Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
ChristianThai
•
ติดตาม
11 ม.ค. 2022 เวลา 16:00 • การศึกษา
พระองค์ผู้ทรงเป็นคำตอบของชีวิต
คำพยาน ทพ.ญ. ไฉไล บุษกรเรืองรัตน์ (จงคดีกิจ)
หลายคนมีความสงสัยว่า มนุษย์เรามาจากไหน?...
มาจากธรรมชาติหรือเกิดขึ้นเองโดยไร้จุดประสงค์?
แล้วมนุษย์เราอยู่เพื่ออะไร?...
ทุกวันนี้เราทำงานอย่างหนักตั้งแต่เช้ายันค่ำเพื่ออะไร?
เพื่อหาเงิน หาเงินเพื่อจะไปทำอะไร?...
2
เพื่อไปซื้อข้าวกิน... ซื้อข้าวกินแล้วเป็นอย่างไร?
ก็เพื่อที่จะมีกำลัง...
มีกำลังเพื่อจะไทำอะไร?
ก็เพื่อจะไปทำงาน...
ไปทำงานเพื่ออะไร?...
เพื่อหาเงิน...
หาเงินเพื่อจะไปทำอะไร?
ก็เพื่อ...
ชีวิตของมนุษย์มีเพียงแค่นี้หรือ?...
แล้วทำไมคนเราจึงต้องเผชิญกับความทุกข์มากมาย?...
เพราะเวรกรรมในอดีตหรือ?
และอีกคำถามหนึ่งที่สำคัญก็คือ มนุษย์เรากำลังจะไปไหน?...
แล้วสุดท้ายของมนุษย์อยู่ ณ ที่ใด?...
1
คำถามเหล่านี้เป็นคำถามที่ค้างคาใจของมนุษย์ทุกยุคทุกสมัย และหลายคนต่างก็พยายามที่จะค้นหาคำตอบของคำถามเหล่านี้... เราจะเห็นว่า
1
ปรัชญาตะวันตกก็ให้คำตอบอย่างหนึ่ง
ปรัชญาตะวันออกก็ให้คำตอบอีกอย่างหนึ่ง
แล้วคำตอบไหนกันล่ะจึงจะเป็นคำตอบที่ถูกต้อง?...
และมนุษย์เราจะสามารถพบกับคำตอบที่แท้จริงของชีวิตได้หรือไม่?...
ผู้อ่านที่รัก... ถึงแม้มนุษย์จะแสวงหาคำตอบของชีวิตมาช้านาน แต่เขาจะไม่สามารถค้นพบกับคำตอบที่แท้จริงได้เลย ถ้าเขาไม่รู้พระเจ้าผู้ทรงสร้างชีวิตของเขาและตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ได้มีคนนับร้อยหลายพันล้านคนทั่วโลกที่แสวงหาพระเจ้า ต่างก็ได้พบคำตอบที่แท้จริงแล้ว... ต่อไปนี้เป็นคำพยานของทันตแพทย์หญิงท่านหนึ่ง ซึ่งท่านก็เป็นหนึ่งในคนเหล่านั้นที่ได้พบกับคำตอบของชีวิตแล้วเช่นกัน...
