4 ม.ค. 2022 เวลา 18:27
Book Review By Kakommz : โตขึ้นมาเป็นความสุข
สวัสดีผู้อ่านที่น่ารักทุกท่านด้วยนะครับ ผม Kakommz และที่สำคัญยิ่ง นี่คือบทความแรกในปี พ.ศ. 2565 ในช่อง Kakommz อีกด้วยครับ ด้วยเหตุนี้ ผมจึงขออนุญาต​เริ่มต้นศักราชใหม่ด้วยหนังสือที่ดีเยี่ยมที่จะช่วยให้ทุกคน กลับมา "มีความสุข" อีกครั้ง ด้วยหนังสือที่มีชื่อว่า "โตขึ้นมาเป็นความสุข" เขียนโดยคุณ คิดมาก นักเขียนมากความสามารถที่ผมเชื่อว่าหลายท่านอาจจะรู้จักนักเขียนท่านนี้มามากพอสมควร
ต้องเกริ่นก่อนครับว่า หนังสือเล่มนี้ เป็นหนังสือที่ว่าด้วยการสร้างความสุขจากสิ่งต่างๆ รอบตัวที่พบเจอผ่านมุมมองของคุณ คิดมาก ด้วยภาษาที่เรียบง่าย สละสลวย แต่แฝงไปด้วยความลึกซึ้งของคุณ คิดมาก ที่เข้าใจ "ความสุข" ได้อย่างถ่องแท้​ครับ
ในวันนี้ ผม Kakommz​ จึงขอรีวิวเนื้อหาบางส่วน​ที่ได้จากหนังสือเล่มนี้ และขออนุญาต​ใส่ความคิดเห็นส่วนตัวประกอบเนื้อหาเพิ่มเติมอีกด้วย และเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา เรามารับชมการโตขึ้นมาเป็นความสุขพร้อมกันได้ ณ บัดนี้ครับ
สุขภาพที่แข็งแรง คือความสุขที่สุด
Cr. : https://pixabay.com/th/users/renategranade0-869884/
คุณคิดมาก ได้นำเสนอถึงมุมมองของความสุขที่น่าสนใจ จนตัวของผมอยากนำหัวข้อนี้มาเล่าให้ผู้อ่านทุกท่านได้รับชมครับ
โดยในเรื้องนี้ คุณคิดมาก ได้เปรยมาหนึ่งคำถามครับว่า ความสุขที่สุดของคนเราคืออะไร? บ้างก็บอกว่า ความสุขคือการประสบความสำเร็จ​ในหน้าที่การงาน หรือความสุขคือโชคลาภที่จะได้รับ แต่ส่วนตัวของคุณคิดมาก นั้น มองว่าสุขภาพคือสิ่งที่สำคัญที่สุดครับ เพราะเนื่องจากมีครั้งหนึ่งที่คุณคิดมาก เจ็บป่วยจนต้องอยู่โรงพยาบาล​ร่วมสัปดาห์​ จนทำให้เมื่อหายป่วยดีแล้ว คุณคิดมาก จึงได้พิจารณา​ตัวเองและค้นพบว่าไม่มีอะไรที่จะทำให้คนเราเป็นทุกข์ได้เท่าความป่วยไข้ครับ
ตัวของผมเองก็เห็นด้วยเช่นกัน เพราะมีอยู่สถานการณ์​หนึ่งที่ไม่ต้องเจ็บป่วยก็ได้ แต่ก็สร้างความทุกข์ได้พอกันในการดำรงชีวิต ก็คงไม่พ้นอาการเจ็บปากเพราะร้อนในครับ ถ้าใครเกิดอาการนี้ขึ้น รับรองว่าช่วงเวลานั้น คุณจะรับประทานอาหารไม่สะดวกเลย เพราะอาหารทุกคำที่เราเคี้ยว ก็จะผ่านแผลร้อนในนั้นๆ ซึ่ง "มันแสบมาก" ครับ
เช่นเดียวกันกับร่างกายของทุกคน หากใช้แล้ว ก็ต้องดูแลรักษาให้ดีด้วยเช่นกัน เพราะร่างกายของเราเป็นของเรา เราจะต้องใช้ร่างกายนี้ไปตราบจนกว่าจะสิ้นลม และถ้าหากคุณไม่ดูแลร่างกายของคุณ แล้วใครจะดูแลได้ล่ะครับ?
