13 ม.ค. 2022 เวลา 10:46 • คริปโทเคอร์เรนซี
จีน แบนคริปโท แต่จะสร้างอุตสาหกรรม NFT บนบล็อกเชนที่รัฐเข้าสนับสนุนเอง
จีน ประกาศสร้างอุตสาหกรรม NFT โดยอาศัย Blockchain Services Network หรือ BSN ที่เป็นผู้ให้บริการโครงสร้างพื้นฐานระบบบล็อกเชน ซึ่งได้รับการหนุนหลังจากรัฐบาลจีน
โดยจะทำบล็อกเชนขึ้นมา เพื่อใช้สนับสนุนสินทรัพย์ดิจิทัลอย่าง NFT และจะเปิดตัวในปลายเดือนนี้ และบล็อกเชนที่สร้างขึ้นมานี้ จะไม่ได้เชื่อมโยงกับสกุลเงินคริปโท เช่น บิตคอยน์ แต่อย่างใด
ทั้งนี้ NFT หรือ Non-fungible Token คือ โทเคนที่นำเทคโนโลยีบล็อกเชนมาใช้ ทำให้สามารถแสดงความเป็นเจ้าของในสินทรัพย์นั้น ๆ ได้ โดยแต่ละโทเคนจะแตกต่างกัน ไม่ต่างอะไรจากของสะสมหรือของมีมูลค่า
ซึ่ง NFT สามารถเป็นได้ทั้งงานศิลปะ, เพลง, วิดีโอ, เกม, ของเล่น, ที่ดินเสมือน และอื่น ๆ ที่สามารถซื้อขายกันในรูปแบบสินทรัพย์ดิจิทัลได้
ที่ผ่านมา หลาย ๆ คนคงทราบกันดีว่ารัฐบาลจีน ได้แบนคริปโทไปหลายครั้งแล้ว
อย่างไรก็ดี การแบนเหล่านั้น ไม่เกี่ยวกับวงการ NFT
โดยทางคุณ He Yifan ซึ่งเป็น CEO ของ Red Date Technology ที่เป็นผู้สนับสนุนด้านเทคนิคให้กับ BNS บอกว่า
“NFT ไม่มีข้อพิพาททางกฎหมายใด ๆ ในประเทศจีน ตราบใดที่วงการ NFT ไม่ได้มีส่วนเข้าไปข้องเกี่ยวกับคริปโทอย่าง บิตคอยน์”
1
ซึ่งโครงสร้างพื้นฐานที่ว่านี้ มีชื่อว่า “BSN-Distributed Digital Certificate หรือ BSN-DDC” และเพื่อแยกความแตกต่างของ NFT ที่ทำธุรกรรมบนบล็อกเชน จะมีการเสนอโปรแกรม API สำหรับหน่วยธุรกิจ และบุคคลทั่วไป เพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถสร้างพอร์ทัลหรือแอปฯ ได้เอง ในการใช้จัดการ NFT
1
และจะอนุญาตให้ใช้เพียงแค่เงินหยวนในการซื้อและชำระค่าธรรมเนียมเท่านั้น
ส่วนด้านเหตุผลที่จีน ต้องทำโครงสร้างพื้นฐานขึ้นมาเอง คุณ He Yifan กล่าวว่า
ปกติแล้ว NFT จะถูกเปิดตัวและเทรดกันในบล็อกเชนที่เปิดเป็นระบบสาธารณะ ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มแบบกระจายศูนย์ และเปิดโอกาสให้ทุก ๆ คนบนโลก ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนหรือเป็นใคร เข้าถึงได้ ขอแค่มีอินเทอร์เน็ต
1
อย่างไรก็ดี บล็อกเชนสาธารณะนั้น เป็นเรื่อง “ผิดกฎหมาย” ในประเทศจีน
เนื่องจากรัฐบาลจีนกำหนดให้ต้องใช้ระบบอินเทอร์เน็ตแบบ Single Gateway ซึ่งจะต้องยืนยันตัวตนผู้ใช้งาน และอนุญาตให้หน่วยงานกำกับดูแล เข้าไปแทรกแซงทุกกิจกรรมได้ เพื่อป้องกัน "กิจกรรมที่ผิดกฎหมาย"
