2 ม.ค. 2022 เวลา 07:01 • ปรัชญา
1) ผมมองว่าการทำดีไม่จำเป็นต้องได้อะไรทางวัตถุและชื่อเสียงเป็นสิ่งตอบแทน เพราะคนทำดีได้ความสบายใจในฐานะผู้ให้อยู่แล้ว คนที่ทำดีมากๆจิตใจจะสงบมาก จิตสงบมากจะมีปัญญามาก มีปัญญามาก จะแก้ปัญหาได้มาก แก้ปัญหาได้มาก ทุกข์ก็จะน้อย ทุกข์น้อยๆ ก็มีกำลังไปทำดีได้อีกมากๆ เป็นวัฎจักรอยู่เช่นนี้
ถึงคนทำดีจะไม่มีวัตถุทางโลกมาก ไม่มีชื่อเสียงเกียรติยศ แต่คนทำดีก็ไม่ได้เดือดร้อนดิ้นรนอะไร เพราะคนทำดีที่มีปัญญาเห็นถึงความไม่เที่ยงของ ชื่อเสียงเกียรติยศวัตถุทางโลกแบบนั้นอยู่แล้ว
2) คนชั่วที่ได้ “ดี”, แน่นอนว่า “ดี” ในที่นี้คงหนีไม่พ้น “ดี” ในทางโลก ซึ่งก็คือ ชื่อเสียงเกียรติยศเงินทอง ที่ได้มาโดยมิชอบด้วยกฎหมายและศีลธรรม
จิตของคนชั่วที่มีพื้นฐานคือความขี้ขลาดนั้นมันชี้ลงทางอบายภูมิตั้งแต่ยังมีชีวิตอยู่แล้ว “ดี” ทางโลกที่ได้มาจึงเป็น “ดี” จอมปลอมที่ไม่เที่ยง เพราะจิตที่แสวงหา “ดี” จอมปลอมเหล่านั้นเต็มไปด้วย โลภ, โกรธ, หลง ซึ่งเปรียบเหมือน GPS นำจิตลงสู่ภพภูมิเบื้องตำ่เมื่อสิ้นชีวิต และถึงแม้ในขณะที่มีชีวิตอยู่ สามสหาย โลภ, โกรธ, หลง ก็จะเผาจิตของคนชั่วให้มอดไหม้ หาความสงบไม่ได้ ถึงแม้จะยิ้มออกมา ใครเห็นเข้าก็ดูออกว่าเป็นรอยยิ้มจอมปลอมของคนขี้ขลาด มีแต่พวกบัวเหล่าล่างๆด้วยกันที่เห็นดีเห็นงามเห็นกงจักรเป็นดอกบัวเหมือนๆกันเท่านั้น ที่จะจูงมือกันลง........!!!
เมื่อท่านสาธุชน เห็นคนชั่วที่ได้ “ดี” จงสงสารในความด้อยปัญญาของบัวเหล่าล่างๆ เหล่านั้น ซึ่งวันหนึ่งจะเป็นอาหารของ “เต่าปลา” และจงอย่าได้อิจฉาบัวเหล่าล่างๆ
พวกนั้นเลย!
โฆษณา