14 ม.ค. 2022 เวลา 15:33 • ไลฟ์สไตล์
6 เทคนิคชาร์จแบตตัวเอง เรียกพลังใจพลังกายกลับคืน
  • 1.
    คุณผู้อ่านหลายท่านคงเคยประสบปัญหากับความวิตกกังวลใจ เป็นทุกข์ และหาทางออกไม่เจอให้กับบางเรื่อง เหนื่อยล้าทั้งกายใจ หรือบางท่านขาด Inspiration ใหม่ๆ ให้กับชีวิต Buddy Diary ขอนำเสนอ 6 เทคนิคชาร์จแบตตัวเองฉบับเร่งด่วน เพื่อเรียกพลังใจพลังกายกลับคืน ที่แอดมินลองใช้แล้วได้ผลเกินคาดนั่นคือ
เทคนิคที่ 1: ย้ายตัวเองไปยังสภาพแวดล้อมใหม่ๆ
แอดมินเชียร์ให้ทุกคนออกเดินทางคนเดียวไปยังสถานที่แปลกใหม่ทีไม่เคยไป สำหรับใครก็ตามที่มีงบน้อยไม่อยากไปต่างจังหวัด แนะนำให้จองโรงแรมในกรุงเทพที่เราสามารถจ่ายไหว เปลี่ยนที่นอนเปลี่ยนบรรยากาศเพื่อให้โอกาสกับตัวเองได้เจอประสบการณ์ใหม่ๆ ในที่ใหม่ๆ เพื่อ Recharge หัวใจและกายของเราที่เหนื่อยล้าเต็มที
Admin แนะนำ The Scene Bangkoknoi Hotel ตั้งอยู่ที่ถนนอรุณอมรินทร์ ใกล้ๆ กับแยกอรุณอมรินทร์ เขตบางกอกน้อย ต้องออกตัวก่อนว่าเราไม่ได้ค่าโฆษณาอะไรจากทางโรงแรมแต่อย่างใด แต่เราเลือกโรงแรมนี้เพราะเราคิดว่าเงียบ ไม่ไกลจากถนนใหญ่ เดินทางสะดวก และนักท่องเที่ยวไม่พลุกพล่าน และที่สำคัญปลอดภัยจากโควิดเพราะทางโรงแรมมีมาตรการดูแลเป็นอย่างดี และสะอาดมากเต็ม 10 คะแนน
เมื่อเดินจากปากซอยทางเข้าโรงแรม เราจะสัมผัสได้กับความเงียบ สงบ เย็น แม้ว่าด้านนอกจะเต็มไปด้วยรถสัญจรไปมาขวักไขว่
โรงแรมถูกตกแต่งไว้อย่างมีสไตล์ ผสมผสานความเป็น Modern กับกลิ่นอายของความเป็นบางกอกน้อยไว้อย่างมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว โรงแรมนี้มี 3 ชั้น มีสระว่ายน้ำเล็กๆ ตรงกลาง สวนธรรมชาติเล็กๆ เหมาะมากสำหรับคนที่ต้องการเปลี่ยนบรรยากาศมานั่งทำงานที่นี่
หากย้อนกลับไปยังตัวตึกด้านนอก เราแทบจะดูไม่ออกเลยว่าซ่อนความ Modern ไว้ภายใน โดยเฉพาะห้องนอน ตกแต่งได้อย่างลงตัว Admin ประทับใจโต๊ะหัวเตียงที่ทำจากเข่งไม้ขนาดใหญ่มากๆ และขอบคุณโรงแรมที่นำเครื่องจักสารไทยมาต่อยอดไอเดีย
เทคนิคที่ 2: ปลดปล่อยสมองด้วยการจดบันทึก
Buddy Diary จะไม่พลาดให้คุณผู้อ่านฉกฉวยเวลาทองระหว่างที่คุณกำลังดื่มด่ำอยู่ในสถานที่แห่งใหม่ด้วยการ “ปลด และ ปล่อย” สมองและความคิด โลดแล่นบนกระดาษหรือคอมพิวเตอร์ อะไรก็ตามที่คุณสามารถหาได้ นี่คือช่วงเวลาทองที่คุณจะได้ทบทวนเรื่องราวและเรียบเรียงความคิดฟุ้งซ่านในหัว ความวิตกกังวลใจ ปลดและปล่อยมันออกมาว่าอะไรคือสิ่งที่เรากังวล เราทุกข์ใจ อะไรคือโอกาส อะไรคือทางเลือก และอะไรคือความเสี่ยงของทางเลือกนั้นๆ อะไรคือบทเรียนที่เราได้รับ อะไรคือสิ่งที่เราจะก้าวไปต่อ ใช้เวลาสัก 1-2 ชั่วโมงเพื่อทบทวนตัวเองสักนิด
ก่อนที่จะ Check Out ออกจากโรงแรม แนะนำให้เปิด Diary และอ่านมันอย่างละเอียดถี่ถ้วนอีกสักรอบ เป็นเทคนิคที่แอดมินใช้เสมอมาเพื่อทบทวนสิ่งที่เขียนและทางเลือกที่เราตัดสินใจ ก่อนที่เราจะก้าวขาออกจากโรงแรมเพื่อ “ไปต่อ” ด้วยความมุ่งมั่นและพลังใจที่เต็มเปี่ยม ให้ทิ้งความกังวลใจทั้งหลายแหล่ไว้ที่แห่งนี้แล้วก้าวออกไปอย่างเชื่อมั่น