ประสบการณ์ชีวิตของ
ทพ.ญ. ไฉไล บุษกรเรืองรัตน์ (จงคดีกิจ)
สวัสดีค่ะผู้อ่านทุกท่าน... ดิฉันชื่อไฉไล และมีชื่อเล่นว่าอ้วน แต่รูปร่างไม่ได้อ้วนเหมือนชื่อนะคะ ดิฉันมีพี่น้อง 5 คน และน้องสาวคนหนึ่งของดิฉันที่ท่านผู้อ่านคงจะเคยได้ยินชื่อมาบ้างแล้วก็คือคุณปุ๊ อัญชลี จงคดีกิจ... พื้นเพครอบครัวของดิฉันนนั้ ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับความเชื่อในศาสนาคริสเตียนแม้แต่น้อย
แต่ปัจจุบันนี้ดิฉันได้มาเป็นคริสเตียนแล้ว... และเมื่อดิฉันถูกถามว่า “ทำไมถึงมาเป็นคริสเตียน?” ก็ต้องย้อนความไปถึงตอนที่ดิฉันกำลังทำการศึกษาที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยปีที่ 5 ในคณะทันตแพทยศาสตร์ เวลานั้นดิฉันก็มีชีวิตเหมือนกับนักศึกษาทั่ว ๆ ไป ที่มักสรวลเสเฮฮากับหมู่เพื่อน ๆแต่แล้วก็มีเพื่อนคนหนึ่ง (ซึ่งในปัจจุบันเพื่อนคนนี้ก็คือสามีของดิฉันนั่นเอง) เขาได้พูดประโยคหนึ่งขึ้นมาอย่างจริงจังว่า
... “โลกนี้จะแตกแล้วนะ!... และการพิพากษาของพระเจ้าก็ใกล้มาถึงแล้ว...” เมื่อพวกเราได้ยิน ก็คิดว่าเพื่อนคนนี้ของเราเป็นบ้าไปแล้วหรือ ? หรืออาจไปโดนพวกคริสเตียนล้างสมองและหลอกเอา...
ด้วยความสงสารเพื่อนดิฉันก็เลยหาพระคริสตธรรมคัมภีร์มาอ่านดูเพื่อที่จะหาข้อมูลจับผิด ซึ่งความคิดของดิฉันในเวลานั้นคิดว่า ไม่ว่าหนังสือเล่มใดก็ตาม มันก็จะต้องมีข้อบกพร่องหรือมีจุดอ่อนให้จับผิดและโต้แย้งได้อย่างแน่นอน... แต่เมื่อดิฉันเริ่มอ่านก็ค้นพบว่า พระคริสตธรรมคัมภีร์ไม่ใช่หนังสือธรรมดา หนังสือเล่มนี้คล้ายกับมีชีวิต
เมื่อดิฉันเริ่มอ่านก็เหมือนกับมีผู้หนึ่งที่ยิ่งใหญ่กำลังพูดกับดิฉันโดยตรง และผู้นั้นก็สามารถที่จะดักความคิดของดิฉันได้ทุกอย่าง เช่นดิฉันมีความคิดว่าเรื่องของพระเยซูคริสต์เป็นเรื่องโง่ ๆ แต่เมื่ออ่านเจอข้อความตอนหนึ่งในพระคัมภีร์ ซึ่งพระคัมภีร์ตอนนั้นก็ได้ตอบดิฉันตรง ๆ ว่า เรื่องโง่ ๆ อย่างนี้แหละที่ช่วยคนให้รอดได้ ส่วนเรื่องที่มนุษย์ว่าฉลาด ๆ นั้นไม่เห็นช่วยได้เลย (1 โครินธ์ 1:18-21)
และเมื่อดิฉันได้อ่านต่อไปเรื่อย ๆ ดิฉันก็เริ่มพบกับคำตอบที่ค้างคาในใจดิฉันมาเป็นเวลานาน ไม่ว่าจะเป็นคำตอบของคำถามที่ว่า
มนุษย์เรามาจากไหน?...
อยู่เพื่ออะไร?...
เพราะเหตุใดจึงมีความทุกข์มากมายในชีวิตของมนุษย์? ...
ทำไมจิตใจของมนุษย์มีแต่ความว่างเปล่า ไม่มีความอิ่มใจ ถึงแม้จะมีทรัพย์สมบัติมากมาย?...
มนุษย์เรากำลังเดินทางไปไหน?...
รวมไปถึงคำถามที่ว่าตายแล้วไปไหนหรือตายไปแล้วจะพบกับอะไร?
