Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
Main Stand
ยืนยันแล้ว
•
ติดตาม
26 ม.ค. 2022 เวลา 04:39 • กีฬา
#MainStand : รวมวาทะสุดเด็ดไม่มีวันตาย ที่ใช้ได้กับชีวิตมนุษย์ทุกคนของ โคบี้ ไบรอันท์
26 มกราคม คือวันที่แฟน ๆ ของ โคบี้ ไบรอันท์ ไม่มีทางลืมเลือน เพราะนี่คือวันที่ยอดนักบาสเกตบอลผู้นี้ได้ลาจากโลกใบนี้ไปแบบไม่มีวันกลับ เนื่องจากประสบอุบัติเหตุระหว่างเดินทางด้วยเฮลิคอปเตอร์ เมื่อช่วงต้นปี 2020 ที่ผ่านมา
แม้จะเป็นเวลา 2 ปีเต็มแล้วที่ โคบี้ จากไป แต่เรื่องราวของเขาก็ไม่เคยหายไปไหน เพราะนักบาสรายนี้ไม่ได้เป็นแค่นักกีฬาที่ยอดเยี่ยม แต่เขาเป็นแรงบันดาลใจให้คนอีกมากมายทั่วโลกในการต่อสู้บนถนนสายชีวิต เพื่อไปสู่ความฝันที่เราตั้งใจไว้
โคบี้ ไบรอันท์ เป็นผู้ที่คอยผลักดันและสนับสนุนคนอื่นอยู่เสมอ ผ่านเรื่องราวของการทำงานหนักและต่อสู้ไปให้ถึงฝัน จนเจ้าตัวมีคำพูดมากมายที่สร้างแรงบันดาลใจและสามารถปรับใช้ได้กับชีวิตของทุกคนบนโลก
1
นี่คือคำพูดเด็ด ๆ ของ โคบี้ ไบรอันท์ ที่ Main Stand เห็นว่าเป็นประโยชน์กับชีวิตของทุกคน และไม่ใช่เรื่องเสียหายแน่นอนที่เราจะนำคำกล่าวเหล่านี้มาใช้กับชีวิตประจำวันของเรา
"ถ้าคุณกลัวที่จะล้มเหลว คุณล้มเหลวแน่นอน"
ชีวิตของ โคบี้ ไบรอันท์ คงไม่มาถึงจุดนี้ถ้าเขาเป็นคนที่กลัวต่อความล้มเหลว เพราะเด็กหนุ่มจากเมืองฟิลาเดลเฟียคนนี้ ถูกดราฟต์เข้าสู่ลีก NBA ตั้งแต่เรียนจบระดับไฮสคูล (มัธยมปลาย) ตอนอายุแค่ 17 ปีเท่านั้น
มีปัจจัยมากมายที่พร้อมจะทำให้ โคบี้ ล้มเหลว หากเขาคิดว่าตัวเองคงจะไปไม่รอดเพราะเป็นเด็ก หรือว่ามัวแต่ลังเลว่าตัวเองพร้อมไหมกับการลงเล่นใน NBA เขาก็คงจะมาไม่ถึงจุดนี้
ความกลัวที่จะล้มเหลว ทำให้เราไม่กล้าออกไปเผชิญความจริง โดยที่เราไม่รู้เลยว่าถ้าเราไม่ได้ทำเราก็ล้มเหลวตั้งแต่แรกแล้ว นั่นคือสิ่งที่ โคบี้ แสดงให้เห็น ว่าเขาคงไม่กลายเป็นหนึ่งในบาสที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ หากเขากลัวที่จะล้มเหลวและไม่กล้าที่จะรับความท้าทายกับการเล่นในลีกอาชีพตั้งแต่อายุยังน้อย
"ความกลัวที่น่ากลัวที่สุด คือการเผชิญหน้ากับตัวเราเอง"
อีกหนึ่งประโยคที่ โคบี้ พูดถึงความหลังของตัวเอง สมัยยังเป็นแค่นักบาสหน้าใหม่ใน NBA เขาเผยว่าเขามีความกลัวอยู่ในจิตใจมากมายในเวลานั้น แต่ไม่มีอะไรยากไปกว่า การเผชิญหน้ากับตัวเอง
สำหรับ โคบี้ ไบรอันท์ การเอาชนะตัวเองได้ก็คือการเอาชนะความกลัวทุกอย่างที่มีอยู่ในใจ เพราะคนที่สร้างความกลัวต่าง ๆ ขึ้นมาในจิตใจนั้นก็คือตัวเราเอง
นอกจากนี้ โคบี้ ยังเชื่อว่า ถ้าเรากำจัดความกลัวทุกอย่างออกไปจากตัวเราได้ นั่นหมายความว่าเราพร้อมเต็มที่แล้วที่จะล่าความฝันของตัวเองให้สำเร็จ
"เรื่องร้าย ๆ ทุกสิ่ง ความกดดัน ความท้าทาย ทั้งหมดคือโอกาสที่ทำให้ผมได้สร้างชื่อ"
ช่วงต้นอาชีพของ โคบี้ ไม่ใช่ช่วงเวลาที่ง่ายดาย แม้ว่าเขาจะประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็ว โดยใช้เวลาไม่กี่ปีในการคว้าแชมป์ NBA สมัยแรก และอีกหลายสมัยตามมา แต่เขาก็ต้องเจอความกดดันเล่นงานอยู่ตลอด
ไม่ว่าจะเป็นความกดดันภายในทีม จากการที่เขาไม่ค่อยเป็นที่ชื่นชอบของรุ่นพี่ภายในทีมลอสแอนเจลิส เลเกอร์ส ที่มองว่าเขาเล่นเห็นแก่ตัวเกินไป ไหนจะการไม่กินเส้นกับลูกพี่ใหญ่ แชคิล โอนีล ซึ่งโคบี้ยอมรับว่า ในช่วงวัยรุ่น ปัญหาของเขากับแชคคือเรื่องที่กวนใจเขามากที่สุด
เพราะไม่ใช่แค่ตัวเขาที่ต้องรับมือกับแรงกดดันจากภายในทีม แต่สื่อก็เอาเรื่องที่ตัวเขาไม่ค่อยลงรอยกับแชคไปเขียนข่าวจนใหญ่โต จนกลายเป็นความกดดันมหาศาลจากแฟนบาสที่ตั้งคำถามเกี่ยวกับตัวเขา ณ เวลานั้นว่า "เด็กคนนี้มันจะแน่สักแค่ไหน ?"
แต่ โคบี้ ไบรอันท์ คือทองแท้ที่ไม่แพ้ไฟ เขาแสดงให้เห็นว่า ความกดดัน ความท้าทายต่าง ๆ ที่ถาโถมเข้ามาหาตัวเขา ช่วยพัฒนาให้เขากลายเป็นนักบาสเกตบอลระดับสุดยอด และได้รับการยอมรับจากทั้งเพื่อนร่วมทีม สื่อ และแฟนบาสเกตบอล
บางครั้งเรื่องร้าย ๆ ที่เข้ามาหาชีวิตของเรา อาจจะเป็นบททดสอบที่ทำให้เราแข็งแกร่งขึ้นและกลายเป็นคนที่ดียิ่งกว่าเดิมได้ เหมือนกับเรื่องราวจริงที่ โคบี้ เคยผ่านมาด้วยตัวเอง
"ผมจำเป็นต้องจัดการทุกสิ่งอย่างที่เข้ามา ดังนั้นผมจึงต้องสร้างตัวตนของ 'Black Mamba' เพื่อให้ผมสามารถจัดการกับทุกปัญหาทุกความท้าทายที่อยู่ในตัวผม ผมจะกลายเป็น Black Mamba และก้าวลงสู่สนาม ทำในสิ่งที่ Black Mamba ต้องทำ นั่นคือทำลายคู่ต่อสู้ทุกคนในสนาม"
