24 ม.ค. 2022 เวลา 16:06 • กีฬา
#MainStand สุขภาพดีแบบถอยหลัง?​ : ทำความรู้จักการวิ่งถอยหลัง เทรนด์ออกกำลังกายที่น่าจับตามองแห่งปี 2022
อ่านชื่อพาดหัวแล้วหลาย ๆ คนอาจจะชะงักไปด้วยความสงสัย สงสัยว่าเราพิมพ์ผิดหรือสงสัยว่าการออกกำลังกายประเภทนี้กำลังเป็นไวรัลการออกกำลังกายสุดฮาในโลกอินเทอร์เน็ตหรือเปล่า ? แต่เชื่อหรือไม่ว่า "การวิ่งถอยหลัง" กำลังจะกลายมาเป็นอีกเทรนด์ของการออกกำลังกายที่น่าจับตามองประจำปี 2022 จนอาจจะกลายเป็นปรากฏการณ์ที่เปลี่ยนโฉมหน้าวงการวิ่งครั้งใหญ่ในรอบหลายปี
ถึงจะฟังดูแปลกสักแค่ไหน แต่ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่าเทรนด์ออกกำลังกายแบบนี้กำลังอยู่ในช่วง "ขาขึ้น" อย่างแท้จริง สำหรับคนที่ออกกำลังกายอยู่สม่ำเสมอก็อาจจะเคยได้ยินเรื่องของการวิ่งถอยหลังมาบ้าง พร้อมกับรับรู้ประโยชน์เล็ก ๆ น้อย ๆ อย่างการช่วยสร้างสมดุลที่ดี การพัฒนาศักยภาพของกล้ามเนื้อขาแบบรอบด้านมากขึ้น หรือแม้กระทั่งเรื่องของการช่วยให้กล้ามเนื้อที่อักเสบอยู่กลับมาหายดีได้
ไม่ว่าจะเคยได้ยินมาบ้างหรือเพิ่งเคยได้ยินเป็นครั้งแรก Main Stand ขอชวนมาทำความรู้จักเทรนด์การออกกำลังกายประจำปีนี้พร้อมประโยชน์ของการออกกำลังกายแบบ "ถอยหลัง" ไปพร้อม ๆ กัน
ฟื้นฟูแบบถอยหลัง
เราต้องเท้าความกันก่อนสักนิดว่าจริง ๆ แล้ว การวิ่งถอยหลัง ไม่ใช่เทรนด์การออกกำลังกายที่เพิ่งถือกำเนิดขึ้นมาใหม่ในปีที่ผ่านมา ความจริงแล้ว การวิ่งถอยหลัง มีต้นกำเนิดมาตั้งแต่ทศวรรษ 1970s ถึง 1980s และมักเป็นที่รู้จักกันในฐานะวิธีการฟื้นฟูกล้ามเนื้อที่ได้รับการบาดเจ็บประเภทหนึ่งของคุณหมอในประเทศสหรัฐอเมริกา
เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องเกินจริงแต่อย่างใด จากบทความหนึ่งที่ชื่อ Running Backward May Help Athletes Move Forward ที่เคยถูกตีพิมพ์ในวารสารวิชาการที่ชื่อ The Physician and Sportsmedicine ในปี 1986 โดย แครอล มอร์ตัน นักเขียนประจำวารสารวิชาการดังกล่าว พบว่าการวิ่งถอยหลังจะสามารถช่วยลดแรงกระแทกบริเวณหัวเข่าได้มากกว่าการวิ่งไปข้างหน้า
สาเหตุที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะว่า การวิ่งถอยหลังจะเอื้อให้กล้ามเนื้อบริเวณหัวเข่าสามารถยืดหยุ่นได้มากขึ้น ตั้งแต่ตอนที่เท้าสัมผัสกับพื้นไปจนถึงตอนที่เด้งออกในจังหวะสุดท้ายของการดีดขาออกมาแต่ละข้าง เป็นการวิ่งโดยลงนํ้าหนักด้วยส้นเท้าแทน จึงสามารถช่วยลดแรงกระแทกจากปลายเท้าที่จะขึ้นไปถึงหัวเข่าหรือเอ็นจากการวิ่งแบบปกติ
1
เรื่องนี้ได้รับการการันตีจาก "แอรอน โยเดอร์"​ นักวิ่งถอยหลังชาวอเมริกันที่เร็วที่สุดในโลก จากการวิ่งระยะ 1 ไมล์ภายในเวลา 5:30 นาที โยเดอร์ไม่รู้สึกเจ็บบริเวณหัวเขาแม้แต่นิดเดียวเวลาที่เขาเคลื่อนที่ถอยหลัง ปัจจุบันเขารับหน้าที่เป็นโค้ชในทีมกรีฑาของมหาวิทยาลัยเบธานี ในรัฐแคนซัส และมักจะให้ลูกทีมของเขาซ้อมวิ่งถอยหลังอยู่บ่อย ๆ
1
วิธีการวิ่งถอยหลังยังเป็นการฝึกซ้อมที่ได้รับความนิยมจากนักกีฬาอาชีพจำนวนมาก เช่น ในวงการอเมริกันฟุตบอลก็มีการใช้เทคนิคนี้ในท่า High-To-Low Drill เพื่อเป็นการการพัฒนาฟุตเวิร์กสำหรับนักกีฬาอีกด้วย
อาจจะฟังดูโม้ แต่เรื่องประโยชน์ของการวิ่งถอยหลังยังมีให้พูดถึงอีกมาก เชื่อหรือไม่ว่าจริง ๆ แล้วการวิ่งแบบนี้ก็ช่วยเผาผลาญแคลอรี่ได้ดี อีกทั้งยังสามารถช่วยพัฒนาสมดุลของร่างกายได้ด้วย
คืบหน้าแบบถอยหลัง
นอกเหนือจากเรื่องของการฟื้นฟูกล้ามเนื้อและการลดแรงกระแทก การวิ่งถอยหลังยังมีแนวโน้มที่จะช่วยเผาผลาญแคลอรี่ได้มากกว่าการวิ่งแบบปกติ เพราะว่าระยะก้าวของการวิ่งถอยหลังนั้นทำได้น้อยกว่าการวิ่งไปข้างหน้าอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งนั่นหมายความว่าการวิ่งถอยหลังจะเกิดความถี่ในการเคลื่อนไหวมากกว่า อีกทั้งยังต้องอาศัยการทำงานของระบบกล้ามเนื้อขาที่มากขึ้น จึงทำให้เกิดการเผาผลาญแคลอรี่ที่มากขึ้นในที่สุด
1
จากการศึกษาหนึ่งที่ชื่อ The Effect of Backward Locomotion Training on The Body Composition and Cardiorespiratory Fitness of Young Women โดยกลุ่มนักวิจัยจากประเทศแอฟริกาใต้ ที่มุ่งเน้นไปที่การศึกษาการวิ่งถอยหลังของผู้หญิงพบว่า การวิ่งจ๊อกกิ้งถอยหลังเป็นเวลา 15-45 นาที เป็นเวลาสามครั้งต่อสัปดาห์ จะช่วยให้ Body Fat หรือไขมันในร่างกายของผู้ทดลองลดลงได้ คิดเป็นเปอร์เซ็นต์ได้ 2.5 เปอร์เซ็นต์ (จากผลสำรวจของผู้หญิงสุขภาพดี อายุ 18-23 ปี จำนวน 26 คน ในปี 2005)
แม้ว่า การวิ่งถอยหลัง จำเป็นต้องใช้ความพยายามมากกว่าปกติและยังมีความเสี่ยงอันตราย จนอาจก่อให้เกิดการบาดเจ็บอยู่บ้าง เพราะเราไม่สามารถมองเห็นได้ว่ามีอะไรอยู่ข้างหลังหรืออยู่ใต้เท้าเราได้อย่างชัดเจน แต่ในทางหนึ่งการฝึกวิ่งถอยหลังสำหรับบางคนถือเป็นความท้าทายประการหนึ่ง เพราะมันจะเป็นการวิ่งที่ฝืนธรรมชาติตนเอง เป็นการเคลื่อนไหวจากจุดหนึ่งไปยังอีกจุดหนึ่งที่ยากขึ้น และจะช่วยเพิ่มความอดทน (Endurance) ให้กับระบบหัวใจและหลอดเลือดได้
