🔥BREAKING !!🔥 : ด่วน ! จับตาตลาดหุ้นโลก ! ล่าสุดนักวิเคราะห์หลายคนมองหุ้นจีนอยู่ในตลาดหมีเต็มตัวแล้ว ? ขณะที่เงินหยวนอ่อนตัวลง -0.7% ต่ำสุดในรอบ 7 เดือน และ Tesla โดนเทขาย -7% ในคืนนี้ !! ตลาดจะเป็นยังไงต่อกันแน่ ?
📌 ล่าสุดนักวิเคราะห์หลายคนกล่าวว่าดัชนีหุ้นหลักของจีนอย่าง CSI 300 ได้แสดงแนวโน้มของตลาดหมีเต็มตัวแล้ว ? ขณะที่เงินหยวนร่วงลง 0.7% ต่ำสุดในรอบ 7 เดือน และคืนนี้หุ้นดังอย่าง Tesla ร่วง -7% ในคืนเดียว !! โดยปัจจุบันอยู่ที่เกือบ 850 ดอลลาร์ แม้บริษัทจะประกาศผลกำไรออกมาโตเกินคาดในไตรมาสที่ 4 และคิดเป็นการร่วงลงจาก All Time High แล้วประมาณ 30%
เหตุการณ์ทั้งหมดนี้ เกิดขึ้นหลังจากที่ FED และ Powell ประกาศผลการประชุมออกมาว่าพร้อมจะขึ้นดอกเบี้ยและทำ QT เร็วขึ้นหากจำเป็น และไม่ได้ปฏิเสธว่ามีความเป็นได้ที่จะขึ้นดอกเบี้ยทุกครั้งในการประชุมต่อจากนี้ ! และนั่นทำให้นักลงทุนเกิดความกังวลใจอย่างต่อเนื่อง
หุ้น Tesla
อย่างไรก็ตาม หุ้นเทคระดับ Top ตัวอื่น ๆ ของสหรัฐฯ ยังคงปรับตัวสูงขึ้นอยู่ในโซนสีเขียวในคืนนี้
1. Apple +1.76%
2. Microsoft +2.53%
3. Alphabet +1.68%
ทั้งนี้ ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าตลาดการเงินของจีนได้รับผลกระทบจากนโยบายของ FED เช่นกัน ซึ่งทำให้หุ้นจีนปรับตัวลดลงปิดตัวที่โซนสีแดงในวันนี้ ขระที่หุ้นเอเชียติดลบยกแผงเช่นกัน !
📌 ดัชนี CSI 300 ปิดตัวร่วงลง -2% ทำให้ร่วงลงจากจุดสูงสุดในเดือนกุมภาพันธ์ 2021 มาแล้วมากกว่า 20% ซึ่งแม้ว่าการลดลงนี้จะทำให้นักลงทุนหลายคนมองว่าหุ้นจีนมีระดับราคาค่อนข้างถูก และเริ่มเข้าไปสะสม แต่ขณะเดียวกันก็มีนักวิเคราะห์หลายคนมองว่าหุ้นจีนได้เข้าสู่ตลาดหมีเต็มตัวแล้ว ! โดยอ้างอิงจากสัญญาณทางเทคนิค
ทางฝั่งนักลงทุนหลายคน มองว่าการผ่อนคลายนโยบายของ PBOC จะช่วยเป็นแรงหนุนให้แก่เศรษฐกิจและตลาดหุ้นของจีนในปีนี้ แต่ขณะเดียวกันก็คงต้องจับตาดูความเคลื่อนไหวของ FED ควบคู่กันไป เพราะจะส่งผลต่อจีนอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ส่วนทางฝั่งนักวิเคราะห์มองว่าหุ้นจีนยังคงมีแรงกดดันอยู่ และอาจโดนเทขายได้อย่างต่อเนื่องในระยะสั้นนี้ โดยเฉพาะช่วงที่ตลาดจีนปิดทำการในวันตรุษจีน ทำให้ Trader รีบปิด Position เพื่อหลีกเลี่ยงความไม่แน่นอนต่าง ๆ
สัญญาณตลาดหมี ในการวิเคราะห์ดัชนีหุ้นจีนทางเทคนิค
อย่างไรก็ตาม หากมองในแง่ของความเป็นจริงนั้น การร่วงลงของเงินหยวนในครั้งนี้ไม่ได้รุนแรงอย่างที่คิด เพราะการร่วงลงต่ำสุดในรอบ 7 เดือนนั้น เกิดขึ้นหลังจากที่เงินหยวนค่อย ๆ แข็งค่าทีละนิดตลอดเวลาที่ผ่านมา และคิดเป็นการร่วงลงเพียง -0.7% เท่านั้น
แต่ดูเหมือนว่าตลาดหุ้นจะได้รับผลกระทบมา เพราะจากข้อมูลพบว่านักลงทุนต่างชาติมีการเทขายหุ้นจีนบนแผนดินใหญ่เป็นมูลค่าสุทธิที่ 2.3 พันล้านดอลลาร์ในวันนี้ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนกรกฏาคม 2020
📌 ดัชนีหุ้น Tech ของบริษัทจีนที่จดทะเบียนในตลาดฮ่องกงก็ร่วงลงเช่นกัน โดย Hang Seng Tech ปิดตลาด -3.8% วันนี้ ขณะที่ Hang Seng China Enterprises ปิดตลาด -2.6%