สิ่งหนึ่งที่อยู่คู่กับตัว โคบี้ ไบรอันท์ มายาวนานคือ "Mamba Mentality" หรือแนวคิดของคนที่ทำงานหนัก มุ่งมั่น ตั้งใจ เต็มที่ร้อยเปอร์เซ็นต์ ใส่ให้สุดไม่มีท้อถอยเพื่อให้ฝันของตัวเองเป็นจริง
Mamba Mentality เป็นที่ชื่นชอบของนักกีฬาจำนวนมาก เพราะมันจะสามารถช่วยให้พวกเขามีสมาธิกับการทำผลงานให้ดีในสนามแข่งได้มากขึ้น ช่วยลดเรื่องราวกวนจิตใจต่าง ๆ ออกไป และหันมาทุ่มเทร้อยเปอร์เซ็นต์ให้กับงานในฐานะนักกีฬา
แม้ว่าชีวิตคนอีกจำนวนมากจะไม่ใช่นักกีฬา แต่ Mamba Mentality ยังสามารถนำมาประยุกต์ใช้ให้เข้ากับการทำงานในแต่ละรูปแบบได้เสมอ โดยเฉพาะกับคนที่อยากตัดเรื่องราวรบกวนจิตใจระหว่างการทำงาน หรือโปรเจ็กต์ต่าง ๆ ออกไป การลองดึงตัวตนแบบ Black Mamba ของ โคบี้ ไบรอันท์ มาใช้ก็น่าจะช่วยได้มากทีเดียว
"หาช่วงเวลาที่ดีเพื่อมีความสุขกับชีวิต ชีวิตมันสั้นเกินกว่าที่เราจะมานั่งกลุ้มใจและใช้มันอย่างหวาดกลัว คุณต้องเดินหน้า ต้องก้าวต่อไป คุณต้องเดินให้นำหน้ากว่าคนอื่นเสมอด้วยรอยยิ้ม และก้าวไปอย่าได้หยุด"
คำกล่าวข้างต้น โคบี้ ไบรอันท์ พูดกับหนุ่มน้อย ชอน แดเนียล ไว้เมื่อปี 2008 ซึ่งแดเนียลเป็นผู้พิการที่เสียแขนไปจากอุบัติเหตุ ที่ได้รับโอกาสพบกับโคบี้
โคบี้ จึงกล่าวประโยคข้างต้นเพื่อให้แดเนียลมองไปข้างหน้ามากกว่ามาจมอยู่กับอดีต และสร้างความเชื่อมั่นให้กับแดเนียลว่า ตัวของเขาก็ประสบความสำเร็จได้ หากใช้ชีวิตอย่างตั้งใจและมีความสุขไปกับมัน
ประโยคนี้ใช้ได้จริงกับมนุษย์ทุกคน ไม่มีประโยชน์อะไรหากเราจะมานั่งจมอยู่กับความทุกข์ เราควรเดินหนีออกจากมันและหาความสุขให้กับตัวเอง เพื่อใช้เป็นพลังให้กับตัวเราในการเดินหน้าใช้ชีวิตต่อไป
"ถ้าชีวิตคุณพบเรื่องล้มเหลว สิ่งเดียวที่จะทำให้คุณล้มเหลวคือการจมอยู่กับมันโดยไม่เดินหน้าต่อไป นี่คือเหตุผลว่าทำไมสำหรับผมความล้มเหลวไม่เคยเกิดขึ้น เพราะถ้าผมล้มลงในวันนี้ ผมก็จะได้เรียนรู้บางอย่างจากมัน เพื่อกลับไปลองใหม่อีกครั้ง"