เทคนิคที่ 3: ดื่มด่ำกับอาหารสุดพิเศษ
ให้รางวัลกับตัวเองได้กินอาหารตามใจปากที่เราโหยหามานานในมื้อค่ำ ในวันเหนื่อยล้าแบบนี้ไม่มีอะไรดีไปกว่าอาหารที่เป็นยาใจให้กับเราได้อีกแล้ว ทำซะอย่ารีรอ! และโอบกอดตัวเองด้วยอาหารเช้าเพื่อสุขภาพดีๆ อนุญาตให้ร่างกายของคุณได้สัมผัสกับอาหารที่ดีมีมีประโยชน์ ไม่จำเป็นต้องเป็นอาหารที่ราคาแพง เมื่อร่างกายดี สติและสมองเราก็จะดีตามไปด้วยค่ะ
เทคนิคที่ 4: ชั่วโมงหรรษากับการอาบน้ำ
ปลดเปลื้องเสื้อผ้าอาภรณ์ที่กดทับรัดตัวคุณออกและเพลิดเพลินไปกับชั่วโมงอาบน้ำแสนสุข ซึมซับความรู้สึกที่เราอาบน้ำไปอย่างเชื่องช้า สุขกับปัจจุบันขณะ ไม่คิดฟุ้งซ่าน ปล่อยให้ความรู้สึกของเราสัมผัสกับกลิ่นเจลอาบน้ำ แชมพู ฟังเสียงสายน้ำที่ไหลผ่านตัวเรา เพื่อนๆ หลายคนสามารถฉกฉวยเวลานี้เปิดเวทีคอนเสิร์ตแหกปากร้องเพลงและเต้นในห้องน้ำได้ แค่ระวังอย่าให้ตัวฟาดตายคาห้องน้ำเป็นพอ แถมด้วยการนอนเปลือยเปล่าแบบไม่ใส่เสื้อผ้า ม้วนตัวกลิ้งเกลือกบนที่นอน! ความรู้สึกมันเยี่ยมยอดมาก
1
เทคนิคที่ 5: ตื่นเช้าไปออกกำลังกาย
เริ่มต้นเช้าวันใหม่ด้วยการออกไปวิ่งหรือเดินให้ร่างกายกระปรี้กระเปร่า ส่วนตัวแอดมินชอบออกไปเดินตามฟุตบาทข้างถนนไปเรื่อยๆ ราวๆ 6-10 กิโลเมตร ตามที่กำลังเราไหว การที่เราได้มองเห็นวิถีชีวิตของผู้คนข้างถนนรายล้อมรอบตัว คนใหม่ๆ สถานที่แปลกใหม่ จะทำให้เราได้เจอมุมมองใหม่ๆ ด้วยเช่นกัน แถมร่างกายสุขภาพดี ในช่วงโควิดแบบนี้คุณก็ทำได้ แค่เลือกสถานที่ที่คนไม่พลุกพล่าน และอย่าลืมใส่หน้ากากอนามัยและพกเสปรย์แอลกอฮอลไปด้วย
เทคนิคที่ 6: หาเพื่อนคุย
ในช่วงเวลาจิตตกแบบนี้ การมีเพื่อนคุยสักคนเป็นสิ่งที่ดีและควรจะทำ เปิดโอกาสให้กับตนเองได้แลกเปลี่ยนมุมมองกับเพื่อน หรือจะเลือกโทรไปคุยปรึกษาเพื่อนสนิทก็สามารถทำได้ ลองคุยกับเพื่อนใหม่ๆ ที่พบเจอระหว่างการเดินทาง (รักษาระยะห่างด้วย) เพื่อแลกเปลี่ยนมุมมองกันและกัน แต่หากว่าคุณไม่กล้าที่จะเปิดใจเปิดเผยเรื่องราวตัวเองให้คนอื่นรับรู้ การไปพบนักจิตบำบัดไม่ใช่เรื่องเสียหายหรือน่าอาย หากคุณมีอาการเครียดจนจนนอนไม่หลับติดต่อกันนานเกิน 7 วัน แนะนำว่าคุณควรไปพบจิตแพทย์ เพราะร่างกายคุณจะพีคอ่อนแรงเพราะขาดการนอนหลับอย่างเพียงพอ
เทคนิคที่ 7: ทำให้สติอยู่กับปัจจุบัน
เป็นสิ่งที่ยากที่สุดที่แอดมินเคยทำมา อยู่นิ่งๆ รู้สึกกับตัวเอง เปิดรับทุกโสตประสาทการรับรู้ ปล่อยให้ทุกสิ่งไหลผ่านเข้ามาและขอเพียงเรารับรู้กับปัจจุบันขณะ ถ้ามันฟุ้งก็ปล่อยให้ฟุ้งแต่ต้องมีสติเรียกกลับคืนมา สำหรับคนที่หมั่นฝึกบ่อยๆ น่าจะทำได้แบบไม่ติดๆ ขัดๆ
ไม่ว่าเราจะเลือกทำวิธีไหน ขอเพียงอย่าปล่อยให้ตัวเองจมอยู่กับสิ่งที่ทำให้เป็นทุกข์นานเกินไป ไม่มีประโยชน์ประโยชน์ที่จะนั่งจมกับความทุกข์ไปนานๆ ลุกขึ้น และก้าวผ่านให้ได้ค่ะ เป็นกำลังใจ!
Scene Bangkognoi Hotel
โฆษณา