ด้วยเหตุนี้ Red Date จึงหันไปใช้โซลูชันที่เรียกว่า “Open Permited Chain” ซึ่งเป็นเวอร์ชันดัดแปลงที่ควบคุมโดยกลุ่มคนที่กำหนดและควบคุมสิ่งต่าง ๆ ได้ เพื่อสร้างบล็อกเชนระบบปิดนั่นเอง
โดย BSN ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มพื้นฐานของโครงการ NFT ที่ Red Date เข้ามาช่วยเหลือในด้านเทคโนโลยีโครงสร้างพ้นฐาน ได้รับการสนับสนุนโดย China Mobile, China UnionPay และ State Information Centre
คุณ He Yifan กล่าวว่า BSN-DDC จะทำการบูรณาการบล็อกเชน 10 เชนเข้าด้วยกัน
ประกอบไปด้วย เวอร์ชันปรับปรุงของ Ethereum, Corda บวกกับ Fisco Bcos ของจีน ที่จัดตั้งโดย WeBank บริษัทฟินเทคที่ได้รับการสนับสนุนจาก Tencent
และแม้ว่า NFT จะไม่ได้ผิดกฎหมายในประเทศจีน แต่บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่หลายแห่งได้เลือกที่จะเรียกโครงการ NFT ว่า "ของสะสมดิจิทัล (Digital Collectible)" แทน ด้วยเหตุผลด้านการปฏิบัติตามกฎระเบียบ
โดยหากมาดูบริษัทในประเทศจีน ที่ได้เร่งเข้าสู่วงการ NFT หรือที่สะดวกใจเรียกกันว่าของสะสมดิจิทัล ก็จะมี Ant Group ซึ่งเป็นบริษัทด้านฟินเทคของจีน และ Tencent เป็นยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีของจีนรายแรก ๆ ที่รุกเข้าสู่วงการ NFT โดยเปิดตัวผลิตภัณฑ์หลายสิบรายการ ตั้งแต่ช่วงฤดูร้อนปีที่แล้ว
และทาง JD.com ที่เป็นบริษัทอีคอมเมิร์ซ และ Baidu บริษัทเสิร์ชเอนจินของจีน ก็ตามมาติด ๆ ด้วยของสะสมดิจิทัล ที่ออกโดยบริษัท
แม้แต่สำนักข่าว Xinhua News Agency ของรัฐบาล ก็ยังมีการแจกของสะสมดิจิทัล มากกว่า 100,000 ชิ้นในวันคริสต์มาสอีฟที่ผ่านมาด้วย
1
ถึงแม้ว่า NFT ส่วนใหญ่จะนิยมใช้สำหรับงานศิลปะดิจิทัล แต่คุณ He Yifan บอกว่าตลาดที่ใหญ่ที่สุด น่าจะเป็นการจัดการใบรับรอง เช่น ป้ายทะเบียนรถ และประกาศนียบัตรของโรงเรียน ให้สามารถเก็บเป็น NFT ได้
เนื่องจากเทคโนโลยีนี้ ได้เข้ามาปฏิวัติการเก็บฐานข้อมูล ที่นับว่าสามารถสร้างความแตกต่างในการเข้าถึงข้อมูลได้ในรูปแบบใหม่
ตัวอย่างเช่น การจัดการป้ายทะเบียนรถ โดยใช้ NFT ทำให้เจ้าของรถ, รัฐบาล และบริษัทประกันภัย สามารถเข้าถึงข้อมูลต่าง ๆ ได้ง่ายขึ้น เช่น ระยะทาง, หมายเลขเครื่องยนต์ และประวัติการซ่อม
นับเป็นอีกหนึ่งเรื่องที่ประเทศจีน ออกมาลุยตลาด NFT เอง เพื่อให้คนในประเทศได้เข้าถึงเทคโนโลยี ที่ทุกคนทั่วโลกเข้าถึงกัน แต่ในขณะเดียวกัน ก็ยังถูกควบคุมโดยรัฐบาลจีนได้อยู่ดี..
โฆษณา