23 ม.ค. 2022 เวลา 11:49 • ประวัติศาสตร์
#พลิกปูมสยองค่ายเยาวชน_Brothers_Home
#ที่สุดแห่งประวัติศาสตร์อันดำมืดของเกาหลีใต้
ทุกประเทศในโลกใบนี้ ล้วนมีร่องรอยประวัติศาสตร์ของมนุษย์ถูกกลบฝังอยู่ทุกหนแห่ง ที่มีทั้งเรื่องราวของวีรบุรุษ ความเสียสละ ความกล้าหาญ อันเป็นที่น่าเชิดชู แต่ก็มักจะมีอีกด้านของประวัติศาสตร์อันดำมืด โหดเหี้ยม อำมหิต รวมอยู่ด้วย ที่หลายคนอยากให้ถูกกลบฝังให้มิดไปกับกาลเวลา ไม่อยากรื้อฟื้นขึ้นมาอีก
และหนึ่งเรื่องราวที่เป็นด้านดำมืดของประเทศเกาหลีใต้ ที่แม้แต่คนเกาหลีรุ่นใหม่ๆก็แทบไม่อยากจะเชื่อว่าเคยมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นในบ้านของเขาจริงๆ นั่นก็คือ เรื่องราวของค่ายเยาวชนที่ชื่อว่า Brothers House แห่งเมืองปูซาน
1
เรื่องราวของค่ายเยาวชน Brothers Home ในเกาหลีใต้นั้น แทบไม่มีคนนอกรู้มาก่อนเลย จนกระทั่งมีการขุดคุ้ยประวัติโดยสำนักข่าวต่างประเทศเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้เอง ว่ามันไม่ได้เป็นแค่บ้านพักเยาวชนยากไร้ธรรมดา แต่มันคือมหากาพย์ของความรุนแรง อำนาจนิยม การกดขี่ คอร์รัปชั่น ค้ามนุษย์ ทารุณกรรม ล่วงละเมิดทางเพศ และ ความตายนับครั้งไม่ถ้วน
เรื่องราวของบ้านพักเยาวชน Brothers Home มีความเป็นมาอย่างไร วันนี้เรามาลองพลิกปูมแห่งกาลเวลากันดีกว่า
ตามประวัติของบ้านพักเยาวชน Brothers Home ถูกสร้างขึ้นราวปลายปี 1970s ที่เริ่มต้นจากไอเดียที่ต้องการรวบรวมเด็กยากไร้ กำพร้า หรือ พ่อแม่เลี้ยงไม่ไหวเพราะฐานะยากจน มาอยู่รวมกันเพื่อฝึกอบรมวิชาชีพในการใช้ชีวิตในอนาคต โดยหวังใจว่าเยาวชนในบ้านพักจะรักกันดั่งพี่น้องสมชื่อที่ตั้งไว้
ส่วนผู้ที่ผลักดันให้เปิดบ้าน Brothers Home ก็คือ ชอน ดู-ฮวัน อดีตประธานาธิบดีคนที่ 5 ของเกาหลีใต้ และ ผู้บัญชาการสูงสุดแห่งกองทัพบกของเกาหลีใต้ในสมัยนั้น โดยมีบาทหลวง ลิม ยัง-ซุน ผู้บริหารโบสต์คริสต์ นิกายโปแตสแตนท์ และผู้อำนวยการ ปาร์ค อิน-คยุน เป็นผู้ดูแล
ซึ่งบ้านพักเยาวชนแห่งนี้สามารถรับเด็กยากไร้เต็มความจุได้ถึง 3,500 คน นับเป็นค่ายอบรมเยาวชนที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ ณ ช่วงเวลานั้น เด็กๆที่เข้ามาก็จะได้เรียนพระคัมภีร์ ร้องเพลง ได้ฝึกงานในโรงงาน และทำงานการกุศลตามแต่จะส่งไป
เหตุผลที่ทางรัฐบาลเกาหลีใต้จำเป็นต้องมีบ้านพักเยาวชนขนาดใหญ่ ที่ชาวเกาหลีใต้ส่วนใหญ่จะรู้ และพอรับได้ก็คือเกาหลีใต้ กำลังจะจัดงานกีฬาอันยิ่งใหญ่ถึง 2 งานติดกัน นั่นก็คือ เอเชียน เกมส์ ในปี 1986 และตามด้วยการเป็นเจ้าภาพโอลิมปิกครั้งแรกของเกาหลีใต้ในปี 1988 ซึ่งเกาหลีใต้ในช่วงเวลานั้นยังเป็นประเทศที่กำลังพัฒนา เศรษฐกิจกำลังฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว ทำให้คนเกาหลีใต้ตื่นเต้นกันมากที่จะอวดโฉมให้ชาวโลกได้เห็นว่าเมืองโสมขาวเป็นนกฟินิกซ์ที่เกิดใหม่อย่างยิ่งใหญ่จากเถ้าถ่านหลังสงครามอย่างไร