1
คำตอบของชีวิตฉัน
ถ้าท่านจะถามว่า... อะไรเป็นเหตุผลที่ทำให้ดิฉันมั่นใจว่าคำตอบในพระคริสตธรรมคัมภีร์นั้นเป็นความจริงนั่นก็เพราะว่า คำตอบในพระคัมภีร์นั้นล้วนมีเหตุผลที่สมเหตุสมผล ทั้งยังสอดคล้องกับศักยภาพในความเข้าใจที่อยู่ในสมองของมนุษย์ทั้งสิ้น
ดังนั้นถ้อยคำที่บันทึกในพระคัมภีร์นั้นก็ได้ปิดประตูการโต้แย้งของดิฉันทันที สุดท้ายดิฉันจึงต้องยอมรับว่า คำตอบจากพระคัมภีร์นั้นเป็นสิ่งที่ความคิดของดิฉันกำลังรอคอยอยู่ เหมือนกับความคิดของดิฉันถูกสร้างมาเพื่อเหตุผลนี้ ซึ่งนั่นคือความจริงแห่งคำตอบของชีวิต และข้อความเหล่านั้นกำลังเชิญชวนดิฉันให้กลับไปหาพระเจ้าผู้ทรงเป็นผู้สร้างชีวิตมนุษย์ทุกคน รวมทั้งดิฉันด้วย
ดังนั้นในคืนวันหนึ่งดิฉันจึงได้คุกเข่าลงที่ข้างเตียง แล้วหลับตาพูดว่า “พระเจ้า!...” เพียงแต่ดิฉันพูดแค่นั้น น้ำตาของดิฉันก็ไหลออกมา เวลานั้นดิฉันรู้สึกมีสันติสุขลึก ๆ ในใจซึ่งเป็นความรู้สึกที่สัมผัสได้ว่าดิฉันพบกับบุคคลที่สามารถที่จะพึ่งพิง สามารถที่จะมอบชีวิตฝากอนาคต และฝากภาระที่เหน็ดเหนื่อยได้แล้ว... วันนั้นดิฉันได้ขอโทษพระองค์ถึงความผิดบาปที่ดิฉันได้กระทำมา
หลังจากนั้นดิฉันจึงมีความมั่นใจว่าความบาปของดิฉันนั้นได้รับการอภัยแล้วจริง ๆ
ตั้งแต่นั้นมาดิฉันจึงได้มอบชีวิตของดิฉันให้พระองค์เปน็ ผู้นำทางก่อนที่ดิฉันมาเชื่อพระเยซูคริสต์นั้น เมื่อคนอื่นมองดูชีวิตของดิฉันก็อาจจะเห็นว่าดิฉันมีความสุขดี และไม่จริงจังกับอะไรมากมาย ในตอนนั้นคำว่า “พระเจ้า” หรือ “เรื่องพระเจ้า” นั้นไม่เคยอยู่ในความคิดเลยแม้แต่น้อย
แต่เมื่อดิฉันได้อ่านพระคริสตธรรมคัมภีร์ ทำให้สมองเริ่มคิดในสิ่งที่ไม่เคยคิด และดิฉันได้เปิดใจค้นหาคำตอบของชีวิตอย่างจริงจัง ในที่สุดพระเจ้าก็ทรงเปิดตาดิฉันให้เห็นความจริงที่เกี่ยวกับชีวิตหลายอย่าง และหลังจากที่ดิฉันได้มอบชีวิตให้กับพระองค์เป็นผู้นำทางชีวิตแล้วไม่ใช่ว่าดิฉันจะไม่มีความทุกข์อีกต่อไป
ดิฉันก็ยังต้องพบกับความทุกข์และปัญหาเฉกเช่นเดียวกับคนอื่น ๆ ซึ่งถ้าดิฉันไม่ได้รู้จักพระเจ้า ก็คงจะคิดว่าเป็นเพราะเวรกรรมมาจากชาติปางไหนกระมัง แต่บัดนี้ดิฉันได้ทราบแล้วว่าความทุกข์เหล่านั้นเกิดมาจากการที่มนุษย์เราได้ปฏิเสธพระเจ้า และไม่ดำเนินชีวิตตามกฏเกณฑ์ที่พระเจ้าทรงกำหนดให้
