5 ก.พ. 2022 เวลา 04:30 • ภาพยนตร์ & ซีรีส์
ถ่ายคลิปอำลา - ผูกข้อมือกันและกัน : จากเรืออับปางเซวอลสู่มัธยมซอมบี้ฮโยซานใน All of Us Are Dead
** Trigger Warning : โศกนาฏกรรม / การเสียชีวิต **
*** คำเตือน : มีการเปิดเผยถึงเนื้อหาสำคัญซีรีส์เรื่อง All of Us Are Dead ***
..
..
.
.
ในขณะที่ตัวซีรีส์ All of Us Are Dead ได้รับความนิยมและเป็นซีรีส์ที่ได้รับความสนใจทั่วโลก รวมถึงทั้งในประเทศไทย และกำลังเดินหน้าสร้างสถิติ ในซีรีส์เองก็มีหลายช่วงเวลาที่น่าจดจำ
หนึ่งในฉากน่าจดจำในซีรีส์ ก็คือเหตุการณ์ในตอนที่ 6 คือช่วงเวลาที่เหล่ากลุ่มตัวละครนักเรียนห้อง 2/5 วางแผนกันออกจากห้องกระจายเสียงภายในโรงเรียนซึ่งอยู่บนชั้น 2 และขึ้นไปห้องดนตรีชั้น 4 ที่ ๆ ซึ่งอีชองซานอยู่ และเตรียมตัวจะขึ้นไปยังดาดฟ้าเพื่อขอความช่วยเหลือ
แต่ทั้งกลุ่มก็ต้องเผชิญภาวะตึงเครียด เมื่อนัมราประธานห้องเกิดถูกกัดขึ้นมา ท่ามกลางความไม่ไว้เนื้อเชื้อใจ ทั้งกลุ่มจึงนั่งแยกกับนัมราและซูฮยอกที่ "ผูกข้อมือ" กันและกันไว้ ก่อนที่มีจินจะหยิบ "วิดีโอขึ้นมาถ่าย" และส่งต่อให้กับคนอื่น ๆ เพื่อเป็นสาส์นถึงคนในครอบครัวที่อาจจะยังมีชีวิตอยู่ในโลกภายนอก
เหตุการณ์ดังกล่าว เกิดขึ้นในช่วงท้ายของตอนที่ 6 ซึ่งถูกเล่าและเร่งเร้าให้เกิดอารมณ์ร่วมต่อเนื่องกับการที่พ่อของนัมอนโจ อย่าง นัมโซจู ซึ่งเป็นพนักงานหน่วยกู้ภัย กำลังหนีออกจากค่ายกักกันเพื่อมาช่วยเหลือลูกสาวของเขา ซึ่งอยู่ในเขตหวงห้าม
เมื่อครั้งนัมโซจูไปถึงหุบเขาซึ่งอยู่ใกล้โรงเรียน และกำลังเดินทางเข้าไปค้นหาลูกสาว เขาจึงได้ผูก "ริบบิ้นเหลือง" ไว้ตามต้นไม้ เพื่อบอกทางเข้าเมือง
หากมองเผิ่น ๆ ช่วงเวลา "ถ่ายคลิปบอกลา-ผูกข้อมือ" ของเหล่าตัวละคร อาจเป็นเพียงการใส่เข้ามาเพื่อให้เหล่าตัวละครได้แสดงความอาลัยอาวรณ์และสร้างให้คนดูมีอารมณ์ร่วม รวมถึงรู้สึกเห็นใจในตัวละครนั้น
หากแต่เหตุการณ์นี้ก็อาจจะสะท้อนและอ้างอิงถึงเหตุการณ์สลดที่เกิดขึ้นจริงอย่าง เหตุการณ์เรือเฟอร์รี่เซวอลล่มในปี 2014 เสียมากกว่า
เหตุการณ์เรือข้ามฟากเอ็มวีเซวอลล่ม เกิดขึ้นในช่วงวันที่ 16 เมษายน 2014 ซึ่งเรือข้ามฟากดังกล่าว ก็เป็นเรือที่ไว้ใช้เดินทางข้ามฟากจากเมืองอินช็อนไปยังเกาะเชจู ในทางใต้ของประเทศเกาหลีใต้ โดยในวันที่เกิดเหตุ มีผู้โดยสารร่วม 475 คน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นนักเรียนจากโรงเรียนมัธยมทันว็อน เมืองอันซัน ที่กำลังออกเดินทางไปทัศนศึกษา
ตัวเรือได้ส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือออกไป ตั้งแต่เวลา 8.58 น. ซึ่งเป็นช่วงที่เรือกำลังจมลงและเอียงตะแคงข้างเรื่อย ๆ ก่อนที่เรือจะจมลงหมดทั้งลำในเวลา 13.03 น. ซึ่งกินเวลานานถึง 5 ชั่วโมง กว่าเรือทั้งลำจะอับปางลง
ทั้งนี้ ผู้โดยสารร่วม 475 คน มีรายงานผู้เสียชีวิตทั้งหมด 304 คน ซึ่งนั่นรวมถึงนักเรียนมัธยมทันว็อน 250 คนก็เสียชีวิตทั้งหมด และมีผู้รอดชีวิตทั้งสิ้น 172 คน รวมถึงกัปตันและลูกเรือเซวอลที่ตัดสินใจสละเรือ ขณะที่ยังสั่งผ่านเสียงตามสายให้ผู้โดยสารบนเรือข้ามฟากอยู่กับที่และรอความช่วยเหลือจากทางการ
แต่ด้วยความช่วยเหลือที่ล่าช้า ทำให้ผู้โดยสารที่ยังรอความช่วยเหลืออยู่ภายในเรือข้ามฟากที่ค่อย ๆ จมลงนั้น โดยหารู้ไม่ว่า นั่นคือการนั่งรอความตาย ผู้โดยสารบางส่วน ซึ่งก็คือนักเรียนมัธยมทันว็อนที่ยังคงพูดคุยเฮฮาปรับบรรยากาศในช่วงแรก ก็เริ่มมีการพูดคุยกันถึงสถานการณ์ภายในเรือและตัดสินใจใส่เสื้อชูชีพ บางส่วนก็กรีดร้องเสียสติ ก่อนจะมีบางคนที่ตัดสินใจ "บันทึกภาพวิดีโอ" เหตุการณ์ภายในเรือนั้นเอาไว้ ซึ่งมันก็กลายเป็นคำสั่งเสียแก่เด็กที่บันทึกวิดีโอนั้นเอาไว้
"ฉันว่าฉันควรทิ้งข้อความไว้ก่อนจะตาย"
"ถ้าผมรอดออกไปได้ ผมรักพ่อแม่นะ"
"มันยังมีอนิเมะญี่ปุ่นอีกหลายเรื่องที่ฉันยังไม่ได้ดู"
"โคตรน่ากลัวเลย แบบนี้มันจะเป็นข่าวไหมอ่ะ?"
นี่คือส่วนนึงประโยคสนทนาที่ถูกบันทึกไว้ในคลิปวิดีโอเหล่านั้น และคลิปวิดีโอนี้ก็ถูกเก็บกู้ขึ้นมาได้จากการดำน้ำหาผู้รอดชีวิตภายในเรือ ซึ่งก็ค้นพบว่า ผู้โดยสารที่รอคอยภายในเรือเสียชีวิตทั้งหมด
ในวันที่ 22 เมษายน 2014 หกวันหลังเหตุการณ์เรืออับปางลง ก็ได้มีการทำปฏิบัติการกู้เรือเซวอล ซึ่งหลังค้นพบร่างของผู้เสียชีวิตจำนวนมากภายในเรือ ก็ยังค้นพบร่างของเด็กนักเรียน 2 คน อย่าง คิมซูจิน และ จองอินลี ในสภาพที่ "ผูกข้อมือไว้" และลอยตัวอยู่ใกล้กัน ซึ่งก็เกิดการสันนิษฐานว่า ทั้งคู่น่าจะเป็นแฟนกันและตัดสินใจไม่อยากพรากออกจากกัน จึงตัดสินใจผูกข้อมือกันและกันไว้
หลังการค้นพบผู้เสียชีวิต ชาวเน็ตมากมายก็ต่างเริ่มต้นทำแคมเปญ "ริบบิ้นเหลือง" เพื่อไว้อาลัยแก่ผู้เสียชีวิตจากเหตุเรือข้ามฟากอับปาง และภายหลังก็สื่อโดยนัยว่าเป็นการต่อต้านและตั้งคำถามต่อความโปร่งใสของรัฐบาลในขณะนั้น
หลังโศกนาฏกรรมดังกล่าว ก็เกิดกระแสต่อต้านอย่างหนักหน่วงรุนแรง ทั้งผู้ให้บริษัทเรือข้ามฟาก ชองแฮจิน มารีน ที่ให้บริการเรือที่ถูกดัดแปลงต่อเติมจนเกินน้ำหนักที่เรือสามารถที่จะรับได้ อีกทั้งยังมีการทุจริตในภาครัฐและเอกชน รวมถึงกัปตันและลูกเรือก็ถูกตั้งข้อหาฆาตกรรมและจำคุก
นอกจากนี้ ยังเกิดกระแสความไม่พอใจไปยังรัฐบาลในขณะนั้นอย่าง รัฐบาลของประธานาธิบดีพักกึนเฮ ที่ไม่สามารถรับมือสถานการณ์นี้ได้อย่างทันท่วงที และปฏิบัติการกู้ภัยก็ล่าช้าจนส่งผลให้มีเด็กนักเรียนต้องเสียชีวิตทั้งหมด ยังไม่นับการปฏิบัติความช่วยเหลือจากต่างชาติและภาคเอกชน
จนในที่สุด พักกึนเฮ จึงถูกสอบสวนและตั้งข้อหาว่า "ใช้อำนาจหน้าที่ในทางมิชอบ" และนำไปสู่กระบวนการพิจารณาถอดถอนให้พ้นจากตำแหน่งและตัดสินจำคุกนานถึง 24 ปี
ซึ่งถึงแม้ All of Us Are Dead จะเป็นซีรีส์ระทึกขวัญที่นำเอาสถานการณ์สมมติอย่างซอมบี้ระบาดไปไว้ในรั้วโรงเรียน และอาจมีช่วงเวลาที่ขัดใจคนดูจนน่าหงุดหงิดอยู่บ้าง แต่เหตุการณ์ในเรื่อง รวมถึงตัวละครหลายตัวก็ยังถอดแบบแง่มุมของเด็กนักเรียน รวมถึงสะท้อนถึงปัญหาการกลั่นแกล้งภายในโรงเรียน การรับมือต่อสถานการณ์วิกฤตได้ดีไม่น้อย
แด่ทุกชีวิตที่จากไปบนเรือข้ามฟากเอ็มวี เซวอล
โฆษณา