16 ม.ค. 2022 เวลา 16:48 • ปรัชญา
เรื่องที่ศรัทธาเพราะได้ยีนได้ฟังเรื่องราวบารมีสิบทัศ เรื่องราวชาดกของท่านบ้าง ก็ได้แต่สงสัยว่า ทำเรื่องราวของคำว่าสร้างบุญกุศลบารมี ทำไมต้องทำมาเป็นอเนกชาติ ก็ได้แต่สงสัยเรื่องราวเหล่านี้ เพราะเป็นเรื่องที่เราได้ฟังได้อ่านมา พอฟังเรื่องราวของพระเวสสันดร พระสิทธัตถะ ก็สงสัยทำไมท่านทำไมต้องทำถึงขนาดทิ้งเวียงวังไปอยู่ป่า แล้วเราก็ไม่ค่อยเซื่ออย่างที่เหมือนเรียนหนังสือว่าท่านเห็นคนเกิดแก่เจ็บตายแล้วหนีไปอยู่ป่า เราเซื่อว่าท่านต้องเห็นอะไรมากกว่าที่เราได้ยินได้ฟังมา ท่านต้องมีเหตุผล ของท่านลึกๆถึงหนีจากเวียงวังไปอยู่ป่า แล้วเราก็มาอ่าน เรื่องราวของธัมมะจักรกัปปวัตนสูตร ที่เค้าแปลให้อ่าน ทำไม่ถึงมีเทพยดา สาธุการเป็นทอดๆมากมาย เรื่องเหล่านี้ก็ได้แต่สงสัยว่ามีจริงหรือ
พอดีเกือบสามสิบปี ไปเจอภิกษุรูปหนึ่ง เจอท่านครั้งแรก ท่านก็บอกว่า มาเรียนๆ ต่อไปจะสนุก ธรรมของพระพุทธเจ้า นั้นละเอียด ไปถึงว่าอณูปรมานู (บางเรื่องก็คล้ายเรื่องควอนตัมที่เค้าว่ากัน)เราก็ได้ แต่ฟังเป็นไปได้อย่างไร ท่านก็สอนให้หัดปฏิบัติธรรม เรื่องราว รอยปฏิบัติธรรมขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า คือ กิริยาการยืนสมาธิ เดินสมาธิ นั่งสมาธิ ไสยาสน์สมาธิ เรื่องของเขาสร้างทานบุญ ตอนนั้น ก็ไปฝึกหัด ปฏิบัติธรรมครั้งแรกที่วัด ครั้งแรกก็ขอให้ได้เห็น ที่เค้าเรียกว่าผี วิญญาณอะไรอย่างนี้ ขอให้ได้เห็นด้วยตาเปล่าปกติ ก็ได้เห็นจริงๆ ก็เลยเริ่ม ไปเห็นคนที่เค้ามาอนุโมทนา มากันเป็นร้อยคนๆ ความสงสัยที่เคยว่าเรื่องราวจิตวิญญาณที่มองไม่เห็นนั่น เค้ามีจริง ก็ได้ค่อยเรียนรู้มากขึ้น
กลับมาที่เรื่องราวรอยทั้งสี่ ยืนเดินนั่งนอนสมาธิ เค้าทำไปจนถึงกายนิ่งจิตนิ่ง พอถึงเรื่องของกายนิ่งจิตนิ่ง เราก็ได้เรียนรู้อะไรมากมาย ที่ไหลออกมาจากธาตุสี่ เป็นสี เป็นเรื่อวราวของกรรม ทีเราเคยใช้วิญญาณหกไปเสาะแสวงหา หรือเอาเรื่องนํ้นเรื่องนี้มายึดถือ พอแม่ป่วยเป็นอัมพฤกษ์ เราก็อยู่วัดปฏิบัติธรรม ขอรับเวทนาแม่ที่ป่วยมาประพฤติปฏิบัติธรรม เดินจงกรม ปรากฏว่าแม่ กลับมาเป็นปกติ ไปตลาดได้ ในวันที่เริ่มปฏิบัติธรรมรับเวทนแม่มาเดินจงกรม มันก็ยิ่งทำให้เกิดศรัทธามากขึ้น
คราวนี้ พอเราทำจิตนั้นนิ่งได้ กายนิ่งจิตนิ่ง ก็จะได้ค่อยเรียนรู้เรื่องของกรรม ที่ไหลออกมาเป็นอารมณ์จากธาตุทั้งสี่ เป็นละออง เป็นสีดำ ม่วง น้ำตาลบาง เราก็ได้เห็นสิ่งที่เป็นสีดำเป็นสี ลอยออกมาจากธาตุสี่ที่ประกอบมาเป็นตัวตนของเรา พอศึกษามากเข้า ก็ได้เข้าใจเรื่องราวของทานบุญนั้น ทำให้เกิดอะไรขึ้น ทำให้เกิดอโหสิกรรม นั้น เราควรทำอย่างไร