ตั้งแต่นั้นมามนุษย์ทุกคนก็จมอยู่ในความผิดบาป และเดินหลงในทางแห่งความมืด ถึงแม้มนุษย์พยายามที่จะหาทางออกของชีวิต แต่ก็ไม่พบหนทาง ซึ่ง “ความบาป”ไม่เพียงแต่ทำให้มนุษย์เราต้องเผชิญกับความทุกข์ยากต่าง ๆ เท่านั้นแต่มันยังเป็นสาเหตุทำให้มนุษย์ต้องพบกับความตายซึ่งเป็นสิ่งที่มนุษย์เราไม่อยากเผชิญ และหลังจากนั้นจิตวิญญาณของมนุษย์ก็จะต้องไปรับการพิพากษาโทษบาปจากพระเจ้าตามการกระทำของแต่ละคน
ในที่สุดก็จะต้องอยู่ในนรกเป็นนิจนิรันดร์ แต่พระเจ้าทรงรักมนุษย์ พระองค์ไม่อยากให้เราทุกคนต้องพบจุดจบเช่นนั้นเลย ดังนั้นเมื่อประมาณ 2,000 ปีที่แล้ว พระองค์จึงทรงให้พระเยซูคริสต์มารับสภาพเป็นมนุษย์ในโลก ซึ่งพระเยซูได้ทรงยอมตายบนไม้กางเขนก็เพื่อรับการลงโทษบาปแทนมนุษย์ชาติ
ดังนั้นหากผู้ใดที่ถ่อมใจทูลขอการช่วยเหลือจากพระองค์ เขาก็จะไม่ได้รับพิพากษาโทษจากพระเจ้าอีกต่อไปแต่พระองค์จะให้เขาได้อยู่ในสวรรค์กับพระองค์ตลอดไป
พระองค์ผู้ทรงดูแลชีวิตฉัน
จากความทุกข์ยากและปัญหาที่เกิดขึ้นในชีวิตของดิฉันนี่เอง ทำให้ดิฉันได้สัมผัสว่า พระเจ้ามิได้ทรงเป็นเพียงผู้ช่วยดิฉันให้รอดพ้นจากโทษของความผิดบาปเท่านั้น แต่พระองค์ยังเป็นผู้ที่คอยดูแลให้สติปัญญา ทั้งยังอยู่เคียงข้างดิฉันเสมอ และพระองค์สามารถที่จะเปลี่ยนสิ่งเลวร้ายที่เกิดขึ้นนั้นให้เป็นผลดีในชีวิตของดิฉัน...
จากวันนั้นที่ดิฉันได้เชื่อในพระเจ้ามาจึงวันนี้ พระองค์ได้ทรงแกะปมที่ยุ่งเหยิงที่เกิดขึ้นทีละปม ถึงแม้ในอนาคตอาจจะมีปัญหาใหม่เกิดขึ้นอีก แต่ดิฉันก็เชื่อแน่ว่าพระองค์จะทรงดูแลชีวิตและให้กำลังแก่ดิฉันเสมอ จนถึงวันหนึ่งเมื่อดิฉันต้องจากโลกนี้ไป ดิฉันก็มั่นใจว่าดิฉันจะไปอยู่กับพระองค์ในสวรรค์เป็นนิตย์
และที่นั่น พระองค์จะทรงเช็คน้ำตาทุก ๆ หยดให้ดิฉันอย่างแน่นอนซึ่งวันนั้นจะไม่มีความทุกข์ลำบากอีกต่อไป...
ผู้อ่านทุกท่านค่ะ ถ้าวันนี้ท่านเป็นคนหนึ่งที่กำลังแสวงหาคำตอบของชีวิตอยู่ ดิฉันขอเชิญชวนท่านทจี่ ะหันกลับมาหาพระเจ้าผู้สร้างท่านและให้ชีวิตแก่ท่านเพราะพระองค์สามารถให้คำตอบของชีวิต และพระองค์ทรงเป็นผู้เดียวเท่านั้นที่สามารถอภัยโทษความผิดบาปให้แก่ท่านได้... ถ้าท่านต้องการที่จะรู้จักพระเจ้า และปรารถนาได้พระเยซูคริสต์รับโทษความผิดบาปแทนท่านก็ขอให้ท่านอธิษฐานทูลขอต่อพระองค์ดังนี้...
“ข้าแต่พระเจ้า... บัดนี้ข้าพระองค์ได้ทราบแล้วว่า พระองค์ทรงเป็นผู้สร้างชีวิตของข้าพระองค์แต่ข้าพระองค์ได้ปฏิเสธพระองค์ ทั้งยังได้ทำความผิดบาปมากมาย... เวลานี้ข้าพระองค์ขอสารภาพความผิดบาปที่ข้าพระองค์ได้ทำมาทั้งสิ้น ขอพระองค์ทรงอภัยโทษให้แก่ข้าพระองค์ด้วยเถิด และ5ขอขอบพระคุณพระองค์ที่ทรงให้พระเยซูเป็นผู้รับโทษบาปแทนข้าพระองค์บนไม้กางเขน... ข้าพระองค์ขออธิษฐานในพระนามของพระเยซูคริสต์เจ้า อาเมน”...
ถ้าท่านอธิษฐานตามข้างต้นนี้ด้วยความจริงใจแล้วขอให้มั่นใจเถิดว่า ความผิดบาปของท่านได้รับการอภัยแล้วตลอดไป และท่านจะได้รู้ถึงความหมายของการมีชีวิตของท่านในโลกนี้อย่างแท้จริง...
จากใจพี่อ้วน...
พี่อ้วนเป็นลูกคนกลางในจำนวนพี่น้อง 5 คน และเป็นคนแรกที่มาเป็นคริสเตียนในบ้าน พี่อ้วนชอบชักชวนทั้งตระกูลมาเป็นคริสเตียนรวมทั้งดิฉันด้วย เวลานั้นดิฉันก็เถียงข้าง ๆ คู ๆ ไปและคิดว่า... “ฉันไม่มีวันเปลี่ยนย่ะ!” สงสัยตอนนั้นพี่อ้วนคงท้อใจน่าดู เพราะใจแข็งกันทั้งบ้าน...
20 ปีผ่านไป ชีวิตของดิฉันเริ่มดูมั่วซั่ว แถมอลวล สับสนพิลึกพิลั่น... แม้กระทั่งพี่เขย (สามีพี่อ้วน) ก็พูดว่า... “ยัยปุ๊คงตกนรกแหง๋แก๋ไม่รอดแน่!”... แต่แล้วคืนวันหนึ่งสิ่งมหัศจรรย์ก็ได้เกิดขึ้นเพราะว่าป-ุ๊ อัญชลีคนนี้ได้สัมผัสถึงความรักของพระเยซูคริสต์ และได้เชิญพระองค์เข้ามาในชีวิต
ตั้งแต่นั้นมา ปุ๊-อัญชลี คนที่ชีวิตน่าจะลงนรก กลับเป็นคนที่ได้รับการเปลี่ยนแปลงจากพระเจ้าและมีชีวิตใหม่ทั้งยังเป็นคนที่พาคุณพ่อคุณแม่กลับมาหาพระเจ้า นี่เป็นสิ่งที่พี่อ้วนรอคอยมา 20 ปี พี่อ้วนคงจะดีใจน่าดู... ไม่น่าเชื่อว่าคนเดียวที่รู้จักพระเจ้าภายในบ้าน จะพาทั้งครอบครัวได้รู้จักกับความรักและได้พบกับพระคุณความรอด ได้รับสันติสุขในองค์พระเยซูคริสต์...“
พี่อ้วนคะ!... ไม่รู้ว่าเคยขอบคุณพี่มั้ย ขอบอกตรงนี้เลยก็แล้วกันว่า ขอบคุณพี่ม๊ากมากสำหรับทุกสิ่ง... ขอบคุณค่ะ
ปุ๊ – อัญชลี จงคดีกิจ
ผู้เขียน : อาจารย์นิกร สิทธิจริยาภรณ์
สารบัญ Blockdit christianthai
https://www.blockdit.com/posts/62bc6a5483c9c7afe1978688
ซีรีส์ หนังสือเสียงคริสเตียน
https://www.blockdit.com/series/6494669e4e915381ad23f92e
ซีรีส์ แบ่งปันข้อพระคัมภีร์โดย ChatGPT
https://www.blockdit.com/series/6442a9778df4b54742d64a3f
ซีรีส์ ใบปลิวคริสเตียน
https://www.blockdit.com/series/6443f153175a891238f59001
บันทึก
1
6
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
ใบปลิวคริสเตียน
1
6
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย