22 ม.ค. 2022 เวลา 09:07 • หุ้น & เศรษฐกิจ
⚠️[ANALYSIS]⚠️ อีกหนึ่งเหตุผลที่ทำให้ตลาดหุ้นร่วงลงอย่างรุนแรงที่ยังไม่มีใครเคยบอกคุณ... แต่วันนี้ Trader KP จะมาเล่าให้ฟัง
สัปดาห์ที่ผ่านมามี Options หุ้นรายตัว หรือที่รู้จักในบ้านเราว่า DW มูลค่ารวมกว่า 40 ล้านล้านบาทหมดอายุไปพร้อมกัน นับเป็นมูลค่าที่สูงสุดเป็นอันดับที่ 2 ในประวัติศาสตร์
1️⃣ คงเป็นที่ทราบกันดีแล้วว่าอาทิตย์ที่ผ่านมาเป็นสัปดาห์แดงเดือนของตลาดหุ้นสหรัฐและสินทรัพย์เสี่ยงทั่วโลก
ในช่วงเวลาเพียง 4 วัน ดัชนี Nasdaq ปรับตัวลดลงมา -6% รวมแล้วทำให้ Nasdaq โดนเทขายไป -15% ภายในเวลา 3 อาทิตย์ นับเป็นการเทขายที่รุนแรงที่สุดนับตั้งแต่เกิดไวรัสขึ้นเมื่อ 2 ปีที่แล้ว
1
และการเทขายของตลาดหุ้นก็เป็นเหตุที่ทำให้ราคา Bitcoin ร่วงเหลือ 36,000 เหรียญ ลดลงมา -47% จากระดับสูงสุด จนแตะระดับต่ำที่สุดในรอบ 6 เดือนแล้วเช่นเดียวกัน
2️⃣ เชื่อว่าหลายเหตุผลที่นักลงทุนได้ยินคือ ความกังวลว่า FED จะขึ้นดอกเบี้ยเร็วกว่าที่คาดเป็นเหตุผลที่กดดันตลาดเป็นหลัก
แน่นอนว่านี่เป็นเหตุผลที่กดดันตลาดหนักที่สุดอย่างแน่นอน โดยหากในการประชุม FOMC คืนวันพุธที่ 26 เวลาตี 2 เวลาไทย (เช้าวันพฤหัสที่ 27) ถ้าทาง FED มีนโยบายที่จะขึ้นดอกเบี้ยในเดือนมีนาคมและขึ้น 0.5% หรือมากกว่านั้น ตลาดน่าจะโดนเทขายอย่างแรงในระยะสั้นอย่างต่อเนื่อง (จนกว่าเราจะได้ยอดตัวเลขเงินเฟ้อในอนาคตว่าทาง FED สามารถคุมเงินเฟ้อไว้ได้บ้างหรือไม่ หากทำได้จริงและเศรษฐกิจไม่ชะลอตัว ตลาดก็น่าจะกลับตัวเป็นขาขึ้นได้ในระยะยาว)
1
แต่หากทาง FED ขึ้นดอกเบี้ยในเดือนมีนาคมและขึ้นเพียง 0.25% และยังไม่ได้กล่าวว่าจะมีแผนการขึ้นดอกเบี้ยมากกว่า 3 ครั้งในปีนี้ ตลาดก็อาจจะลดความผันผวนลง และอาจจะมีการเด้งกลับทางเทคนิคได้
3
3️⃣ อย่างไรก็ตาม #อาจมีอีกเหตุผลนึงที่สำคัญมาก ที่ทำให้อาทิตย์ที่ผ่านมาตลาดหุ้นโดนเทขายหนัก
นั้นก็คือการที่สัปดาห์ที่ผ่านมาได้มี Options หุ้นรายตัวในตลาดหุ้นสหรัฐ ไม่ว่าจะเป็นบริษัท Tesla, Apple, Google, Amazon และอื่นๆรวมกันนับเป็นมูลค่ารวมกว่า 40 ล้านล้านบาทที่มีกำหนดหมดอายุไปในวันศุกร์ที่ผ่านมา 21 มกราคม
1
