👉👉👉โดนลูกดวงตามตัวให้ทำงาน👈👈👈
ฉันกำลังพิมพ์ Draft 1 ลงใน Samsung Notes ด้วยความดีใจที่มีเรื่องมาเขียนเล่าในคลาสเรียนนี้จนได้ ฉันส่งงานครูปรายในคอร์ส Power of Meow เกือบครบแล้ว เหลือแต่การบ้าน Free writing ที่ฉันตั้งใจจะไม่ส่งงานในตอนแรก แต่ก็มีเหตุการณ์ลูกดวงทวงงานเกิดขึ้นในช่วงเย็นวันอาทิตย์พอดี ฉันจึงคิดว่า ควรจะถ่ายทอดเรื่องราวนี้เป็นตัวหนังสือ และพูดถึงวิถีชีวิตของหมอดูมือสมัครเล่นอย่างฉันไปด้วยเลยดีกว่า
ฉันชื่อ พลอย มีงานอดิเรกเป็นหมอดูไพ่ทาโรต์ทางออนไลน์ ช่องทางหลักของรายได้คือแอป a ดวง ชื่อในวงการหมอดูของฉัน ชื่อว่า Fairy Monte เป็นชื่อที่มาจากนามปากกาสมัยที่ฉันเคยแต่งนิยายแฟนตาซีลงเว็บไซต์ Dek-d ฉันไม่ได้ทำงานนี้เป็นอาชีพหลัก ดังนั้นฉันจึงคิดค่าบริการในราคาไม่สูงมาก และมีบริการตอบคำถามฟรี 1 คำถามอีกด้วย ฉันคิดว่านี่เป็นวิธีการช่วยเหลือสังคมทางหนึ่ง เพราะฉันเองไม่สามารถลงแรงในการช่วยเหลือผู้คนได้อย่างเต็มที่ ดังนั้นฉันจึงขอทำในส่วนที่ฉันทำได้ก็แล้วกัน
ปกติฉันมักจะนอนตั้งแต่หัวค่ำ แล้วตื่นมาอีกทีช่วงเที่ยงคืน นั่นเป็นเวลาที่ฉันจะไลฟ์สด พอถึงตีสอง ฉันก็กลับไปนอนต่อ ฉันมีลูกค้าประจำไม่มากนัก แต่ก็รู้สึกดีใจที่พวกเขาให้ความไว้วางใจในหมอดูมือสมัครเล่นอย่างฉัน
ฉันได้รายได้เดือนนี้ตามเป้าตั้งแต่ครึ่งเดือนแรกแล้ว ฉันจึงตัดสินใจอู้งานไลฟ์สด เพราะว่าที่ต่างจังหวัด อากาศตอนกลางคืนเย็นสบายน่านอนมาก ฉันจึงนอนหลับสบาย และสามารถนอนยาวไปได้ยันเช้า ไม่ตื่นขึ้นมากลางดึกแบบนกฮูก
ช่วงนี้ฉันคงนอนมากเกินไปหน่อย เพราะจู่ๆ ลูกดวงก็ติดต่อมาทางไลน์ในวันอาทิตย์ ถามว่าไม่ไลฟ์เลยเหรอ ฉันจึงบอกเธอไปว่าช่วงนี้นอนเยอะ และสัญญาว่าจะจัดไลฟ์สดให้เธอในคืนนั้น
ฉันตั้งใจจะจัดไลฟ์เวลาเดิม ทว่า สี่ทุ่มแล้ว แต่ฉันยังไม่ได้เข้านอน ฉันจึงตัดสินใจไลฟ์สดเดี๋ยวนั้นเลย มีลูกค้า 1 คนเข้ามาถาม 1 คำถาม ฉันพูดคุยทักทายกับเธอ และเปิดไพ่เช็กดวงตัวเองว่าคืนนี้จะได้รายได้ดีไหม ไพ่ออกมาเป็นไพ่ดาบ ฉันจึงรู้ว่าวันนี้รายได้ไม่ดี
รอสักพัก ลูกดวงคนนั้นก็เข้ามาในห้องไลฟ์ ดีใจจังที่เธอไม่ปล่อยให้ฉันรอเก้อ ฉันดูดวงให้เธอเป็นจำนวน 6 คำถาม พอทำหน้าที่เสร็จเรียบร้อย ฉันก็ปิดไลฟ์เลย เพราะเวลานั้นมีหมอดูจัดไลฟ์สดกันเยอะมาก ฉันจึงคิดว่านอนดีกว่า
ฉันดีใจที่เกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น เพราะถึงแม้ตั้งใจจะไม่ส่งงาน Free writing ในตอนแรก แต่ฉันก็เปลี่ยนใจหลังจากที่ครูปรายเลื่อนเวลาส่งงานมาเป็นวันจันทร์นี้ ฉันจึงนำเรื่องนี้มาเขียนเป็นเรียงความ เพื่อที่จะถ่ายทอดการทำงานและชีวิตประจำวันของฉันในฐานะหมอดูมือสมัครเล่นคนหนึ่ง ว่าวันๆ หนึ่ง ฉันทำงานอย่างไรบ้าง
สำหรับบทเรียนจากการทำงานเดือนนี้ ทำให้ฉันได้เรียนรู้ว่า การทำงานโดยไม่มีแรงกดดัน จะนำมาซึ่งกำไรเสมอ ไม่มีคำว่าขาดทุน เพราะเราทำด้วยใจ แต่ถ้าการทำงานกลายเป็นหน้าที่ที่จำเป็นต้องทำแล้ว เราจะไม่มีความสุขในการทำงานเลย มีบ้างที่ฉันรู้สึกโลภ อยากขึ้นราคาค่าบริการเพราะอยากได้เงินเยอะๆ แต่ฉันก็นึกถึงคำพูดอาของฉันซึ่งเป็นคนธรรมะธัมโม ที่ท่านบอกว่า "อย่าโลภ" ฉันจึงคิดได้ และกลับมาทำงานได้อย่างสบายใจ
โดยส่วนตัว ฉันอยากให้ work-life balance เป็นเทรนด์สังคมที่สามารถเกิดขึ้นได้จริงในประเทศไทย เพราะว่าการทำงาน 4 วัน หยุด 3 วัน จะช่วยเพิ่มคุณภาพชีวิตให้แก่คนวัยทำงาน ทำให้มีสุขภาพกายและสุขภาพจิตดี ฉันเห็นคนรุ่นราวคราวเดียวกันกับฉันใน Twitter มากมายบ่นกันเยอะเรื่องผมร่วง เครียด และปวดหลัง ทั้งที่ยังอายุไม่ถึง 30 ปีด้วยซ้ำ ฉันคิดว่าการทำงานในปัจจุบัน เป็นการทำลายสุขภาพของพนักงานจนเกินไป แทนที่จะได้นำเงินมาใช้ในการหาอาหารที่มีประโยชน์มาทาน ใช้เวลาวันหยุดในการพักผ่อนหรือออกกำลังกายดูแลสุขภาพตัวเอง กลายเป็นว่าเรากำลังทำงานเพื่อนำเงินมารักษาสุขภาพที่เสียไปจากการทำงาน เป็นปัญหาที่วนเวียนเป็นงูกินหางไม่จบไม่สิ้น
การมี work-life balance จะทำให้พนักงานมีเวลาพักผ่อนมากขึ้น พอได้พักผ่อนเต็มที่ ก็จะมีความพร้อมในการทำงานมากขึ้น ทั้งยังช่วยลดค่าใช้จ่ายในการรักษาตัวจากอาการป่วยจากการทำงาน เช่น โรคเครียดและปวดหลังได้อีกด้วย
ปล. ผลงานจากคอร์สเรียนการเขียนระยะสั้น Power of Meow กับคุณ 'ปราย พันแสง
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