ตอนนี้กลุ่ม Bank ใน Wall Street เริ่มปรับมุมมองต่อหุ้นจีนเป็นบวกมากขึ้นเรื่อย ๆ ในขณะที่ปรับมุมมองหุ้นสหรัฐฯ ลงเนื่องจาก FED เตรียมกระชับนโยบาย และยังมีความไม่ชัดเจนเรื่องการเร่งความเร็วของนโยบายอีก
ทางจีนตอนนี้มีเป้าหมายสำคัญกว่าตลาดหุ้น คือการรักษาเสถียรภาพของเงินหยวน เพื่อที่จะเตรียมเปิดตัว Digital Yuan ในช่วงโอลิมปิกฤดูหนาววันที่ 4 กุมภาพันธ์นี้ !! (ใกล้จะถึงมาแล้วนะครับ นักลงทุนไม่ควรพลาดสายตา)
📌 นอกจากนี้ รายงานกล่าวว่า "สื่อจำนวนหนึ่งที่รัฐบาลจีนหนุนหลัง" ได้ออกมากล่าวให้นักลงทุนอย่ากังวล โดยบอกใบ้ในทำนองที่ว่าตลาดหุ้นของจีนกำลังจะฟื้นตัวเนื่องจาก PBOC กำลังจะผ่อนคลายนโยบาย (นักลงทุนควรใช้วิจารณญาณตรงนี้ เพราะ Bloomberg ไม่ได้เปิดเผยชื่อแหล่งข่าว)
ในขณะเดียวกัน รายงานอีกว่ามีบริษัทกองทุนขนาดใหญ่ของจีนจำนวนหนึ่งที่เริ่มประกาศแผนซื้อหุ้น รวมถึงการ Buyback Stock
Marvin Chen นักยุทธศาสตร์ของ Bloomberg Intelligence ให้ความเห็นในประเด็นนี้เอาไว้ว่า
“แม้ว่าหุ้น A-Shares ในประเทศจีนจะทรงตัวได้ดีกว่าหุ้นอื่น ๆ แต่นักลงทุนก็อาจเทขายหุ้นออกก่อนวันหยุดยาวซึ่งเป็นวันตรุษจีน เนื่องจากความไม่แน่นอนของ FED เราคาดว่าสถานการณ์จะทรงตัวหลังวันตรุษจีนเนื่องจากสภาพคล่องดีขึ้น”
(Even though domestic A-shares are holding up relatively better than others, investors may be offloading them before the long Chinese New Year holiday taking cues from the Fed-driven volatility, We expected the situation to stabilize after the holidays as liquidity conditions improve.)
ครั้งสุดท้ายที่ดัชนี CSI แสดงสัญญาณของตลาดหมีในทางเทคนิค ก็คือในปี 2018 ที่เริ่มมีสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ-จีน ซึ่งส่งผลกระทบต่อหุ้นหีนอย่างมากในระยะเวลาสั้น ๆ
สำหรับปี 2022 นี้ ธนาคารกลางของจีน (PBOC) ได้ส่งสัญญาณที่ชัดเจนแล้วว่าจะให้การสนับสนุนทางด้านสภาพคล่องแก่เศรษฐกิจ ขณะเดียวกันก็จะเริ่มจัดการปัญหาหนี้เสียในระบบอย่างรวดเร็ว ทำให้นักวิเคราะห์หลายคนมองว่าจะมีการปรับลดดอกเบี้ยและอัตราส่วนความต้องการทุนสำรองของธนาคาร (Reserved Requirement Ratio : RRR) เพิ่มเติมอีกประมาณ 1-3 ในปีนี้
📌 ทั้งนี้ ความเคลื่อนไหวของจีนถือเป็น Movement ที่สวนทางกับสหรัฐฯ แบบ 180 องศา ! ดังนั้นเราคงต้องมาจับตามองกันต่อไปว่าสัญญาณทางเทคนิคในครั้งนี้จะมาช้าไปหรือเปล่า
มีอยู่ 2 อย่างคือ ถ้าพุ่งก็น่าจะพุ่งตลอดทั้งปี แต่ถ้าร่วงลงอีก เราคงเรียกได้ว่าหุ้นจีนเกิดวิกฤตอย่างแท้จริง ! และนักลงทุนไม่ต้องกลัวว่าจะพลาดข่าวสารสำคัญเรื่องนี้ไป เพราะ World Maker จะความเคลื่อนไหวมาอัปเดตให้ทราบตลอดทั้งปีนี้อย่างแน่นอนครับ
ทันโลก ทันเหตุการณ์ ทันข่าวสาร อย่างแท้จริงไปกับ World Maker
🙏 ขอบคุณทุกท่าน 🙏 ที่ติดตาม World Maker ฝากกด Like และ Share เพื่อเป็นกำลังใจและให้นักลงทุนท่านอื่นได้รับข้อมูลที่มีประโยชน์เหล่านี้ด้วยนะครับ ขอบคุณครับ 😊
References :
- 5
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