(โดยปริมาณ 40 ล้านล้านบาทที่หมดอายุภายในวันเดียวนี้นับเป็นมูลค่าที่สูงสุดเป็นอันดับที่ 2 ในประวัติศาสตร์ของตลาดเลยทีเดียว)
Options หุ้นรายตัวของสหรัฐนี้เป็นการเปิดให้นักลงทุนเข้ามาลงทุนหรือเก็งกำไรบนสิทธิของการซื้อหุ้น (Call) หรือขายหุ้น (Puts) ล่วงหน้าได้ หรือในบ้านเรานักลงทุนอาจจะคุ้นชินกันในนาม #DW (Derivatives Warrent) ซึ่งจะทำหน้าที่คล้ายๆกัน และเป็นเหตุที่ทำให้ราคาหุ้นขยับรุนแรงได้จากแรงซื้อและขายด้วยเม็ดเงินที่ Leverage หรือการใช้เม็ดเงินน้อยแต่มีแรงดันตลาดได้มาก
1
4️⃣ เหตุผลที่สหรัฐมี Options หุ้น Expire สูงขนาดนี้ก็เพราะว่า
Options ระยะยาวในหุ้นรายตัวสหรัฐนั้นจะเปิดให้ซื้อขายล่วงหน้าเป็นเวลา 1-2 ปี โดยสัญญาแรกของปีที่จะเปิดขึ้นให้ซื้อขายก่อนก็คือสัญญาเดือนมกราคมของทุกๆปี (ก่อนที่จะเป็นสัญญาเดือนมิถุนายนให้ซื้อขายกันต่อไป)
3
ทำให้ถ้านักลงทุนทุกท่านจำกันได้ว่า ในช่วงต้นปี 2020 ระหว่างที่เกิดไวรัสระบาดหนักและตลาดหุ้นโดนเทขายอย่างถล่มทลาย ในช่วงปี 2020 นั้นเป็นปีที่ทำให้เกิดนักลงทุนรายย่อยขึ้นมามากมายในสหรัฐ (เพราะได้รับเงินอัดฉีดจากรัฐบาลและทุกคนก็ติดอยู่ที่บ้านและเรียนรู้ถึงการเทรดหุ้น)
2
ในช่วงปี 2020 นั้นสัญญา Options ระยะไกลสัญญาเดียวที่นักลงทุนจะเทรดกันได้ตอนนั้นก็คือสัญญา Options หุ้นที่จะหมดอายุในเดือนมกราคาปี 2022 และสัญญานั้นก็มีกำหนดหมดอายุในวันที่ศุกร์ 20 มกราคมที่ผ่านมานี่เอง
2
5️⃣ การที่นักลงทุนจำนวนมากแห่เข้ามาซื้อขาย Options ระยะยาวเพื่อเก็งกำไรในปี 2020 ทำให้สัญญาเดือนมกราคม ปี 2022 มีปริมาณการซื้อขายที่สูงสุดเป็นอันดับที่ 2 ในประวัติศาสตร์
4
และแล้วด้วยมูลค่าหุ้นที่เตรียมหมดอายุสัญญากว่า 1.2 ล้านล้านเหรียญหรือกว่า 40 ล้านล้านบาท เรารู้กันได้เลยว่าตลาดจะต้องผันผวนแน่ๆ โดยเฉพาะการที่เหล่านักลงทุนทั้งหลายกำลังได้กำไรอย่างงามจากสัญญา Options ตัวนี้ เพราะตลาดหุ้นเป็นขาขึ้นมาตลอด 2 ปี ทำให้คนที่ซื้อ Call Options กำลังได้กำไรอยู่จำนวนมาก
1
6️⃣ เมื่อมาถึงวันสิ้นสุดสัญญานักลงทุนต้องตัดสินใจว่า
1) จะถือสัญญาจนครบอายุและใช้สิทธิ์ในการซื้อหุ้น
1
หรือ
1
2) จะขายสัญญาและรับเงินกำไรกลับมาเป็นเงินสด
3