โคบี้ ไบรอันท์ มีช่วงเวลาที่ดีมากมายตลอดระยะเวลาที่เขาเป็นนักบาส แต่ไม่ใช่ว่าเขาจะไม่ต้องเจอกับช่วงที่ทำให้ตัวเองเกือบยอมแพ้ เพราะ โคบี้ ต้องสู้อย่างหนักในช่วงท้ายอาชีพของตัวเอง เมื่อเขาอายุที่มากขึ้นและมีอาการบาดเจ็บเข้ามาเล่นงาน
ในฤดูกาล 2014-15 โคบี้ ได้รับบาดเจ็บหนัก จนทำให้เขาต้องพักฟื้นถึง 9 เดือน และด้วยอายุที่ใกล้จะ 40 ปี ไม่ง่ายเลยที่เขาจะกลับมาในตอนนั้น แน่นอนว่าความคิดที่จะเลิกเล่นย่อมมีโผล่เข้ามาในหัวของ โคบี้ อยู่บ้าง
แต่สุดท้ายเขาก็กลับมาอีกครั้ง พร้อมกับกล่าวประโยคข้างต้น เพื่อแสดงให้เห็นว่า เขายอมรับชีวิตในฐานะของคนที่ยอมแพ้ไม่ได้ เขาต้องเดินหน้าต่อไปเพื่อพิสูจน์ตัวเองอีกครั้ง
"ถ้าเราพูดว่า เราคงทำมันไม่สำเร็จ มันก็คงจะไม่มีทางเกิดขึ้น นี่หมายความว่า เราหมดโอกาสที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเอง ผมไม่สามารถยอมรับความล้มเหลว เพราะถ้าผมนั่งอยู่หน้ากระจกแล้วพูดกับตัวเองว่า 'เอ็งมันเป็นคนที่ล้มเหลว' มันคงจะแย่ยิ่งกว่าความตายเสียอีก"
นี่คืออีกหนึ่งประโยคที่ โคบี้ พูดถึงชีวิตของตัวเอง ในช่วงที่ต้องเผชิญกับอาการบาดเจ็บในช่วงท้ายของอาชีพ เขาต้องโดนอุปสรรคมาท้าทายตัวเขาว่า จะไปต่อหรือพอแค่นี้ กับเส้นทางความฝันของตัวเอง
แน่นอนว่า โคบี้ สามารถหาวิธีที่จะทำให้เขาเดินหน้าต่อไปได้ เพราะเขาเป็นคนที่ต้องลองเพื่อที่จะได้รู้ว่าตัวเองจะประสบความสำเร็จหรือว่าล้มเหลว และต่อให้ล้มเหลว เขาก็มองว่ามันเป็นโอกาสที่จะทำให้เขาได้พัฒนาตัวเองให้เป็นคนที่ดีขึ้นกว่าเดิม
แม้ โคบี้ จะจากเราไปแล้ว แต่จากประโยคนี้ก็เห็นได้ชัดเจนว่า การไม่ได้ลองทำสำหรับผู้ชายคนนี้มันเลวร้ายมากแค่ไหน หรือในแง่หนึ่ง โคบี้ ได้ใช้ชีวิตในฐานะนักบาสเกตบอลแบบไม่มีอะไรต้องเสียใจอีกแล้ว
"คุณไม่สามารถหยุดผู้คนที่ต้องการจะหยุดความฝันของคุณได้ แต่คุณสามารถทำให้มันไม่เกิดขึ้นจริงได้ เพราะคุณต้องเป็นคนกำหนดความฝันของคุณ จงตามหาสิ่งที่คุณรักให้เจอ และถ้าคุณพบแล้วก็จงทุ่มเทให้ถึงที่สุด"
โคบี้ กล่าวประโยคนี้หลังจากเขาได้รับเชิญให้ไปพูดในโรงเรียนมัธยมปลายแห่งหนึ่ง และเขาก็ได้ย้อนความหลังให้เด็กรุ่นใหม่ได้ฟังว่า สมัยที่เขาเป็นนักเรียนมีคนมากมายที่บอกให้เขาเลิกเล่นบาส เพราะมองว่าเป็นเรื่องที่เสียเวลาชีวิต
