4 ม.ค. 2022 เวลา 12:06 • การตลาด
ปฏิเสธไม่ได้ว่า ทุกวันนี้พฤติกรรมผู้บริโภคที่เป็นเทรนด์ในสังคมยุคนี้ ได้รับอิทธิพลมาจากเด็กรุ่น “Gen Z” แทบทั้งนั้น พูดให้ชัดๆ ก็คือ ผู้บริโภคสมัยนี้มักจะมีความเป็นตัวของตัวเองสูง ยอมไม่ได้กับความไม่เท่าเทียมในสังคม แถมยังเปลี่ยนนิยามความหมายหลายๆ อย่างในชีวิตใหม่ และงานไม่ใช่สิ่งที่พวกเขาให้ความสำคัญเป็นอันดับหนึ่งเหมือนคนรุ่นก่อนๆ
2
ส่อง 9 เทรนด์การเคลื่อนไหวของสังคม ที่จะมาแรงในปี 2022 โดย “Instagram”
กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ ชวนส่อง 9 เทรนด์การเคลื่อนไหวของสังคม ที่จะมาแรงในปี 2022 โดย “Instagram” ได้ทำการสำรวจจากพฤติกรรมและความนิยมของชาว “Gen Z” ซึ่งพบว่า ทั้งในวงการช้อปปิ้ง ความงาม เพลง แฟชั่น มีม การศึกษา ฯลฯ ล้วนแตกต่างไปจากยุคอดีตที่ผ่านมา
1
📌 1. การช้อปปิ้งออนไลน์
การช้อปปิ้งผ่านเทคโนโลยี AR (มองเห็นสินค้าได้ครบทุกมุมมอง) อาจได้รับความนิยมสูงขึ้นในปีหน้า ไม่ว่าจะอย่างไร การช้อปออนไลน์จะยังคงเป็นเทรนด์สำคัญต่อเนื่องไปอีกยาวๆ และการได้รับประสบการณ์ที่รู้สึกเหมือนจริง จะทำให้ผู้บริโภคเกิดความไว้วางใจในตัวสินค้าง่ายขึ้นกว่าเดิม
โดยวัยรุ่นกว่าครึ่งคาดหวังว่าจะสามารถช้อปปิ้งตรงจากฟีดโซเชียลมีเดียได้เลย หรือผ่านแอพพลิเคชั่นที่ไม่ซับซ้อน นอกจากนี้ การซื้อสินค้ามือสองเพื่อเป้าหมายด้านความยั่งยืน ก็เป็นสิ่งที่คนกลุ่มนี้สนใจมากขึ้นด้วย
1
📌 2. อุตสาหกรรมเพลง
การผลิต “เพลง” ทุกวันนี้ไม่ได้ทำมาเพื่อฟังอย่างเดียวเท่านั้น แต่ มันถูกพัฒนาไปสู่ “เพลงวิดีโอสั้น”, “เพลงที่มีวิชวลกราฟิกน่าสนใจ” และ “เพลงที่ต่อยอดเป็นชาเลนจ์การเต้นแข่งขัน” ซึ่งกำลังได้รับความนิยมในหมู่ Gen Z และจะเป็นเทรนด์ต่อเนื่องไปจนถึงปีหน้าอีกด้วย
2
วัยรุ่นสมัยนี้ชอบเพลงที่มีการนำเสนอกราฟิกสวย โดดเด่น เป็นเอกลักษณ์ อีกทั้งสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ทำให้ออกไปดูคอนเสิร์ตแบบเดิมไม่ได้ การนำเอากราฟิกเข้ามาช่วยทำให้เพลงมีความน่าสนใจมากขึ้น จึงทำให้รู้สึกน่าตื่นตาตื่นใจกว่าปกติ ในอนาคตหากมีการจัดคอนเสิร์ต คนสมัยนี้ก็คาดหวังว่าจะได้เห็นลูกเล่นของกราฟิกเฉิดฉายอยู่บนเวทีด้วย
