Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
Main Stand
ยืนยันแล้ว
•
ติดตาม
31 ธ.ค. 2021 เวลา 17:45 • กีฬา
รวมเทคโนโลยีสุดล้ำ ที่เผยโฉมในวงการกีฬาปี 2021 | Main Stand
เทคโนโลยีกับนวัตกรรม สองสิ่งที่เข้ามาเติมเต็มและยกระดับวงการกีฬาให้สามารถผลักดันประสิทธิภาพทางร่างกายของผู้แข่งขัน หรือปลดล็อกมุมมองใหม่ ๆ สำหรับผู้ชมทั้งบนอัฒจันทร์และจากหน้าจอของตน
ปี 2021 ก็ถือเป็นปีแห่งนวัตกรรมใหม่ ๆ เช่นกัน จากทั้งมหกรรมกีฬาโอลิมปิกฤดูร้อนหรือรายการลีกการแข่งขันทั้งหลาย ที่ต่างได้เดบิวต์เทคโนโลยีเหล่านี้ออกสู่สายตาสาธารณชนเป็นครั้งแรก
มีอะไรบ้างที่ทีมงาน Main Stand คิดว่าคือที่สุดยอดนวัตกรรมของปี 2021 บ้าง เชิญมารับชมไปพร้อมกัน
กล้องที่จับอัตราการเต้นหัวใจ
ทุกวันนี้ นาฬิกาข้อมือแบบสมาร์ทวอทช์ หรือหลังโทรศัพท์มือถือบางรุ่นก็มีความสามารถในการวัดอัตราการเต้นของหัวใจของคุณได้แบบค่อนข้างแม่นยำแล้ว โดยเป็นการอาศัยการยิงแสงสีเขียวเข้าไปที่เส้นเลือดของเราเพื่อวัดอัตราการไหลเวียนของเลือด ก่อนจะนำไปคำนวณเป็นอัตราการเต้นของหัวใจ ณ ขณะนั้นขึ้นมา
ทว่า Panasonic ก็พานวัตกรรมดังกล่าวก้าวขึ้นไปอีกขั้น เพราะในโอลิมปิก 2020 ที่กรุงโตเกียวนั้น พวกเขาสามารถวัดอัตราการเต้นของหัวใจนักกีฬายิงธนูผ่านการส่องกล้องไปที่ใบหน้าของพวกเขา
วิธีการดังกล่าวใช้เทคนิคที่มีพื้นฐานคล้ายกับการยิงแสง LED สีเขียว แต่เปลี่ยนเป็นการจับภาพการเปลี่ยนแปลงสีบนใบหน้า เนื่องจากการไหลเวียนของเลือดใต้ผิวหนังที่ไม่อาจมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า และนำมาประมวลผลเป็นอัตราการเต้นของหัวใจ ซึ่งจะถูกถ่ายทอดสดไปพร้อมกับภาพของนักกีฬาเหล่านี้ และสามารถช่วยแสดงให้เห็นถึงความกดดัน ความตื่นเต้น และความลุ้นระทึกระหว่างแข่งขันจริงได้ดียิ่งขึ้น
(
https://news.panasonic.com/global/stories/2021/87744.html
)
ชุดว่ายน้ำที่ได้รับแรงบันดาลใจจากฉลาม
เปล่านะ ชุดนี้ไม่ได้ทำให้คนใส่อยากกินคนขึ้นมาแต่อย่างใด ทว่าเจ้าชุดว่ายน้ำรุ่น Fastskin Pure ของ Speedo ที่ถูกสวมใส่โดยนักกีฬาหลายรายในโอลิมปิก 2020 ก็ได้เป็นส่วนช่วยให้พวกเขาทำลายสถิติโลกกับสถิติโอลิมปิกลงได้มากพอสมควร
หากจำกันได้ Speedo เคยร่วมออกแบบชุด LZR Racer กับ NASA เพื่อใช้ในโอลิมปิก 2008 มาแล้ว จนเกิดเป็นประเด็นด้าน "การโด๊ปทางเทคโนโลยี" (Technological Doping) และมีการปรับแก้กฎบังคับใหม่ทั้งหมด แต่พวกเขาก็ยังกลับมาใหม่อีกครั้งด้วยการปรับชุดให้เข้ากับกฎของ FINA หรือ สหพันธ์ว่ายน้ำนานาชาติ สำหรับใช้ในโอลิมปิกครั้งที่ผ่านมา
1
แม้ NASA จะไม่ได้เข้ามามีส่วนช่วยออกแบบชุดนี้อย่างเต็มตัวแล้ว แต่ Speedo ก็ได้ร่วมมือกับนักวิจัยจากหลายแห่ง เพื่อศึกษาฉลามและบรรพบุรุษของมัน ว่าน้อง ๆ เหล่านี้มีเคล็ดลับเพื่อลดแรงต้านระหว่างกำลังว่ายน้ำได้อย่างไร โดยยังได้ศึกษาหลักพลศาสตร์ของการไหลกับรายการแข่งรถ ฟอร์มูล่าวัน และร่วมมือวิจัยภายใต้หลักชีวกลศาสตร์ เพื่อเพิ่มความยืดหยุ่นในการเคลื่อนไหวร่างกายและลดแรงต้านใต้น้ำลงให้ได้มากที่สุด
ผลที่ได้ก็คือ มากกว่า 62% ของสถิติโลกที่เกิดขึ้นหลังการวางขายชุดว่ายนํ้าดังกล่าวมาจากชุดว่ายน้ำตระกูล Fastskin Pure ทั้งสองรุ่นเลย
1
(
https://www.thenewsmarket.com/news/speedo-unveils-u.s.-federation-fastskin-swimsuit/s/7e827df0-621d-456b-937a-bb3b07fb7f32
)
เสื้อเบลเซอร์ระบายความร้อน
อีกหนึ่งนวัตกรรมจากโตเกียวโอลิมปิกที่ถูกสอดไส้ไว้ภายใต้เสื้อเบลเซอร์ของทีมชาติสหรัฐอเมริกา ที่ได้แบรนด์อย่าง Ralph Lauren มาดูแลด้านการออกแบบชุดพิธีการมาตั้งแต่ปี 2008
ด้วยอุณหภูมิในช่วงเดือนกรกฎาคมของประเทศญี่ปุ่นที่ค่อนข้างร้อน (สมชื่อโอลิมปิกฤดูร้อน) ทำให้มีการเปิดตัวเทคโนโลยี RL Cooling ที่อาศัยอุปกรณ์ควบคุมและติดตามอุณหภูมิภายในชุด เพื่อสั่งการให้ระบบที่ฝังอยู่ในเสื้อเบลเซอร์นี้สามารถระบายความร้อนออกไปได้ คล้าย ๆ กับเครื่องปรับอากาศ ซึ่งทาง Ralph Lauren ระบุว่าพวกเขาใช้เทคโนโลยีแบบเดียวกันกับระบบระบายความร้อนของคอมพิวเตอร์ที่ล้ำสมัยที่สุดในโลก
อันที่จริงนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่แบรนด์ชื่อดังจากอเมริกาเข้ามาจับเทคโนโลยีตัวนี้ เพราะพวกเขาเคยร่วมมือกับ สํานักงานโครงการวิจัยขั้นสูงด้านพลังงาน ของกระทรวงพลังงานสหรัฐฯ มาแล้วในปี 2018 เพื่อผลิตชุดที่กักเก็บความร้อน สำหรับให้ความอบอุ่นกับนักกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาว ระหว่างลงแข่งขันที่ พยองชาง ประเทศเกาหลีใต้ ก่อนจะปรับจากให้ความร้อนมาเป็นให้ความเย็นแทนในปีนี้
(
https://corporate.ralphlauren.com/pr_210713_OpeningOlympics.html
)
VAR จังหวะล้ำหน้าแบบกึ่งอัตโนมัติ
