1 ก.พ. 2022 เวลา 05:00 • หุ้น & เศรษฐกิจ
❓ Fund Q&A ทุกเรื่องราวการลงทุนที่คุณสงสัย เราพร้อมตอบให้….
🗓 ช่วงต้นปีแบบนี้ เรามักจะได้รับคำถามยอดฮิตจากนักลงทุนว่า ‘กองทุนลดหย่อนภาษีอย่าง LTF ที่ถืออยู่ครบกำหนดแล้ว ควรถือต่อ หรือขายดี?’
กองทุนลดหย่อนภาษีครบกำหนดแล้ว ควรไปต่อหรือพอแค่นี้?
ถ้ายังตัดสินใจไม่ได้ ลองมาฟังคำแนะนำดี ๆ จาก K Wealth GURU
คุณวีรพล ตรีเพ็ชร์
ผู้บริหารงาน ฝ่ายกลยุทธ์ผลิตภัณฑ์การลงทุน บลจ.กสิกรไทย กัน
ก่อนอื่นเรามาทบทวนเกี่ยวกับกองทุน LTF กันสักเล็กน้อย
กองทุน LTF คือ กองทุนรวมหุ้นระยะยาว
โดยผู้ที่ซื้อกองทุน LTF ในปี 2559 เป็นต้นไปจะเข้าเกณฑ์ใหม่ คือ ต้องถือครบ 7 ปีปฏิทิน ซึ่งจะครบกำหนดในปี 2565 นี้พอดี หากจะขายก็ไม่ผิดกฏเกณฑ์ แต่สามารถขายได้เฉพาะหน่วยที่ลงทุนในปี 2559 เท่านั้น
ส่วนหน่วยลงทุนที่ซื้อในปีถัด ๆ มายังไม่ครบกำหนด ก็จะไม่สามารถขายได้ หากไม่แน่ใจว่าหน่วยลงทุนของเราครบกำหนดหรือยัง สามารถเช็คหน่วยลงทุนที่ครบอายุขายคืน บนแอปพลิเคชัน K-My Funds ได้เลย
ส่วนผู้ที่มีกองทุน LTF ที่ครบกำหนดอยู่ในพอร์ตตอนนี้ อาจตั้งคำถามกับตัวเองก่อนว่า ที่ผ่านมาเรามีความพึงพอใจกับผลการดำเนินงานของกองทุนหรือไม่ และในอนาคตเรามีแผนการลงทุนต่อไปอย่างไรบ้าง
เพื่อให้ง่ายต่อการตัดสินใจ โดยสามารถแบ่งออกเป็น 2 ทางเลือก ดังนี้
1️⃣ ถือกองทุน LTF ที่ครบกำหนดต่อไป เพื่อโอกาสเติบโต
สำหรับผู้ที่ยังไม่ต้องการปรับเปลี่ยนแผนการลงทุน และมีความพึงพอใจกับผลการดำเนินงานของกองทุน รวมถึงมองเห็นศักยภาพของหุ้นไทยว่ามีแนวโน้มจะไปต่อได้ดี การถือกองทุน LTF ต่อไปก็ถือเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ
และมีโอกาสสร้างกำไรได้มากกว่าการขายคืน เพราะกองทุน LTF เป็นกองทุนที่เน้นลงทุนในหุ้นไทยระยะยาว มีโอกาสเติบโตต่อไปได้
2️⃣ ต้องการปรับแผนการลงทุนใหม่
ถือเป็นโอกาสที่ดีในการปรับแผนการลงทุนใหม่ เมื่อกองทุน LTF ครบกำหนดก็สามารถขายคืน แล้วนำเงินมาลงทุนต่อในกองทุนลดหย่อนภาษีอย่าง SSF หรือ RMF ได้ เนื่องจากทั้ง 2 กองทุนนี้มีนโยบายการลงทุนที่หลากหลายกว่า
ทั้งหุ้น ตราสารหนี้ ผสม ต่างประเทศ ฯลฯ โดยเราสามารถเลือกลงทุนให้เหมาะกับระดับความเสี่ยง และความสนใจได้ ต่างจาก LTF ที่เป็นหุ้นไทยอย่างเดียว นอกจากนี้ ยังเป็นการช่วยกระจายความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุนได้มากขึ้นอีกด้วย
ซึ่งการเลือกมาลงทุนต่อในกองทุน SSF หรือ RMF ถือเป็นการต่อยอดโอกาสสร้างผลตอบแทนให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง และยังสามารถนำเงินที่ลงทุนไปลดหย่อนภาษีได้ตามเกณฑ์ของสรรพากร และเงื่อนไขทางภาษีของกองทุนในปีนั้นได้อีกด้วย
สุดท้ายนี้ ไม่ว่าจะตัดสินใจอย่างไร อย่าลืมศึกษาข้อมูลของแต่ละกองทุนให้ละเอียดก่อนตัดสินใจลงทุน พิจารณาความเสี่ยงในระดับที่เรารับได้ และวางแผนเป้าหมายการเงินเอาไว้เพื่อความมั่นคงในอนาคต เพื่อให้การลงทุนของเราเกิดประสิทธิภาพสูงสุด
ดูรายละเอียดเกี่ยวกับกองทุนเพิ่มเติม คลิก https://bit.ly/3I224B6
👍 ถ้าชอบคอนเทนต์นี้ อย่าลืมกด Like กด Share และตั้งค่าเพจเป็นรายการโปรดไว้ จะได้ไม่พลาดเรื่องราวดี ๆ เกี่ยวกับการลงทุนและกองทุนที่น่าสนใจ หากมีคำถามสามารถส่งมาในช่อง comment และ inbox เพจไว้ได้เลย
- ผู้ถือหน่วยลงทุนจะไม่ได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษี หากไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขการลงทุน
- ผู้ลงทุนโปรดทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน ความเสี่ยง และคู่มือการลงทุนก่อนตัดสินใจลงทุน
#KAsset #KBankLive
โฆษณา