15 ม.ค. 2022 เวลา 13:46 • ไลฟ์สไตล์
เลิกกลัวซะ แล้วชีวิตจะดีขึ้น!
Buddy Diary ฉบับนี้เราจะมาว่ากันถึงเรื่อง “ความกลัว” เจ้าความกลัวนี่เป็นอุปสรรคสำคัญต่อการตัดสินใจของเรามากๆ เลยจริงๆ เรามักจะกลัวและวาดฝันเหตุการณ์ในการร้ายๆ ไว้ก่อนเสมอทั้งที่มันยังมาไม่ถึง แถมเรายังไม่เคยมองโอกาสและสิ่งที่เราจะได้เรียนรู้จากมันอีกต่างหาก วันนี้แอดมินเลยขอแชร์เรื่องที่เป็นจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญในชีวิตของตนเอง ในการเอาชนะความกลัวในใจ
ตั้งแต่เล็กยันโตเราเป็นคนเชื่อหมอดูมากพูดเลย ปีหนึ่งๆ ดูหมอราวๆ 2 ครั้งเห็นจะได้ จนเมื่อสามปีก่อน พ่อหมอก็ทักเรามาว่าดวงของเธอเนี่ยจะพบกับอุบัติเหตุทางน้ำทุกประเภท ให้ระวังตัวดีๆ ไม่ว่าจะนั่งเรือข้ามฟาก ว่ายน้ำ กิจกรรมทางน้ำทั้งหมดให้ระวัง
ง่ะ! เจอหมอทักแบบนี้แอดก็เป็นเหมือนคนโรตจิตค่ะ หวาดระแวงทุกสิ่งที่เกี่ยวกับทางน้ำ อะไรที่เป็นความเสี่ยงทางน้ำกูตัดออกจากทุกกิจกรรมในชีวิตพูดเลย
เหตุการณ์ก็ได้ล่วงเลยต่อจากนั้นมาอีก 1 ปี เราได้เดินทางไปเที่ยวที่เกาะเต่าด้วย Inspiration อย่างเดียวคือ ผู้ชายที่กูหลงไปชอบเขาเนี่ย ชื่นชอบเกาะเต่าเป็นชีวิตจิตใจและนางมาดำน้ำที่เกาะเต่าทุกปี เอ…ชักมีคำถามเกิดขึ้นในใจต้องการไปพิสูจน์ด้วยตัวเอง ว่าแล้วก็กดจองตั๋วรถไฟในบัดดล แต่ยังไม่ได้จองที่พักเพราะกะแบบว่าแบคแพคเกอร์ไปหาที่พักดาบหน้างี้
ลงรถไฟปุ๊บระหว่างรอรถตู้มารับไปขึ้นเรือใหญ่เพื่อข้ามเกาะ แอดก็ไป Make friend กับคนที่จะร่วมเดินทางไปกับรถตู้ด้วย คุยกันไปมาๆ สักพักพี่เขาก็ถามถึงเรื่องที่พักว่าเราได้จองโรงแรมละยัง พอนางรู้ว่าเรายังไม่มีที่พักเลยชวนมาอยู่โรงแรมเดียวกัน และเล่ากิจกรรมที่นางไปทำที่เกาะคร่าวๆ (กูก็ใจง่ายจริงไปกะเค้าอ่ะ)
เพื่อนใหม่ที่เรารู้จักเป็นนักดำน้ำ ชีเก่งทั้ง Scuba and Freedive กิจกรรมวันนี้ของชีพร้อมเหล่าผองเพื่อน Mermaid คือจะไปดำน้ำแบบ Freediving โดยพวกนางเช่าเหมาเรือไว้แล้วทั้งวัน