เจ้านายไม่ใช่ (แค่)​ หัวหน้า แต่เขา (อาจ)​ คือครูของเรา
Cr. : https://pixabay.com/th/users/freevectorsnet-23203341/
ในชีวิตเราจะเจอหัวหน้ากี่คนหรือกี่แบบ เราก็ไม่อาจทราบได้ คุณคิดมากก็เช่นกัน ในชีวิตการทำงานของคุณคิดมากนั้น พบเจอหัวหน้ามาไม่ต่ำกว่าห้าคน และเจ้านายของเขาก็จะมีลักษณะ​ที่แตกต่างกันออกไป บางคนก็อาจจะให้ความรู้สึกเหมือนเราเป็นทหาร ที่มีความเข้มงวดและเต็มไปด้วยวินัย บางคนก็อาจให้ความรู้สึกเหมือนบวชเรียน เพราะอาจมีการสอนสอดแทรก​เกี่ยวกับเรื่องของธรรมะเสมอ
ส่วนตัวผมเองก็ยังไม่เคยได้ทำงานอย่างจริงจังสักเท่าไหร่ ส่วนใหญ่จะเป็นการช่วยงานของครอบครัวสักมากกว่าครับ แต่อย่างไรก็ดี ผมเองก็คิดว่าอาจจะมีความรู้สึกคล้ายคลึงกับคุณคิดมาก ที่ว่าทั้งหัวหน้างานของเขา และครอบครัวที่คอยชี้แนะการทำงานต่างๆ ของตัวผมเอง ต่างก็เปรียบเสมือน "ครู" ของเราครับ เพราะท่านต่างสอนสิ่งต่างๆ ที่เป็นวิชาในการทำงาน ในการดำรงชีพ และทำให้เรา "เรียนรู้" สิ่งต่างๆ เพิ่มมากขึ้น
แล้วผู้อ่านทุกท่าน พบหัวหน้า (หรือครู)​ แบบไหนกันบ้าง สามารถเล่าให้รับชมตรงคอมเมนต์​ได้นะครับ ผม Kakommz​ พร้อมรับชมเสมอครับ
จงทำงานที่เหมือนเขาจ้างเราไปเรียน
Cr. : https://pixabay.com/th/users/startupstockphotos-690514/
ตอนผมเห็นชื่อของบทนี้ ต้องยอมรับครับว่าผมสงสัย ว่าตัวเราจะต้องทำยังไงถึงจะรู้สึกให้ตัวของเราทำงานแล้วเหมือนจ้างเราไปเรียน เพราะถ้าเราทำงาน เราก็ต้องใช้พลังกายของเราทำงานให้เต็มที่เพื่อที่จะ "หาเงิน" ให้ได้มากที่สุด แต่ถ้าเราเรียน เราก็ต้องตั้งใจเรียนเพื่อที่จะทำให้เราได้ความรู้มากที่สุด แต่เราก็ต้อง "ใช้เงิน" เพื่อแลกกับความรู้ ซึ่งในตอนแรก ความคิดของผมรู้สึกขัดแย้งกันมากๆ แต่ในที่สุดผมก็รู้คำตอบครับ
โดยคุณคิดมาก ได้มอบทัศนคติที่ดีมากสิ่งหนึ่งนั่นคือ "การปรับความคิดของเราเอง" ครับ เพราะถ้าเรามองและคิดที่จะเรียนรู้ การทำงานในแต่ละวันของเรานั้น ก็ไม่ต่างอะไรกับการที่เรามาเรียนหนังสือ​ โดยได้รับรายได้จากการเรียนนั้นไปด้วย
สั้นๆ แต่ได้ใจความ เพราะสิ่งที่สำคัญที่สุดคือการเริ่มต้นที่จะ "ปรับความคิด" ของเรานั่นเองครับ
การอยู่คนเดียวเป็นสิ่งจำเป็น
Cr. : https://pixabay.com/th/users/pexels-2286921/
ในบทนี้คุณคิดมาก อยากให้ผู้อ่านทุกท่าน (รวมถึงตัวของผม)​ ลอง "อยู่คนเดียว" บ้างครับ แต่การอยู่คนเดียวในที่นี้ ไม่ใช่การปลีกวิเวก​แต่อย่างใด หากแต่เป็นการหาช่วงเวลาสัก 1-2 ชั่วโมง ลองอยู่ในพื้นที่ที่เงียบสงบสำหรับตัวของเรา ปิดอุปกรณ์สื่อสารทุกชนิดและอยู่คนเดียวครับ เพราะการอยู่คนเดียวบ้าง ก็เป็นสิ่งที่จำเป็นและจะทำให้เราสามารถกลับมาทบทวนตัวเอง ได้ฟังเสียงของตัวเองอย่างแท้จริงอีกครั้งแน่นอน
อย่าลืมหาเวลาสัก 1-2 ชั่วโมง ลองอยู่คนเดียวบ้างก็จะดีมากๆ นะครับ
หวังว่าการรีวิวหนังสือ "โตขึ้นมาเป็นความสุข" ในครั้งนี้จะเป็นประโยชน์​ให้ผู้อ่านที่น่ารัก ค้นหาความสุขได้เพิ่มขึ้นไม่มากก็น้อยนะครับ
สุดท้ายนี้ ผม Kakommz​ ต้องขอตัวลาไปก่อน แล้วพบกันใหม่กับ Book Review​ By​ Kakommz ครั้งหน้า สำหรับวันนี้ ขอให้ทุกท่านมีความสุข และถือโอกาสนี้ สวัสดี​ปีใหม่ 2565 ครับ
About Fact
ชื่อหนังสือ : โตขึ้นมาเป็นความสุข
ผู้เขียน : คิดมาก (นามปากกา)​
ราคา : 225 บาท
หมวด​หมู่​ : วรรณกรรม​ร่วมสมัย​
สำนักพิมพ์ : springbooks
Cr. : ภาพถ่ายโดยผู้เขียน
ภาพ​หน้าปก​โดย​ผู้เขียน​
บทความ​ Book Review อื่นๆ​ ที่น่าสนใจ​ของผู้เขียน
- Book Review By Kakommz : เป็นเรา​คือ​พิเศษ
- Review Book​​ : โลกนี้สอนให้รู้ว่า...
ช่วง​ แอบขายของ​ ของ​ Kakommz​
สามารถร่วมอุดหนุน​และเป็นเจ้าของ​สติกเกอร์​ไลน์​สุดน่ารัก​
[Komjung The Series 1] ได้แล้วตั้งแต่​วันนี้​ที่​
สามารถติดตาม Kakommz​ ได้ที่
โฆษณา