1
📌 3. เซเลบริตี้ คนดัง และคอนเทนท์ครีเอเตอร์
2
ส่วนในวงการ “ครีเอเตอร์ออนไลน์” เช่น อินฟลูเอนเซอร์ หรือยูทูบเบอร์ มีการพัฒนาคอนเทนท์ไปในระดับที่สูงมากขึ้น เนื่องจาก ผู้ชมนิยมรับชมคอนเทนท์จากคนเหล่านี้มากขึ้นถึง 83%
1
โดยเฉพาะกลุ่มครีเอเตอร์ออนไลน์ที่มีอายุ 13-24 ปี เป็นส่วนสำคัญในการสร้างเทรนด์ใหม่ๆ ตลอดเวลา เพราะมีความเป็นตัวของตัวเองสูง มีอิทธิพลโน้มน้าวให้ผู้ชมคิดเห็นไปในทิศทางเดียวกัน รวมถึงยังทำให้ผู้ชมอยากช่วยแชร์คอนเทนท์นั้นๆ ต่ออีกด้วย
4
ขณะเดียวกัน ดาราจอแก้ว หรือเซเลบริตี้แบบเก่า ที่มีพื้นที่บนสื่อบันเทิงอย่างเป็นทางการ แม้จะมีอิทธิพลต่อการชมสื่อ แต่ไม่ได้มีอำนาจในการชักจูงให้ผู้คนขับเคลื่อนสังคมได้มากเท่าเหล่าครีเอเตอร์ออนไลน์ เพราะคนเหล่านี้สร้างคอนเทนท์ที่ให้ความรู้สึกใกล้ชิด เปรียบเสมือนเพื่อนนั่งคุยกันแบบเข้าอกเข้าใจ จึงได้ใจผู้ชมไปง่ายกว่าดาราบนจอทีวี
3
📌 4. การศึกษาและอาชีพ
จากการระบาดของโควิด-19 ที่ทำให้สังคมเปลี่ยนไป ทำให้คนรุ่นใหม่เปลี่ยนนิยามและวิธีคิดเรื่อง “ความสำเร็จ” ในด้าน “การศึกษาและการทำงาน” ที่แตกต่างไปจากกรอบความคิดเดิมๆ
เด็กสมัยนี้มีแนวคิดว่า “การศึกษาที่ดีที่สุดมาจากประสบการณ์โลกจริง” โดยบางคนเลือกที่จะเดินในสายอาชีพ “เฉพาะทาง” ไปเลย และคิดว่า “การศึกษาในระบบไม่สำคัญแล้ว”
3
นอกจากนี้นิยามของ “ความสำเร็จในหน้าที่การงาน” ก็เปลี่ยนไปอย่างมาก กล่าวคือชาว Gen Z จะไม่ให้งานเข้ามามีบทบาทในชีวิตมากเกินไป ถ้าเมื่อไหร่งานที่ทำอยู่ถูกบังคับให้ทำ จะรู้สึกไม่มีความสุขทันที
กลุ่มคนรุ่นนี้จึงมีแนวคิดว่า “งานไม่ใช่สิ่งที่สำคัญที่สุดในชีวิต” แต่สิ่งที่ทำให้ชีวิตมีความหมายคือ “การได้ทำงานในสิ่งที่ตัวเองชอบ แม้ว่าจะมีรายได้น้อยกว่าก็ตาม” นั่นทำให้เด็ก Gen Z กว่า 87% มักจะต้องทำงานเสริม เพราะเงินจากรายได้หลักมีไม่เพียงพอต่อการครองชีพ
1
📌 5. อาหารและเครื่องดื่ม
จากสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ที่ยืดเยื้อมานานเกือบ 3 ปี ทำให้ผู้คนต้องอยู่บ้านมากขึ้น ส่งผลให้หลายคนปลดล็อกสกิล “การทำอาหาร” ได้ดีทีเดียว
