30 ธ.ค. 2021 เวลา 09:53 • ธุรกิจ
เหตุใดจึงกล่าวได้ว่า SAINT LAURENT กำลังเติบโตไปสู่ Megabrand
ในปี 2021 แบรนด์ในโลกธุรกิจแฟชั่นหรูหราต่างพากันดิ้นรนเพื่อการอยู่รอดท่ามกลางเหตุการณ์โรคระบาด บางแบรนด์ล้มลุกคลุกคลาน แต่ในขณะที่หลายๆแบรนด์ก็ไม่ได้รับผลกระทบเท่าไหร่นัก โดยปกติแล้วแบรนด์ที่ทำยอดขายได้มากกว่า 1 พันล้านยูโร มันก็มากเพียงพอที่จะเรียกได้ว่าประสบความสำเร็จ แต่ก็มีบางแบรนด์ที่ได้มากกว่านั้น
ตามรายงานของสื่อเจ้าดังอย่าง WWD ได้กล่าวเอาไว้ว่าปีที่ผ่านมาแบรนด์ที่ประสบผลสำเร็จในด้านยอดขายส่วนใหญ่ล้วนแล้วแต่เป็นแบรนด์ระดับบิ๊กเนมที่เราต่างคุ้นหน้าคุ้นตากันดีอยู่แล้ว ยกตัวอย่างแบรนด์ระดับ LOUIS VUITTON หรือว่า CHANEL แบรนด์เหล่านี้นั้นมียอดขายเกิน 10 พันล้านยูโร รวมไปถึงแบรนด์บิ๊กเนมอื่นๆที่ตบเท้าก้าวเข้ามาร่วมกลุ่มแบรนด์ที่มียอดขายในระดับที่น่าพอใจ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าการมีแบรนด์ดิ้งที่แข็งแกร่งคือข้อได้เปรียบในการกระตุ้นให้ผู้บริโภครู้สึกว่า “ไม่ได้ซื้อก็ไม่เป็นไรแต่ถ้าซื้อก็จะดีกว่า”
แต่ในขณะเดียวกันแบรนด์ที่ไม่ได้มีสถานะอยู่ในระดับ Tier 1 อย่าง SAINT LAURENT คือหนึ่งในแบรนด์ที่น่าจับตามองมากที่สุดของปีด้วยยอดขายที่มากกว่า 2 พันล้านยูโร แน่นอนว่าหากวัดจากชื่อเสียงและความใหญ่โตของแบรนด์นั้นเรียกได้ว่าเล็กว่าแบรนด์ที่กล่าวมาข้างต้นอยู่มากโข แต่จากปีที่ผ่านๆมาจะเห็นได้ว่า SAINT LAURENT คือแบรนด์ที่เติบโตอย่างแข็งแกร่งและมั่นคงจนก้าวขึ้นมาเป็นกำลังหลักในการขับเคลื่อนรายได้ให้กับ Kering Group ร่วมกับ GUCCI, BALENCIAGA และ BOTTEGA VENETA
1
SAINT LAURENT มียอดขายถล่มทลายทั้งที่ไม่ได้ตั้งราคาสินค้าแพงเท่า CHANEL หรือว่าไม่ได้วางแนวทางแห่งความเป็นแบรนด์ที่มีความ exclusive เหมือนกับ HERMES แต่ SAINT LAURENT ใช้แนวทางการตลาดอย่างกลยุทธ์ Target Communication เพื่อสื่อสารกับกลุ่มเป้าหมายที่มีอายุน้อยอย่างชาวมิลเลนเนี่ยลและกลุ่ม gen z รวมไปถึงการตั้งราคาที่เป็นกุญแจสำคัญแห่งความสำเร็จ โดยทางแบรนด์ได้ประเมิน range ของผลิตภัณฑ์อย่างรอบคอบ และประเมินราคาที่จะทำให้ผู้บริโภคเข้าถึงได้ง่ายกว่าคู่แข่ง
ซึ่งจะเห็นได้ว่า SAINT LAURENT ตั้งราคาไว้ที่ระดับกลางๆ ไม่ได้แพงหูฉี่ แต่ในขณะเดียวกันก็ไม่ได้ถูกจนถึงขนาดเรียกได้ว่าเป็นราคาที่ affordable มากจนเกินไปนัก และด้วยราคาที่ย่อมเยาว์กว่าคู่แข่งเฉกเช่น DIOR, CHANEL หรือว่า LOUIS VUITTON ทำให้ SAINT LAURENT เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับคนรุ่นใหม่ แถมทางแบรนด์ยังสามารถวิเคราะห์พฤติกรรมของกลุ่มเป้าหมายที่เป็นชาวมิลเลนเนี่ยลกับ gen z ได้ว่าพวกเขาไม่ต้องการยึดติดกับการบริโภคสินค้าของแบรนด์หรูหรามากจนเกินไปนัก SAINT LAURENT จึงเป็นตัวเลือกที่ปลอดภัยในการตอบสนองพฤติกรรมของกลุ่มเป้าหมายได้อย่างดีเยี่ยม
