31 ธ.ค. 2021 เวลา 17:55 • ความคิดเห็น
เรื่องราว เหล่านี้ ที่จริงแล้ว ถ้าเราลงแรงกายประพฤติปฏิบัติธรรมขึ้นมา เรื่องราวทั้งหมดที่ถาม เราจะได้เรียนรู้จักขึ้น ว่าเรื่องราวอารมณ์ที่อุปโลกน์มันเป็นอย่างไร เรื่องราวไสยศาสตร์เป็นอย่างไร สมมุติเทพมันมาอย่างไร ทำไมผู้คนจึงหลงไหล เราลงทุนลงแรงหน่อย เหมือนออกกำลัง ปฏิบัติธรรมที่แจ้งบ้าง ตากฝนตากแดด ฝนตกหนักฟ้าผ่าเปรี้ยงไปนั่งเลย หาที่เหมาะกระทำ ทำมันขึ้นมาจริงๆ ให้รู้จักคำว่าจิตตนเอง เรื่องราวของจิตเพียงแค่อาศัยกายที่มันเกิดมาก็แก่เฒ่าชรา มากระทำขึ้น จะได้รู้จักว่า ความงมงายมาจากส่วนใดบ้างในกายนี้ กายมันหิวบ่อยนัก ก็แกล้งไม่กินเสียบ้าง จะได้รู้ว่ามันเป็นอย่างไร จะตายมั้ย
เรื่องราวที่เกิดขึ้นจากกายนี้ เราทำให้เข้าใจ จับมันขึ้นมาพิจารณาดู ไม่ใช่พิจารณานึกคิดเอาเฉยๆ อุปโลกน์ขึ้นมา ต้องทำให้กายนั้นนิ่งเหมือนท่อนซุงไปเลยได้ยิ่งดี จะได้รู้อารมณ์ กรรม จิตมันแยกกันอย่างไรบ้าง เรื่องราวการสัมผัสนั้นเป็นอย่างไรทำให้มันละเอียดจริงๆ เหมือนกายนี้ไม่มีตัวตนได้ยิ่งดี เผื่อจะได้เรียนรู้จักสิ่งที่มองไม่เห็นด้วยสายตา พวกผีสางอะไรบ้างจะได้ประเทือนปัญญา ที่ข้อจำกัดของกายที่มีกรรมด้วยอารมณ์มันอยู่เหนือจิต จิตรู้จักมั้ยที่ว่ากายนั้นมีกรรม มีลักษณะอย่างไรภายในกาย แล้วกรรมนั้นมีที่มาที่ไปอย่างไร ถ้าเรารู้ว่ากายมีกรรม ยามเจ็บป่วยเรามัวแต่พึ่งมดพึ่งหมอ เราปฏิบัติธรรมขึ้นมาให้รู้จักว่า ที่เจ็บป่วยมันมาจากไหนที่กายประกอบด้วมธาตุสี่ เมื่อรู้ว่าที่เจ็บมันมาจากไหน เราจะแก้ไขกายนี้อย่างไร อย่าไปดึงหมอ ทำให้มันรู้ขึ้นด้วยตัวเรา กายนี้เป็นสถานที่ที่เรียนรู้ มันก็เป็นประโยชน์ต่อจิตเราเอง
กายที่อาการไม่ครบสามสิบสองนั้น เอามาประพฤติปฏิบัติธรรมเรียนรู้ยาก ต้องมีการครบสามสิบสอง
เราต้องปฏิบัติธรรมไปตามที่พระพุทธเจ้าท่านสอน สอนเรื่องปัญญาของจิต ไม่ใช่ปัญญาของกายจดจำนึกคิด ตลอดจนเรื่องเทพเจ้าพ่อเจ้าแม่อะไรต่างๆ เรื่องราวเทพจริงๆนั้นเป็นอย่างไร เทพแอบอ้างสิบแปดมงกุฎนั้นเป็นอย่างไร สิ่งที่เค้าพูดถึงกัน มันแตกต่างกันอย่างไร รู้จักให้มันประจักษ์ชัดเจน มันจะเป็นคำตอบ ลงทุนหน่อย แค่เอากายมาปฏิบัติธรรม กายนี้จะเป็นเหมือนห้องแลปให้เราได้เรียนรู้เรื่องราวต่างๆมากมาย กายเราที่อาศัยนั้น เอามาเรียนรู้จักแบบเจ้าชายสิทธัตถะ กายนี้จะได้ไม่เปล่าประโยชน์รำพึงรำพันไปตามอารมณ์ ตัดเรื่องกลัวตายออกไปได้ยิ่งดี ตัดความกลัวความเจ็บปวดได้ยิ่งดี นั่งนิ่งๆ ทำจิตเฉย อย่าขยับเขยื้อน ขยับเขยื้อนเมื่อไหร่ ก็แพ้อารมณ์ นั่งนิ่งเฉยๆ อย่าขยับ ดูลมหายใจไป นานๆ นั่งนิ่งทำจิตเฉยๆ นานๆไม่ตายหรอก ลองทำดูนะ ทำได้มั้ย นั่งพับเพียบ ยืดกายตรงๆได้ยิ่งดี มันเจ็บปวดทันใจดีนะ อดทนไว้ให้เกิดขันติ ทำให้เป็นนิจสิน
แล้วเราจะได้คำตอบดีๆ เป็นปัญญาของจิตตน ทำตามที่พระพุทธเจ้านั้นแหละปลอดภัย ถึงตอนนั้นที่เราได้คำตอบ ไปบอกใครเค้าหาว่าบ้า ต้องอยู่เงียบสงบเสงี่ยม เจียมเนื้อเจียมตัว เพราะเกรงกลัวกรรม ไม่อยากมีกรรมสะสมให้มากมาย หนีดีกว่า เงียบหุบปากไว้ แล้วก็ไม่อยากบอกใคร กลัวทิฐิเห็นตัวเองดีแล้ว อวดเก่ง อวดดีมันเกิดขึ้นเป็นอารมณ์กรรมทั้งคนพูดคนฟัง มีแต่เสีย คุยกับคนปฏิบัติธรรมอย่างหนึ่ง คุยกับคนไม่ปฏิบัติธรรมหมกมุ่นกับกรรม กรรมเค้าก็ปิดจิตไม่ให้รู้ รู้ไปตามอารมณ์ที่จดจำ วิตกวิจารณ์หยุดอยู่แค่นั้น ไม่มีประโยชน์อะไรให้แก่จิตเลย ที่ต้องออกจากกายนี้ไป
โฆษณา