6 ม.ค. 2022 เวลา 05:00 • หุ้น & เศรษฐกิจ
ตลาดหุ้นโลกสดใสรับปีใหม่ หลังโอไมครอนไม่กระทบเศรษฐกิจอย่างที่คิด
✅Weekly in Focus : ประเด็นเด็ดประจำสัปดาห์ที่ผ่านมา
- ดัชนี PMI กลุ่มเอเชียยังแข็งแกร่ง! ดัชนี PMI ภาคการผลิตของจีนเดือนธ.ค. ปรับขึ้นมาที่ 50.3 ขยายตัวสูงสุดในรอบ 6 เดือน ซึ่งสวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลงมาอยู่ที่ระดับต่ำกว่า 50
ตลาดหุ้นโลกสดใสรับปีใหม่
โดยทำได้ดีกว่าคาดแม้จะต้องอยู่ภายใต้มาตรการ Zero Covid ที่มีการคุมเข้มในด้านต่างๆ ด้านของญี่ปุ่นก็ขยายตัวต่อเนื่อง อยู่ในแดนขยายตัวเป็นเดือนที่ 11 ติดต่อกัน สะท้อนว่ากิจกรรมทางเศรษฐกิจยังสามารถดำเนินต่อได้แม้ว่าจะมีการระบาดของสายพันธุ์โอไมครอน
- จีนผ่อนคลายนโยบายทางการเงิน สวนทางกับสหรัฐฯ! ธนาคารกลางจีน (PBOC) จะเดินหน้าการใช้นโยบายการเงินที่ยืดหยุ่นในปีนี้ หวังสร้างเสถียรภาพให้กับการขยายตัวทางเศรษฐกิจและลดต้นทุนทางการเงินสำหรับธุรกิจ
1
นอกจากนี้ ยังมีแผนที่จะออกนโยบายการคลังเชิงรุก ทั้งนี้ ผลการประชุมระดับภายในประเด็นนโยบายการคลังสำหรับปี 2565 ของกระทรวงการคลังจีนระบุว่า รัฐบาลจีนจะเปิดตัวมาตรการลดภาษีและค่าธรรมเนียมรอบใหม่เพื่อสนับสนุนบรรดาธุรกิจ และช่วยให้ธุรกิจเหล่านี้ลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานตามความเหมาะสมตั้งแต่เนิ่นๆ
- ความท้าทายในปี 2565 ยังสูง! ปัจจัยเสี่ยงที่ยังต้องจับตาต่อเนื่องคือการแพร่ระบาดและการกลายพันธุ์โควิด-19, ปัญหา Supply Chain, แนวโน้มอัตราเงินเฟ้อ, การเปลี่ยนแปลงนโยบายทางการเงินของธนาคารกลางประเทศแกนหลักที่มีแนวโน้มตึงตัวมากขึ้น และความไม่แน่นอนต่างๆในจีนทั้งการดำเนินนโยบายจากภาครัฐและความสัมพันธ์กับสหรัฐฯ
- หุ้นจะให้ผลตอบแทนที่ดีต่อได้ในปีนี้ แต่ต้องไม่ลืมกระจายความเสี่ยง! โดยรวม บรรยากาศการลงทุนต้นปีดูสดใส จากความกังวลที่ลดลงต่อการระบาดสายพันธุ์โอไมครอน และตัวเลขทางเศรษฐกิจที่สะท้อนการฟื้นตัวดี
ยังมองว่าการลงทุนในหุ้นจะให้ผลตอบแทนที่ดีต่อได้ในปีนี้ แต่จากความไม่แน่นอนที่ยังปกคลุมสูง นักลงทุนควรใช้ความระมัดระวังในการลงทุน และให้ความสำคัญต่อการกระจายการลงทุนเพื่อลดความเสี่ยงของพอร์ต
✅Commodity Update : สินค้าโภคภัณฑ์
#ทองคำ : แม้ปี 2564 จะมีความไม่แน่นอนในตลาดสูง แต่นักลงทุนกลับไม่ได้ให้ความสนใจในทองคำที่เป็นสินทรัพย์ปลอดภัยมากนัก
ปิดร่วงกว่า 3% ในปีที่ผ่านมา โดยแม้ในระยะสั้นเงินเฟ้อที่เร่งตัวจะเป็นปัจจัยสนับสนุนการลงทุนในทองคำจากการที่เป็นสินทรัพย์ที่ป้องกันเงินเฟ้อ แต่ในระยะถัดไป นโยบายทางการเงินของ Fed ในการปรับดอกเบี้ยขึ้น จะเป็นปัจจัยกดดันราคาทองคำ
#แนะนำ ลงทุน 5-10% ของพอร์ตเพื่อกระจายความเสี่ยง แทนการลงทุนเป็นสัดส่วนหลักหรือเก็งกำไรในระยะสั้น
#น้ำมัน : ราคาสัญญาน้ำมันดิบ WTI ปิดสิ้นปี 2564 เพิ่มขึ้น 55.01% ปิดที่ 75.21 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ด้วยแรงหนุนจากการฟื้นตัวของกิจกรรมทางเศรษฐกิจโดยเฉพาะประเทศฝั่งพัฒนาแล้วที่มีอัตราการฉีดวัคซีนสูง
อย่างไรก็ดี มองว่าราคาน้ำมันจะอยู่ในระดับประมาณปัจจุบันอีกระยะหนึ่ง ก่อนที่จะมีแนวโน้มปรับตัวลง หลังอุปสงค์และอุปทานเข้าสู่จุดสมดุลในกลางปี 2565 จากการที่กลุ่มโอเปกพลัสทยอยเพิ่มกำลังการผลิต
จับตาการประชุมกลุ่มโอเปกพลัสในคืนนี้ซึ่งตลาดคาดจะยังยึดข้อตกลงตามเดิม #ไม่แนะนำ เข้าลงทุน
✅Fund of the Week : กองทุนน่าสนใจประจำสัปดาห์
มองว่าหุ้นกลุ่มที่ฟื้นตัวช้ากว่าในปี 2564 จะกลับมาฟื้นตัวได้ดีในปีนี้ โดยเฉพาะกลุ่มเอเชีย ทั้งในแง่ของเศรษฐกิจและตลาดหุ้น แนะนำ K-CHINA, K-CCTV, K-CHX, K-ASIACV, K-ASIAX, K-ATECH, K-VIETNAM
1
สำหรับธีมการลงทุนที่น่าสนใจในช่วงนี้คือ กลุ่มที่รับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม (Heal the World) โดยเริ่มเห็นเงินทุนไหลเข้าอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องอย่างชัดเจน
นอกจากจะเป็นหนึ่งใน Mega Trend ที่ได้รับความสนใจจากทั้งหน่วยงานต่างๆและนักลงทุนทั่วโลก นวัตกรรมก็จะช่วยให้ปัญหาต่างๆได้รับการแก้ไข ไม่ว่าจะเป็นการแก้ปัญหาโลกร้อน ความเป็นอยู่และสุขภาพที่ดีขึ้น แนะนำ K-CHANGE, K-CLIMATE
สนใจลงทุนหรือดูเรื่องกองทุนเพิ่มเติม คลิก : https://bit.ly/3FV0UXt
#KAsset #KBankLive
โฆษณา