แม้ VAR จะถูกนำมาทดลองใช้ในวงการฟุตบอลตั้งแต่ปี 2016 และเป็นส่วนหนึ่งในการตัดสินเกมพรีเมียร์ลีกอย่างเป็นทางการตั้งแต่ฤดูกาล 2019-20 แต่ข้อครหาสำคัญที่ระบบภาพช่วยตัดสินนี้ยังต้องพิสูจน์ตัวเองอีกพอสมควร คงไม่พ้นเรื่องการให้คำนิยามของ "ลูกล้ำหน้า"
กรณีศึกษาจากมุมกล้องในสนามหรือการตีเส้นที่ทำให้เกิดเหตุการณ์ "รักแร้ล้ำหน้า" หรือ "เส้นหนาเกินไป" จนเรียกรถทัวร์มาลงตรงหน้าผู้ตัดสินมาแล้วนัดต่อนัด ทำให้ทาง FIFA ตัดสินใจยกระดับมาตรฐานขึ้นมาอีกครั้ง ผ่านระบบตัดสินลูกล้ำหน้าแบบกึ่งอัตโนมัติ ที่ถูกทดสอบเป็นครั้งแรกในปีนี้ที่รายการอาหรับ คัพ ณ ประเทศกาตาร์
การตัดสินแบบกึ่งอัตโนมัตินี้จะใช้กล้องความละเอียดสูง 10-12 ตัว เพื่อตามเก็บข้อมูลการเคลื่อนไหวของผู้เล่นทั้ง 22 คนในสนามที่ 50 ครั้งต่อวินาที เพื่อให้ระบบไปประมวลผลจังหวะที่มีการผ่านบอล รวมถึงตำแหน่งของนักเตะที่ถูกสงสัยว่าล้ำหน้าหรือไม่ ซึ่งจะมีประสิทธิภาพดีกว่าการตัดสินด้วยภาพช้าเพียงอย่างเดียวที่มีข้อจำกัดเรื่องเฟรมเรตหรือจังหวะการหยุดภาพได้
อย่างไรก็ตามคำตัดสินสุดท้ายจะต้องมาจากผู้ตัดสินทั้งในสนามและในห้อง VAR อยู่ดี ซึ่งอาจยังต้องรออีกสักพัก ก่อนที่เราจะได้เห็นระบบตัดสินล้ำหน้าแบบใหม่ถูกนำมาใช้อย่างจริงจังในอนาคต
(
https://theathletic.com/2990737/2021/12/02/semi-automated-offsides-fifa-new-baby-bold-step-development-var/
)
ฝึกซ้อมด้วยเทคโนโลยีอวกาศ
จีน ชาติมหาอำนาจด้านกีฬาและหน้าใหม่ไฟแรงในวงการอวกาศ ได้นำทั้งสองเรื่องนี้มาผนวกเข้าด้วยกัน ผ่านการนำนักกีฬาว่ายน้ำและพายเรือมาฝึกซ้อมในอุโมงค์ลมของหน่วยงานอวกาศในประเทศตัวเองเสียเลย
ไม่ใช่เพราะพวกเขาไม่มีสระว่ายน้ำให้ฝึกกัน แต่การเข้าไปในอุโมงค์ลมจะช่วยให้โค้ชและนักกีฬาได้เห็นการเคลื่อนไหวของตนเอง ซึ่งสามารถปรับการออกสโตรกหรือจังหวะการพายเรือ เพื่อช่วยให้ร่างกายลดแรงต้านได้ แบบเดียวกับที่จรวดหรือมิสไซล์ที่ใช้เพื่อเดินทางขึ้นสู่อวกาศจากฐานปล่อย
และความพยายามของพวกเขาก็ไม่ได้สูญเปล่า เพราะทัพนักกีฬาจีนสามารถคว้ามาได้ทั้งเหรียญทองพร้อม ๆ ไปกับทำลายสถิติโลกเดิมลงได้ จากทั้งกีฬาว่ายน้ำและพายเรือ ซึ่งอาจทำให้ชาติที่มีความพร้อมในด้านนี้หันมาให้ความสนใจกับการฝึกซ้อมรูปแบบใหม่นี้เพิ่มขึ้นเช่นกัน
(
https://www.abc.net.au/news/2021-08-07/missile-tech-streamlines-china-medal-winners-tokyo-olympics-2020/100345774
)
4 บันทึก
3
1
4
3
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย