคะ”
ป้าร้องเรียกอยู่แป๊บนึง
จนท.ที่พักอยู่ในอาคารที่ทำการ ก็ตอบ “ครับๆ” ป้าก็ไป
ผมก็เลยตื่น เพราะนอนไม่หลับแล้ว
ทั้งๆที่ฟ้ายังไม่สว่างเท่าไร ยังเป็นสีน้ำเงินเข้มอยู่เลย
จึงจัดการเก็บเปลที่ผูกนอนเรียบร้อย ล้างหน้าแปรงฟัน เข้าห้องน้ำ
พอเสร็จธุระส่วนตัวดีแล้วฟ้าก็สางพอดี พอมองเห็นทาง
แต่ยังไม่ถึงเวลาที่จะออกเดินทาง
ผมก็เลยออกไปปั่นจักรยานเล่น แถวๆหน้าด่านเก็บเงินน้ำตก
ซึ่งจะเป็นสวนผลไม้ของชาวบ้านแถวนั้น
ที่ต่อมาผมมารู้ทีหลังว่าจริงๆแล้ว สวนผลไม้บริเวณนี้ทั้งหมดเป็นที่ของป่าไม้
ที่อนุญาติให้ชาวบ้านทำสวนผลไม้ ทำกินได้แต่ห้ามซื้อขายที่ดิน
เวลาจะเข้ามาดูแลต้นไม้หรือทำอะไรในสวน
ก็มาขออนุญาติ จนท.แบบที่ป้าคนเมื่อตอนเช้ามืดมาเรียก
เป็นครั้งแรกที่ผมเห็นลูกเงาะจริงๆจากต้น
ที่กำลังสุกแดงอมเขียวพร้อมเก็บขาย
และเขียวๆเหลืองๆซึ่งก็เก็บขายได้เหมือนกัน
ได้เห็นต้นเงาะ ใบเงาะจริงๆ ได้เห็นต้นมังคุด
แต่ไม่ยักเห็นต้นทุเรียน
จำได้ว่าไม่ได้กินผลไม้อะไรเลยที่สวนตรงนั้นซักอย่าง ทั้งๆที่ห้อยเป็นพวงระย้าพร้อมเสิร์ฟ เพราะไม่เจอใครให้ขอเลยซักคน จะถือวิสาสะเก็บเอาก็กลัวข้อหาลักทรัพย์..55 พลาดเลย
ปั่นดูชมต้นไม้ไปเรื่อยๆ อากาศเช้านี้สดชื่นดีมากๆ
เพราะเมื่อคืนฝนตกลงมา
จนฟ้าเริ่มสว่างมากขึ้น ตะวันพ้นเหลี่ยมเขามาแล้ว
เหงื่อเริ่มซึมๆ และที่สำคัญเริ่มหิวข้าวแล้ว
เลยปั่นจักรยานกลับมาอาบน้ำพออาบน้ำเสร็จ เตรียมจะออกเดินทาง
ผมก็มาเจอกับพี่ที่ใจดีชวนผมกินข้าว 3-4 ครั้งเมื่อคืน
ผมก็เข้าไปสวัสดี เพื่อจะขอบคุณที่แบ่งที่ให้ผูกเปลนอน
และจะลาเพื่อออกเดินทางไปต่อ
แต่ฮามากพี่เค้ายกมือรับไหว้พร้อม ทำหน้างงๆเหมือนไม่เคยคุยกันมาก่อน
ทั้งๆที่เมื่อคืนคุยกันเป็นคุ้งเป็นแคว
สงสัยนอนฟังเสียงฝนทั้งคืนเลยจำอะไรไม่ได้มั๊ง 55
จากนั้นก็ปั่นออกมาจากน้ำตกตรอกนอง
โดยปั่นย้อนออกทางเดิมจากที่ปั่นเข้ามาเมื่อตอนเย็นวานนี้
เพื่อมุ่งหน้าเข้าถนนสุขุมวิท
ระหว่างทางก็หาข้าวเช้ากินที่ร้านข้างทาง
แถวนั้นจะมีล้งผลไม้ที่มีหลายเจ้ามาก
กินข้าวเช้าเรียบร้อยก็ค่อยๆปั่นย่อยอาหารไปเรื่อยๆ
ซึ่งปกติหลังจากกินข้าวเช้าหรือเที่ยง
ผมก็จะออกปั่นทันทีแบบไปเรื่อยๆ ซัก ครึ่ง ชม.
