1 ก.พ. 2022 เวลา 01:30 • ปรัชญา
นิทานปรัมปราของชายตาบอด
เรื่อง ชีวิตในกระดาษ
กาลครั้งหนึ่งไม่นานนัก
มีชายวัยกลางคนคนหนึ่ง
เขามีชีวิตที่ไม่ย่ำแย่
และก็ไม่ได้ดีนัก
ประมาณว่าก้ำๆ กึ่งๆ ระหว่างดีกับไม่ดี
แต่สิ่งที่ทำให้เขารู้สึกหนักใจคือ
เมื่อเขามองไปยังพี่น้องและครอบครัว
เขาเห็นภาพอนาคตอันลำบากยากแค้น
ทั้งความฝันมากมายที่เขาอยากทำนั้นเล่า
เขาไม่ได้ลงมือทำสักอย่าง
ไม่ว่าจะอยากเล่นเปียโน
อยากเรียนอยากพูดภาษาต่างประเทศได้
อยากเขียนหนังสือ
อยากทำยูทูป
อยากหาเงินเยอะๆ
แต่วันๆ ที่เขาได้ทำในตอนนี้
คือการที่นั่งทำงานไปวันๆ
และใช้เวลาหมดไปกับการเล่นมือถือ
หรือการทำอะไรยิบๆ ย่อยๆ
อ่านหนังสือออฟไลน์บ้าง ออนไลน์บ้าง
หนังสือพัฒนาตนเองที่มีท่วมบ้าน
หนังสือธุรกิจที่มีท่วมหัว
และหนี้สินที่ยังคงมีท่วมตัว
ต้องทำงานมาจ่ายตัง
เขาไม่รู้สึกว่าชีวิตของเขานั้นจะสามารถไปทางไหนได้เลย
เขามองเห็นแต่ว่า
เขาคงจะทำงานไปเรื่อยๆ
จนแก่แล้วตกงาน
ไม่มีงานทำ แล้วอยู่อย่างอดๆ อยากๆ จนตาย
อย่าว่าแต่ญาติพี่น้องเลย
ตัวเองยังจะเอาตัวเองรอดหรือเปล่าไม่รู้
เขาก็ได้แต่คิดและเป็นกังวล
แถมก็ไม่รู้ว่าจะทำเช่นไร
พอมองดูเพื่อนๆ ก็ดูก้าวหน้า
มั่งคั่ง เจริญเติบใหญ่
เพื่อนบางคนก็พ่อแม่เสีย
แล้วก็ดำเนินชีวิตต่อไปไม่ต่างกับเขา
เดี๋ยวก็ดีเอง เดี๋ยวก็มีหนทางเอง
ความเชื่อเพ้อฝันที่เขาเคยฟัง
เคยได้ยิน ก็ยิ่งจะดูเหมือนเรื่องหลอกเด็กไปทุกที
เขาทุกข์ใจมาก นั่งคิด นอนก็คิด
ทำงานก็คิด ไม่รู้จะทำอะไรกับชีวิตดี
วันหนึ่ง เขาได้พบกับเทพอายีรักก้า เทพแห่งปัญญา
ด้วยความที่เขาไม่ค่อยมีใครจะมาฟังเขาบ่น
เขาจริงไปบ่นกับท่านเทพแทน
"ข้าก็รู้สึกกับชีวิตของข้าเช่นนี้แหล่ะ
ข้าไม่รู้จะทำเช่นไรดี"
"เจ้าอ่านพวกหนังสือพัฒนาตนเองมามากมาย
เจ้าก็น่าจะรู้ว่าต้องทำอย่างไรไม่ใช่หรือ"
"มันเยอะ จนข้าไม่รู้จะเอาอย่างไร
ข้ามีหลายสิ่งที่อยากทำเหลือเกิน
แต่ข้าก็ยังรู้สึกว่าตัวเองไร้ค่า
ใช้เวลาไม่ค่อยจะคุ้มอยู่ดี"
"เอาอย่างนี้แล้วกัน ข้าขอแนะนำเจ้า"
พูดแล้วเทพอายีรักก้าก็หยิบสมุดกับปากกายื่นให้เขา
"เจ้าลองเขียนทุกสิ่งที่เจ้าอยากจะทำ แล้วแบ่งเวลาในแต่ละวันออกมาดู
นั่นสิ เอาสัก อย่างละ ครึ่ง ช.ม. ก็พอ
เจ้าคิดว่าเจ้าเขียนได้ไหม
ให้มันเป็นเหมือนตารางเรียนหนังสือของเจ้า
เป็นตารางที่เจ้าจะต้องทำแล้วปฏิบัติตามเอง
เอ้าลองทำดูนะ"
ชายหนุ่มหยิบสมุดมาจด มาเขียน
เวลาในแต่ละวัน สิ่งที่อยากทำ
และสิ่งจำเป็นต้องทำ
หลังจากนั้นเรื่องราวจะเป็นอย่างไรต่อไป
ตอนนี้ ก็ยังไม่มีใครรู้เลย
.