อาจเป็นเพราะตั้งแต่เริ่มต้นปีมาราคาหุ้นในสหรัฐ โดยเฉพาะเหล่าหุ้นเทคที่เป็นที่นิยมกันในการเทรด Options ระยะยาว ได้โดนเทขายอย่างต่อเนื่อง อาจทำให้นักลงทุนรายย่อยและสถาบันที่ถือสัญญาเหล่านี้อยู่มากมายอาจรู้สึกโดนกดดันว่ากำไรกำลังหดลงไปอย่างรวดเร็ว
1
และด้วยแรงกดดันทางอ้อมที่เกิดขึ้นจาก FED อาจทำให้นักลงทุนเหล่านี้แห่กันเทขายสัญญา Options ที่จะหมดอายุเหล่านี้กันออกมาเพื่อทำกำไรไว้ก่อน
แต่รู้หรือไม่ว่าทุกๆสัญญา Options ที่นักลงทุนออกมาขาย จะทำให้ทางเหล่า Market Makers หรือคนรับซื้อสัญญา Options ที่ใกล้หมดอายุนี้ไป ต้องไปขายหุ้นของบริษัทเหล่านั้นออกไปในตลาดเพื่อทำการ Delta Hedge
และเป็นไปได้ว่าแรงขายหุ้นจากเหล่า Market Makers นี้ ด้วยปริมาณ Options หมดอายุที่มหาศาลถึง 40 ล้านล้านบาทจึงเป็นอีกแรงที่กดดันตลาดหุ้นให้ลงต่อเนื่องเป็นลูกโซ่
1
7️⃣ จะเกิดอะไรขึ้นในสัปดาห์หน้า ?
เชื่อว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดในตลาดจะยังคงเป็นคำพูดของ FED ว่าพวกเขามีมุมมองต่อค่าเงินเฟ้อ และจะปรับนโยบานการเงินเพื่อรองรับเช่นไร และหาก FED ยังคงไม่สามารถสร้างความเชื่อมั่นกลับมาให้ตลาดได้ ราคาหุ้นก็มีสิทธิ์โดนเทขายอย่างต่อเนื่อง
1
แต่อย่างไรก็ตาม #นักลงทุนก็ไม่ควรมองข้าม การที่สัญญา Options มูลค่ามากมายเหล่านี้เพิ่งหมดอายุไป เพราะมันหมายความว่าเมื่อสิ้นสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา กำลังมีนักลงทุนจำนวนมากที่กำลังมีเงินสดกลับมาอยู่ในมือใหม่อีกครั้ง และพวกเขาก็กำลังมีกระสุนในมือที่พร้อมกลับเข้ามาซื้อหุ้นในตลาด หรือเก็งกำไรด้วย Options ใหม่อีกครั้ง
1
8️⃣ ทำให้แอด #สรุปได้ว่า อาทิตย์หน้านี้จะเป็นอาทิตย์ที่น่าสนใจมากที่สุดในตลาดหุ้นเลยทีเดียว
และในคืนวันพุธเวลาตี 2 (เช้าวันพฤหัสที่ 27) เราก็มีนัดฟังผลประชุม FED พร้อมกันนะครับ
🙏 ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามเพจของเรา ฝากกด Like และ Share เพื่อให้นักลงทุนท่านอื่นได้รับข้อมูลที่มีประโยชน์เหล่านี้ด้วยนะครับ ขอบคุณครับ 👍😊
#ทันโลกกับTraderKP
ที่มา: Single stock options worth $1.2 trillion set to expire - Options Solutions
โฆษณา