แล้วค่อยอัดต่อ จะไม่ยอมพักให้ข้าวเรียงเม็ด
กลัวจะง่วงและเครื่องเย็นครับ 55
พอปั่นย้อนออกมาจนถึงถนนสุขุมวิท
ตรงสี่แยกแหลมสิงห์ ก็เลี้ยวซ้ายไปตามถนนสุขุมวิท
มุ่งหน้าไปทาง จ.ตราด เส้นทางช่วงนี้จะสวยงามมาก
สองข้างทางมีต้นไม้ใหญ่ขึ้นเขียวครึ้ม
ด้านขวามือจะมองเห็นทะเลอ่าวไทย
ลมโชยมาเย็นสบายแถมดันท้ายรถด้วยเลยปั่นสบาย
ไม่เหนื่อยเลยครับ อยากให้มีแบบนี้ไปเรื่อยๆฟินมาก
ปั่นไปเรื่อยๆเข้ามาถึง อ.ขลุง จ.จันทบุรี จนถึงสะพานข้ามแม่น้ำเวฬุ
ที่เป็นเส้นแบ่งเขต จ.จันทบุรี และ จ.ตราด จุดนี้จะมีด่านของ จนท.ตชด.
มาตรวจสกัดรถยนต์ทุกคันที่จะผ่านเข้าออก(ไม่เว้นแม้แต่จักรยาน 55)
ตำรวจ ตชด.ก็เข้ามาสอบถามว่าจะไปไหนพร้อมขอดูบัตร ปชช.
และบอกว่าปกติเคยเห็นแต่ต่างชาติปั่นเที่ยวกัน
พอข้ามสะพานแม่น้ำเวฬุแล้ว ก็จะเข้า แสนตุ้ง เขต อ.เขาสมิง จ.ตราดแล้ว
หลังจากข้ามสะพานมาอีกไม่นาน ก็มาถึงแสนตุ้ง
ผมก็เห็นร้านปะยางที่อยู่ในปั๊มน้ำมัน
ก็เลยเอารถจักรยานเข้าไปขอหยอดน้ำมันใส่โซ่หน่อย
เพราะเมื่อวานโดนฝนมาโซ่แลจะฝืดมีเสียงเอี๊ยดอ๊าด
ปั่นออกจากร้านปะยางมาได้ไม่เท่าไรก็จะเจอสามแยก
ตรงไปตัวเมืองตราด ไปแหลมงอบ ถ้าเลี้ยวขวาก็จะไปท่าเรือเฟอรี่
ข้ามไปเกาะช้างที่แหลมธรรมชาติ (...เกาะช้าง ใกล้ละเว้ย )
ผมก็ปั่นไปท่าเรือทันที เส้นทางช่วงนี้จะเป็นสวนมะพร้าวมีความร่มรื่นดีมาก
ปั่นไปก็จินตนาการถึงเกาะช้างไปต่างๆนาๆ ว่าจะสวยขนาดไหน
ราวๆชั่วโมงเศษๆ ก็มาถึง ท่าเรือเฟอรี่ ข้ามไปเกาะช้าง
ผมก็เข้าไปติดต่อกับคนเรือ เพื่อถามราคาค่าข้ามไปเกาะ
ได้ความว่า ค่าโดยสารคนละ 50 บาท,ค่าบรรทุกจักรยานอีก 50 บาท
รวมแล้วหลงจ้งก็ 100 บาท พอดี
ถือว่าดีเลย ดีกว่าปั่นจักรยานไปขึ้นที่ท่าเรือแหลมงอบ
ที่เป็นท่าเรือโดยสารหลัก เก่าแก่ที่จะข้ามไปเกาะช้างตั้งแต่ดั้งเดิม
ซึ่งตอนที่ผมไป ก็ยังเป็นท่าเรือหลัก แต่เดินทางไกลใช้เวลานานกว่า
ท่าเรือเฟอรี่ที่เพิ่งเปิดใหม่ ที่ใช้เวลาเดินทางข้ามไปเกาะเพียง 30 นาทีเองครับ
นี่ครับภาพเรือเฟอรี่ที่ข้ามไปเกาะช้างครับ (ขอขอบคุณ เครดิตภาพ ในอินเตอร์เนต ครับ)https://www.kohchangsleep.com/%E0%B8%95%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B9%84%E0%B8%9B%E0%B9%80%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%B0%E0%B8%8A%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%87-59608.page