แอดก็สนใจแหละ แบ่งรับแบ่งสู้ยังไม่ตัดสินใจ จนไปถึงที่พัก แต่เอาตรงๆ คือ กูก็กลัวไง เรือข้ามเกาะมันยังเป็นเรือใหญ่แลดูน่าปลอดภัยไร้กังวล แต่นี่คือเรือหางยาวลำจิ๋วจ้าแม่! สภาพร่างกายกูก็ไม่ได้นอนทั้งคืนในรถไฟ กูเพลียร่างมาก ข้าวปลากูก็ยังไม่ได้กิน ที่สำคัญกูว่ายน้ำไม่แข็ง กูจะรอดหรอถ้ากูไปกะเค้า แล้วกูจะตายกลางทะเลตามที่พ่อหมอทักกูป่าววะ แอดคิดประหวั่นพรั่นพรึงไปตลอดทาง
เมื่อไปถึงที่พักมีเวลาแค่ 30 นาทีที่เรือจะออก (กินข้าวเก็บของ แอดต้องตัดสินใจ ว่าจะไปกับแก้งค์ Mermaid หรือไม่) เราจะต้องทำทุกอย่างให้เสร็จรวมถึงใส่ชุดว่ายน้ำ แอดพกชุดบิกินี่ตัวจิ๋วมาด้วยในกระเป๋า กะทีแรกแบบว่าใส่สวยๆ เดินถ่ายรูปริมชายหาดเป็นนางแบบงี้ และพก rash guard มาด้วยเผื่อว่าไปทำกิจกรรมปีนเขาหรือออกกำลังกาย เพราะไม่อยากผิว burn แดด เอ้า! ไปก็ไป นั่งเรือดูวิวไม่ลงน้ำก็ได้มั๊ง วันนี้ไม่มีแดดต้องหนาวแน่ๆ ถ้าลงน้ำ (อ้างเหตุผลสารพัดที่ตัวเองจะได้ไม่ต้องลงน้ำทะเลเพราะกลัวตาย)
เรือลำน้อยแล่นทะยานออกไปด้วยความเร็ว
Meow! เค้ากลัว! แต่ๆ วิวสวยจังเลย เราตัดสินใจถูกแล้วแหละที่มากับพี่ๆ แก้ง Mermaid เขา (แอดคิด)
ว่าแล้วเรือก็แล่นมาจอดจุดดำน้ำที่ 1 อ่าวหินวง (อ่าวนี้หนุ่มในฝันของแอดมาพักที่นี่เป็นประจำ) เพิ่งกระจ่างแจ้งวันนี้ว่าทำไมเขาถึงหลงไหลที่นี่นัก มันสวยมาก! พี่ๆ Mermaid บอกว่ามันเป็นจุดดำน้ำที่ปะการังสมบูรณ์
ทันทีที่เรือจอดปุ๊บเดอะแก้งค์ Mermaid กระโดดลงน้ำกันพึ่บพั่บ (สมแล้วที่พวกมึงเป็น Mermaid)
แอดมินล่ะ (นั่งสวยอยู่บนเรือสิคะไม่ลงหรอก กลัวๆ) ทุกคนตะโกนมาหาแอดว่า แกต้องลงน้ำเพราะถ้าแกนั่งอยู่บนเรือแกจะเมาคลื่น
หึ! ฉันไม่ลงง่ายๆ หรอก อย่ามาหลอกฉันให้ยาก ผ่านไปสักพัก กูก็เมาคลื่นจริงๆ เวรละ!