พอประพฤติปฏิบัติธรรมมากเข้า ก็เริ่มเข้าใจว่าบ้านที่เราอาศัยนี้มันสกปรกเลอะเทอะ แล้วทำไมเราจึงต้องปฏิบัติธรรมทำทานบุญกุศล ทำแล้วมันเกิดเป็นอโหสิกรรมได้อย่างไร หรือไม่เกิดเป็นอโหสิกรรม เพราะอะไร และบุญกุศลที่ได้นั้น เหมือนไปทำสะอาดบ้านที่เราอาศัย คือกายที่มีแต่กรรมมีอารมณ์ พอเราประพฤติปฏิบัติธรรมก็เหมือนเอาน้ำของธรรม ไปล้างสิ่งที่สกปรกออกจากกายที่เราอาศัย เมื่อบ้านที่เราอาศัยสะอาดสะอ้าน จิตที่อาศัยอยู่ก็มีความสุข
เรื่องราวของการสร้างทานบุญบารมีนั้น พระพุทธเจ้าท่านกระทำมาเป็นเยี่ยงอย่างให้เราศึกษา การศึกษาเรื่องราวบุญกุศลบารมี ต้องอาศัยตัวเองกระทำขึ้นมาเอง เพื่อจะได้แก้ไขนิสัยกรรมของตน สิ่งที่เขียนมา ไม่ใช่ว่าข้าพเจ้านั่นศรัทธาพระพุทธเจ้า ศรัทธาแล้วก็หยุดอยู่แค่นั้น เพียงแต่อยากจะบอกว่า เมื่อมีศรัทธาในพระพุทธเจ้า ก็ปฏิบัติธรรมตามรอยทั้งสี่ของท่าน แล้วก็สร้างทานบุญกุศลให้เกิดเป็นบารมี จิตเราก็จะได้ บุญกุศลบารมี คลี่คลายกรรม คลี่คลายทุกข์ของตน ช่วยให้การเกิดลดน้อยชาติลงไป เกิดทีไรมันก็ทุกข์
จิตตนเองเท่านํ้นที่เป็นที่พึ่งของตน นำพาไปสู่สถานที่ดีที่งามในวันข้างหน้า ถ้าเราไม่ทำไม่ปฏิบัติธรรมขึ้นมา สิ่งที่ฟังมาก็เหมือนอุปโลกน์ขึ้นมาเท่านั้นเอง ปฏิบัติธรรมไปตามรอยของท่าน แล้วเราจะได้รู้จักเข้าใจ ว่ารอยทั้งสี่ขององค์พระพุทธเจ้านั้น ช่วยบรรเทากรรม บรรเทาทุกข์ ได้จริงมั้ย จิตออกจากร่าง จะไปสู่สถานที่ดีจริงๆมั้ย เราประพฤติปฏิบัติธรรมขึ้นมาตามรอยของท่าน เราก็มั่นใจได้ ว่าเดินมาถูกทาง
หมายเหตุ เรื่องราวของการอธิษฐานขอรับเวทนา นั้น คนเป็นลูกเท่านั้นที่ทำให้พ่อแม่ของตนได้ เพราะตัวลูกนั้นมีธาตุพ่อธาตุแม่อยู่ เมื่อรับเวทนาพ่อแม่ที่เจ็บป่วย มาเดินจงกรม อาการที่พอแม่เจ็บป่วยก็เหมือนถ่ายมาปรากฏที่กายของลูก ขณะเดินจงกรม ..การขอรับเวทนาพ่อแม่เมื่อเจ็บป่วยนั้น เค้าเรียกว่า การแทนพระคุณพ่อแม่ทางจิต ส่วนพ่อแม่นั่น ไปขอรับเวทนายามลูกเจ็บป่วยไม่ได้ เพราะเค้าถือว่าพ่อแม่เป็นเป็นธาตุที่อยู่สูงกว่า เรื่องราวของคำว่า พระคุณพ่อแม่ ถ้าเรารู้จักเรื่องราวเหล่านี้ เราจะระมัดระหว่างการกระทำของเรากับพ่อแม่ เพราะเมื่อทำอะไรไม่ดีกับพ่อแม่ ก็เหมือนเราทำลายตัวเราเอง เค้าตีค่าจิตดวงนี้เป็นผู้ไม่รู้จักพระคุณเลย ชีวิตก็จะหาความสุขไม่ได้ กายที่อาศัยก็มีแต่เรื่องเร่าร้อน ต้องตรึกตรองดูว่าจริงหรือไม่จริง
1
โฆษณา