2
ยิ่งไปกว่านั้น ด้วยกลยุทธ์ Target Communication ของแบรนด์ที่เน้นการสื่อสารด้วยดิจิทัล จะเห็นว่า SAINT LAURENT มีผู้ติดตามใน Social Media เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งนั่นเป็นส่วนสำคัญในการขยายฐานลูกค้า ไม่ว่าจะด้วยการใช้ดาราเซเลปวัยรุ่นมาเป็นตัวชูโรงในการโปรโมทที่ทำให้ SAINT LAURENT เป็นที่พูดถึงจากกลุ่มแฟนคลับที่ล้นหลามของพวกเขา
โดยเฉพาะอย่างยิ่งการมี Global Brand Ambassador อย่าง โรเซ่ แห่งวง BLACKPINK มาเป็นกำลังหลักในการขับเคลื่อนการสื่อสารไปยังกลุ่มเป้าหมายที่เป็นนักช็อปรุ่นเยาว์สามารถสร้างความนิยมให้กับแบรนด์ได้อย่างมหาศาล โดยมีรายงานว่าด้วยอิทธิพลของโรเซ่และแฟนคลับจำนวนมากของเธอทำให้แบรนด์ SAINT LAURENT ได้รับความสนใจเพิ่มขึ้นหลายเท่าตัวในตลาดเอเชีย
1
ด้วยการสื่อสารที่ตรงจุด ทำให้ในไตรมาสที่สามของปี 2021 ยอดขายส่งของ SAINT LAURENT เพิ่มขึ้น 22% ส่วนใหญ่เป็นยอดขายของคอลเลกชั่นเสื้อผ้าสตรีในฤดูใบไม้ร่วง โดยมีรายงานว่าราคาหุ้นของ Kering เพิ่มขึ้นโดยมีสาเหตุหลักมาจากประสิทธิภาพที่มั่นคงของแบรนด์อื่นๆในพอร์ต โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเติบโตอย่างรวดเร็วของ SAINT LAURENT
ก็นับว่าเป็นความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ของแบรนด์หรูจากฝรั่งเศส ด้วยผลงานที่จับต้องได้ด้วยเม็ดเงินมหาศาล ภายหลัง Vogue Business ได้เผยบทสัมภาษณ์ CEO ของแบรนด์อย่าง Francesca Bellettini เธอได้บอกกับทีมงาน Vogue ว่า เมื่อมีรายได้ที่ 2 พันล้านยูโรแล้ว การคิดถึงความเป็นไปได้ที่ 3 พันล้านยูโรนั้นง่ายเกินไป.. หรือจะแปลกันอย่างเข้าใจง่ายๆก็คือ ในเมื่อทำยอดขายได้ 2 พันล้านยูโรในปีนี้ ถ้าปีหน้าตั้งเป้าไว้ที่ 3 พันล้านมันก็ดูจะไม่ใช่เรื่องเหนือบ่ากว่าแรงสักเท่าไหร่
1
ซึ่งไม่มีใครรู้ว่าแท้จริงแล้ว SAINT LAURENT มีเป้าหมายใหม่ที่เท่าไหร่กันแน่ แต่แหล่งข่าวของ Vogue บอกว่า ทางแบรนด์ได้ตั้งเป้าหมายในอนาคตไว้ว่าจะต้องทำยอดขายให้ได้ถึง 5 พันล้านยูโรเลยทีเดียว
ซึ่งนั่นหมายความว่า SAINT LAURENT เองก็มีความทะเยอทะยานในการผลักดันตัวเองให้ไปเทียบบารมีกับแบรนด์ระดับบิ๊กเนมอยู่ไม่น้อยเหมือนกัน
โฆษณา