1 ก.พ. 2022 เวลา 08:43 • ท่องเที่ยว
บันทึกการเดินทางของผู้หญิงที่หลงใหลการเที่ยวคนเดียว EP 1 : จุดเริ่มต้น
สำหรับเรา เรามองว่าการเที่ยวคนเดียว คือ "เรื่องปกติ" ไม่ใช่ความสามารถดาดเดื่อนอะไร แต่ที่มันดูพิเศษเพราะคนส่วนใหญ่ทำให้มันกลายเป็นเรื่องเจ๋ง ซึ่งมันก็ไม่ใช่เรื่องผิดอะไร ก็ต้องยอมรับบางคนเขาก็สามารถไปด้วยตัวเองได้ แต่บางคนก็อาจจะไม่กล้า หรือติดปัญหาเรื่องอื่น
คนที่เที่ยวคนเดียวมักจะถูกตั้งสมมติฐานการเที่ยวคนเดียวว่า "ถูกเท" หรือไม่ก็ "อกหัก" แต่จริง ๆ มันมีหลายเหตุผลนะ นัดไม่ลงตัว เพื่อนไม่ว่าง รำคาญถามอะไรก็ยึกยักๆ ขี้เกียจรอ แต่สำหรับเราคือ "เบื่อหน่าย" เราอะเบื่อสังคมรอบๆ ข้างตัว อยากจะเอาตัวออกไปบ้าง ตอนนั้นเป็นสังคมการทำงาน มันลาออกไม่ได้เนอะ ก็เลยอาศัยออกไปอยู่คนเดียวเงียบๆ เป็นช่วงๆ แทน ซึ่งเราก็ไม่อยากมัวรอเพื่อนว่าง ก็เลย "เอาวะ ลองไปคนเดียวในไทยก่อน ชอบไม่ชอบค่อยว่ากัน"
อยุธยา เมื่อหลายปีที่แล้ว
ทริปแรกไปบางกระเจ้าแล้วต่อด้วยอยุธยาด้วยกล้องเก่าๆ ไร้ฝีมือการถ่ายภาพสุด ๆ เอาแบบว่าแค่มีรูปไว้อัปลงให้แม่เห็นว่ายังอยู่ดีพอ... แม่มองว่าการเที่ยวคนเดียวเป็นเรื่องบ้า พอบอกว่าใครๆ ก็ทำ แม่ก็จะบอกว่า ผู้ชายนะซิ เราก็เลย "แอบไป" แล้วค่อยบอก ฮ่าๆๆ นิสัยไม่ดีแหละอย่าทำตามนะ แต่เพราะทั้งสองที่เป็นการเที่ยวแบบวันเดย์ทริปแม่เลยไม่ว่าอะไร ....
สำหรับทริปบางกระเจ้าเราขอข้ามไปนะ เพราะเราไม่ค่อยได้อะไรจากบางกระเจ้า ไม่ใช่ไม่ดีหรือไม่มีอะไรให้เที่ยวนะ แต่แบบว่าจีพีเอสมันพาปั่นจักรยานวน หลง งงไปหมด แล้วก็เป็นครั้งแรกในการไปไหนคนเดียว อย่างเหวอ แถมไม่กล้าถามทางใครอีก วันต่อมาเราเลยแก้ตัวใหม่ด้วยการไปอยุธยา ซึ่งในการเดินทางครั้งนั้นมันทำให้เราตกหลุมรักการนั่งรถไฟ สำหรับเรามันมีเสน่ห์มาก ๆ คือแบบมันชิล มันได้มองเห็นวิวสองข้างทาง ได้เจอผู้คนใหม่ ๆ เป็นการนั่งรถไฟครั้งแรกด้วย จะยกกระจกขึ้นก็ยกไม่เป็น อาสายกให้คุณยายฝั่งตรงข้ามแต่ยกไม่ได้ สุดท้ายคุณยายนั่นแหละที่บอกไม่เป็นไรๆ แล้วคุณยายก็ยกพรวดเดียว กระจกขึ้นมากลางหน้าต่างเลย แต่ปัจจุบันนี้ยกหน้าต่างรถไฟได้แล้วนะ
