4 ม.ค. 2022 เวลา 04:23 • สุขภาพ
ทุกคนจะได้รับเชื้อสายพันธุ์โอมิครอนไม่ช้าก็เร็ว!!!
133
แต่...
.
8
จะเกิดภูมิคุ้มกันหมู่
95
และอนาคตเราคงไม่ต้องมาฉีดวัคซีนกระตุ้นเข็ม 3 เข็ม 4 กันอีก เพราะเราทุกคนได้รับเชื้อสายพันธุ์โอมิครอนเปรียบเสมือนวัคซีนธรรมชาติชนิดตัวเป็นอ่อนฤทธิ์ (live attenuated vaccine) กระตุ้นภูมิต้านทานได้ดีกว่าวัคซีนทุกชนิดที่มีในปัจจุบัน
5
นพ.มนูญ ลีเชวงวงศ์ แพทย์เฉพาะทางด้านโรคระบบการหายใจ ผู้ป่วยหนัก และโรคผู้สูงอายุ โรงพยาบาลวิชัยยุทธ โพสต์ข้อความทางเพจ ‘หมอมนูญ ลีเชวงวงศ์ FC’ ระบุ
22
“ประเทศไทยกำลังจะเข้าสู่การแพร่ระบาดของโรคไวรัสโควิด-19 ระลอกใหม่ครั้งใหญ่ที่สุดในรอบ 2 ปี หลังวันหยุดยาวเทศกาลปีใหม่นี้ตัวเลขผู้ติดเชื้อจะก้าวกระโดดหลายหมื่นคนแต่ละวันในไม่ช้า แต่คนไทยไม่ต้องตื่นตระหนกตกใจมากเกินไป
14
เชื้อไวรัสโควิด-19 กลายพันธุ์โอมิครอน มีวิวัฒนาการเปลี่ยนไปจากเดิมมาก ปรับตัวเองให้เข้ากับคนได้ดียิ่งขึ้น แพร่จากคนสู่คนง่ายขึ้น ลดระยะฟักตัว และเปลี่ยนจากการก่อให้เกิดโรคทางเดินหายใจอักเสบทั้งส่วนบนและส่วนล่างรุนแรงเฉียบพลัน กลายเป็นเชื้อโคโรนาไวรัสที่ทำให้เกิดหวัดเล็กธรรมดา ไม่รุนแรง เป็นโรคติดเชื้อทางเดินหายใจส่วนบน ไม่ค่อยลงปอด เหมือนกับเชื้อโคโรนาไวรัสที่เรารู้จักมานานอย่างน้อย 50 ปีแล้ว ได้แก่ human coronavirus-229 E, human coronavirus-NL63, human coronavirus-OC43 และ human coronavirus-HKU1
เชื้อโคโรนาไวรัสดั้งเดิม 4 ชนิดนี้ก่อให้เกิดโรคหวัดธรรมดาในเด็ก เป็นเองหายเอง ส่วนผู้ใหญ่มักไม่ติดเชื้อนี้ เพราะมีภูมิต้านทานตามธรรมชาติเนื่องจากเกือบทุกคนเคยติดเชื้อนี้มาแล้วสมัยเป็นเด็ก ถึงปัจจุบันก็ยังไม่มีวัคซีนป้องกันเชื้อโคโรนาไวรัสสายพันธุ์ดั้งเดิม
8
หลังการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสสายพันธุ์โอมิครอนครั้งใหญ่นี้ เชื่อว่าทุกคนไม่ว่าจะเคยฉีดวัคซีน หรือเคยติดเชื้อไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์เดิมมาก่อน จะได้รับเชื้อสายพันธุ์โอมิครอนไม่ช้าก็เร็ว เกิดภูมิคุ้มกันหมู่ หวังว่าการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 คงจะจบลงสักที
1
อนาคตเราคงไม่ต้องมาฉีดวัคซีนกระตุ้นเข็ม 3 เข็ม 4 กันอีก เพราะเราทุกคนได้รับเชื้อสายพันธุ์โอมิครอนเปรียบเสมือนวัคซีนธรรมชาติชนิดตัวเป็นอ่อนฤทธิ์ (live attenuated vaccine) กระตุ้นภูมิต้านทานได้ดีกว่าวัคซีนทุกชนิดที่มีในปัจจุบัน อนาคตของบริษัทผลิตวัคซีนต่อต้านไวรัสโควิด-19 คงไม่รุ่งเหมือนช่วงที่ผ่านมา”
"โอมิครอน" สะสมพุ่งเป็น 1,780 รายแล้ว
2
วันนี้ (3 ม.ค.2565) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุข เปิดเผยผลตรวจโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนของกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ พบผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น 229 คน ทำให้ขณะนี้มีผู้ติดเชื้อสะสมทั้งหมด 1,780 คน โดย 5 จังหวัดที่พบผู้ติดเชื้อมากที่สุด ได้แก่ กรุงเทพมหานคร กาฬสินธุ์ ร้อยเอ็ด ชลบุรี และภูเก็ต
7
แต่สถานการณ์ทั่วโลกที่พบผู้ติดเชื้อโอมิครอนเพิ่มขึ้น ทำให้กระทรวงสาธารณสุขเตรียมเสนอต่อที่ประชุม ศบค.ให้พิจารณาชะลอการเดินทางเข้าประเทศในระบบ Test and Go ออกไปจนถึงสิ้นเดือน ม.ค. จากเดิมวันที่ 4 ม.ค.นี้
โอมิครอนลามแล้ว 132 ปท. สหราชอาณาจักรติดมากสุดกว่า 2.4 แสนคน ไทยอยู่อันดับ 15
1
เว็บไซต์ newsnodes.com ซึ่งทำการเก็บรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนในทั่วโลก ได้ปรับข้อมูลสถานการณ์ล่าสุดเมื่อเวลาราว 12.00 น.ของวันที่ 3 ธันวาคมตามเวลาในไทยว่า พบการระบาดของเชื้อโอมิครอนแล้วใน 132 ประเทศ/ดินแดน โดยมีจำนวนผู้ติดเชื้อโอมิครอนสะสมรวมกันทั่วโลกจำนวน 408,842 ราย และมีผู้เสียชีวิตแล้ว 85 ราย
2
โดยประเทศที่มีผู้ติดเชื้อโอมิครอนมากที่สุดในโลก 10 อันดับแรก ได้แก่ สหราชอาณาจักร 246,780 ราย เดนมาร์ก 54,616 ราย สหรัฐอเมริกา 28,716 ราย เยอรมนี 16,748 ราย แคนาดา 14,139 ราย นอร์เวย์ 12,128 ราย ฝรั่งเศส 4,942 ราย เอสโตเนีย 2,497 ราย ออสเตรีย 2,294 ราย และ ออสเตรเลีย 1,946 ราย
1
ส่วนประเทศที่มีผู้เสียชีวิตจากการติดเชื้อโอมิครอนมากที่สุด คือ สหราชอาณาจักร มีผู้เสียชีวิตแล้ว 75 ราย ตามด้วยเยอรมนี 5 ราย เกาหลีใต้ 2 ราย สหรัฐ 1 ราย ออสเตรเลีย 1 ราย และ อินเดีย 1 ราย
22

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา