20 ม.ค. 2022 เวลา 14:19 • ความคิดเห็น
ส่วนใหญ่จินตนาการและความคิดสร้างสรรค์ จะเกิดจากจิตเหนือสํานึกที่ไม่ใช่ความทรงจําปรกติหรือความคิดปรกติ สังเกตุดูว่าความคิดสร้างสรรค์จินตนาการต่างๆ มันจะผุดออกมาจากสมองตอนไม่คิดหรือตอนสมองปลอดโล่ง ไร้ซึ่งความกดดันแล้วค่อยคิด แต่ไม่ใช่การคิดไปแบบเรื่อยเปื่อย จิตกรจะสร้างสรรค์ผลงานได้ดีตอนที่จิตสงบเป็นสมาธิ นักดนตรีนักแต่งเพลงมีผลงานเพลงฮิต ติดอันดับโลก จากเพียงสิ่งที่แวบเข้ามาในหัวชั่วขณะ นักวิทยาศาสตร์อย่างอาคีมีดีสที่ร้องยูเรก้า ตอนค้นพบวิธีพิสูจน์ทองปลอม โดยการหาปริมาตรของทองจากการแทนที่นํ้า ขณะที่อาบนํ้าสบายๆ เซอร์ ไอแซค นิวตันค้นพบกฎแรงโน้มถ่วง ตอนนอนหลับสบายใต้ต้นไม้แล้วแอปเปิ้ลตกใส่หัว ไอน์สไตน์ใช้การจินตนาการเป็นภาพ จึงค้นพบทฤษฎีสัมพัทธภาพ พระภิกษุมุ่งมั่นปฏิบัติภาวนา อย่างเคร่งครัดด้วยความเพียรแต่ไม่บรรลุซักที แต่พอเลิกมีความคิดที่จะบรรลุ จิตจึงเป็นอิสระและดวงตาเห็นธรรมโดยอัตโนมัติ
นอกจากจิตที่ว่างและความสงบ จะก่อกําเนิดจินตนาการและความคิดสร้างสรรค์แล้ว ความคิดสร้างสรรค์ส่วนหนึ่งถูกกดทับไว้ ด้วยความคิดอื่นๆที่ถูกโปรแกรมในสมองมิให้ความคิดสร้างสรรค์แสดงตนออกมา เช่น ความเครียด อคติ ความคาดหวัง ความกลัว ความปราถนา โดยเฉพาะอคติหรือ bias เป็นตัวกั้นขวางอย่างดี เพราะมันจูงใจให้เราเชื่อตามในสิ่งที่คนส่วนใหญ่ปฎิบัติหรือคิด หรือมีกรอบความเชื่ออะไรบางอย่างที่ความคิดเราจะถูกกักขังไว้ในนั้น
เราไม่สามารถคิดออกมานอกกรอบนั้นได้ จินตนาการจึงไม่เกิดขึ้น ยกตัวอย่างเช่น เราต้องไปโรงเรียนเท่านั้นเราถึงจะมีความรู้, เราต้องเรียนเก่งๆสอบได้คะแนนสูงๆถึงจะประสบความสําเร็จ, เธอต้องตามที่ฉันบอกนะแล้วจะดีเอง เพราะฉันอายุมากกว่าเธอ, ไม่มีใครเดินทางไปดาวอังคารได้หรอก เพราะมันอยู่ไกลจากโลกมาก, มนุษย์ไม่สามารถมีชีวิตเกินกว่า 100 ปีได้หรอก เพราะมันขัดกับหลักธรรมชาติ อะไรเหล่านี้เป็นต้น
โฆษณา