การเที่ยวอยุธยาในครั้งนั้นก็เน้นนั่งวินไปง่าย ๆ ไปวัดที่มีบริเวณใกล้ๆ กัน คือนั่งวินมอไซค์ไปแล้วก็เดินต่อไปเรื่อยๆ ส่วนภาพก็ตามที่เห็น ฝีมือตอนนั้นอย่างขำ กลับไปดูที่ไรก็ถามตัวเองว่า "จะใส่เครดิตภาพใหญ่ไปไหน" แล้วภาพก็ไม่ได้สวยเวอร์วังพอที่จะมีใครเขาอยากจะก็อปภาพไปซะหน่อย ก็นั่นแหละชมพู่ในวัยนั้น ส่วนปัจจุบันนี้ฝีมือถ่ายภาพเป็นไง คงต้องอ่านไปเรื่อย ๆ เพื่อให้เห็นภาพถ่ายตั้งแต่วัย 22 จนถึงปัจจุบันน่ะนะ
ขยับจากการเที่ยวแบบวันเดย์ทริปเป็นเริ่มค้างคืน โดยทริปที่สามนี้เลือกเป็นเกาะล้าน และยังคงไปก่อนค่อยแม่อยู่ ก็เราพยายามพูดกับแม่ดีๆ แล้ว เอาคลิปมินท์ โรม อโลนให้ดู แม่ก็ว่า บ้านเขารวยแล้วเขาก็เก่ง ตอนนั้นเราก็นอยน์นะ แบบว่า "เอ้าแล้วเรามันกระจอกงอกง่อยขนาดนั้นเลยหรอ" เราก็ทำงานไปเรียนไปในตอนนั้น เราก็ได้เงินเดือนอยู่นะ เราก็ไม่ได้บอกจะเอาเงินแม่เที่ยวนะ ไม่ว่าจะพูดยังไงแม่ก็เอาแต่บอกว่า "เป็นบ้าไปแล้วหรอ" เอ้านั้น กลายเป็นคนบ้าเฉยเลย.... ตอนนั้นไม่เข้าใจหรอก ตอนนี้มีลูกโตแล้วถึงเข้าใจ ว่านั่นนะคือความเป็นห่วง แค่ออกจากบ้านคนเป็นแม่ก็ห่วงแล้ว เพราะฉะนั้นหากมีวัยรุ่นมาอ่าน แล้วเจอปัญหานี่ ไม่ต้องตีโพยตีพายใส่พ่อแม่ ใจเย็นๆ แล้วลองหาทางพูดกับท่านดู แต่ถ้าไม่ได้ผลจริงๆ จะไปก่อนแล้วค่อยบอกก็ได้ แต่ต้องไปรอดนะ ไม่รอดเขาจะทุบซ้ำเอา
เกาะล้าน ชลบุรี
ทริปเกาะล้านก็เป็นการเดินทางที่ง่าย ๆ ตอนนั้นไปขึ้นรถตู้ที่อนุสาวรีย์ ซึ่งเขาก็ไปจอดใกล้ๆ ท่าเรือแหลมบาลีฮาย เรือมีเป็นรอบ ๆ ราคาตั๋วตอนนั้นก็ไม่เกินร้อย แต่ตอนนี้ไม่แน่ใจว่าราคาเท่าไรแล้ว พอไปถึงบนเกาะก็เที่ยวง่าย มีทั้งวินมอไซค์ และรถสองแถว จะเช่ามอไซค์แว๊นเองก็ได้ แต่เส้นทางบางจุดค่อนข้างลาดชันก็อาจจะต้องระมัดระวันเป็นพิเศษ แต่สำหรับเราโบกวินนี่แหละสบายสุด เราพักเป็นที่ บ้านริมน้ำเกาะล้าน บังเอิญไปชอบบ้านพักโซนที่มีดาดฟ้า เลยจองที่นี่แต่วันที่ไปจริงๆ ไอ้ที่คิดว่าตกเย็นจะซื้ออาหารไปนั่งชิลบนดาดฟ้านั้นก็ไม่ได้ทำ เพราะว่าฝนตกค่ะ ก็เลยกินในห้องดูทีวีแทน หาดที่นี่ค่อนข้างสวยอยู่แต่ว่าบางจุดมีขยะ แล้วก็เศษแก้ว ถ้าชอบลงเล่นน้ำก็อาจถูกใจ แต่เราตั้งใจมาฝึกมือการถ่ายรูป คนบานตะไท ทุกรูปติดฝูงชนหมด =..=
อ่อ ตอนไปอยุธยาบอกแม่ก่อนขึ้นรถไฟ ส่วนครั้งนี้แชทเฟซบอกแม่ก่อนขึ้นเรือ แล้วก็บอกว่าช่วงเรือแล่นมันจะไม่มีสัญญาณ คือถ้าแม่จะดุคือต้องรอมันมีสัญญาณอ่ะ และก็ภาวนาว่าระหว่างรอสัญญาณอารมณ์แม่มันจะไม่พุ่งสูง ซึ่งผิดคาด ไม่ต้องรอสัญญาณหายแม่ตอบกลับมาว่า "ก็ไปแล้วทำไรได้ แต่ไม่ชอบหรอกนะวิธีนี้" แม่ไม่ด่าโว้ยยยย ตอนนั้นคือเหมือนยกเทือกเขาหิมาลัยออกจากอกเลย ซึ่งหลังจากนั้นแม่ก็ให้เราไปเที่ยวคนเดียวได้ไม่ห้ามแต่ก็จะปรามเป็นบางทริป เช่นตอนจะไปปากีสถานคนเดียว เดี๋ยวค่อยมาลงรายละเอียดที่หลังนะ เนื้อหายังอีกไกล
กลับมาที่เกาะล้าน ด้วยสไตล์ที่อยากจะไปฝึกปรือการถ่ายภาพ เพราะนอกจากจะหลงใหลการเดินทางคนเดียวแล้ว ยังรู้สึกหลงรักการถ่ายภาพด้วย เราจึงตะเวนไปหลายหาดมาก ๆ เพื่อเก็บภาพมา แล้วก็เป็นคนไม่ค่อยเน้นกินเท่าไร ก็มันคืออาหารไทยที่คุ้นปากนะ แต่ถ้าไปต่างประเทศก็กินตัวแตกอยู่ นี่เป็นบันทึกแบบรวบยอดสามทริปแรกก่อน มันดูมีแก่นสารอะไรบ้างไหม ฮ่าๆๆ ไม่ได้มาแนะนะวิธีเดินทางเท่าไร เพราะคิดว่าเดี๋ยวนี้มีรีวิวเที่ยวแทบทุกทีเลย ส่วนสำหรับการเริ่มต้นวางแผนเที่ยวเตรียมตัวยังไง มีคลิปนะสามารถรับชมได้ที่วิดีโอด้านล่าง แต่ Topic ในคลิปส่วนใหญ่จะมุ่งไปทางทริปต่างประเทศนะ
ส่วนถ้าใครอยากอ่านอะไรเพลินๆ หรือกำลังคิดจะเดินทางคนเดียวอยู่แต่ยังกังวล บทความเราอาจจะสะกิดใจคุณบ้างก็ได้ (มั้ง) เดี๋ยวมาต่อ EP2 ตอนค่ำ ๆ นะ ยังไงก็สามารถกดแสดงความรู้สึกหรือแสดงความคิดเห็น หรือกดติดตามกันได้น้าาา
โฆษณา