ดังนั้นการที่จะมีเด็กขอทาน คนเร่ร่อน เดินตามท้องถนน ไม่ใช่ภาพที่เจ้าภาพอยากจะอวดนัก จึงมีการ กวาดต้อนเด็กเร่ร่อน ยากไร้ ไปฝากเลี้ยงไว้ที่บ้านเยาวชน Brothers Home ชั่วคราว เพื่อคืนสู่สังคมในฐานะแรงงานในโรงงานอุตสาหกรรมเกาหลีใต้ในยุคสร้างชาติ
แต่ทว่า นั่นก็ไม่ใช่เหตุผลเบื้องหลังเพียงอย่างเดียวของการสร้างค่าย Brothers Home เพราะเมื่อมีการขุดข้อมูลของค่ายเยาวชนนี้ กลับพบว่า มีสัดส่วนเด็กยากไร้จริงๆ ใน Brothers Home เพียงแค่ส่วนน้อยเท่านั้น แล้วส่วนที่เหลือเป็นเด็กจากที่ไหน?
ก็ต้องย้อนกลับไปถึงที่มาของการก้าวขึ้นสู่อำนาจของประธานาธิบดี ชอน ดู-ฮวัน ผู้มีอิทธิพลทางการเมืองเกาหลีใต้เป็นอย่างมากในยุคนั้น และคุมอำนาจในสำนักหน่วยข่าวกรอง ต่อมาได้ตั้งกลุ่ม "ฮานาโฮ" ที่เป็นกลุ่มเพื่อนนักเรียนโรงเรียนนายร้อยรุ่น 11 ร่วมกันยึดอำนาจทางรัฐสภาได้ในปี 1979
และจากการแทรกแซงของฝ่ายกองทัพ และตำรวจทางการเมือง ก็เกิดกระแสต่อต้านในกลุ่มนักศึกษาที่เมืองกวางจูในช่วงเดือนพฤษภาคม 1980 เป็นเหตุให้นายพล ชอน ดู-ฮวัน สั่งการให้ปราบปรามอย่างรุนแรงจนเป็นเหตุให้มีผู้ประท้วงเสียชีวิตถึง 165 คน นับเป็นเหตุการณ์นองเลือดทางการเมืองครั้งใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่งในเกาหลีใต้
และต่อมาในปีเดียวกัน นายพล ชอน ดู-ฮวัน ก็สามารถกระชับอำนาจ ควบคุมคณะกรรมการเลือกตั้ง สั่งยุบพรรคการเมืองทุกพรรค แล้วให้จัดตั้งขึ้นมาใหม่ภายใต้รัฐธรรมนูญใหม่ และลงชิงตำแหน่งผู้นำประเทศ ที่มีแค่เขาเป็นผู้สมัครคนเดียว สุดท้ายก็ก้าวขึ้นมาดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีคนที่ 5 ของเกาหลีใต้ได้ในที่สุด
และ ชอน ดู-ฮวัน ก็สั่งให้สร้างโครงการค่ายปรับทัศนคติซัมชุงขึ้น เพื่อจับนักโทษการเมือง และกลุ่มต่อต้านเข้ามาไว้ในค่ายนี้ ซึ่งบ้านพักเยาวชน Brothers Home ก็ถูกนำมาใช้ในวัตถุประสงค์นี้ด้วยเช่นกัน ที่มีการกวาดต้อนกลุ่มเยาวชนที่ต่อต้านรัฐบาลของชอน ดู-ฮวัน มาขังรวมไว้ในบ้านแห่งนี้
1
และนอกจากจะมีเด็กยากไร้ เยาวชนหัวก้าวหน้า ยังมีเด็กกำพร้า ถูกทอดทิ้งส่งมาพักที่ค่าย Brothers Home ที่บางส่วนจะถูกส่งเข้าโครงการรับเลี้ยงเด็กกำพร้าในต่างประเทศ หรือพูดอีกอย่างคือ ส่งเด็กเกาหลีไปให้ผู้อุปการะในต่างประเทศ ที่ยื่นข้อเสนอขอรับเลี้ยงเด็ก ที่ไม่แน่ชัดว่าจะถูกส่งไปเลี้ยงในฐานะบุตรบุญธรรมเสมอไป