โดยเฉพาะคน Gen Z ที่ในปีหน้าคาดว่าจะมีการลงทุนกับการทำอาหารกินเองมากขึ้น เช่น ท้าทายตัวเองด้วยการทำอาหารที่มีขั้นตอนซับซ้อนขึ้น ทำอาหารที่ยากกว่าปกติ อบขนมเบเกอรี่ หรืออยากลองแต่งหน้าอาหารให้ดูแฟนซีมากขึ้นกว่าเดิม
นอกจากนี้คนที่อายุมากกว่า 21 ปีขึ้นไป ยังสนใจที่จะชง “เครื่องดื่มค็อกเทลหรือแอลกอฮอล์” ด้วย และจะพยายามไปหาแหล่งซื้อวัตถุดิบใหม่ๆ ที่หายาก สิ่งเหล่านี้แสดงให้เห็นว่าคน Gen Z มีแนวโน้มที่จะผลักดันตัวเองให้มีทักษะการทำอาการที่หลากหลายขึ้น เพราะรู้สึกสนุกในการลงมือทำ
1
📌 6. การดูแลรักษาสุขภาพ
การให้ความสำคัญกับ “การดูแลรักษาสุขภาพ” ของวัยรุ่นทุกวันนี้เปลี่ยนไป จากคนยุคก่อน โดยพวกเขาเน้นให้ความสำคัญกับ “การรักษาสุขภาพแบบองค์รวม” คือการรักษาสมดุลสุขภาพกายและสุขภาพใจ ควบคู่กันไป
1
หากพูดถึงสุขภาพกาย “การออกกำลังกาย” โดยเฉพาะ “การออกกำลังกายที่บ้าน” จะเป็นสิ่งที่ผู้คนยังคงนิยมทำมากขึ้นในปีหน้า
แม้ว่าสถานการณ์โควิด-19 บางประเทศจะดีขึ้น แต่จากรายงานชี้ให้เห็นว่า คนยังอยากออกกำลังกายที่บ้านเองถึง 48% โดยให้เหตุผลว่า การออกกำลังกายที่บ้านช่วยลดค่าใช้จ่ายไปได้มาก
นอกจากนี้กิจกรรมที่ช่วยเยียวยาให้สุขภาพใจดีขึ้น ก็จะได้รับความนิยมในปีหน้าเช่นกัน ได้แก่ การทำเวิร์คช็อปศิลปะ, วาดภาพ, เพนท์สี, ถักโครเชต์, แต่งเพลง และแต่งบ้าน เป็นต้น
ทั้งนี้ “การแต่งบ้านหรือปรับปรุงบ้านใหม่” เป็นหนึ่งในสิ่งที่คนทำมากที่สุด ในช่วงสถานการณ์โควิด-19 ที่ผ่านมา เพราะต้องกักตัวอยู่แต่บ้าน และเมื่ออยู่บ้านไปนานๆ ก็อาจเบื่อสภาพแวดล้อมเดิมๆ ได้ จึงต้องแต่งบ้านให้มีสภาพแวดล้อมดูดี น่าอยู่เป็นระยะเวลานาน โดยส่วนใหญ่นิยมแต่งบ้านให้มีความยั่งยืนและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม (Sustainable & Eco-friendly)
1
📌 7. อุตสาหกรรมเกม
การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้คนเล่น “เกม” ที่บ้านมากขึ้น และทำให้พวกเขารู้สึกว่าได้อยู่ในพื้นที่คอมมูนิตี้อีกแห่ง ซึ่งให้ ประสบการณ์คล้ายกับการออกไปพบปะผู้คนในโลกจริง
อีกทั้งการเล่นเกมทุกวันนี้ นับเป็นหนึ่งกิจกรรมที่ทำให้หลายคนรู้สึกว่าตนเอง “มีตัวตน” ถ้าเปรียบกับแอพฯ หาคู่ เกมก็เหมือนเป็นพื้นที่ที่ได้หาคอนเนคชั่น เป็นที่แฮงค์เอาท์ และเป็นสังคมที่สร้างสรรค์อย่างมีเอกลักษณ์อีกแพล็ตฟอร์มหนึ่ง
นอกจากนี้ การดู “คลิปแคสเกม” ยังเป็นสิ่งที่จะนิยมมากขึ้นในปีหน้าอีกด้วย ยิ่งถ้าได้ดูไลฟ์สตรีมมิ่งเล่นสดจะยิ่งได้รับความสนใจอย่างแรง
อีกหนึ่งสิ่งที่น่าสนใจคือ เมื่อสกุลเงินดิจิทัลกำลังเข้ามามีบทบาทในชีวิตทุกคน “แฟชั่น” ก็เป็นสิ่งเข้ามาอยู่ในโลกของเกมด้วย
โดยจากรายงานดังกล่าวชี้ให้เห็นว่า ภายในปีหน้า การซื้อไอเท็มเสื้อผ้าแบรนด์เนมในเกม อาจได้รับความนิยมสูงขึ้นถึง 50%
📌 8. มีม
ทุกวันนี้วัยรุ่น 1 ใน 5 ให้ความสำคัญกับการดู “มีม” มากเป็นพิเศษ และหลายคนชอบเก็บสต็อกมีม เพื่อนำมาหยอกล้อเสียดสีสังคมเป็นประจำ อีกทั้งยังอยากเห็นมีมแปลกใหม่เรื่อยๆ ตลอดเวลาด้วย
บางคนที่มีไอเดียสร้างสรรค์ เป็นคนมีอารมณ์ขันมักจะตั้งใจสร้างมีมโดยเฉพาะ ซึ่งการทำมีมถือเป็นความสามารถเฉพาะตัว เหมือนกับคนที่มีหัวในการคิดสโลแกนสุดปัง! ที่มักจะโดนใจผู้คนจำนวนมาก
นอกจากมีมจะอยู่ในลักษณะของภาพนิ่งแล้ว ยังมีมีมที่เป็นภาพเคลื่อนไหวสั้นๆ (GIF), คลิปวิดีโอ, ข้อความสนทนาอีกด้วย
1
📌 9. ความยุติธรรมในสังคม
คนกลุ่ม Gen Z ให้ความสนใจกับผู้ใช้งานออนไลน์ประเภท “นักเคลื่อนไหวทางสังคม” หรือคอนเทนท์ประเภท “การแสดงจุดยืนประเด็นทางสังคม” หากมีการแอคทีฟบ่อยๆ จะยิ่งได้รับความสนใจเป็นพิเศษ
ในปีหน้าคนกลุ่มนี้จะไม่หยุดเคลื่อนไหวทางสังคม แถมยังจะช่วยบริจาคเงินช่วยเหลือแก่นักเคลื่อนไหวถึง 37% ด้วย และคนกลุ่มนี้จะใช้ความเพียรพยายามในการชี้ให้เห็นสาเหตุ เพื่อให้สิ่งนั้นๆ ได้รับการเปลี่ยนแปลง และคาดหวังว่าจะได้เห็นความยุติธรรมในสังคมมากกว่าเดิม
เรื่องนี้มีผลในทางสังคมเป็นอย่างมาก ยกตัวอย่างเช่น ชาว Gen Z ใน สหรัฐฯ ต่างออกมาใช้สิทธิ์ลงคะแนนเลือกตั้ง ทั้งระดับท้องถิ่นและระดับชาติกันเป็นจำนวนมาก เนื่องจาก พวกเขาตระหนักถึงความสำคัญในการเปลี่ยนแปลงสังคมให้เป็นไปในทางที่ดีขึ้น ซึ่งมีส่วนช่วยมากขึ้นจริงถึง 18% จากรายงานในปีที่ผ่านมา
อ้างอิง: Instagram (Trend Report: Shaping Culture in the next year 2022)
โฆษณา