เรือเฟอรี่ข้ามไปเกาะช้าง
หลังจากจัดการเรื่องข้ามไปเกาะช้างเรียบร้อย
ผมก็ไปหาของกินพวกสะแน็กซ์บาร์
พวกหวานๆที่ให้พลังงาน(เวเฟอร์พวกขนม ปักกิ่ง เซี่ยงไฮ้ 55 พูดซะหรู)
ซึ่งจำเป็นในการใช้โด๊ปตอนปั่นจักรยาน
และก็นมกล่องอีก 3 แพ็คจากร้านที่ฝั่งแถวๆท่าเรือ
ต้องตุนกันหน่อยครับ เพราะอยู่เกาะอีกหลายวัน
และคิดว่า ซื้อที่นี่น่าจะถูกกว่าที่เกาะ (ซึ่งก็ไม่รู้ว่าราคาถูกกว่ารึปล่าว เพราะว่า
ขนไปจนเหลือเฟือ เลยไม่ได้ไปถามราคาในเกาะเลย 55)
ใช้เวลาในเรือครึ่งชม.นิดๆ ก็มาถึงท่าเรือที่เกาะช้าง
ก็เข็นรถและของลงจากเรือ
ทีนี้เกิดปัญหาซะแล้ว
เพราะตอนไปซื้อของลืมนึกไปว่ามันใส่ไปในเป้ไม่ได้แล้ว
ก็ต้องแขวนไปกับแฮนด์จักรยาน
ซึ่งมันก็หนักพอควรแล้วยังแกว่งมาโดนเข่าอีกเวลาปั่น
ทำให้ควบคุมรถยาก และหน้ารถมันจะหนักกว่าเดิมอีก สุดจะพรรณนา
เป็นพวกบ้าหอบฟางไปแล้วตรู 55
ผมก็ได้วางแผนไว้แล้วว่า จะไปนอนที่หาดคลองพร้าว
ก็เริ่มปั่นทันที
เกาะช้างต้อนรับผมแล้วด้วยเขาลูกแรกคือเขาที่มีศาลเจ้า
ก็ต้องบดขึ้นไปเนิบๆ ขาขึ้นว่าเหนื่อยปวดหลังแล้ว
ขาลงเขายิ่งอันตรายกว่า
เพราะของที่แขวนไว้ที่แฮนด์มันแกว่งตอนรถมันลงเขาเร็วๆจะคว่ำเอาครับ
ทีนี้เราก็กะจะใช้ความเร็วช่วงลงเขาเป็นแรงส่งในการขึ้นเนินลูกต่อไป
เป็นอันจบเห่ ทำไม่ได้(กำ 55)
บางครั้งนึกอยากจะโยนของที่แฮนด์ทิ้งไป 55
หลังจากปั่นแบบทุลักทุเลมาได้ช่วงนึง
ก็มีทางราบให้พอชื่นใจหน่อย
แต่ชื่นใจได้แป๊บเดียวก็เจอของจริงครับ
เขาคลองสนซิครับ ชันและขึ้นยาวกว่าเขาลูกแรก
แบบมวยคนละรุ่น โคตรเหนื่อย ขอบอก
บางช่วงต้องยืนขึ้นโยก หยุดปั่นไม่ได้เลย
ถ้าหยุดเป็นไหลถอยหลังทันที
มีหลายช่วงต้องลงจากรกและเข็นรถเอา
เพราะของมันแกว่งแล้วมาโดนขา ทำให้เสียจังหวะต้องรีบลงจากอาน
เบรกให้อยู่ แล้วเข็นซิครับ เพราะมันออกตัวปั่นไปต่อไม่ได้แล้ว
จนถึงช่วงลงเนินเล็กๆถึงจะขึ้นปั่นเซฟแรงได้บ้าง
แต่เร็วก็ไม่ได้หน้ารถมันแกว่งไปมาน่าหวาดเสียวจะตกเขาเอา
บางทีลงชันๆไม่พอดันหักศอกอีก
เกือบจะเอาชิวิตไปทิ้งเพราะนมกล่อง 3แพ็ค ซะแล้ว
แล้วที่ซื้อมา 3 แพ็ค ก็กะจะกินวันละแพ็ค อยู่เกาะ3 วันก็3 แพ็ค
มันก็เลยเสียสุมดุล ข้างนึงนม2 แพ็ค
อีกข้าง นม1แพ็ค รวมกับเวเฟอร์3แพ็ค
แต่มันหนักไม่เท่ากัน เฮ้อ..
ผ่านวิกฤติมาได้จนถึงหาดคลองพร้าว แบบลุ้นระทึกจริงๆ
ธรรมชาติมักยุติธรรมเสมอ
หาดทรายสวยมาก น้ำทะเลสวยมาก อากาศดีมาก
ผมเอาจักรยานจอดพิงกับต้นมะพร้าว
ปลดของที่แฮนด์และเป้ออกจากหลัง
แล้วเอาเป้หนุนหัวนอนเหยียดยาว แบบหมดจริงๆ
นอนอยู่นานมาก
จนมีเสียงคนมาทัก ว่าหาที่พักมั๊ย
“คืนละเท่าไรครับ”
“ 150 บาท”
“มีพัดลม 300”
ผมก็มองตามมือลุงไป เป็นบังกะโล หลังคาจาก ขนาดกระทัดรัด
น่าจะนอนได้2 คนพอดี
“ผมเอา หลัง150 ครับ”
ลุงบอกว่าให้ไปจ่ายเงินที่ร้านอาหาร อยู่หลังแนวต้นมะพร้าวใกล้ๆบังกะโล
ผมก็เลยไปถามเรื่องอาหารด้วยเพราะบ่ายสามกว่าแล้ว หิวมากด้วย
อาหารตามสั่ง ถ้าจำไม่ผิดน่าจะ35 บาทเองครับ
เพราะมันไม่ใช่หน้าไฮซีซั่น
รสชาติดีด้วย ของทะเลพวก กุ้ง หมึก สดมากๆ
ผมก็สั่งพวก ผัดพริกแกง ผัดกระเพรา จำได้ว่าเบิ้ลครับ 2จานเลย
หิวมากกินหมดเกลี้ยงจนแทบจะทุบจานกินเข้าไปด้วย 55
เพราะอาหารอร่อย และไม่แพงอย่างที่คิดไว้
พวกนมกับขนมที่ตุนไปเลยไม่ค่อยได้กิน
เหลือกินได้ยันเช้าวันกลับ
พอกินข้าวเสร็จก็คุยกันเรื่องที่พัก
เจ้าของร้าน ซึ่งน่าจะเป็นเจ้าของบังกะโลที่พักด้วย
ถามว่าจะอยู่กี่วัน
ผมก็บอกประมาณ 3วัน เช้าวันที่4 จะเดินทางกลับ
แต่ผมขอเช่าเป็นวันต่อวัน เผื่อปั่นไปเที่ยวแล้วพักที่อื่น
เจ้าของร้านก็ตกลง แล้วก็จ่ายค่าข้าวและค่าที่พักคืนแรกไป
จากนั้นก็จูงจักรยานมาที่พักที่ติดๆกับร้านข้าว
แล้วก็เจอกับ หนุ่ม สาว 2คนขับรถยนต์ มาเที่ยวมีจักรยานติดมาด้วย
ผู้หญิงก็เข้ามาทักแล้วถามว่า “พี่ปั่นมาจากไหนคะ”
ผมก็ตอบว่า” มาจากแปดริ้วครับ”
“ปั่นมาคนเดียวเหรอ”
ผมก็ตอบว่า”ใช่ครับ”
มีเสียง โห แล้วน้องผู้หญิงก็หันไปพูดกับน้องผู้ชายว่า
“เห็นไหม พี่เค้ายังปั่นมาจากแปดริ้วคนเดียวได้เลย”
“ชวนปั่นมาจากชลบุรี ก็ไม่เอา”
น้องผู้ชายก็ว่า “ไหวเหรอ”
แล้วทั้งสองคนก็หัวเราะกัน แล้วก็ชวนผมคุยอีกนิดหน่อยแล้วก็แยกกันไป
พอแยกจากน้องสองคนนั่นแล้ว ผมก็ไปที่ห้องพัก
สภาพห้องโล่งๆ มีเสื่อปูไว้ให้ผืนนึง ที่นอนมีหรือเปล่าจำไม่ได้แล้ว
กว้างขวางพอสมควร ห้องน้ำนี่จำไม่ได้ว่ามีส่วนตัวหรือห้องน้ำรวม
พอจัดข้าวของเสร็จ ก็เอาเชือกออกมาขึงระหว่างต้นมะพร้าวใกล้ๆที่พัก
ทำเป็นราวตากผ้า แล้วเสื้อผ้าที่ซักแล้วแต่ยังชื้นๆอยู่ออมมาผึ่ง
แล้วก็ออกไปเดินเล่นน้ำทะเล นอนแช่น้ำสบายใจเฉิบไป
เป็นช่วงเวลาที่สบายที่สุด นับตั้งแต่ออกจากบ้านที่แปดริ้วมา
เมื่อ4วันก่อน
แล้วก็มาเจอเรื่องเซอร์ไพรส์ตอนกลางคืน
เมื่อนอนอยู่ดีๆ พอดึกๆหน่อย สี่หรือห้าทุ่มนี่แหละ
ลมที่เคยพัดตึงๆเข้าฝั่งอยู่ดีๆ ก็เงียบซะงั้น
ทีนี้ในห้องก็ร้อน อบอ้าวซะแล้ว
เมื่อร้อนนอนไม่หลับ ก็เลยออกจากห้อง
เอาเปลมาผูกนอนที่ต้นมะพร้าวข้างๆที่พักแทน
พอค่อยคลายร้อนไปได้บ้าง
แต่ต้องแลกมาด้วยยุงครับ ชุมชะมัด
ก.ย.15 ก็มีแต่ไม่ได้หยิบมา ง่วงๆเลยขี้เกียจเข้าไปเอาที่เป้
เลยนอนส่งๆไป ยุงจึงเล่นซะแขน ขาลายไป 55
หาดคลองพร้าว
ขอบคุณภาพในอินเตอร์เน็ตครับ
DAY 5 ตามลิงค์นี้ครับ
DAY 1-3 ตามลิงค์นี้ครับ
โฆษณา