สำหรับ โคบี้ ตัวเขาไม่มีปัญหาที่ใครจะมาพูดขัดขวางความฝันของเขา เพราะทุกอย่างมันขึ้นอยู่กับตัวเขาไม่ได้ขึ้นอยู่กับคำพูดของคนอื่น และ โคบี้ ก็ยอมรับว่า คำพูดที่คอยบอกให้เขาล้มเลิกความฝัน ยิ่งมีแต่จะเป็นพลังให้เขาทุ่มเทและตั้งใจกับมันมากขึ้นกว่าเดิม
"การเดินตามความฝันไม่ใช่การไปถึงเป้าหมาย แต่มันคือการเดินทาง ต่อให้คุณไปไม่ถึงฝัน คุณก็จะได้เห็นว่ามีอะไรเกิดขึ้นบ้างระหว่างทางของคุณ บางทีคุณอาจจะเดินไปไม่ถึงความฝัน แต่อาจไปเจอสิ่งที่ยิ่งใหญ่กว่านั้น"
โคบี้ ไบรอันท์ อำลาวงการบาสเกตบอลอาชีพไปอย่างยิ่งใหญ่ในปี 2016 ก่อนที่ในปี 2017 ทีมลอสแอนเจลิส เลเกอร์ส จะจัดงานรีไทร์ของยอดนักบาสคนนี้อย่างสมเกียรติ
มีประโยคมากมายที่ โคบี้ พูดในงานวันนั้น แต่ไม่มีประโยคไหนที่จะคมคายและเหมาะกับชีวิตของมนุษย์ทุกคนมากไปกว่าประโยคนี้
เพราะการตามล่าฝันคือการเดินทาง แค่คุณเริ่มก้าวเดิน คุณก็จะได้พบกับสิ่งต่าง ๆ มากมาย ทั้งเรื่องดีและเรื่องร้ายที่จะกลายเป็นประสบการณ์ชีวิตที่ดีให้กับเรา และบางครั้งในเส้นทางการเดินตามฝันอาจจะพาคุณไปเจอกับสิ่งที่ยิ่งใหญ่กว่าความฝันที่คุณเคยคาดคิด
"ผมอยากทำทุกสิ่งให้มั่นใจว่า ลูก ๆ ของผมจะเติบโตมาในโลกที่ดีกว่าโลกที่พวกเราเผชิญอยู่ในปัจจุบัน"
นอกจากจะเป็นนักบาสผู้ยิ่งใหญ่แล้ว โคบี้ ไบรอันท์ ยังเป็นต้นแบบในฐานะคุณพ่อที่ดีในการเลี้ยงดูลูกสาวทั้ง 4 คน ไม่ว่าจะเป็น นาตาเลีย, จิอันน่า (ผู้ล่วงลับ), บิอันก้า และ คาพรี ได้เป็นอย่างดี สำหรับ โคบี้ หากจะมีสิ่งไหนที่สำคัญกว่าบาสเกตบอลก็คงจะเป็นลูก ๆ ทั้ง 4 คนของเขา
โคบี้ ทุ่มเททุกเวลาว่างให้กับลูก และสนับสนุนทุกอย่างที่พวกเธออยากจะทำ ซึ่งรวมถึงการเป็นโค้ชทีมบาสเกตบอลในระดับโรงเรียนของ จิอันน่า และยังช่วยพัฒนาอุปกรณ์อำนวยความสะดวกต่าง ๆ ให้กับโรงเรียนของเธออีกด้วย
สิ่งที่ โคบี้ แสดงให้เห็นคือการเป็นพ่อที่ดีอย่างแท้จริง พ่อที่ไม่คิดจะบังคับลูกให้เดินไปในเส้นทางที่ตัวเองอยากให้เป็น แต่สนับสนุนพวกเขา และพยายามทำทุกอย่างเพื่อให้พวกเขาได้อยู่ในโลกที่ดีกว่าและมีชีวิตที่ดีกว่าเดิมในอนาคต
12 บันทึก
11
7
12
11
7
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย