22 ม.ค. 2022 เวลา 03:56 • ข่าว
22 มกราคม พ.ศ. 2486 ประกาศใช้ "สวัสดี" เป็นคำทักทาย.. รู้หรือไม่? คำว่า "สวัสดี" มีที่มาจากอะไร?
ผู้ที่ริเริ่มใช้คำว่า “สวัสดี” คือ พระยาอุปกิตศิลปสาร (นิ่ม กาญจนาชีวะ) โดยพิจารณามาจากศัพท์ “โสตฺถิ” ในภาษาบาลี หรือ “สวัสติ” ในภาษาสันสกฤต โดยได้เริ่มใช้เป็นครั้งแรก ณ คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ขณะที่พระยาอุปกิตศิลปสาร (นิ่ม กาญจนาชีวะ) เป็นอาจารย์อยู่ที่นั่น หลังจากนั้น ในปี พ.ศ. 2486 จอมพล ป.พิบูลสงคราม นายกรัฐมนตรีในสมัยนั้นเห็นชอบให้ใช้คำว่า “สวัสดี” เป็นคำทักทายอย่างเป็นทางการตั้งแต่วันที่ 22 มกราคม เป็นต้นมา
“สวัสดี” เป็นภาษาสันสกฤต มาจากคำว่า “สุ” เป็นคำอุปสรรค (คำเติมหน้าศัพท์ที่ทำให้ความหมายของศัพท์เปลี่ยนแปลงไป) แปลว่า ดี งาม หรือ ง่าย และคำว่า “อสฺติ” เป็นคำกิริยาแปลว่า มี แผลงคำว่า “สุ” เป็น “สว” (สฺวะ) ได้โดยเอา “อุ” เป็น “โอ” เอา “โอ” เป็น “สฺว” ตามหลักไวยากรณ์ แล้วสนธิกับคำว่า “อสฺติ” เป็น “สวสฺติ” อ่านว่า สะ-วัด-ติ แปลว่า “ขอความดีความงามจงมี (แก่ท่าน) ”
ทั้งนี้ยังมีคำทักทายตามช่วงเวลาที่ภาษาอังกฤษใช้กันคือ good morning, good afternoon, good evening และ good night ก็ถูกสร้างขึ้นมาในสมัยของ จอมพล ป.พิบูลสงคราม เช่นเดียวกัน โดยกำหนดคำตามแบบอังกฤษดังต่อไปนี้
• อรุณสวัสดิ์ มาจากคำว่า good morning ที่แปลว่า สวัสดีตอนเช้า
• ทิวาสวัสดิ์ มาจากคำว่า good afternoon ที่แปลว่า สวัสดีตอนบ่าย
• สายัณห์สวัสดิ์ มาจากคำว่า good evening ที่แปลว่า สวัสดีตอนเย็น
• ราตรีสวัสดิ์ มาจากคำว่า good night เป็นคำลาในภาษาอังกฤษ ได้ถูกสร้างขึ้นในสมัยของจอมพล ป.พิบูลสงคราม เช่นกัน
สวัสดี เป็นคำทักทายของคนไทย โดยจะใช้เมื่อแรกพบกัน หรือ เมื่อต้องการบอกลา โดยพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถานให้ความหมายของคำว่า “สวัสดี (สวัสดิ์) ” ว่าหมายถึง ความดี ความงาม ความเจริญรุ่งเรือง และความปลอดภัย การอวยชัยให้พร
📌 แฟน ๆ สามารถดาวน์โหลดชุดภาพ #ThaiPBSสวัสดีทุกสีวัน เพื่อส่งต่อความสุขคู่ความรู้ให้แก่กัน ได้ทาง www.thaipbs.or.th/Sawasdee #ThaiPBS
โฆษณา