พี่คนขับเรือบอกว่า “เอ็งไม่ต้องกลัว ตราบใดที่เอ็งใส่ฟินตีนกบ เอ็งจะไม่ตาย เพราะฟินจะทำให้เอ็งลอย ถ้าเอ็งตีขาไว้ตลอดเวลา)
แต่หนูว่ายน้ำไม่เก่งอ่ะ แล้วหนูก็ไม่พร้อมลงน้ำ มันต้องหนาวแน่ๆ เลย ไม่มีแดดด้วย (อ้างโน่นนี่เพราะกลัวตายมาก)
แล้วเอ็งจะนั่งอยู่แบบนี้ดูเขาดำน้ำทั้งวันหรอ แล้วก็เมาคลื่น (พี่คนขับเรือ)
เออว่ะ! กูไม่มีทางเลือกแล้วสินะ เกิดความสับสนมากในหัว ถามตัวเองว่า “กูกลัวอะไร กูกลัวตายใช่มั๊ย แต่นี่มีนักดำน้ำอยู่ 5-6 คน มีครูสอนดำน้ำอยู่ด้วย มึงคิดว่าเขาจะปล่อยให้มึงจมน้ำตายไปต่อหน้าต่อตาหรอ การที่มึงนั่งอยู่บนเรือมึงได้เห็นอะไร ปลาสักตัวมึงก็มองไม่เห็น น้ำไม่ใสเพราะวันนี้ไม่มีแดดเว้ย มึงต้องลงไปดำน้ำเดี๋ยวนี้ มึงต้องเอาชีวิตรอดใต้น้ำให้ได้ มึงต้องฝึก! และฝึกทักษะใหม่ตอนนี้เดี๋ยวนี้ ถ้ามึงพลาดโอกาสนี้ไปมึงจะกลัวไปตลอดชีวิต และมึงจะไม่มีโอกาสได้เห็นความงามของท้องทะเล นอกจากมึงไปจ้องดูตู้ปลาที่อควาเรียม ตอนนี้วินาทีนี้เป็นโอกาสของมึงแล้ว เหล่าฝูงปลานีโม่รอ Say Hello มึงอยู่ แอดคิด)
ว่าแล้วพี่คนขับเรือก็มาสอนวิธีการใช้ฟิน ใช้แมสและท่อหายใจ ส่วนเหล่า Mermaid ก็มาสอนวิธีการเตะขาใต้น้ำและดำน้ำ ทุกคนดูแลเราก็อย่างดีมาก ขอบคุณเพื่อนๆ มากจริงๆ
นับจากวันนั้นจนถึงวันที่เรานั่งเขียนเรื่องนี้ ผ่านมาปีกว่าๆ เกือบสองปีละ ตอนนี้เราเป็น Freediver ที่สามารถดำน้ำได้ลึก 10 เมตร ช่วงเวลาที่ผ่านมาเราก็พยายามไปฝึกดำน้ำปีละ 2-3 ครั้ง เพื่อให้ไม่ลืมทักษะและฝึกดำน้ำให้ได้นานขึ้น
เราพบแล้วว่าความสุขและสงบในโลกใต้น้ำมีจริง เราได้อยู่กับตัวเอง อยู่กับผองเพื่อนใหม่นักดำน้ำทั้งหลาย และมิตรภาพจากฝูงปลา ที่สำคัญเราต้องขอบคุณตัวเอง ความเชื่อมั่นในตัวเอง ที่เอาชนะและก้าวผ่านอุปสรรคสำคัญก้อนใหญ่ในชีวิตของเราไปได้
ขอเป็นกำลังใจให้ทุกคนเอาชนะความกลัวให้ได้เช่นกัน อย่าปล่อยให้ความกลัวมาปิดกั้นตัวเรา ไม่ให้พบเจอกับสิ่งใหม่ๆ เพราะเราจะไม่เกิดการเรียนรู้ และพลาดโอกาสดีๆ ที่เข้ามาในชีวิตเราเอง จงเชื่อมั่นในตนเอง ประสบการณ์ใหม่ๆ กำลังรอเราอยู่ข้างหน้าให้เราไปสัมผัส! ที่สำคัญอย่ามัวแต่คิดและกลัว จงลงมือทำ ลองทำ เพราะถ้าเราตายเราก็จะไม่มีโอกาสได้ทำอีก ลุย!!
1
(ปล1. ผู้ชายคนนั้นก็ยังไม่ได้นะจ๊ะ ร้องไห้หนักมาก)
(ปล2. ชีวิตดี๊ดีเมื่อเลิกดูหมอ อิสรภาพกลับคืนมาอีกครั้ง)
โฆษณา