1
จากปัจจัยภายในที่กล่าวมาข้างตน การวิ่งถอยหลังยังมีประโยชน์อื่น ๆ เช่น การช่วยปรับสมดุลการเคลื่อนไหวของร่างกายให้มีความมั่นคง อันจะนำไปสู่การปรับท่าทาง (Posture) ตามธรรมชาติ ทำให้เรายืนตัวตรงมากขึ้นและยังทำให้ท่าขณะวิ่งไปข้างหน้าสมดุลขึ้นกว่าเดิม
1
การวิ่งถอยหลัง จึงนับว่าเป็นอีกทางเลือกสำหรับการออกกำลังกายที่น่าสนใจไม่น้อย เพราะนอกจากจะมีประโยชน์แล้ว การวิ่งถอยหลังยังช่วยให้เราสามารถโฟกัสกับการวิ่งได้มากขึ้น เพราะจิตใจต้องคิดเรื่องการก้าวอย่างระมัดระวังอยู่ตลอด สำคัญที่สุดคือการวิ่งถอยหลังยังสามารถมอบประสบการณ์ที่แปลกใหม่ จากผลสำรวจเมื่อปีที่ผ่านมาพบว่า ผู้คนเริ่มกลับมาให้ความสนใจต่อการออกกำลังกายแบบนี้มากขึ้น จนมันถูกจับตามองให้เป็นเทรนด์การออกกำลังกายประจำปีนี้ไปโดยปริยาย
1
การออกกำลังกายแห่งปี 2022
จากผลสำรวจของ "PureGym" เครือข่ายผู้ให้บริการด้านการออกกำลังกายแห่งสหราชอาณาจักร เมื่อช่วงเดือนพฤศจิกายน ปี 2021 ที่ผ่านมา พบว่า "การวิ่ง" ได้กลายมาเป็นเทรนด์การออกกำลังกายที่คนให้ความสนใจมากขึ้นและเป็นที่น่าสนใจว่า การวิ่งถอยหลัง มีแนวโน้มความสนใจเพิ่มขึ้นมาถึง 50%
แม้ว่าจะไม่ปรากฏสาเหตุว่าทำไมคนถึงนิยมการออกกำลังกายแบบนี้กันมากขึ้น แต่ก็เป็นไปได้หรือไม่ว่าผู้คนเริ่มที่จะมองหาการออกกำลังกายใหม่ ๆ อันเป็นผลมาจาก "ความเบื่อ" ที่ต้องกักตัวอยู่บ้าน เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ซึ่งวิธีการนี้เป็นการออกกำลังกายทางเลือกที่เหมาะสำหรับคนที่อยากลองอะไรใหม่ ๆ เหมือนกับตอนที่เทรนด์การออกกำลังกายแบบ VR เริ่มเข้ามามีบทบาทมากขึ้นในตอนที่เริ่มกักตัว
การวิ่งถอยหลัง อาจจะฟังดูเป็นการออกกำลังกายที่น่าตลก แต่ประโยชน์ที่ได้รับกลับมากลับไม่ตลกอย่างที่คิด ซ้ำยังมีประโยชน์มากกว่าที่เราคิดเสียอีก
เพื่อให้ได้ประโยชน์สูงสุด ใครที่สนใจอยากจะลองวิ่งถอยหลังสามารถทำตามคำแนะนำจากเว็บไซต์ healthline.com นี้ได้ อาจจะเริ่มจากการเดินก่อนก็ได้ แล้วค่อย ๆ วิ่ง เป็นเวลา 10-20 นาทีต่อสัปดาห์ อย่างน้อยก็ถือเป็นการเปลี่ยนบรรยากาศการออกกำลังกายที่ทำให้การวิ่งไม่น่าเบื่ออีกต่อไป
แหล่งอ้างอิง :
โฆษณา