ซึ่งโครงการในส่วนนี้ ทางผู้บริหาร Brothers Home ก็จะได้ค่าใช้จ่ายจากทั้งต่างประเทศ ทั้งภาคเอกชนที่ส่งเด็กป้อนโรงงานอุตสาหกรรมหลายสิบแห่งในเครือ และยังรวมถึงสามารถเบิกงบประมาณสวัสดิการจากภาครัฐ ตามรายหัวเด็กที่รับดูแลอยู่ในค่ายด้วย จึงกลายเป็นผลประโยชน์ก้อนโตที่เข้ากระเป๋าผู้บริหารวงในไม่กี่คน
เมื่อเป็นเช่นนี้ เด็กในค่าย Brothers Home จึงมีค่าเพียงแค่เครื่องปั๊มเงิน หรือกลุ่มคนที่ต้องถูกดัดสันดาน หาใช่มนุษย์ไม่
จากคำบอกเล่าของอดีตเด็กที่เคยเข้าค่าย Brothers Home วันนั้น ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า พวกเขาพบเจอประสบการณ์ทารุณกรรมตั้งแต่วันแรกที่เข้ามา เห็นเด็กหลายคนที่ถูกกลั่นแกล้ง ถูกซ้อมจนตาย การล่วงละเมิดทางเพศเกิดขึ้นบ่อยจนกลายเป็นเรื่องปกติ
อีกทั้งระบบแบ่งชนชั้นในค่ายเด็กยิ่งทำให้สถานการณ์ในค่ายเลวร้ายหนักขึ้นไปอีก เมื่อมีกลุ่มเด็กหัวโจก ทำร้ายร่างกายเด็กที่อ่อนแอกว่า เพื่อต้องการเป็นหัวหน้า หรือคนโปรดของผู้คุมทำให้พวกเขาได้รับสิทธิพิเศษจากการกระทำรุนแรงต่อเพื่อนร่วมค่ายอย่างโหดร้าย
ตลอดระยะเวลาเกือบ 20 ปีที่มี Brothers Home มีเด็กเสียชีวิตในค่ายมากถึง 516 คน และยังมีการขุดพบโครงกระดูกอีกนับร้อยบนภูเขาหลังค่ายเยาวชน ที่เชื่อว่าเป็นศพเด็กที่เสียชีวิต นำมาฝังรวมไว้ที่นี่
1
เมื่อวันเวลาผ่านไปนานหลายปี จึงมีการสืบสวนหาความจริงที่เกิดขึ้นในค่าย Brother Homes และถึงแม้จะมีหลักฐาน และพยานบุคคลจำนวนมาก แต่ผู้ที่เกี่ยวข้อง และผู้บริหารกลับถูกลงโทษเพียงคดียักยอกทรัพย์เท่านั้น
ส่วนอดีตประธานาธิบดี ชอน ดู-ฮวัน ผู้ริเริ่มโครงการ Brothers Home ต่อมาถูกตัดสินประหารชีวิต จากคดีปราบปรามผู้ประท้วงในกวางจู ที่ไม่มีการพูดถึงการเปิดค่ายอบรมเด็ก และยังได้รับการนิรโทษกรรมในเวลาต่อมา ซึ่งอดีตผู้นำกลุ่มเพื่อนทหารรุ่น 11 ฮานาโฮ อันยิ่งใหญ่ก็เพิ่งเสียชีวิตไปเมื่อพฤศจิกายน ปี 2021ด้วยวัย 90 ปี
ทุกวันนี้มีอดีตเด็กที่เคยถูกทารุณกรรมใน Brothers Home ยังคงเรียกร้องความเป็นธรรม และต้องการเห็นผู้ที่เกี่ยวข้องได้รับโทษตามกฏหมายอย่างสาสม
แต่ Brothers Home นั้นกลายเป็นหนึ่งในจุดด่างพร้อยในประวัติศาสตร์ของยุคการพัฒนาเศรษฐกิจของเกาหลีใต้ ที่ไม่มีใครอยากจะพูดถึง หรือรื้อฟื้นอีกแล้ว ความเจ็บปวดของเหยื่อใน Brothers Home จึงถูกทิ้งไว้ข้างหลังอย่างน่าเศร้าเช่นนี้เอง
****************
ติดตามบทความของ "หรรสาระ" เพิ่มเติมได้ที่
Facebook - หรรสาระ By Jeans Aroonrat
และ Blockdit - หรรสาระ By Jeans Aroonrat
แพลทฟอร์มคุณภาพ ไม่ปิดกั้นการมองเห็นเนื้อหา
****************
แหล่งข้อมูล
โฆษณา