.
.
ผมเชื่อว่าหลายๆ คนมีความฝัน
มีสิ่งอยากทำ มีความตั้งใจ
แต่สุดท้าย ก็ไม่ได้ทำ เพราะรู้สึกว่าตนเองนั้น
"ไม่มีเวลา"
แม้บางครั้งจะมีเวลาไปเที่ยว
สั่งของกินมาส่ง
เล่นเกม
หรือดูหนัง ซีรียส์มากมาย
แต่กลับไม่ได้ทำสิ่งที่อยากทำ (แต่ไอ้หนังๆ นั่นก็อยากดูแหล่ะ)
บางครั้ง การที่เราไม่ได้ทำอะไรเพราะว่า...
มันไม่เห็นเด่นชัด
ลองคิดง่ายๆ ว่า เราอยากทำนั่นนี่
แต่ไม่ได้เขียนอะไรออกมา
ไม่มีหลักฐานอะไรขึ้นมาเป็นชิ้นเป็นอัน
หรือกระทั่งการซื้อรองเท้าวิ่งแล้วปล่อยทิ้งไว้ในบ้าน
เก็บไว้ในหลือบที่มองไม่เห็น
ก็ย่อมจะทำให้เราลืมเลือนแล้วไม่ได้ลงมือทำสิ่งใด
ใจนึงก็ขี้เกียจ
แต่ใจหนึ่งก็มาโทษตัวเอง สมเพชว่า
ทำอะไรไม่ตั้งใจ ไม่ได้เรื่อง
ทั้งๆ ที่ ยังไม่ทันเริ่มทำอะไรแท้ๆ
การเขียนตารางหรือกำหนดการนั้น
เป็นการทำให้เรามีขอบเขตชัดเจนถึงสิ่งที่จะต้องทำ
และควรจะเริ่มลงมือทำตามสิ่งที่เราเขียนไว้นั้น
แม้มันจะนิดหน่อย ไม่มากไม่น้อย
มันก็จะเริ่มทำจากวันแรก
สู่วันที่สอง ไปวันที่สามถัดๆ มา
และเมื่อเราเริ่มทำผ่านวันแรกได้แล้ว
เราจะรู้สึกถึงความสำเร็จมาบ้าง
อะไรที่มันเกิดขึ้นกับตัวเอง
การเปลี่ยนแปลงในความภาคภูมิใจเล็กๆ
หรือวินัยที่เพิ่มขึ้น
มันจะช่วยส่งเสริมให้เราเป็นคนลงมือทำ
และชื่นชมตนเองมากขึ้น
ทำให้เรามีพลังและความสดใสในการใช้ชีวิตต่อไป
เชื่อไม่เชื่อ ก็ลองเขียนกำหนดการ
และวางเวลาในสิ่งที่อยากทำเลยครับ
เพราะตอนนี้ ผมก็ทำมันอยู่นะ
Martin Zen
#นิทานสอนผู้ใหญ่
#นิทานปรัมปราของชายตาบอด
#นิทานสอนใจ
#วินัย
#กำลังใจ
โฆษณา